มีครับถ้าสอบได้ มีโครต้าให้ครับ
มีครับถ้าสอบได้ มีโครต้าให้ครับ
ทุกเหล่าทัพมีการสอบจากนายทหารชั้นประทวนเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ขอให้มีคุณสมบัติครบถ้วนเป็นไปตามที่กองทัพกำหนดไว้ ค่อยๆ วางแผนไปทีละขั้นตอน เริ่มจาก สอบเข้าเป็น นชท. ให้ได้ก่อน เรียนให้จบ แล้วก็เรียนต่อระหว่างรับราชการ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เมื่อโอกาสมาถึง เราก็จะพร้อมที่จะไขว่คว้ามันไว้ พอเป็นแนวทางคร่าวๆ การปฏิบัติตามอาจจะยากสักหน่อย ...เป็นจ่าก็เท่ห์ได้นะ มันอยู่ที่เราจะวางตนเองไว้ตรงไหนของใจคนอื่นน่ะ หุหุ
มีโอกาสอยู่แล้ว ถ้าเรามีความสามารถพอและสอบเลื่อนฐานะจากน.ประทวน เป็น สัญญาบัตรได้ รุ่นผม(36) สอบได้เกือบ20คนแล้ว ส่วนผมได้แค่เกือบคับ ยังงัยก็พยายามต่อไปคับ
น้องสะใภ้ของผม เริ่มต้นรับอาชีพทหารด้วยตำแหน่งจ่าสิบเอก ตำแหน่งปัจจุบันเป็น นาวาโทหญิง เรียนให้จบปริญญาตรี แล้วก็สอบบรรจุ เลื่อนตำแหน่ง
นักเรียนช่างฝีมือทหาร จะเป็นช่างเทคนิคมากกว่าการเป็นนักฆ่า พอเรารับราชการไปสักพัก กว่า ๖๐% ของแต่ละรุ่นในนักเรียนช่างฝีมือทหาร จะลาออกไปเป็นช่างเครื่องบินสายการบิน แม้แต่นักบินในสายการบินก็มีครับ อยู่ การบินไทย แอร์เอเชีย TOT ไฟฟ้า ดีแทค ทรู รถไฟฟ้าใต้ดิน BTS AIS ฯลฯ
ปัญหาของนักเรียนช่างฝีมือทหาร ที่บรรจุในกองทัพบก ไม่ใช่ไม่ได้เป็นนายร้อย แต่ปัจจุบันจบมา ๒๐ ปี ยังติดแค่ "สิบเอก" ไม่มีตำแหน่ง "จ่าสิบเอก" ให้ คนสอบนายทหารได้ มีหนทางสองทางเลือก คือ ๑ ต้องมียศพันจ่าอากาศเอก หรือจ่าสิบเอก ๒ สำหรับคนแข่งขันกับประชาชนต้องจบปริญญาตรี ดังนั้น เมื่อติดแค่ "สิบเอก นิรันดร" ก็ไม่มีสิทธิ์สอบนายทหาร ส่วนใหญ่เลือกลาออก ถ้ายศไม่ไป อายุยังน้อย จัดงานเลี้ยงรุ่นที เหลือรับราชการทหารไม่ถึง ๑๐๐ คนในแต่ละรุ่น (รุ่นละ ๒๕๐ คน)
ได้เป็น หรือไม่ได้เป็นไม่มีปัญหาครับ ตั้งใจทำงานและเรียนรู้ทุกอย่างให้มากที่สุด มีโอกาสเรียนต่อจนจบปริญญาตรี (อย่างน้อย) เข้าไว้ สู้ๆ ไอ้น้อง
ผมเองก็ จบ จากนักเรียนนายสิบทหารบกครับ รุ่น 19/29 จบมาติดสิบตรี...เท่ห์ ไม่หยอกครับ....
