หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ช่วงนี้กองทัพเรือเวียดนามคึกคักน่าดู

โดยคุณ : น่าคิด เมื่อวันที่ : 03/04/2010 17:24:39

เวียดนามได้สั่งซื้อเรือฟรีเกตกับเรือติดขีปนาวุธจากรัสเซีย ขณะที่ฝ่ายรัสเซียตกลงจะช่วยสร้างฐานทัพสำรับเรือดำน้ำที่สั่งซื้อปลายปีที่แล้ว พร้อมช่วยเวียดนามตั้งกองบินของกองทัพเรืออีกทางหนึ่ง ขณะที่ความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างสองประเทศมิตรที่ใกล้ชิดในอดีต กำลังขันเกลียวพร้อมๆ กับฝ่ายเวียดนามซื้ออาวุธจากรัสเซียเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

อ่านเพิ่มเติมที่

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000044336

 





ความคิดเห็นที่ 1


ส่วนตัวผม คิดว่าถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรภายในปีนี้ อาจจะได้เห็น ทร.เสนออาจจะเสนอขออนุมัติซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำครับ  แต่จะได้อนุมัติหรือไม่อีกเรื่องนึง (อย่าเอาไปเป็นประเด็นนะครับ  แค่็เป็นการคาดการจากความคิดและข้อมูลบางอย่างและความน่าจะเป็นครับ)
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 30/03/2010 22:51:35


ความคิดเห็นที่ 2


http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/06/X8021893/X8021893.html

อันนี้อ่านแล้วขำดี (กองทัพเรือเวียดนาม) แต่จะเห็นว่าเค้ามีขีดความสามารถต่อเรือคอร์เวตติดอาวุธนำวิถีได้เองแล้ว กองทัพเรือไทยยังไม่สามารถทำได้

โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 30/03/2010 22:58:04


ความคิดเห็นที่ 3


ลองเดาดูไหมครับว่าเวียดนนามกำลังจะทำอะไร ถ้าเป้าหมายไม่ใช่หมู่เกาะ SPRATLY ส่วนหมู่เกาะ PARACEL เสร็จจีนไปเกือบหมดแล้ว

 

อนาคตสงสรามแย่งชิงทรัพยากรน่าจะยิ่งรุนแรงขึ้นนะครับ 


โดยคุณ che เมื่อวันที่ 30/03/2010 23:23:42


ความคิดเห็นที่ 4


ความจริงการต่อเรือนี่ไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพเรือนะครับ ประเทศที่มีอุตสาหกรรมด้านนี้คือประเทศที่เจริญๆแล้ว ไม่มีกองทัพเรือใหนเขาต่อเรือเองหรอกครับ แต่กองทัพเรือไทยก็ยังต่อเรือเองอยู่บ้างเหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นการต่อในโอกาสพิเศษ เช่นในวาระเฉลิมพระเกียรติ ไปต่อเองบ่อยๆ ก็มีเวลาซ่อมเรือที่เป็นหน้าที่หลักน้อยลง(ประเทศที่เจริญแล้วเขาก็ไม่ซ่อมเรือเองเช่นกัน ) บริษัทไทยที่เขามีเป้าหมายหลักในการต่อเรือขายเช่น บ.มาร์ซัน อิตัลไทย เอเชี่ยนมารีน เขาลงทุนไปเพื่อการนี้เยอะแล้ว(อุปกรณ์พิเศษต่าง เช่นเครื่องดัด เครื่องตัด เครื่องเชื่อมฯลฯ) ไปแย่งงานเขาทำทำไมความจริงเขาทำได้ถูกกว่ากองทัพเรือแน่นอน เพราะเขาทำเป็นประจำ อุปกรณ์พร้อม ทำได้เร็วกว่า สั่งซื้อของได้ง่ายและถูกกว่า(เพราะเป็นขาประจำ -สัญญาที่เขาทำกันระหว่างบริษัทขายเหล็ก ขายอุปกรณ์ ก็ง่ายเพราะไม่มีระเบียบราชการมาค้ำอยู่) แต่ถ้ามองเผินๆอาจเห็นว่ากองทัพเรือ ทำได้ถูกกว่า แต่เป็นเพราะหลวงจ่ายเงินเดือนอยู่แล้วเป็นค่าแรง ค่าใช้จ่ายอื่นๆก็อาจแยกกับค่าสาธารณูปโภคโดยปกติไม่ออก อย่าให้การต่อเรือเป็นหน้าที่หลักของกองทัพเรือเลยครับ(แม้ว่าในกองทัพเรือจะมีวิศวกรด้านต่อเรืออยู่พอสมควร) เพราะจะเป็นการถอยหลังเข้าคลอง เหมือนกับกลับไปสมัย ร.๕ ที่หลวงต้องทำเองทุกอย่าง

