หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ทำไมคนส่วนมากจึงคิดว่าเราแพ้ในสมรภูมิบ้านร่มเกล้า!!!

โดยคุณ : NaTionalism เมื่อวันที่ : 03/02/2010 14:51:48

  จากที่เคยฟังมาหลายๆคน หรือที่เคยอ่านผ่านตาจากเวปบอร์ดส่วนใหญ่ มีแต่คนบอกว่าไทยแพ้ในสมรภูมิบ้านร่มเกล้าทั้งนั้นครับ ทั้งๆที่การปฎิบัติการของไทยก็บรรลุเป้าหมาย คือการผลักดันกองกำลังจากต่างชาติ ออกจากเนิน 1428 และเข้ายึดเนินได้สำเร็จ หรือว่าไทยจะแพ้จากสมรภูมินี้จริงๆครับ !!!




ความคิดเห็นที่ 1


เนิน 1428  ยังยึดไม่ได้นะครับเจรจากันก่อนลาวจึงยอมถอยทหารออกไปครับ เพราะอุปสรรคในการเข้ายึดลำบาก  พื้นที่สูงชันทำให้เป็นปัญหาสำคัญ และหลังจากที่เข้าไปตรวจพื้นที่ บริเวณที่ทหารลาวตั้งฐานอยู่ทั้งบังเกอร์ทำด้วยคอนกรีต อย่างหนา การทิ้งระเบิดจาก F-5 (ย้ำอีกครั้งว่า F-5 เพราะ F-16 ตอนนั้นยังไม่เข้าประจำการ) แทบจะไม่ได้ผล

กำลังทหารไทยกำลังเกาะติดเพื่อเข้าโจมตีครั้งใหญ่ แต่มีการเจรจาก่อนครับ

ส่วนแพ้หรือชนะ แล้วแต่มุมมองและข่าวสารที่ได้ยินมาครับ  ทหารที่ไปรบในพื้นที่ แต่ละคนยังบอกไม่เหมือนกันเลยครับ  ส่วนผมได้ยินจากอดีตนายทหารท่านนึง ว่าท่านนำกำลังทหารพรานไปเกาะติดขอบฐานได้แล้ว  ใช้เวลาร่วม 1อาทิตย์ในการกรุยทางสำหรับหน่วยของท่านขึ้นไป โดยทหารลาวไม่รู้ แต่ก็ต้องยุติไป เพราะมีการเจรจาก่อนครับ
โดยคุณ janus เมื่อวันที่ 01/02/2010 22:07:57


ความคิดเห็นที่ 2


ขอตอบในนามทหารเหล่าราบ ที่รับผิดชอบ กับกองกำลังทหารพราน ร้อย ล.๑๑๓ ทัพภาค ๑ ที่ว่าเราแพ้ คือยอดการสูญเสียมากเกินไป เพราะเราใช้ แบบยุทธศึกษาตามแบบอเมริกัน ตั้งแต่หลังสงครามโลก(ก่อนนั้น ใช้เยอรมันนีผสมรัสเซีย)คือถ้ายอดสูญเสีย ในระดับกองร้อย หรือถึงหลักกองพัน ถือว่าแพ้(ทางเทคนิค)แต่การที่เราสามารถ ยึดคืนเนิน ๑๔๒๘ ได้ถือว่า ชนะทางการปฏิบัติ


โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 02/02/2010 00:40:56


ความคิดเห็นที่ 3


ผมเกิดไม่ทันน่ะครับ แต่พ่อของเพื่อนผม เป็นทหารอยู่รบพิเศษป่าหวาย

เขาเคยเล่าให้ฟังนะครับ ว่าช่วงแรกเราเสียเปรียบมาก เพราะเรารบตามแบบ และประเมินขีดความสามารถของฝ่ายลาวต่ำไป

 ส่วนฝ่ายลาวกับทหารต่างชาติจะได้เปรียบอยู่เสมอ เพราะอยู่ชัยภูมิที่ดีกว่า และมีอาวุธชั้นดีส่งตรงมาจากเวียดนาม และรัสเซีย

หลังจากเราสูญเสียอย่างหนัก เราจึงส่งทหารรบพิเศษ ไปก่อก่วนเเนวหลังฝ่ายลาวแบบได้ผล

ส่วนแนวหน้าเราก็เริ่มยึดพื้นที่คืนได้เรื่อยๆ

และทางฝ่ายเรากำลังเตรียมที่จะโจมตีครั้งใหญ่ โดยเปิดแนวรบตลอดพรมแดนไทยลาว

ลาวเห็นว่าต้องแพ้ไทยเละแน่ๆเลยต้องยอมเจรจาก่อนประมาณนี้ครับ

 

