- -

เอาแบบงูๆปลาๆนะครับ

ที่ประจำการในทอ.ไทยคือ F-16A/B Block 15 OCU ซึ่งผมอ่านในเว็บของต่างประเทศเขาบอกว่าเป็นรุ่นที่เพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจ (Operation Capability Upgrade) ได้แก่ ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิธีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ AIM-7 สแปโรว์ได้ (น่าจะรวมถึง AIM-120 แอมแรมด้วย) รวมทั้งติดตั้งอาวุธนำวิธีโจมตีเรือรบแบบ AGM-119 เพนกวินได้ แต่เข้าใจว่าเครื่องที่ส่งออกให้ไทยถูกจำกัดขีดความสามารถดังกล่าวเอาไว้

ส่วน ADF ก็เป็นรุ่น Block 15 (ไม่มี OCU) ถูกปรับปรุงเพื่อใช้ในภารกิจป้องกันภัยทางอากาศโดยเฉพาะ แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะยังมีขีดความสามารถในการโจมตีภาคพื้นดินด้วย AGM-65 มาเวอริคหรือไม่

รุ่น C ก็ประมาณว่าปรับปรุงขนานใหญ่เลย ทั้งเรดาร์ ระบบอวิโอนิค ห้องนักบิน เครื่องยนต์ ฯลฯ แน่นอนว่าทันสมัยกว่ารุ่น A

MLU (Mid Life Upgrade) เป็นแผนการปรับปรุงช่วงครึ่งอายุการใช้งานของรุ่น A เริ่มโดยชาติยุโรปสี่ชาติ (เดนมาร์ค เบลเยี่ยม เนเธอแลนด์ และนอร์เวย์) เป็นการปรับปรุงในเรื่องความทันสมัยของระบบที่ติดตั้งบนเครื่องบิน

ถ้าหาก F 16 A  ของไทยไม่สามารถติดตั้งสแปร์โรว์ ใช้ได้แต่ไซด์ไวน์เดอร์ นั่นคือไม่สามารถทำการรบนอกระยะสายตา ก็ไม่ต่างจาก F5Eหรือ เซเบอร์ของไต้หวันที่ติดไซด์ไวน์เดอร์ได้เหมือนกันซึ่งไม่น่าเป็นไปได้

ส่วนตัวผมมั่นใจว่า F16A ของไทยทำการรบนอกสายตาได้หากติดตั้ง AMRAAM หรือ SPARROW แต่ความสามารถในด้านโจมตี และระยะเรด้า เป็นรองF16C ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือไม่ เดี๋ยวต่างคนต่าง POST ผลผิดทั้งหมด ผู้รู้ช่วยที คร๊าบบบบบ

   บข. 19 /ก ( F-16 A/B แบบADF = Air Defense Fighter )
ผู้สร้าง......................บริษัทล็อคฮีท มาร์ติน สหรัฐฯ
ประเภท....................เครื่องบินไอพ่นขับไล่สกัดกั้น ๑ ที่นั่ง (รุ่น เอ) หมายเลข 10202 - 10216
เครื่องบินไอพ่นขับไล่สกัดกั้น ๒ ที่นั่งเรียงตามกัน (รุ่น บี) หมายเลข 10201
เครื่องยนต์...……....เครื่องยนต์เทอร์โบแฟนแพร์ทแอนด์วิทนีย์ เอฟ-๑๐๐ พีดับบิว ๒๒๐ อี
ให้กำลัง ๒๔,๐๐๐ ปอนด์ ๑ เครื่อง
กางปีก...................... ๓๒ ฟุต
ยาว........................ .. ๔๙ ฟุต ๖ นิ้ว
สูง.............................๑๖ ฟุต ๘ นิ้ว
อัตราเร็วสูงสุด......... ๒,๑๒๕ กม./ชม. ( ๒ มัค )
เพดานบิน.................๖๐,๐๐๐ ฟุต
พิสัยบินไกลสุด.........๒,๑๐๐ ไมล์
รัศมีทำการรบ........... ๕๐๐ ไมล์ เมื่อติดถังน้ำมันภายนอก
อาวุธ......................@ปญอ. เอ็ม –๖๑ หลายลำกล้อง ขนาด ๒๐ มม.ที่ข้างห้องนักบินด้านซ้าย ๑ กระบอก
@ลูกระเบิดรวม ๑๕,๒๐๐ ปอนด์
@จรวดนำวิถี เอไอเอ็ม ๙ ไซร์ไวน์เดอร์ จำนวน ๖ ลูก
@จรวดนำวิถีเอไอเอ็ม ๑๒๐ แอมราม จำนวน ๒-๔ ลูก
@ จรวดนำวิถีเอจีเอ็ม-65 มาเวอร์ริค จำนวน ๖ ลูก
ประจำการ..............ใน กองทัพอากาศไทย ปี พ.ศ.๒๕๔๕ - ปัจจุบัน

