หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


การปฏิบัติการทางอากาศในกรณีพิพาทบ้านร่มเกล้า

โดยคุณ : ตี๋อุบล เมื่อวันที่ : 13/03/2011 22:48:47

พอดีเจอในเวปของ ทอ. เลยเอามาให้เพื่อนๆสมาชิกอ่าน รำลึกถึง สงครามบ้านร่มเกล้าครับ

การปฏิบัติการทางอากาศในกรณีพิพาทบ้านร่มเกล้า 
        ๑๕ ธ.ค.๒๕๓๐  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๑๙๐(๐๐)/๓๐  ห้วงเวลา ๑๑๒๕-๑๒๐๐  ๖ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ และ ๔๐๓๔ (ตาคลี) โจมตีทางอากาศบริเวณเนิน ๑๔๒๘ พิกัด QV 099492,101489,104510  เป้าหมายเป็นกำลังทหารต่างชาติประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คน อยู่ในที่มั่น
ดัดแปลงแข็งแรงมีคูสนามล้อมรอบ มีที่พัก ๒-๓ หลังและเป็นหน่วยสนับสนุนส่งเสบียง โดยมี
๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๒ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน และ๑ บ.ตฝ.๑๑ (RT-33) จากหน่วยบิน ๕๖๑๑ (ดอนเมือง) เป็น บ.ถ่ายภาพหลังการโจมตี
                                  ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย ไม่มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยาน
        ๒๓ ธ.ค.๒๕๓๐  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๑๙๖(๐๐)/๓๐   ห้วงเวลา ๑๐๔๕-๑๒๓๐  ๖ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ และ ๔๐๓๔ (ตาคลี)  ๓ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๒ (โคราช) และ ๓ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) โจมตีทางอากาศบริเวณเนิน ๑๔๒๘ พิกัด QV 110489และเนิน ๑๓๗๐ พิกัด QV101506 เป้าหมายเป็นที่รวมพลทหารต่างชาติ อยู่ในที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง มีบังเกอร์และคูสนามล้อมรอบ มีอาวุธหนัก ปรส.๗๕ มม. โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๒ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน และ๑ บ.ตฝ.๑๑
(RT-33) จากหน่วยบิน ๕๖๑๑ (ดอนเมือง) เป็น บ.ถ่ายภาพหลังการโจมตี
                                  ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย ไม่มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยาน





ความคิดเห็นที่ 1


๖ ม.ค.๒๕๓๑  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๑ (๐๐)/๓๑   ห้วงเวลา ๑๑๐๐-๑๑๒๐   ๖ บ.ข.๑๘ ข/ค
(F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ และ ๔๐๓๔ (ตาคลี) โจมตีทางอากาศบริเวณเนิน ๑๔๒๘ พิกัด
QV 102489,101492  เป้าหมายเป็นกำลังทหารต่างชาติประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คน อยู่ในที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง มีบังเกอร์และคูสนามล้อมรอบ มีที่พัก ๒-๓ หลังและเป็นหน่วยสนับสนุนส่งเสบียง โดยมี
๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๒ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน และ๑ บ.ตฝ.๑๑ (RT-33) จากหน่วยบิน ๕๖๑๑ (ดอนเมือง) เป็น บ.ถ่ายภาพหลังการโจมตี
                                  ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยาน  SA-7  จากฐานบ้านภูเวียง สปปล. จำนวน ๒ นัด บ.ฝ่ายเราปลอดภัย
        ๓๐ ม.ค.๒๕๓๑  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๒๒ (๐๐)/๓๑ ห้วงเวลา ๑๕๒๕-๑๕๔๐   ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) หน่วยบิน๔๐๓๔(ตาคลี)โจมตีทางอากาศบริเวณภูเวียง พิกัดQV31469,150486,128465  เป้าหมายเป็นที่รวมพล ทปล.ประมาณ ๑๕๐ คน และปืนใหญ่ไม่ทราบขนาดซ่อนพรางตามภูมิประเทศ โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๑ (ตาคลี) เป็น บ.คุ้มกัน และ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณ
อ.ด่านซ้าย จ.เลย
                                  ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย ไม่มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยาน

โดยคุณ ตี๋อุบล เมื่อวันที่ 11/03/2011 01:56:43


ความคิดเห็นที่ 2


๑ ก.พ.๒๕๓๑  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๒๓(๐๐)/๓๑ ห้วงเวลา ๑๓๓๓-๑๔๑๐   ๘ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) หน่วยบิน ๔๐๓๓ และ ๔๐๓๔ (ตาคลี) โจมตีทางอากาศบริเวณภูฮวด พิกัด QV 115478 และภูเวียง พิกัดQV142482, 135495,140483,132492,132488  เป้าหมายเป็นที่รวมพลของ ทปล.ประมาณ ๗๐๐ คน คลังอาวุธ อาวุธต่อสู้อากาศยาน และสนามบินลูกรัง โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค
(F-5E/F) จาก หน่วยบิน ๑๐๒๑ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน และ ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณพื้นที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย
                                  ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยาน แต่ บ.ฝ่ายเราปลอดภัย
                                 ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๒๔(๐๐)/๓๑ ห้วงเวลา ๑๔๐๘-๑๔๑๐     ๒ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) หน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) โจมตีทางอากาศบริเวณเนิน ๑๔๒๘ พิกัด QV101492, 102489 เป้าหมายเป็นที่ตั้งทหารต่างชาติ และห้วงเวลา ๑๗๓๕-๑๗๔๕   ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค(F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ (ตาคลี)โจมตีทางอากาศบริเวณเนิน ๑๔๒๘ พิกัดQV099492,101489,103498 เป้าหมายเป็นกำลังทหารต่างชาติประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คน อยู่ในที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง มีบังเกอร์และคูสนามล้อมรอบ และมีอาวุธหนัก ปรส.๗๕ มม. โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๑ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน และ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณพื้นที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย
                                 ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยานแต่ บ.ฝ่ายเราปลอดภัย
        ๒ ก.พ.๒๕๓๑  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๒๗,๒๘,๓๐ (๐๐)/๓๑   ห้วงเวลา ๐๗๐๐-๑๔๒๐
๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓  ๔๐๓๔ (ตาคลี) และ ๒ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) โจมตีทางอากาศบริเวณบ้านนาปอ พิกัด QV 154455,155452 และบ้านภูซำเนียน พิกัด QV 191552,192553  188555,189553   เป้าหมายเป็นที่ตั้งทางทหารต่างชาติ และเป็นที่ตั้งปืนใหญ่ไม่ทราบขนาด โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๑,๑๐๒๒ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน และ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณพื้นที่ บ้านนาเจริญ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก
                                  ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยานแต่ บ.ฝ่ายเราปลอดภัย
        ๓ ก.พ.๒๕๓๑  สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น ศสอต.๓  จึงได้สั่งการให้ ๑ ฮ.๔ก หน่วยบิน ๒๐๑๓ (น่าน) เคลื่อนย้ายกำลังไปสมทบกับ ๑ ฮ.๔ก หน่วยบิน ๒๐๑๒ (พิษณุโลก)
                                  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๓๑ (๐๐)/๓๑ ห้วงเวลา ๑๐๐๐-๑๐๐๙    ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๔ (ตาคลี)  และ ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๓๓ (๐๐)/๓๑  ห้วงเวลา ๑๕๕๕-๑๖๑๐   ๓ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ (ตาคลี) และ ๒ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี)   โจมตีทางอากาศบริเวณเนิน ๑๔๒๘ พิกัด QV 099492,101498  
เป้าหมายเป็นที่ตั้งทหารต่างชาติ มีคูสนามล้อมรอบ และอาวุธหนัก ปรส.๗๕ มม. โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) หน่วยบิน ๑๐๒๑ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน
                                  ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยานแบบ SA-7 จำนวน ๓ นัด และ ปตอ.ขนาด ๓๗ มม.จำนวนหนึ่งแต่ บ.ฝ่ายเราปลอดภัย
                                 ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๓๒ (๐๐)/๓๑ ห้วงเวลา ๑๑๕๓-๑๖๒๐    ๒ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) และ ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ (ตาคลี) โจมตีทางอากาศบริเวณภูเวียง พิกัด QV 127510,131480,132488,135534,136522  เป้าหมายเป็นที่ตั้งทหารต่างชาติ มีอาวุธต่อสู้อากาศยาน โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) หน่วยบิน ๑๐๒๑ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน
                                  ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยานแต่ บ.ฝ่ายเราปลอดภัย