รุ่นผม[นชท.38] เท่าที่ทราบ เลื่อนชั้นเป็นสัญญาบัตร 2 คน ศรภ.[1] และ ทร.[1] โอนย้ายไปอยู่กับ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น[อบต.,อบจ.]ก็มีแต่ไม่ทราบจำนวน ลาออกก็มี โดนปลดก็มี เหอๆ รุ่นพี่ๆ [36 และ 37] จะเทพกันไปถึงไหน...เลื่อนชั้นเป็นสัญญาบัตรกันพรึบ ยินดีกับพี่ๆ ทุกคนที่ได้เลื่อนชั้นข้ามห้วยด้วยนะครับ
Elec.C ทัพฟ้า
อ้า... ผู้พันต้อม... ไม่เล่าตอนหลงสาวเมืองกรุงยังไงถึงติดนายร้อยได้่อะครับ เล่าให้จบๆ แหม...ใจตรงเข้ามาตอบกระทู้ห่างกันแค่ 1.44 นาที เหอๆๆ
คริคริ
ไม่อยากเล่า เลย...
ผมจบ นนส.ได้ที่ 3 ของเหล่าพลาธิการ ตอนแรกจะกลับ เชียงใหม่อยู่แล้ว จ่ากองร้อยบอก ลงที่กรมเหอะ จะได้เป็นจ่าก่อนใครนา ก็ จริงครับ ผมติดจ่าคนแรกของรุ่นของเหล่า...
แต่ติดนายร้อยนี่ ราวๆ คนที่ สี่ที่ห้า ของเหล่าครับ มัวแต่ กินเหล้าเคล้านารี อยู่หลายปี จนเกือบจะสาย 555
หลงแสงสีเมืองกรุงอยู่หลายปี พลิกตัวกลับมาตั้งใจเรียนต่อให้ จบ.ป.ตรี
สอบเป็นนายทหาร ได้ ตามหวังดังใจครับ
สิ่งใดก็แล้วแต่ไม่เกินความพยายามของเราดอกครับ สมคำที่ว่า ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน ครับ ฝากไว้....
ขอบคุณ ผู้พันต้อม ที่กลับมา "เหลา" ประสบการณ์ให้ได้รับชมกัน เป็นแนวทาง สำหรับน้องๆ ที่ติดยศ "สิบตรี, จ่าอากาศตรี และจ่าตรี" ที่กำลังค้นหาตัวตนหลังจบออกมาแล้ว เมาหมัดไปหลายยก ยังตั้งหลักกันไม่ได้
ผมก็เห็นมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็น น้องๆ นชท. หรือ นจอ. จบมาใหม่ๆ มักจะเกิดอาการเมาหมัด เพราะยังปรับสภาพจาก นักเรียนทหาร เป็นข้าราชการไม่ได้ ผมเข้าใจว่า อาจจะเป็นที่ "วัยวุฒิ" ยังเด็กๆ กันอยู่ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ ประสบการณ์หรือตัวอย่างดีๆ จากรุ่นพี่ๆ ที่จะพอมอบให้เป็นแนวทางในการรับราชการของรุ่นน้องๆ โดยไม่จำเป็นต้องเอาตัวไปแสดงแทน... จะเมาเหล้าก็ขอให้เมาแบบมีสาระ ไม่ใช่เมาจนหาสาระไม่เจอ... เชื่อไม่เชื่อก็มีให้เห็นคาตามาแล้ว เมาแบบมีสาระน่ะครับ นอกเวลา กินเหล้าไปอ่านหนังสือไป ในเวลาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รับ-ส่งข่าวอากาศ มันมาทั้งรหัสมอส รหัสลับ เสียงรบกวนหลากหลาย วันๆ หนึ่งแทบจะไม่ได้พักหูพักสายตา พอจะเลิกงานก็พิมพ์ตำรามาอ่านวันละบทสองบท ตกเย็นเล่นบอลกินเหล้าอ่านหนังสือ ปัจจุบัน เป็นเทพแห่งรหัสมอสของกองทัพอากาศ ใครเคยผ่านหลักสูตร เจ้าหน้าที่สื่อสารประจำอากาศยานมา จะร้องอ๊อ... อาจารย์...