ข่าวการจัดซื้อกริพเพนของ ทอ.จาก คมชัดลึก ครับ มีคำชี้แจงของ โฆษก ทอ. ในข่าวด้วย
ทอ.ซื้อ"กริพเพนแบบมี"ออปชั่น"
คมชัดลึก : กลายเป็นประเด็นร้อนถกเถียงกันอย่างกว้างขวางกับกรณีการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ กริพเพน หรือกริพเพน 39 ซี/ดี เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ แบบที่ 18 ก/ข หรือ เอฟ-5 บี/อี ที่ประจำการอยู่ที่ฝูงบิน 701 จ.สุราษฎร์ธานี ที่จะปลดประจำการ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการมาจนถึงการอนุมัติจัดซื้อเมื่อเดือนตุลาคม 2550 สมัยที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี จำนวน 1 ฝูงบิน หรือ 12 เครื่อง
โครงการการจัดซื้อเครื่องบิน กริพเพน แบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 จำนวน 6 เครื่อง โดยมีอุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม และการปรับปรุงอาคารสถานที่ โดยใช้งบประมาณผูกพัน 5 ปี ตั้งแต่ 2551-2555 วงเงินจำนวน 1.9 หมื่นล้านบาท
ระยะที่ 2 จำนวน 6 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ การส่งกำลังบำรุง การฝึกอบรม การปรับปรุงอาคารสถานที่ และการบริหารโครงการ รวมทั้งการรับข้อเสนอพิเศษและความร่วมมือระดับทวิภาคี โดยใช้งบประมาณผูกพัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2554-2558 วงเงินจำนวน 16,266 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศ เองก็ไม่ได้มองแค่เครื่องบิน กริพเพน อย่างเดียว แต่นั่นหมายถึง เครื่องบินซู-30 ของประเทศรัสเซีย ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณา แต่เนื่องด้วยเครื่องบินซู-30 ที่มีขนาดใหญ่ และมีเครื่องยนต์ 2 เครื่อง ซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ขณะที่เครื่องบินเอฟ-16 ซี/ดี ของประเทศสหรัฐอเมริกา ก็มีความเหมาะสม ที่กองทัพอากาศหวังที่จะได้มาเสริมเขี้ยวเล็บให้แก่ประเทศไทย แต่ติดอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ขายให้กองทัพอากาศไทย เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกามีข้อกำหนดที่จะไม่มีการซื้อขายกับประเทศที่มีการ ปฏิวัติ-รัฐประหาร
ทำให้รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.สุรยุทธ์ ในเวลานั้น ต้องพิจารณาจัดซื้อจัดหาเครื่องบินขับไล่มาแทนเครื่องบินเอฟ-5 บี/อี ที่ต้องปลดประจำการในปี 2553 จึงได้ข้อสรุปมาที่เครื่องบิน กริพเพน ของประเทศสวีเดน ตามที่ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ในเวลานั้น
เพราะสิ่งที่น่าสนใจของเครื่องบิน กริพเพน เป็นเครื่องบินในยุคที่ 4.5 หรือ ยุค 4.5 เจเนเรชั่น ไฟเตอร์ ที่มีความอ่อนตัว และคล่องตัว สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลายรูปแบบในลักษณะมัลติ-โรล เมื่อประกอบเข้ากับระบบบัญชาการและควบคุมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากการจัดหา
สิ่งที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือมีความทันสมัย สามารถใช้งานระบบอาวุธสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำ พิสัยยิงไกล มีระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีระหว่างเครื่องบินในหมู่บิน และระหว่างเครื่องบินกับหน่วยบัญชาการและควบคุม ผนวกกับเครื่องบินแจ้งเตือนทางอากาศ ซาบ 340 เออีดับเบิลยู ที่ประเทศสวีเดนเพิ่มเติมให้
โดยจะสามารถตรวจจับเป้าหมาย และการเคลื่อนไหวของกำลังฝ่ายข้าศึกทั้งในอากาศ และบนพื้นได้ในระยะไกล รวมทั้งส่งข้อมูลการตรวจจับเป้าหมายให้แก่หน่วยบัญชาการและควบคุม ซึ่งระบบบัญชาการและควบคุมที่มีความทันสมัย