โดยคุณ ตี๋อุบล เมื่อวันที่ 11/03/2011 01:58:38


ความคิดเห็นที่ 3


๔ ก.พ.๒๕๓๑  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๓๗ (๐๐)/๓๑ ) ห้วงเวลา ๐๗๒๐-๐๗๔๐   ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ (ตาคลี) โจมตีทางอากาศบริเวณเนิน ๑๔๒๘ พิกัด QV099492, 101498  เป้าหมายเป็นที่ตั้งกองกำลังทหารของลาว รวม ๒ เป้าหมาย โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค
(F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๑ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน และ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์
ข้อมูลจาก รายงานผลการสอบสวน อ.เสียหายเนื่องจากการบ โดย กรมยุทธการทหารอากาศ
                                  เมื่อเวลา ๐๖๓๐   ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ (ตาคลี)
วิ่งขึ้นจาก กองบิน ๔ ภารกิจโจมตีทางอากาศบริเวณเนิน ๑๔๒๘
-  บ.หมายเลข ๑ (หมายเลข ทอ.๒๕/๒๔ )  มี น.ต.สุรศักดิ์ บุญเปรมปรีดิ์ เป็นนักบิน
-  บ.หมายเลข ๒ (หมายเลข ทอ.๒๒/๒๔)  มี ร.อ.อาคม  วรเสียงสุข เป็นนักบิน
                                  เวลา ๐๗๑๐ หลังจาก น.ต.สุรศักดิ์ฯ เข้าโจมตีด้วยการทิ้งระเบิด ๕๐๐ ปอนด์ (MK-82) พร้อมกันจำนวน ๔ ลูก ขณะดึงเครื่องขึ้นจากเป้าหมายได้ถูกฝ่ายตรงข้ามยิงต่อต้านด้วยจรวดนำวิถีพื้นสู่อากาศ (SA-7B) อย่างต่อเนื่องจำนวน ๗ นัด จากภูเวียง มีนัดหนึ่งยิงถูกบริเวณ
ท่อท้ายเครื่องยนต์ซ้าย ทำให้เครื่องยนต์ดับทั้ง ๒ ข้าง นักบินพยายามทำการติดเครื่องยนต์อีกครั้งแต่เครื่องยนต์ไม่ทำงานจึงต้องสละ บ. เครื่องบินตกที่ พิกัด QV009527  ทางทิศเหนือ ห่าง ๔ กม. จากบ้านร่มเกล้า และอยู่ลึกเข้ามาในเขตไทย ๑๐ กม. (ทิศทาง ๐๓๕ องศา ระยะทาง ๖๒ ไมล์ทะเล จาก จ.พิษณุโลก ) นักบินปลอดภัย
                               สำหรับ บ.หมายเลข ๒ หลังจาก ร.อ.อาคมฯ แจ้งตำบลเครื่องบินตกแล้วได้บินไปทิ้งระเบิดที่ภูเวียง จนเสร็จภารกิจแล้วจึงบินกลับมาลงที่ กองบิน๔ (ตาคลี) เมื่อเวลา ๐๗๓๕
ข้อมูลการปฏิบัติ ภารกิจของ ฮ.ค้นหาและช่วยชีวิต
จากการสัมภาษณ์ น.อ.ภิรมย์  นวลปลอด ผอ.กกส.สก.ทอ.เมื่อ  ก.พ.๒๕๕๑
                               ในการค้นหาและช่วยชีวิตนักบินที่ถูกยิงตก ๑ ฮ.๔ ก จากหน่วยบิน ๒๐๑๒ (พิษณุโลก) มี ร.อ.สมชาย  สังขมณี และ ร.ท.เดชา  กรมสุริยศักดิ์ เป็นนักบิน ซึ่งเตรียมพร้อมอยู่ที่ กองบิน ๔๖ ได้วิ่งขึ้น บินค้นหาร่วมกับ ๑ ฮ.๔ก หน่วยบิน ๒๐๑๓ (น่าน) มี ร.อ.ภิรมย์  นวลปลอด และ ร.ท.ทรงพล  แจ้งสี เป็นนักบิน ซึ่งเตรียมพร้อมอยู่ที่  บ้านนาเจริญ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก พิกัด QV 001413 โดยมี ๑ บ.จล.๙ จากหน่วยบิน ๔๖๑๓ (พิษณุโลก) เป็น บ.คุ้มกัน
                                  แต่เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นหุบเขารกทึบประกอบกับนักบินได้พยายามหลบหนีออกจากจุดเครื่องบินตกไปทางทิศตะวันตกและยังไม่เปิดเผยที่ซ่อนตัว นอกจากนั้นแล้วนักบินยังไม่สามารถนำชุดยังชีพซึ่งติดค้างอยู่บนยอดไผ่มาใช้งานได้ ทำให้การค้นหาต้องล่าช้าออกไปถึง ๔ ชม. ฮ.ค้นหาฯ จากหน่วยบิน ๒๐๑๓ จึงสามารถมองเห็นทัศนะสัญญาณของ น.ต.สุรศักดิ์ฯ โดยการโบกเสื้อยืดสีขาว เมื่อเวลา ๑๑๑๕  ฮ.ไม่สามารถลงรับที่พื้นได้จึงใช้รอกกว้าน ( HOIST) รับตัวขึ้นมาได้โดยปลอดภัย ฮ.ค้นหาฯ กลับมาลงที่สนามบิน กองบิน ๔๖ (พิษณุโลก) เมื่อเวลา๑๒๓๐
                                  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๓๘ (๐๐)/๓๑  ห้วงเวลา ๑๕๐๐-๑๕๐๘  ๓ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) หน่วยบิน ๔๐๓๓ (ตาคลี) โจมตีทางอากาศบริเวณเนิน ๑๔๒๘ พิกัด QV 099492,101489  เป้าหมายเป็นที่ตั้งทหารต่างชาติ มีคูสนามล้อมรอบ และอาวุธหนัก ปรส.๗๕ มม. โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๑ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน
                                  ผลการปฏิบัติ ไม่ได้ใช้อาวุธ เนื่องจากสภาพอากาศเหนือเป้าหมายปิด มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยานแบบ SA-7 จำนวน ๓ นัด และ ปตอ.ไม่ทราบขนาด จำนวนหนึ่ง