อย่างไรก็ตามที่ คุณ น่าคิด บอกว่ากองทัพเรือต่อเรือขนาดคอร์เวตติดอาวุธนำวิถีไม่ได้ก็ไม่จริงอีก ตอนนี้อู่ราชนาวีมหิดลก็กำลังต่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ขนาดระวางขับน้ำเต็มที่ ๑,๙๐๐ ตันอยู่ ๑ ลำ (คงเห็นกันบ้างในเนตแล้ว) เพียงแต่ใช้แบบของอังกฤษ ไม่ได้ออกแบบเอง แต่แบบภายในก็ดัดแปลงตามความต้องการของ ทร. เปลี่ยนระบบไฟ ซื้อปืนใหญ่ (๗๖/๖๒) เครื่องควบคุมการยิง มาติดตั้งเอง ขนาดมันเป็นเรือฟริเกตนะครับ(ของรัสเซีย เรือขนาดนี้อาจเรียกเป็นคอร์เวต) ความเร็ว ๒๐ กว่า นอต ไม่เร็วมากเพราะจะให้เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง แต่หน้าตาไม่ต่างจาก คอร์เวต หรือฟริเกต มีที่ติดตั้งอาวุธปล่อยเพิ่มได้ (เมื่อมีเงิน)มันอยู่ที่เราต้องการอะไร มากกว่า นอกจากนั้นก็ขึ้นกับเงินงบประมาณตัวเดียว ถ้าให้เงินมามาก จะเอาเรือฟริเกต วิ่งเร็วแค่ใหน ติดอาวุธปล่อยอะไร ทำไม่ได้ยากกว่ากันเท่าไรนัก ส่วนการออกแบบนั้นเรือชุดที่กำลังต่อนี้ เดิมว่ากรมอู่จะออกแบบเอง แต่จำกัดด้วยเวลา(เฉลิมพระเกียรติ) ก็เลยต้องซื้อแบบเขามา  แต่ก็มีส่วนดีที่จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ด้วย 

การต่อตัวเรือนั้นไม่ได้ยากเย็นเกินความสามารถของบุคคลากรในประเทศไทยเลยครับ มันยากตรงออกแบบ ทดลองโมเดลใน         เทสแทงค์(ต้องส่งไปต่างประเทศ-อันนี้ก็ไม่แปลก บริษัทต่อเรือในต่างประเทศออกแบบแล้วก็ต้องส่งไปทดลองตามสถาบันที่มีถังทดลองเหมือนกัน) การออกแบบและการบริหารจัดการในเรื่องการต่อเรือก็มีโปรแกรมสำเร็จรูป กรมอู่เราก็มี ออกแบบในคอมพิวเตอร์ เมื่อทำโมเดล และส่งไปทดสอบแล้ว การตัดเหล็กเป็นชิ้นส่วน การทำบล๊อกต่างๆง่ายขึ้นมาก การติดเรดาร์ และอาวุธ ก็ติดเองได้ แต่ตัวปืน ตัวอาวุธปล่อย ต้องซื้อ ไม่มีใครทำเองทุกอย่างหรอกครับ ที่บอกว่าเวียดนามต่อเอง ก็คงเป็นแบบเรือของรัสเซีย เรดาร์ อาวุธก็ซื้อรัสเซียมาเช่นกัน พม่าก็ต่อเรือในประเทศ โดยความช่วยเหลือจากจีน และเกาหลีเหนือ ไทยเสียอีกทำเองมากกว่าไม่ค่อยมีใครมาช่วย

โดยสรุปก็คือ ไม่ทราบว่าคุณ น่าคิด เอามาจากที่ใหนว่ากองทัพเรือไทยต่อเรือขนาดนี้สู้เวียดนามไม่ได้ รัฐบาลให้เงินมาอย่างพอเพียง รับรองว่าทำได้ เอ้อ เมื่อเร็วๆนี้ ทร.เวียดนามเพิ่งส่งทีมมาดูงาน กองการบินทหารเรือ เพื่อไปจัดตั้งของเขาเอง ลองมองของดีของเรามั่งครับ ขอบคุณ