นจอ.รุ่น...นี่เอง ส่วนรุ่นพี่ผมก็ใช่ย่อย เรียกว่าพวกเสือซุ่ม กินเหล้าเมายา ถึงเวลาสอบได้เฉยเลย พฤติกรรมที่เราเห็นเพียงผิวๆ อาจจะเห็นแค่พี่เค้ากินเหล้าเก่ง แต่ใครจะไปรู้ เวลาว่างจากการกินเหล้า แกเอาหนังสือมาพลิกๆ อ่านๆ วันละหน้า สองหน้า ชอบหางานนอกเวลาแปลกๆ มาเล่นแล้วได้เงินใช้(ซ่อมชิ้นส่วนอิลเ็กทรอนิกส์อุปกรณ์อุตสาหกรรม) ลายปริ๊น กี่เลเยอร์ๆ แกอ่านทางได้หมด สุดท้าย ไปติดนายทหารอยู่ที่ ศวอ.ทอ. เออ เอากับเค้าซิ
* หมายเหตุ1 ไม่ได้สนับสนุนให้ไปกินเหล้าเมายาตามตัวอย่างนะครับ แต่สังคมเรา(ทหาร) ต้องยอมรับว่าเราอยู่กับเหล้าของมึนเมามาทั้งหลายแหล่กันตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน อยากให้มองถึงการบริหารเวลาซะมากกว่า ถ้าบริหารเวลาดีๆ เราก็จะสามารถทำกิจกรรมหลายๆ อย่างได้ต่อวัน ทั้งไร้สาระ มีสาระ พวกลากก็เมา เพื่อนลาก็อ่านหนังสือ ถ้าทำแบบนี้ได้ เราก็ไม่เสียทั้งเพื่อน ไม่เสียทั้งอนาคต เยอะไปหน่อยแต่ก็ พอเป็นแนวทางครับ...
สำหรับน้อง "ป๊อป42" รุ่นหลังๆ (40 ขึ้นไป) พี่เห็นบ้าพลังกันเยอะมาก มุ่งจะรบพิเศษกันอย่างเดียว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียน ก็เพิ่งจะเห็นน้อง "ป๊อป42" นี่แหล่ะ ที่พูดถึงการเรียน ป.โท. (กำลังแรงมากๆ ป.โท.เนี๊ยะ ทั้งทหาร ตำรวจ ขรก.พลเรือน อบต., อบจ. ชั้นยศ/ขั้นต่ำๆ ไปเรียนกันให้พรึบ) ยังไงก็ยินดีด้วยคนนะที่นายสำเร็จการศึกษาถึง ป.โท. โห่...เท่ห์ขึ้นอีกเยอะเลย
*หมายเหตุ2 พอรู้ครับว่าไม่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ถ้าหากเราแยกแยะออกจะรู้ว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันโดยสิ้นเชิงครับ จึงต้องทำความเข้าใจกับเพื่อนๆ สมาชิกสักเล็กน้อย เหอๆๆ กลัวขาดตอน ตกหน้าแรกไป
ผมเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหารรุ่น 42 ยศจ่าสิบตรีเพิ่งจบปริญญาโทตอนนี้ เครียมตัวลาออกแล้วครับอยู่ไปก็ไม่รุ่ง ผู้บังคับบัญชาไม่เห็นค่า
เห็นข่าวแล้วช่างเทคนิค ในประเทศไทยต้องการอย่างมาก ผมว่า สงสัยไม่แพ้ภัยตัวเอง คือโดนเอกชนดูดลาออกไปทำงาน
ตามอัตภาพ หรือต้องมารอสอบ ขึ้นชั้นสัญญาบัตร ซึ่ง ๆและซึ่ง ยากพอๆกับการสอบ เข้ารับราชการ ระดับปริญญาตรีเลยครับ
สรุปคือ สอบยากวว่าง่ายๆ อาจจะแป่กไปทำเอกชนก่อน ถ้าไม่อดทนพอน่ะ เพราะเงินเดือนเอกชนสายอาชีวะ มันหอมหวานพอตัวครับ
มาเป็นช่างที่การบินไทยก็เยอะครับ