โดยคุณ ตี๋อุบล เมื่อวันที่ 11/03/2011 01:59:53


ความคิดเห็นที่ 4


        ๕ ก.พ.๒๕๓๑  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๔๔(๐๐)/๓๑ ห้วงเวลา ๑๐๐๖-๑๐๑๐   ๑ บ.ข.๑๘ ค (F-5F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๔ (ตาคลี) และ ๒ บ.ข.๑๘ ข (F-5E) จากหน่วยบิน ๑๐๒๓ (โคราช) ภารกิจ โจมตีทางอากาศบริเวณ เนิน ๑๔๒๘ พิกัด QV 101489 ด้วยระเบิด LASER GUIDE BOMB ขนาด ๒,๐๐๐ ปอนด์  เป้าหมายเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของทหารลาวในเขตแดนไทย และอาวุธหนัก ปรส.ขนาด ๗๕ มม. โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๑ (ตาคลี) เป็น บ.คุ้มกัน
                                  ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย มีการยิงต่อต้านด้วยอาวุธต่อสู้อากาศยานแบบ SA-7 จำนวน ๓ นัด แต่ บ.ฝ่ายเราปลอดภัย
ข้อมูลการปฏิบัติภารกิจของ ๓ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F)
จากการสัมภาษณ์ น.อ.ธเนศ  ชลิตภิรัติ รอง ผบ.พล.บ.๒ บยอ.เมื่อ  ก.พ.๒๕๕๑
-  บ.หมายเลข ๑  F-5F หน่วยบิน ๔๐๓๔ (ตาคลี)  มี น.ท.วีรวิท  คงศักดิ์  และ น.ต.เจริญ  บำรุงบุญ เป็นนักบิน (บ.ชี้เป้า LTDS )
- บ.หมายเลข ๒ F-5E หน่วยบิน ๑๐๒๓ (โคราช) มี น.ต.พลเดช  สุภาตรัย เป็นนักบิน (บ.ทิ้งระเบิด)
- บ.หมายเลข ๓ F-5E หน่วยบิน ๑๐๒๓ (โคราช) มี ร.อ.สถาพร  เจริญศิริ  เป็นนักบิน (บ.ทิ้งระเบิด)
- บ.หมายเลข ๔ F-5E หน่วยบิน ๑๐๒๓ (โคราช) มี ร.อ.ธเนศ  ชลิตภิรัติ    เป็นนักบิน (บ.ทิ้งระเบิด)
                                  นักบินในภารกิจนี้ทั้งหมดมาประชุมวางแผนร่วมกันที่ กองบิน ๔ (ตาคลี) และวิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี โดยที่ บ.หมายเลข ๔ซึ่งเป็น บ.ทิ้งระเบิดสำรอง ไม่ได้ทำการวิ่งขึ้น
          หมายเหตุ  ในการรบวันนี้ไทยเราต้องสูญเสียกำลังพลทหารม้าส่วนหน้าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเนิน ๑๔๒๘ เป็นพื้นที่สูงชัน ยากลำบากต่อการเข้าตีทางพื้นดิน ประกอบกับทั้งสองฝ่าย
ทำการรบอยู่ในระยะใกล้กันมากเพื่อให้การระดมยิงของปืนใหญ่ฝ่ายลาวกระทำได้ยาก ดังนั้นอานุภาพความรุนแรงของระเบิดขนาด ๒,๐๐๐ ปอนด์ จึงมีผลกระทบต่อฝ่ายเราด้วย
                                  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๔๔ (๐๐)/๓๑  ไม่ทราบห้วงเวลา   ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค
(F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ (ตาคลี) โจมตีทางอากาศบริเวณภูเวียง พิกัด QV 131496,132485, 136522   เป้าหมายเป็นที่ตั้งฐานปืนใหญ่ไม่ทราบขนาด โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จาก
หน่วยบิน ๔๐๓๑ (ตาคลี) เป็น บ.คุ้มกัน
                                  ผลการปฏิบัติ ไม่เรียบร้อย เนื่องจาก บ.หมายเลข ๑ มีเชื้อเพลิงรั่วจึงละภารกิจ บ.กลับมาลงสนามบิน กองบิน

โดยคุณ ตี๋อุบล เมื่อวันที่ 11/03/2011 02:01:06


ความคิดเห็นที่ 5


๖ ก.พ.๒๕๓๑   ศสอต.๓ สั่งเคลื่อนย้ายกำลัง  ๒ บ.จ.๕ จาก ฝูงบิน ๔๑๑ (เชียงใหม่) มาทำหน้าที่คุ้มกัน ฮ.ค้นหาฯ แทน บ.จล.๙
                                  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๔๙ (๐๐)/๓๑ ) ห้วงเวลา ๑๒๓๕-๑๒๕๐   ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ (ตาคลี) โจมตีทางอากาศบริเวณภูเวียงพิกัด QV 131496, 134489, 132491,132488  เป้าหมายเป็นที่ตั้งปืนใหญ่ไม่ทราบขนาด โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๓ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน
                                  ในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ บ.หมายเลข ๒ มีเชื้อเพลิงรั่วจึงได้ละภารกิจ ส่วนอีก ๓ เครื่องที่เหลือ ปฏิบัติภารกิจเรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย ไม่มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยาน 
        ๗ ก.พ.๒๕๓๑  มีการใช้กำลังทางอากาศเป็นจำนวนมากต่อเป้าหมายภายนอกประเทศลึกเข้าไปในดินแดนข้าศึก ๒๐ กม. ศยอ.ศปก.ทอ.ได้สั่งการให้ ๑ ฮ.๔ก หน่วยบิน ๒๐๑๑ (ลพบุรี) และ
๑ ฮ.๖ก หน่วยบิน ๒๐๓๑ (ลพบุรี) เคลื่อนย้ายไปเพิ่มเติมกำลังที่ กองบิน ๔๖ (พิษณุโลก) และให้
๑ ฮ.๔ก หน่วยบิน ๒๐๑๓ (น่าน) ถอนกำลังกลับที่ตั้ง ฝูงบิน ๔๑๖ (น่าน) และมีการเพิ่มเติมกำลังของ บ.จ.๕ ที่คุ้มกัน ฮ.ช่วยชีวิต จากจำนวน ๒ เครื่อง เป็น ๔ เครื่อง
                                  ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๕๑ (๐๐)/๓๑ ) ห้วงเวลา ๑๑๐๐-๑๑๑๐    ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ (ตาคลี) โจมตีทางอากาศบริเวณภูเวียงพิกัด QV 131496, 134489, 132491,132488  เป้าหมายเป็นที่ตั้งปืนใหญ่ไม่ทราบขนาด โดยมี ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๓ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน และ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณ อ.ด่านซ้าย จ.เลย
                                  ผลการปฏิบัติ เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย มีการยิงต่อต้านจากอาวุธต่อสู้อากาศยานแบบ SA ไม่ทราบขนาด จำนวน  ๓ นัด และ ปตอ.ขนาด ๓๗ มม.จำนวนมาก แต่ บ.ฝ่ายเราปลอดภัย