โดยคุณ โย่ง เมื่อวันที่ 31/03/2010 12:52:11


ความคิดเห็นที่ 5


หน้าตาเรือเดี๋ยวนี้ ไม่แตกต่างกันมาก ระหว่าง เรือคอร์เวต เรือฟริเกต หรือเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง


โดยคุณ โย่ง เมื่อวันที่ 31/03/2010 13:07:30


ความคิดเห็นที่ 6


อีกรูป


โดยคุณ โย่ง เมื่อวันที่ 31/03/2010 13:08:50


ความคิดเห็นที่ 7


"ธรรมดามีเรือแล้วต้องซ่อมได้เอง เป็นหลักของยุทธศาสตร์ ถ้าซ่อมไม่ได้เองก็ไม่ควรจะมี" พระดำรัสของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ภารกิจ
เราทำให้พร้อมรบ
มีหน้าที่ อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ และดำเนินการเกี่ยวกับการซ่อม สร้าง ดัดแปลง ทดสอบ วิจัยและพัฒนา เกี่ยวกับเรือ อากาศยาน ยานรบ และอุปกรณ์การช่างที่เกี่ยวข้อง การส่งกำลังพัสดุสายช่าง ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาที่เกี่ยวข้อง และวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมอู่ทหารเรือ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ
ผลงานสำคัญของกรมอู่ทหารเรือ
ด้านการสร้างเรือ
๑. โครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง
๒. เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙
๓. เรือชุด ต.๙๑
๔. เรือตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำ (ร.ล.ล่องลม)
๕. เรือกวาดทุ่นระเบิดน้ำตื้น
๖. เรือลากจูง (ร.ล.แสมสาร, ร.ล.แรด)
๗. PUSHER BOAT
๘. เรือท้องแบน
ด้านการวิจัย
๑. เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด ๒๐-๓๐๐ แรงม้า
๒. อะไหล่ปืน ๓๗ มม.
๓. เป้าอากาศยานแบบเคลื่อนที่ได้เอง
๔. ทุ่นกักเก็บคราบน้ำมันในทะเล
๕. เป้าฝึกปราบเรือดำน้ำ
๖. เรือจู่โจมลำน้ำเครื่องติดท้าย(จลต)
๗. เครื่องปรับอากาศในเรือไม่เกิน ๓ ตัน
๘. โปรแกรมฐานความรู้ในการพิสูจน์ทราบประเภทของโลหะ
๙. การสร้างเรือโฮเวอร์ดราฟท์
๑๐. การตรวจสอบและวิเคราะห์สภาพเครื่องจักรเพื่อลดอัตราการชำรุดเสียหาย
๑๑. หมวกกันกระสุนและสะเก็ดระเบิด
๑๒. จักรยานเผินน้ำของ อร.
๑๓. เรือกวาดทุ่นระเบิดน้ำตื้น (ระยะที่ 2)
๑๔. สูบน้ำทะเลหล่อเย็นเครื่องยนต์ดีเซล
๑๕. แหวนรองหัวฉีด ของเครื่องยนต์ดีเซล MTU รุ่น 1163
๑๖. เครื่องควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติของเตาหลอมตะกั่วและเครื่องอบแผ่นแร่
๑๗. การวิจัยและพัฒนาการผลิตสังกะสีผุกร่อน
๑๘. เรือท้องแบน การวิจัยและพัฒนามาตรฐานลิ้นน้ำที่ใช้ในกองทัพเรือ
ด้านการผลิตของ อธบ.อร.
๑. งานวิจัย / งานผลิต / งานซ่อมคืนสภาพ
http://www.navy.mi.th/dockyard/history.htm
ในปี พ.ศ. 2510 ภายหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งเมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการต่อเรือ ยนต์เร็วรักษาฝั่งที่เยอรมนีว่า   
 “กองทัพเรือน่าจะต่อเรือยนต์เร็วรักษาฝั่งเช่นนี้ได้  เพื่อที่จะให้เกิดความชำนาญงานและรู้จักใช้เทคนิคต่าง ๆ อันจะเป็นการประหยัดมากกว่าการจัดหาจากต่างประเทศ”    
เพื่อเป็นการสนองพระราชดำริดังกล่าว กองทัพเรือ จึงได้มอบให้ กรมอู่ทหารเรือ  ดำเนินการสร้างเรือยนต์เร็วรักษาฝั่ง จำนวน 1 ลำ ต่อมากำหนดเป็นเรือประเภท เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง (ตกฝ.) โดยตั้งชื่อเรือว่า เรือ ต.91 ซึ่งทรงมีพระมหากรุณาธิคุณและพระราชทานความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ มาโดยตลอด จนสร้างเรือแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2510 ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ ประทับบนเรือ เพื่อทำการทดสอบสมรรถนะด้วยพระองค์เอง อีกทั้งยังได้เสด็จฯ ประทับอีกลำในปีต่อมา เพื่อทอดพระเนตร การฝึกทักษิณ 12 ของกองทัพเรือ และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514-2530 กองทัพเรือได้ต่อเรือประเภทนี้ขึ้นอีก จำนวน 8 ลำ คือ เรือ ต.92-ต.99 โดยมีการปรับปรุงเรือให้ทันสมัยและมีประสิทธิ ภาพสูงขึ้น
การต่อเรือเองโดยกรมอู่ทหารเรือ
ข้อดี
1.รู้โครงสร้างของเรืออย่างละเอียด ทำให้สะดวกในการซ่อมบำรุง ปรับปรุง
2.เป็นการสร้างองค์ความรู้อย่างถาวรให้กับกรมอู่ทหารเรือ
3.เป็นการพัฒนาบุคลากรของกรมอู่ทหารเรือเพื่อรองรับกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่อไป
ข้อเสีย
1.เครื่องมือในการทำงานบางอย่างอาจจะไม่ทันสมัยเท่าอู่ของเอกชน
2.ค่าใช้จ่ายในการต่ออาจจะสูงกว่าต่อจากอู่เอกชน
อู่ต่อเรือเอกชน เป็นแนวคิดที่ดีในการช่วยลดภาระงานของกองทัพเรือ หรือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจมวลรวมก็ดี แต่เมื่อเกิดสงครามขึ้น ระหว่างกรมอู่ทหารเรือ กับ อู่เอกชน อันไหนจะรับใช้กองทัพเรือและประเทศได้อย่างดีกว่ากัน
โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 31/03/2010 23:39:07