 

 

โดยคุณ min_linkin เมื่อวันที่ 02/02/2010 00:53:51


ความคิดเห็นที่ 4


น้องMin_Linkin ตอบได้ดี และผมคิดว่านั้น คือคำตอบทั้งหมดของสงครามครั้งนี้


โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 02/02/2010 01:20:18


ความคิดเห็นที่ 5


ขอตอบโดยคร่าว ๆ นะครับ

- ทางการทูตถือว่าฝ่ายใดขอเจรจาก่อนเป็นฝ่ายขอยอมแพ้

- ในทางปฏิบัติถึงแม้เราจะสูญเสียเนินต่าง ๆ ไปมากมาย แต่ภายหลังก็สามารถยึดคืนกลับมาได้ทั้งหมด จนฝ่ายข้าศึกเหลือเพียงเนิน 1428 ที่ยังไม่ถูกยึด ฝ่ายข้าศึกจึงทุ่มเทสรรพกำลังให้กับการรักษาเนิน 1428 ไว้ครับ ประกอบกับเนิน 1428 เป็นชัยภูมิที่อยู่บนเขาสูงจึงทำให้สามารถมองเห็นภูมิประเทศต่าง ๆ ได้กว้าง จุดนี้เองที่ฝ่ายเราเสียเปรียบ...ไม่สามารถยึดเนิน 1428 ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

- เมื่อข้าศึกอยู่ในชัยภูมิที่ดีกว่า จึงทำให้อำนาจการยิงปืนใหญ่ของฝ่ายข้าศึกมีประสิทธิภาพมากกว่าฝ่ายเราเพราะเราอยู่ในชัยภูมิที่เสียเปรียบครับ

- จุดเปลี่ยนมันอยู่ที่อำนาจการยิงปืนใหญ่ครับ..เขาถึงบอกกันว่าทหารปืนใหญ่เป็นราชาแห่งสนามรบ กล่าวคือเมื่อฝ่ายเรายิงปืนใหญ่เสร็จต้องรีบเคลื่อนปืนใหญ่ออกจากพื้นที่การยิงในทันที ไม่อย่างงั้นจะโดนสวนกลับมาภายในไม่ถึง 5 นาที

- แต่ภายหลังจากเราส่งหน่วยรบพิเศษไปตัดกำลังข้าศึกและส่งเครื่องบินรบเข้าไปทิ้งระเบิดในแนวหลัง ( คือในประเทศของเขา ) ก็ทำให้กองกำลังข้าศึกที่อยู่บนเนิน 1428 ขาดการสนับสนุน นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมข้าศึกต้องขอเจรจาก่อน

- หากไม่มีการเจรจาเกิดขึ้นก่อน...เนิน 1428 น่าจะถูกฝ่ายเรายึดได้ไม่ยากครับ 

สรุปในทางการทูต...ถือว่าเราชนะ

แต่ในทางปฏิบัติ...การที่เราไม่สามารถยึดเนิน 1428 ได้แบบเด็ดขาดนั่น ก็มองได้ว่าเรายังเผด็จศึกไม่ได้ครับ

 

โดยคุณ TAN เมื่อวันที่ 02/02/2010 04:33:44


ความคิดเห็นที่ 6


ยิงปืนใหญ่ขึ้นไปบนเขา เนิน โดนทหารไทยซะส่วนใหญ่
ราบเป็นหน้ากลอง อันนี้ครูฝึก รด. บอกนะครับ เข้ากับข้อมูล
ที่เราสูญเสีย ทหารยกกองร้อยเลยครับ 
โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่ 02/02/2010 07:38:38


ความคิดเห็นที่ 7


อ้ออีกอย่างทหารไทยโดนล้อม ด้วยทหารเพื่อนบ้านและกองหนุน ปิดทางขึ้น
เขาหมด ทหารไทย เสบียงเริ่มหมด หนีก็ไมไ่ด้ติดอยู่บนเขา 
ทำไงละทีนี้ สละชีพเพื่อชาติ อัญเชิญกระสุนปืนใหญ่ เข้าไป เลยครับยิงกันพรุน ก็อย่างข้อความข้างต้นฮะ
  ขออุทิศให้กับวิญญาณวีรชนคนกล้าครับ ขอบคุณครับ
โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่ 02/02/2010 07:40:45