โดยคุณ ตี๋อุบล เมื่อวันที่ 11/03/2011 02:02:07


ความคิดเห็นที่ 6


๙ ก.พ.๒๕๓๑   ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๕๔ (๐๐)/๓๑ ) ห้วงเวลา ๑๐๐๐-๑๔๐๐   ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓,๔๐๓๔ (ตาคลี) และ ๓ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) (เป็น บ.ทิ้งระเบิด GP ๕๐๐ ปอนด์ ๒ เครื่อง อีก ๑ เครื่อง เป็น บ.ชี้เป้า LTDS) โจมตีทางอากาศบริเวณบ้านนากอก สปปล.พิกัด QV 301677, 305663,305659  เป้าหมายเป็นที่รวมพล คลังอาวุธและที่ตั้งปืนใหญ่ขนาด ๑๓๐ มม. โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๓ (พิษณุโลก) เป็น บ.คุ้มกัน และ ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณ บ้านร่มเกล้า อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก
                                  ผลการปฏิบัติ ไม่เรียบร้อย เนื่องจากสภาพอากาศเหนือเป้าหมายปิด
จึงละภารกิจ ไม่มีการใช้อาวุธ
       ๑๑ ก.พ.๒๕๓๑   ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๕๔ (๐๐)/๓๑) ห้วงเวลา ๑๑๑๕-๑๕๐๒   ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓,๔๐๓๔ (ตาคลี)(หมู่บินละ ๒ เครื่อง) และ ๓ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) ( เครื่องที่ ๑ บรรทุกระเบิด  LGB ๕๐๐ ปอนด์ ๑ ลูก เครื่องที่ ๒ บรรทุกระเบิด GP ๕๐๐ ปอนด์ ๔ ลูก เครื่องที่ ๓  เป็น บ.ชี้เป้า LTDS) โจมตีทางอากาศบริเวณ
บ้านนากอก สปปล.พิกัด QV 301677,305663 305659 เป้าหมายเป็นที่รวมพล คลังอาวุธ และที่ตั้งปืนใหญ่ขนาด ๑๓๐ มม. และที่บ้านต้นตาล สปปล.พิกัด QV 248471 เป้าหมายเป็นอาคารที่พัก ๔ หลังและที่ตั้งปืนใหญ่ไม่ทราบขนาด  โดยมี  ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๓ (อุดรธานี) (เที่ยวละ ๒ เครื่อง) เป็น บ.คุ้มกัน  ๑ บ.ตล.๑๑ (RT-33)จากหน่วยบิน ๕๖๑๑ (ดอนเมือง) เป็น บ.ถ่ายภาพหลังการโจมตี  และ ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณ อ.ด่านซ้าย จ.เลย
                                  ผลการปฏิบัติ  ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓,๔๐๓๔ (ตาคลี) ปฏิบัติภารกิจสำเร็จ อาวุธตกคลุมเป้าหมาย ยกเว้น บ.หมายเลข ๑ ปลดระเบิดไม่หลุด ๒ ลูก
                                  ห้วงเวลา ๑๑๒๐-๑๑๒๓   ๓ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) ไม่ได้ใช้อาวุธเนื่องจากได้รับแจ้งจาก บ.ตล.๗ ว่าถูก LOCK ON ด้วย RADAR FIRE CONTROL จึงละภารกิจ
                                  ห้วงเวลา ๑๕๐๐-๑๕๐๒   ๓ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) บ.หมายเลข ๑ และ ๒ ปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จเนื่องจากสภาพอากาศเหนือเป้าหมายปิด
จึงละภารกิจ  บ.หมายเลข ๓ (บ.ตข.๑๘ หมายเลข ทอ.๓/๑๓) ประสบอุบัติเหตุขณะวิ่งขึ้นจาก
กองบิน ๒๓ นักบินปลอดภัย