ความคิดเห็นที่ 8


ผมถามคุณ โย่ง
- ขอชุดเรือที่ติดอาวุธนำวิถีที่ต่อเองโดยภายในประเทศสักชุดเถอะครับ
- ส่วนเรื่องกองบินทหารเรือนั้น เค้าดูแค่เอาไปปรับให้เหมาะกับเค้าเท่านั้นเองเพราะโต้โผใหญ่คือ รัสเซีย ที่จะเข้าไปจัดการดูแลให้ัทั้งหมด ไม่ได้มาดูของเราเืพื่อไปเป็นต้นแบบในการตั้งกองบินทหารเรือเวียดนามนะครับ ทราบข้อเท็จจริงตรงนี้รึเปล่า
- การพึ่งพาตัวเองโดยครบวงจรทั้งหมดดีที่สุด ผมไม่ได้หมายความถึงต้องต่้อเองทั้งหมด เช่น ร.ล.ล่องลม ต่อโดยกรมอู่ทหารเรือลำเดียว อีกสองลำให้อู่อิตัลไทยต่อ 991 อีกสองลำจ้างต่อ OPV ลำใหม่ ก็หลักการเดียวกัน
- การจะกินนมวัว เราต้องเลี้ยงวัวเพื่อกินนมหรือ เราจะไปซื้อนมมากิน เทคโนโลยี มันก้าวกระโดดกันได้ ของบ้างอย่างไม่จำเป็นต้องเริ่มที่ออกแบบเอง อย่างเกาหลีใต้ซื้อเรือดำน้ำ สั่งสำเร็จรูปบางส่วน ที่เหลือต่อเอง เป็นการใช้เงินซื้อเวลาขั้นตอน และเทคโนโลยีได้ ใช่ไม๊ครับ เวียดนามก็เช่นเดียวกัน ต้องเริ่มที่ 1 เสมอไปจริงหรือ?
- การซื้อแบบ การลอกแบบ การออกแบบ มันนำไปสู่ขั้นที่สองได้ทั้งสิ้น จำเป็นด้วยหรือที่ต้องเริ่มต้นด้วย การออกแบบ?
โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 31/03/2010 23:57:09


ความคิดเห็นที่ 9


ขอสั้นๆก่อน ไม่มีเวลาครับ การยกพระดำรัสของเสด็จเตี่ยมาก็พอจะเห็นแล้วว่าแนวคิดของคุณน่าคิดย้อนกลับไปถึงสมัยใหน  ในยุคสมัยนั้นอังกฤษ เยอรมัน อิตาลี ก็คงคิดแบบเดียวกัน แต่เดี๋ยวนี้ไน่ใช่มิฉะนั้น ประเทศเหล่านั้นคงจะต้องต่อเรือพิฆาต เรือฟริเกต 1 ลำ แล้วให้อู่เอกชนต่อที่เหลือ การต่อเรือ4-5 ปี 1 ลำไม่น่าจะคุ้มในทุกๆด้านครับ