ความคิดเห็นที่ 8


ส่วนตัวแล้วเชื่อว่า เราชนะครับ เพราะสามารถบีบให้ฝ่ายตรงข้ามยอมเจรจา และ ยุติ ได้

แต่ทางยุทธวิธีช่วงแรกเรา สูญเสียหนัก เพราะเราเปิดการรบแบบจำกัดเขต  รู้ทั้งรู้ว่า เสียเปรียบภูมิประเทศ แต่ก็ยังดันทุลัง เข้าตี ตรงหน้า

สุดท้าย จึง ยอมเปิดความลึก คือ โจมตีทางลึก(ส่วนหลัง) ของฝ่ายตรงข้าม ทั้ง กำลังทางอากาศ และหน่วยภาคพื้นที่ปฏิบัติงานทางลึก(หน่วยรบพิเศษ)   จึงสามารถสร้างความสูญเสียและกดดันให้ฝ่ายตรงข้ามยอมเจรจาได้

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 02/02/2010 09:50:25


ความคิดเห็นที่ 9


สงคราม ฟูบา!!!!

คารวะทุกดวงวิญญาณผู้เสียสละ ในทุกสมรภูมิครับ

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ


โดยคุณ NaTionalism เมื่อวันที่ 02/02/2010 08:03:25


ความคิดเห็นที่ 10


สิ่งที่น่าเจ็บปวดใจตอนนั้นคือกระุสุนปืนใหญ่ดันยิงถูกพวกเดียวกันเองนี่สิ
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 03/02/2010 01:19:18


ความคิดเห็นที่ 11


สิ่งที่เจ็บปวดจาก Friendly Fire คราวนั้น(ไม่ว่าจะมาจากอะไรก็ตาม)   ปัจจุบันผ่านล่วงมาเกินซาวปีแล้ว  

แต่ส่วนตัวเชื่อว่า ถ้าในข้างหน้า มีการรบในระดับดังกล่าวอีก ผมว่ามันจะหมุนกลับมาเหมือนเดิม

ตอนนี้ สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดในการพัฒนาคือ ทรัพยากรบุคคล  เพราะกำลังจะตามไม่ทันสิ่งของ   สิ่งของไปไกลแต่คนยังไม่ก้าวตามหรือถอยหลัง มันก็ไร้ค่า

บทเรียนสอนให้รู้ว่า ตอนนี้ต้องปรับคน  เพราะไม่งั้นปรับระบบไปก็ไร้ค่า     

 

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 03/02/2010 02:03:57


ความคิดเห็นที่ 12


ทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมามันเป็น Case Study ครับ รายงานความผิดพลาด รายงานความสำเร็จของภารกิจและงานที่ดำเนินการไปแล้ว

เมื่อสมัยเกือบสิบปีมาแล้วผมเคยได้ยินพ่อ ( อดีต ตชด.13 )และลุง (พลร่มป่าหวาย ลพบุรี) เล่ากันในวงเหล้าที่บ้านของพ่อที่สิงห์บุรี กรณีบ้านร่มเกล้าลุงแกคุยให้ฟังว่าถ้าไม่ได้รบพิเศษแล้วเราคงต้องสูญเสียกว่านี้ เพราะว่าลุงผมเค้าเล่าให้ฟังว่ารบพิเศษไปโดดร่มลงแนวหลังข้าศึกแล้วดำเนินกลยุทธรบนอกแบบประมาณนั้น ทำให้การส่งบำรุงของกองกำลังประเทศเพื่อนบ้านมีปัญหา ทำให้เราเริ่มได้เปรียบสามารถยึดเนินต่างๆคืนกลับมาได้เรื่อยๆ จนลาวต้องเปิดการเจรจาในที่สุด

ผมไปลาวมาสองครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เพิ่งกลับมา ผมยังคุยถึงเหตุการณ์ร่มเกล้ากับโชเฟอร์รถตู้ของลาวอยู่เลย เค้าบอกกับผมว่าเรื่องมันผ่านมานานแล้วใจจริงเราและเค้า( หมายถึงไทยและลาว) ไม่น่าแบ่งแยกกันเลย มีวัฒนธรรมเหมือนกัน ประเพณีเหมือนกัน คุยกันรู้เรื่อง เป็นเพราะพวกชาติตะวันตกที่เลวมาแบ่งเราพี่น้องกัน แล้วทำให้พี่น้องกันต้องทะเลาะกัน นี่เป็นส่วนหนึ่งของความคิดของคนลาวที่สะท้อนให้ผมเห็นและมันก็ตรงใจและความรู้สึกของผมมาก

อีกอย่างนะครับ สาวๆลาวน่ารักมากมารยาทงาม ผมไปปากซันมาไม่อยากกลับเลย อิอิ

โดยคุณ ddd2521 เมื่อวันที่ 03/02/2010 03:51:47