โดยคุณ ตี๋อุบล เมื่อวันที่ 11/03/2011 02:03:25


ความคิดเห็นที่ 7


๑๒ ก.พ.๒๕๓๑   ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๕๗ (๐๐)/๓๑) ห้วงเวลา ๑๔๓๐-๑๔๓๕   ๕ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๑(อุดรธานี) ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓ (ตาคลี) 
๓ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๔ (ตาคลี) และ ๔ บ.จ.๕ (OV-10) จากหน่วยบิน ๔๑๑๑ (เชียงใหม่) โจมตีทางอากาศบริเวณบ้านนากอก สปปล.พิกัด QV 301677,305663,302664  เป้าหมายเป็นที่ตั้งทางทหาร อาคารที่พักประมาณ ๑๐ หลัง มีคูสนามเพลาะล้อมรอบ ปตอ.ขนาด ๕๗ มม.จำนวน ๒ กระบอก โดยมี ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๓ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน  ๑ บ.ตล.๑๑ (RT-33) จากหน่วยบิน ๕๖๑๑ (ดอนเมือง) เป็น บ.ถ่ายภาพหลังการโจมตี  และ ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์
                                  ผลการปฏิบัติ  ๕ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๑ (อุดรธานี) ปฏิบัติภารกิจสำเร็จ อาวุธตกคลุมเป้าหมาย ไม่มีการยิงต่อต้าน ส่วน  ๕ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๓,๔๐๓๔ (ตาคลี) ) และ ๔ บ.จ.๕ (OV-10) จาก หน่วยบิน ๔๑๑๑ (เชียงใหม่) ปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ เนื่องจากสภาพอากาศเหนือเป้าหมายปิด จึงละภารกิจ
       ๑๓ ก.พ.๒๕๓๑   ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๕๙ (๐๐)/๓๑) ห้วงเวลา ๑๓๐๕-๑๓๑๐  ๕ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๑ (อุดรธานี) ๓ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๒ (โคราช) และ ๔ บ.จ.๕ (OV-10) จากหน่วยบิน ๔๑๑๑ (เชียงใหม่) โจมตีทางอากาศบริเวณบ้านนากอก สปปล.พิกัด QV 286658,295687 301677,302664,305663   เป้าหมายเป็นที่ตั้งทางทหาร อาคารที่พักประมาณ ๑๐ หลัง มีคูสนามเพลาะล้อมรอบ ปตอ.ขนาด ๕๗ มม. ๒ กระบอก โดยมี ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๓ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน  ๑ บ.ตล.๑๑ (RT-33)จากหน่วยบิน ๕๖๑๑ (ดอนเมือง) เป็น บ.ถ่ายภาพหลังการโจมตี  และ ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑
(ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณ อ.ด่านซ้าย จ.เลย
                                  ผลการปฏิบัติ  ๕ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๑ (อุดรธานี) และ๓ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๒ (โคราช) ปฏิบัติภารกิจเรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย มีการยิงต่อต้านด้วยอาวุธต่อสู้อากาศยานจำนวนมาก ทำให้ บ.หมายเลข ๒ ของ
๕ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๑ (อุดรธานี) ถูกยิงด้วยจรวดต่อสู้อากาศยาน (SAM-7) บริเวณท่อท้าย เครื่องยนต์ขวาดับ นักบินนำ บ.กลับมาลงสนามบินอุดรฯ ได้โดยปลอดภัย    
                                  ส่วน ๔ บ.จ.๕ (OV-10) จาก หน่วยบิน ๔๑๑๑ (เชียงใหม่) ปฏิบัติภารกิจ
ไม่สำเร็จ เนื่องจาก บ.จ.๕ หมายเลข ๑ ถูกยิงตกที่สนามบินนากอก
ข้อมูลการปฏิบัติภารกิจของ ๕ บ.ข.๑๘ /ก
จากการสัมภาษณ์ พล.อ.ต.เผด็จ  วงษ์ปิ่นแก้ว ผบ.พล.บ.๒ บยอ. และ
น.อ.ธเนศ  ชลิตภิรัติ รอง ผบ.พล.บ.๒ บยอ.  เมื่อ ก.พ.๒๕๕๑
        ๕ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๑ (อุดรธานี) ในภารกิจนั้นมี น.ต.ทรงธรรม  โชค-คณาพิทักษ์ เป็น หน.หมู่บิน บ.หมายเลข ๒ ที่ถูกยิงเป็น บ.ข.๑๘ก  หมายเลข ทอ.๔/๒๕  มี น.ต.
ธีระพงษ์  วรรณสำเริง และ ร.ท.ณฤทธิ์  สุดใจธรรม เป็นนักบิน   ถูกยิงด้วยจรวดต่อสู้อากาศยาน (SAM-7) บริเวณส่วนท้ายของ บ.เสียหาย เครื่องยนต์ขวาดับ นักบินนำเครื่องกลับมาลงที่สนามบิน กองบิน  ๒๓ (อุดรธานี) ได้โดยปลอดภัย
ข้อมูลการปฏิบัติภารกิจของ ๔ บ.จ.๕
จากการสัมภาษณ์ พล.อ.ต.วัธน  มณีนัย ผช.ฝสธ.ประจำ ผบ.ทอ. และ
น.อ.อนิรุท  กิตติรัต รอง จก.กร.ทอ. เมื่อ ก.พ.๒๕๕๑
       ในตอนค่ำของวันที่ ๑๑ ก.พ.๒๕๓๑ ขณะที่ ฝูงบิน ๔๑๑ มีงานเลี้ยง Combat ready อยู่นั้น ผบ.กองบิน ๔๑ มีคำสั่งด่วนให้นักบินทุกคนกลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมรับภารกิจสำคัญในวันรุ่งขึ้น