เรื่องพึ่งพาตนเอง ผมก็มีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน เลยสงสัยว่าคุณน่าคิดต้องการสื่ออะไร ผมเพียงแต่บอกว่าในอนาคต ยาวๆออกไป ทำไมกรมอู่ต้องต่อเรือเอง ก็ให้อู่เอกชนเขาต่อ อาวุธ และอื่นๆอะไรที่ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ซื้อเขามาติดตั้งเอง ติดตั้งยังไม่ชำนาญก็จ้างเขามาทำ เราจะได้เรียนรู้ไปด้วย เอ๊ะก็ความคิดตรงกันไม่ใช่หรือ

เรื่องต่อเรือติดอาวุธปล่อย เรายังไม่ได้ต่อ แต่ผมก็เห็นว่ามันไม่ยาก ก็อย่างที่บอกของที่เราทำไม่ได้ก็ซื้อเขามาทั้งนั้น เปลี่ยนอวป. C-801 เป็น C-802 Aก็ทำที่เมืองไทย ช่างจีนมาทำ ถ้าเราอยากทำเองมากขึ้นก็ค่อยๆเรียนรู้ เพิ่มขึ้น ซื้อเทคโนโลยี่มากขึ้น

สงสัยว่าคุณน่าคิดจะเป็นคนในกรมอู่หรือเปล่า เห็นรู้รายละเอียดเกี่ยวกับกรมอู่ดีมาก หรือว่าอยากให้กรมอู่ต่อเรือมากขึ้นครับ

โดยคุณ โย่ง เมื่อวันที่ 01/04/2010 05:58:31


ความคิดเห็นที่ 10


ก่อนอื่นต้องบอกผู้เข้ามาอ่านว่า ไม่ได้มีการทะเลาะกันในบอร์ดนี้ การแสดงข้อคิดเห็นเป็นไปโดยสุภาพ แต่ผู้อ่านสามารถวินิจฉัยได้ว่าข้อมูลใด มีความน่าเชื่อถือ และเป็นเหตุเป็นผล ซึ่งก็เป็นความเห็นส่วนตัวทั้งนั้น

ในกองทัพเรือเองก็มีความคิดหลายแนวว่าอะไรที่กองทัพควรทำเอง และก็ไม่มีใครผิดใครถูก ส่วนใหญ่ลงท้ายก็คือการประนีประนอมแบบไทยๆ  คือทำเองบ้างจ้างเขาบ้างแต่ส่วนใดจะมากน้อยแค่ใหนก็อยู่ที่ปัจจัยแวดล้อม และขีดความสามารถที่มีอยู่จริง

เรือ ตกก. เราซื้อแบบพร้อมบริการทางเทคนิคเป็นเงิน  5 ล้านปอนด์เศษ เป็นเงินไทย ประมาณ 280+ ล้านบาท (ค่าแบบอย่างเดียว 3.4 ล้านปอนด์) ยังเห็นว่าออกแบบไม่สำคัญอีกหรือครับ ราคาเรือไม่รวมอาวุธ และเซนเซอร์ 1,700 ล้าน ลองนึกว่าถ้าเราออกแบบเองจะประหยัดได้เท่าไร และเราก็ออกแบบไปจนถึงเรือขนาดเรือศรีราชาแล้ว น่าจะออกแบบเรือ OPV ได้เอง แต่ต้องใช้เวลามากกว่าเท่านั้นเอง และอาจมีข้อขัดข้องบ้าง เพราะไม่ได้ทำบ่อยๆ    เรื่อง Software นี่เราไม่เลวนะครับ ทำได้แน่ เรื่องพวกนี้เรียนทันกันได้เร็ว แต่เรื่อง อาวุธและเซนเซอร์ยังห่างความเป็นจริงมาก การซื้อแบบเขามาก็ง่ายดีแต่เหมือนโรงงานประกอบรถยนต์นั่นเอง