ที่มาเวบท่านท้าวทองไหล

http://www.pantown.com/board.php?id=32248&area=4&name=board18&topic=31&action=view

ถ้าจำไม่ผิด F-16A/B มีขีดความสามารถในการรบนอกสายตาด้วยอาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศ สแปร์โร่ แต่ยังไม่มีขีดความสามารถในการใช้จรวดแบบ อัมราม ได้ ส่วน F-16 ADF นั้นมีการปรับปรุงเรดาร์และระบพิสูจน์ฝ่ายและปรับปรุงซอร์ฟแวร์ให้สามารถใช้ อาวุธนำวอถีนอกสายตาแบบ อัมราม ได้ สำหรับภารกิจป้องกันภัยทางอากาศของ สหรัฐอเมริกา และกองทัพอากาศก็ได้จัดหามาใช้งาน ส่วน F-16 MLU นั้นมีการปรับปรุงให้มีขีดความสามารถในการใช้อาวุธนำวิถีนอกสายตาแบบ อัมราม ได้รวมทั้งระบอาวุธใหม่ๆแบบอื่นด้วยเช่นกัน เรียกว่า ไม่แพ้รุ่น C/D แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า ประเทศที่จะ MLU ต้องการขีดความสามารถแค่ไหน

ผิดพลาดทางด้านข้อมูลใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับ แย้งได้เพราะลืมๆไปบ้างแล้ว

USAF ปรับปรุง F-16A ให้เป็น ADF แล้วโอนให้หน่วยบิน ANG (AIR NATION GUARD)

บางส่วนก็สำรองราชการไว้ (จอดในทะเลทราย)

ส่วน USAF ใช้ F-16C/D เป็นรุ่นมาตรฐาน

เครื่องบิน เอฟ ๑๖ รุ่นแรกๆ (เอ/บี)นั้น สหรัฐไม่ได้มีจุดประสงค์หลักสำหรับการรบระยะนอกสายตาครับ ถึงแม้ว่าในสเปคของมันมันจะสามารถ ติดตั้งระบบอาวุธ ระยะนอกสายตาแบบสแปโร่ ได้ก็ตาม (ตามที่ผู้ผลิตเครื่องบินออกแบบเผื่อเอาไว้) แต่การติดตั้งระบบอาวุธดังกล่าวเพิ่มขึ้นจะต้องใช้ระบบเรดาห์และระบบ โปรแกรมที่สามารถรองรับระบบอาวุธปล่อยนั้นๆด้วยครับ โดยกองทัพ สหรัฐ นั้นใช้ เครื่อง เอฟ ๑๕ เป็นหลักในการรบ ระยะนอกสายตา ดังนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะติดตั้ง ระบบ อำนวยความสะดวกทั้ง ฮาร์ดแวร์และ ซอฟแวร์ ให้ เอฟ ๑๖ ครับ  โดยสหรัฐ ใช้เอฟ ๑๖ ในการสนับสนุนภาคพื้นดินเป็นหลักครับแต่ยังคงสภาพการรบแบบในระยะสายตาอันยอดเยี่ยมเอาไว้ครับ