โดยคุณ ตี๋อุบล เมื่อวันที่ 11/03/2011 02:20:03


ความคิดเห็นที่ 8


๑๒ ก.พ.๒๕๓๑ เวลาประมาณ ๐๔๐๐  ๔ บ.จ.๕ วิ่งขึ้นจาก กองบิน ๔๑ (เชียงใหม่) เพื่อมารับการติดตั้งระเบิดและรับฟังแผนการโจมตี ที่ บน.๔๖ (พิษณุโลก)ในช่วงเวลานั้นสภาพอากาศเหนือเป้าหมายปิด ทำให้ต้องรอจนกว่าสภาพอากาศจะเปิดเสียก่อน 
                                  เวลาประมาณ ๑๐๐๐ ได้รับรายงานสภาพอากาศเหนือเป้าหมายเปิด ๔ บ.จ.๕ได้วิ่งขึ้นจากสนามบินพิษณุโลกเพื่อไปโจมตีสนามบินบ้านนากอก สปปล.แต่สภาพอากาศไม่เป็นใจ ไม่สามารถบินข้ามพรมแดนออกไปได้ จึงต้องวนรอบริเวณ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์  และในที่สุด
ก็ต้องละภารกิจกลับมาลงสนามที่พิษณุโลกอีกครั้ง เพื่อรอปฏิบัติภารกิจนี้ใหม่ในวันรุ่งขึ้น 
       ๑๓ ก.พ.๒๕๓๑   ๔ บ.จ.๕ หมู่เดิมนามเรียกขาน “ชบา”วิ่งขึ้นจาก กองบิน ๔๖ (พิษณุโลก)
อีกครั้ง ก่อนวิ่งขึ้นได้รับการแจ้งเตือนจาก ร.อ.ชาญชาย  เกิดผล (ยศ ปัจจุบัน พล.อ.อ.) นักบิน
บ.ข.๑๘ ข/ค ฝูงบิน ๑๐๒ ว่า สปปล.มีอาวุธต่อสู้อากาศยานที่มีอำนาจการยิงสูง ขอให้ระมัดระวัง
                                  น.ท.สมนึกฯ ผบ.ฝูงบิน ๔๑๑ ได้สั่งปรับแผนใหม่ โดยให้แบ่งหมู่บินออกเป็น
๒ หมู่บินย่อย หมู่บินย่อยแรก (เครื่องหมายเลข ๑ และ ๒) จะบินนำเข้าสู่เป้าหมายและทิ้งระเบิดที่ความสูง ๖,๐๐๐ ฟุต ซึ่งเป็นความสูงที่เหมาะในการทิ้งระเบิด หมู่บินย่อยที่ ๒ (เครื่องหมายเลข ๓ และ๔) ให้บินอยู่เหนือขึ้นไปที่ ความสูง ๘,๐๐๐ ฟุต และจะทำหน้าที่เข้าโจมตีซ้ำหากหมู่บินแรก
ทิ้งระเบิดพลาดเป้าหมาย
- บ.หมายเลข ๑  มี น.ท.สมนึก  เยี่ยมสถาน และร.อ.ไพโรจน์ เป้าประยูร เป็นนักบิน
- บ.หมายเลข ๒ มี ร.อ.อานนท์  จารยะพันธุ์ และ ร.ท.สุรพันธ์  สุวรรณทัต  เป็นนักบิน
- บ.หมายเลข ๓ มี ร.อ.วัธน  มณีนัย              และ ร.ท.ธนศักดิ์  เมตะนันท์  เป็นนักบิน
- บ.หมายเลข ๔ มี ร.ท.สมศักดิ์  หาญวงศ์      และ ร.อ.อนิรุท  กิตติรัต         เป็นนักบิน
                                  ก่อนที่หมู่บิน บ.จ.๕ จะมาถึงเป้าหมายได้มีหมู่บิน บ.ข.๑๘ โจมตีกวาดล้าง
รัง ปตอ.อยู่ก่อนแล้ว เมื่อ บ.จ.๕ มาถึงและกำลังจะเข้าโจมตีเที่ยวแรกต่อเป้าหมายซึ่งเป็นคลังอาวุธ นักบิน บ.หมายเลข ๔ ซึ่งอยู่สูงกว่าสังเกตเห็นกลุ่มควันสีขาวจากพื้นดินพุ่งตรงมายัง บ.หมายเลข ๑ (บ.จ.๕ หมายเลข ทอ.๘/๑๔) คาดว่าจะเป็นจรวดแซม ๗ เครื่องบินเสียการทรงตัว นักบินทั้งสองจึงต้องสละ บ. (เวลาประมาณ ๑๓๐๐) นักบิน บ.หมายเลข ๔ มองเห็นร่มชูชีพกางออกจำนวน  ๒ ร่ม ตกลงไปในสนามบินบ้านนากอก บ.จ.๕ ที่เหลืออีก ๓ เครื่อง ถูกระดมยิงจากอาวุธภาคพื้นดินอย่างหนักจนต้องถอนตัวกลับเข้ามาฝั่งไทย
                                  มีคำสั่งให้ บ.จ.๕ ทั้ง ๓ เครื่อง กลับไปโจมตีเป้าหมายเดิมอีกครั้ง แต่ไม่อาจกระทำได้เพราะนักบิน ๒ คน ของเราถูกจับตัวไป อาจได้รับอันตรายจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายเรา
ข้อมูลการปฏิบัติภารกิจของ ฮ.ค้นหาและช่วยชีวิต