สามารถรับข้อมูลการตรวจจับเป้าหมายและความเคลื่อนไหวของกำลังฝ่ายข้าศึกทั้งจากเครื่องบินซาบ 340 เออีดับเบิลยู และระบบเรดาร์ภาคพื้นของกองทัพอากาศ เพื่อใช้ในการประมวลผลและสร้างภาพสถานการณ์การรบได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ทันต่อสถานการณ์ ตลอดจนสามารถควบคุมและสั่งการ การปฏิบัติภารกิจของเครื่องบินกริพเพน 39 ซี/ดี ผ่านระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี
ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีระหว่างเครื่องบินกริพเพนในหมู่บิน (Tactical Information Data Link System : TIDLS) และระหว่างเครื่องบินกริพเพน กับหน่วยบัญชาการและควบคุม (Ground-to-Air Data Link System : GADLS) ซึ่งขีดความสามารถในการใช้ระบบอาวุธสมัยใหม่ ตลอดจนได้รับอาวุธนำวิถีอากาศสู่พื้น อาร์บีเอส-5 เพื่อใช้ในการโจมตีเรือผิวน้ำ ซึ่งเป็นขีดความสามารถใหม่ ที่ยังไม่เคยมีใช้งานในกองทัพอากาศ
พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า กองทัพอากาศสามารถชี้แจงได้ว่า แต่ละประเทศซื้อหาไม่เท่ากัน ตัวเครื่องบินก็เป็นตัวเครื่องบินเปล่า แต่ขณะที่ตัวเครื่องบินจะมีซอฟต์แวร์ อุปกรณ์หลากหลาย หรือออปชั่นที่สามารถใส่เข้าไปได้ เพราะฉะนั้นความต้องการของแต่ละประเทศก็อาจจะกำหนด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ อาวุธ วิทยุ หรืออะไรต่างๆ ไม่เหมือนกัน
เป็นเรื่องยากที่จะเอามาเปรียบเทียบว่าประเทศไหนซื้อแพง หรือถูกกว่ากัน เพราะแต่ละประเทศกำหนดความต้องการไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนก่อนจะเอาตัวเลขมาเปรียบเทียบ และทำให้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะการนำเอาเอกสารมาเปิดเผย เรามีความเป็นห่วงว่าจะมีเอกสารที่เป็นความลับ ถ้าเป็นความเสียหายต่อกองทัพเราต้องดำเนินการเรื่องนี้
พล.อ.อ.อิทธิพรขยายเนื้อหาอีกว่า ปกติกองทัพอากาศต้องการเครื่องบิน 12 เครื่อง แต่กรอบงบประมาณผูกพันได้เพียง 5 ปี การจัดซื้อเฟสแรก วงเงิน 19,600 ล้านบาท จัดซื้อได้เพียง 6 ลำ ทั้งนี้ การจัดซื้อจะแพงหรือไม่ขึ้นอยู่กับรายละเอียดว่าในแต่ละประเทศมีการจัดหา และความต้องการของเขามีมากน้อยเพียงใด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นข่าวออกมา ซึ่งมีการระบุเป็นประเทศโรมาเนีย และประเทศนี้มีความสนใจเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา แต่เอกอัครราชทูตได้มีหนังสือแจ้งว่าในช่วงนั้นประเทศโรมาเนีย ขอข้อเสนออย่างเดียว และยังไม่มีการจัดซื้อจัดหาเลย รวมถึงครั้งนี้ด้วย
ประเทศโรมาเนียยังไม่ได้มีการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน เพราะฉะนั้นตัวเลขที่ออกมาว่าเป็นจำนวนเงินเท่านั้นเท่านี้ จะต้องดูจากข้อเท็จจริงก่อนที่จะมาสรุปว่า กองทัพอากาศซื้อแพง ผมขอยกตัวอย่างเช่น ดูจากรถยนต์คัมรี ถ้าถูกที่สุดเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 2.0 ราคาประมาณ 1.2 ล้านบาท แต่เป็นคัมรี 3.5 ราคาอยู่ที่ประมาณเกือบ 3 ล้านบาท ดังนั้นข้อแตกต่างจะต้องดูด้วยว่าอุปกรณ์มีออปชั่นเพิ่มเติมหรือไม่
ปัจจุบันเครื่องบินกริพเพน ที่ผลิตโดยประเทศสวีเดน มีประจำการอยู่ 5 ประเทศ ได้แก่ สวีเดน ฮังการี แอฟริกาใต้ สาธารณรัฐเช็ก อังกฤษ และไทย รวมจำนวนประมาณ 264 เครื่อง ซึ่งการจัดหาเครื่องบินกริพเพนของแต่ละประเทศ มีวิธีการจัดซื้อที่แตกต่างกันออกไป
สาธารณรัฐเช็ก จัดหามาใช้งานโดยการเช่า จำนวน 14 เครื่อง ระยะเวลา 10 ปี พร้อมระบบสนับสนุน และการตอบแทนทางอุตสาหกรรม รวมมูลค่าประมาณ 4.1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ เครื่องบินที่จัดหานั้นไม่ได้ติดตั้งระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีกับภาคพื้น
ประเทศฮังการี จัดหามาใช้งานโดยการเช่า จำนวน 14 เครื่อง ระยะเวลา 10 ปี พร้อมระบบสนับสนุน และการตอบแทนทางอุตสาหกรรม รวมมูลค่าประมาณ 4.8 หมื่นล้านบาท โดยเครื่องบินเป็นโครงสร้างของรุ่นเอ/บี แต่ระบบที่ติดตั้งเป็นของรุ่นซี/ดี และเครื่องยนต์วอลโว่ อาร์เอ็ม-12 บี และ เครื่องบินไม่ได้ติดตั้งระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีกับภาคพื้น ทั้งนี้เมื่อหมดสัญญาจะเช่าซื้อเครื่องบินดังกล่าวใช้งาน
ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ จัดหามาใช้งานโดยการซื้อ จำนวน 28 เครื่องพร้อมกับบริษัทฮอก อีกจำนวน 24 เครื่อง พร้อมระบบสนับสนุน และการตอบแทนทางอุตสาหกรรม รวมมูลค่าประมาณ 66,500 ล้านบาท โดยเครื่องบินติดตั้งระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีกับภาคพื้นของตนเอง
ขณะที่ประเทศสวีเดนไม่เคยทำสัญญาซื้อขายเครื่องบินกับ ประเทศโรมาเนีย ดังที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นเพียงการร้องขอให้ประเทศสวีเดนส่งข้อเสนอโครงการให้พิจารณาเท่านั้น
ส่วนการเปรียบเทียบราคาที่ปรากฏเป็นข่าว น.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า การเปรียบเทียบราคาเครื่องบินโดยการนำวงเงินทั้งหมดของโครงการ แล้วหารด้วยจำนวนเครื่องบินที่จัดซื้อ ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบบนพื้นฐานข้อมูลในรายละเอียดที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่ครอบคลุมข้อมูลพื้นฐานที่ประกอบกันเป็นระบบทั้งหมดที่ได้รับจากการจัดซื้อ เช่น แบบและรุ่นของเครื่องบินและสมรรถนะที่ต้องการ อัตราค่าเงินและอัตราเงินเฟ้อ ระบบบัญชาการและควบคุมที่มีประสิทธิภาพ ระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องบิน ระบบอาวุธที่ทันสมัยและความหลากหลายในการติดตั้งอาวุธ ระบบส่งกำลังบำรุงและระบบสนับสนุนต่างๆ เป็นต้น
น.อ.มณฑลกล่าวอีกว่า การเปรียบเทียบราคาเครื่องบิน จึงไม่สามารถเปรียบเทียบแบบเครื่องต่อเครื่องได้ เพราะมีหลายปัจจัยที่มีผลกระทบกับราคาซื้อขาย ดังนั้นการพิจารณาเปรียบเทียบต้องมีองค์ประกอบอีกหลายส่วน ซึ่งแต่ละประเทศก็มีเงื่อนไขการขอซื้อที่แตกต่างกันไป จึงทำให้ราคาของโครงการไม่เท่ากัน ทั้งนี้อยากเปรียบเทียบให้ฟังว่า การเช่า คือราคาก็เหมือนกัน เมื่อเช่าซื้อไปแล้วเมื่อครบกำหนดก็จะต้องคืน เมื่อคืนแล้วจะได้อะไร ส่วนการเช่าซื้อก็จะต้องมีกรอบระยะเวลา แต่ก็จะต้องดูว่าจังหวะไหนงบประมาณเอื้ออำนวยขนาดไหน หากงบประมาณไม่มีก็จะต้องถูกยึดเหมือนกัน
การจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน ของกองทัพอากาศไทย มีการกำหนดชัดเจนคืองบประมาณ 10 ปี โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ถ้าเราจ่าย 10 ปี ตามข้อกำหนดเครื่องบินกริพเพน ก็จะต้องเป็นของประเทศไทย หรืออย่างน้อยกองทัพอากาศก็มีไว้ใช้งานนานอีก 30-40 ปี ซึ่งอยากถามว่าอันไหนจะคุ้มกว่ากัน อีกทั้งประเทศไทยจะได้ทุนภาพรวมใหญ่ ทั้งเรื่องทุนการเรียนปริญญาโท โดยกองทัพอากาศได้แจกจ่ายไปยังสถาบันต่างๆ รวมถึงที่ประเทศสวีเดนจะมาร่วมทุนกับประเทศไทย ทั้งเรื่องอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เราก็ได้ประโยชน์หลากหลายไม่ได้มองแค่ทางการทหารอย่างเดียว และที่สำคัญการซื้อขายครั้งนี้เป็นการซื้อขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล และขณะนี้ก็มีการเปิดบัญชีจ่ายตามงวดระหว่างรัฐต่อรัฐแล้วเช่นกัน
http://www.komchadluek.net/detail/20100719/66919/ทอ.ซื้อกริพเพนแบบมีออปชั่น.html
อ่านแล้ว กระจ่าง + ไม่สับสน + ไม่วกวน
นสพ.บางฉบับ แวะมาอ่านบ้างนะครับ
เห็นด้วยครับ ยกมืออีก 1 เสียง
ชัดเจนเลยครับ ....
นสพ "...จงเติมคำตอบที่ถูกต้อง...." หัดศึกษารายละเอียดของโครงการ
บ้างนะครับ ผมอ่านแล้วอนาจใจ คิดตื้นๆ คิดแบบเด็กๆ
ไม่ใช่เด็กประถมแล้วนะครับที่จะเอาราคามาแล้วตั้งหารด้วยจำนวน
ก็จะได้เท่ากับผลลัพธ์
เครื่องบินรบครับ ไม่ใช่ขนม ...
ยังดีครับท่าน...ยังไม่เหมือนน.ส.พ.บางฉบับที่มั่วขนาดเด็กม.4ยังจับผิดได้ คมชัดลึกแค่ข้อมูลงงงวยเท่านั้นเองครับ