ต่อมาสหรัฐต้องการเครื่องบินรบทางอากาศนอกสายตาเพิ่มขึ้น เพื่อใช่ในกองบินรักษาดินแดน ดังนั้นจึงมีการดัดแปลง เอฟ ๑๖ รุ่น เอ/บี  มาเป็นรุ่น เอดีเอฟ    ครับ โดยปรับแต่ง เรดาห์ และ ซอฟแวร์ให้เข้ากันได้กับระบบอาวุธปล่อยระยะปานกลางที่ทันสมัยที่สุด ของโลกในยุคนั้น คือ แอมแรมครับ ดังนั้น  เอฟ  ๑๖ เอดีเอฟ จึงเป็นเครื่องบินตระกูลเอฟ ๑๖ แบบ แรกของ กองทัพสหรัฐ ที่มีขีดความสามารถในการรบนอกสายตาครับ  ตัวถัดมา คือ เอฟ ๑๖  ซี/ดี    ครับที่พัฒนา ถัดมา ให้มีคุณภาพในการรบนอกสายตาสูงขึ้นอีกมาก ครับ

ขอโทษด้วยครับ ฟ้อนต์ มันใหญ่คับหน้ากระดาษ นานๆโพสทีผิดพลาดก็ขออภัยด้วย

ส่วน เอฟ ๑๖ เอ็มแอลยู คือการนำเอา เอฟ ๑๖ รุ่น เอ/บี ที่ยังมี ชั่วโมงบินเหลืออยู่ พอสมควร ประมาณ พันห้า หรือ สองพันชั่วโมงบิน จากอายุโครงสร้าง ทั้งหมด สี่พันชั่วโมงบิน (ตามมาตราฐานตะวันตก) เอามา อัปเกรด ฮาร์แวร์ และ ซอฟแวร์ โดยใช้ตัวถังเครื่องบินแบบ เดิมๆครับ วิธีนี้จะประหยัดงบประมาณกว่าซื้อเครื่องบินใหม่ถอดด้ามประมาณครี่งนึงเชียวแหละ เพราะราคาเครื่องบินรบ ครึ่งนึงคือราคาตัวถังเครื่องบินนี่แหละ ดังนั้น การทำเอ็มแอลยู เราจะทำให้วิเศษ อย่างไรก้ได้ครับแล้วแต่งบประมาณ จะใส่เรด้าห์หรือระบบอาวุธที่สุดยอดกว่า เครื่อง กริเป้น ที่เพิ่งจะมา นี่อย่างไรก้ได้ครับ ถ้าเงินถึง และ ทางบริษัทผุ้ผลิตเครื่องบินเขาโอเค ครับ หรือ จะทำแค่ให้ มีคุณภาพเท่า ตัว เอดีเอฟ ก้ยังได้ครับ แล้วแต่งบประมาณ และความคุ้มค่า ที่เหลืออีกแค่ สองพันชั่วโมงบินครับ

อืมมันเป็นอย่างงี้นี่เอง รู้อยู่ว่า F-16 มันอัพเกรดสมถรรณะได้แต่ไม่รู้รายละเอียดว่าอัพแล้วมันจะเป็นยังไง

  ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

ขอบคุณครับ CLEAR มาก ขอถามเพิ่มเติมครับ F16 MLU ของไทยมีระบบอาวุธและเรดาห์ที่ปรับปรุงแล้วเหนือกว่าหรือแตกต่างจาก F16ADF อย่างไรขอบคุณล่วงหน้าครับ

F-16 ที่ MLU แล้วเหนือกว่า F-16ADF ครับ เรียกว่าอาจจะเทียบเท่า F-16 C/D Block50/52 หรือไม่แน่อาจจะเหนือกว่าก็ได้ครับ จะไม่ได้ก็ตรงติดตั้งถังเชื้อเพลิงแนบลำตัวไม่ได้ แต่ทั้งนี้การ MLU จะเพิ่มขีดความสามารถแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับประเทศที่ต้องการทำ MLU ว่าต้องการอย่างไร งบเท่าไหร่ ครับ