อีกนิดหนึ่งเรื่องซ่อมเอง สร้างเอง อู่ทหารของ ทร.เยอรมัน (Marinearsenal) มีไว้ซ่อมเรือฉุกเฉินเท่านั้น เช่นเวลามีการชำรด อุบัติเหตุ นอกนั้นส่งซ่อมอู่เอกชนหมด ปกติเวลา Overhaul เรืออู่ทหารเขามีหน้าที่นำเรือเข้าอู่ ถอดอุปกรณ์ พวก อาวุธ, Fire control  ,sensor เพื่อซ่อมบำรุง แล้วส่งเรือให้อู่เอกชน ซ่อมบำรุงตัวเรือ เครื่องจักร ฯลฯ  ส่วนที่อังกฤษระบบส่งกำลัง ซ่อมบำรุงเกือบทั้งหมดในฐานทัพเรือ (เช่นที่ พอร์ตสมัธ) ดำเนินการโดยบริษัทเอกชนทั้งสิ้น ที่แสดงความเห็นมานี่ไม่ได้ต้องการให้ทำแบบเขาทั้งหมด แต่แนวโน้มของโลกมันเป็นอย่างนั้น  และในอนาคต ถ้าทร.ต้องเลี้ยงกำลังพลไว้เยอะแยะ สำหรับทำงานที่เอกชนทำได้ และทำได้ดีกว่า งป.คงหมดไปกับเงินเดือนและสวัสดิการเป็นแน่ ตอนนี้ ขณะนี้ งป.สำหรับกำลังพลเราก็เกินครึ่งไปมากแล้ว ปีหนึ่งๆจึงมี งป.สำหรับซ่อมบำรุง และเสริมสร้างกองทัพ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ไม่ต้องกลัวว่าเวลาสงครามจะไม่มีใครซ่อมเรือให้ (ซึ่งก็เป็นแนวคิดเก่าเช่นกัน)ถึงเวลานั้น อย่าว่าแต่ซ่อมเรือเลย เรามีกฎหมายในเรื่องระดมสรรพกำลัง แม้แต่เรือสินค้า เรือประมง เรือโดยสาร กองทัพก็สามารถเรียกเกณฑ์มาใช้ราชการได้ แล้วมาคิดเงินชดเชยในภายหลัง อู่ต่อเรื่อเอกชน ทร.สามารถเอามาใช้ได้ตามความจำเป็น นอกจากนั้นอู่ที่สั่งได้เลยก็คือ บริษัทอู่กรุงเทพจำกัด รัฐวิสาหกิจในความดูแลของ ทร.ครับ

ขออภัยที่มีความเห็นแตกต่าง

 

โดยคุณ โย่ง เมื่อวันที่ 01/04/2010 08:12:56


ความคิดเห็นที่ 11


นานมาก(ย้ำว่ามาก)ที่เราไม่ได้เห็นการ วิวาทะ ด้วยหลักการ เหตุผลและหลักฐาณ ที่มีประโยชน์แบบนี้

ครับ แตกต่าง แต่ไม่แตกแยก รอเสพความคิดเห็นของท่านทั้งสองต่อเนื่องครับ

สมาชิกบางท่าน น่าจะถือเอาเป็น กรณีศึกษา เพื่อไว้เป็นแนวทางในการวิวาทะ น่ะครับ

โดยคุณ ลมหมุนวน เมื่อวันที่ 01/04/2010 22:33:06


ความคิดเห็นที่ 12


การโต้แย้งที่มีเหตุมีผลและรู้จริง ถึงแตกต่างทางความคิดแต่ก็ยึดในหลักการที่สมเหตุสมผล ผมชื่นชมทั้งสองท่านด้วยใจจริงครับ
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 02/04/2010 05:41:52


ความคิดเห็นที่ 13



โดยคุณ กุหลาบดอย เมื่อวันที่ 02/04/2010 20:13:49


ความคิดเห็นที่ 14


โอ้ว ใช้ fire fox โพสต์ไม่ได้

........................................

ข้อมูลแน่นจริงๆ คุณโย่ง  ระดับคลุกวงในเลยนะครับ


โดยคุณ กุหลาบดอย เมื่อวันที่ 02/04/2010 20:53:40


ความคิดเห็นที่ 15


ขอแสดงความนับถือทั้งสองท่านจากใจจริงครับ

ประเทศเราที่วุ่นวายอยู่นี่ ไม่ต้องไปทำการสำรวจวิจัยที่ไหน แค่ดูห้องส้วมสาธารณะกับดูสาระและมารยาทในเวปบอร์ดต่างๆก็พอจะทราบแล้วนะครับ

 

โดยคุณ Ifeelsogood เมื่อวันที่ 03/04/2010 06:24:43