จากการสัมภาษณ์  น.อ.ปรีชา  ชนะชัย รอง ผบ.กกล.ทอ.ฉก.๙ (ปัตตานี)  เมื่อ  มี.ค.๒๕๕๑
                                  มีคำสั่งจาก ศสอต.๓ ให้ชุดค้นหาและช่วยชีวิต ประกอบด้วย ๑ ฮ.๔ก จาก หน่วยบิน ๒๐๑๑ มี น.ท.ธนิต  รอดนุสนธิ์ และ ร.อ.ปรีชา  ชนะชัย เป็นนักบิน และ ๒ บ.จ.๕
( บ.คุ้มกัน) ซึ่งบินเตรียมพร้อมในอากาศบริเวณบ้านไร่ (พิกัด QV 090700 ใกล้ชายแดน ทางทิศตะวันตกของเป้าหมาย)ให้บินเข้าไปช่วยเหลือนักบิน บ.จ.๕ ที่ถูกยิงตกที่สนามบินบ้านนากอก แต่ในขณะที่ ฮ.ค้นหาฯ กำลังจะบินข้ามชายแดนออกไปนั้นได้รับการติดต่อจากหมู่บินบ.จ.๕ นามเรียกขาน “ชบา” ที่กำลังบินกลับออกมา จึงขอให้นำทางไปยังจุด บ.ตกให้ด้วย แต่ได้รับการแจ้งเตือนว่า ข้าศึกมีกำลังอำนาจการยิงสูงและหนาแน่นมากไม่ควรบินข้ามชายแดนเข้าไป ฮ.ค้นหาฯ จึงบินกลับมาวนรอที่จุดเดิม (พิกัด QV 090700) เพื่อรอคำสั่งใหม่ จนกระทั่งเวลา ๑๗๐๐ จึงได้รับคำสั่งให้บินกลับมาลงที่สนามบิน กองบิน ๔๖
                                  ส่วนชุดค้นหาและช่วยชีวิตชุดที่ ๒ ประกอบด้วย ๑ ฮ.๖ก หน่วยบิน ๒๐๓๑ และ ๒ บ.จ.๕ ซึ่งบินเตรียมพร้อมในอากาศทางใต้ของ อ.ท่าลี่ (พิกัด QV 8045 ใกล้ชายแดนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเป้าหมาย) ไม่ได้รับคำสั่งให้เข้าค้นหาฯ
                                   เมื่อ บ.จ.๕ นามเรียกขาน “ชบา” ทั้ง ๓ เครื่อง กลับมาลงสนามที่ กองบิน ๔๖ นักบินทั้งหมดถูกแยกนำตัวไปสอบสวน กรณีขัดคำสั่งไม่กลับไปโจมตีซ้ำที่เป้าหมายเดิม (นี่คือธรรมชาติของ ทอ.ผู้สั่งการในห้องแอร์ มักเก่งกว่า นบ.ผู้ไปปฏิบัติภารกิจที่เสี่ยงตายอยู่เสมอ)
                                   น.ท.สมนึกฯ และ ร.อ.ไพโรจน์ฯ ถูกทหารลาวนำตัวไปควบคุมไว้ที่นคร
เวียงจันทร์ ภายหลังจากมีการเจรจาสงบศึกแล้ว และเมื่อ พล.อ.ชวลิตฯ ได้เดินทางไปเยือนลาว คณะผู้แทนทหารของไทยจึงได้รับตัว นบ.ทั้งสองกลับมาเมื่อวันที่ ๒๔ ก.พ.๒๕๓๑
       ๑๔ ก.พ.๒๕๓๑   ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๖๑ (๐๐)/๓๑) ห้วงเวลา ๑๒๑๗-๑๒๔๐   ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๒ (ตาคลี) และ ๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) หน่วยบิน ๔๐๓๓,๔๐๓๔  (ตาคลี) โจมตีทางอากาศบริเวณบ้านบ่อส้าน สปปล.พิกัด QV42557,239551,233550,234543, 321542  เป้าหมายเป็นอาคารที่พัก คลังเสบียงอาหาร และฐานที่ตั้งปืนใหญ่ไม่ทราบขนาด โดยมี 
๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๓ (โคราช) เป็น บ.คุ้มกัน  ๑ บ.ตล.๑๑ (RT-33)จากหน่วยบิน ๕๖๑๑ (ดอนเมือง) เป็น บ.ถ่ายภาพหลังการโจมตี  และ ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จาก
หน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณ อ.ด่านซ้าย จ.เลย
                                     ผลการปฏิบัติ  เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย ยกเว้น บ.หมายเลข ๑
ต้องละภารกิจเนื่องจากเชื้อเพลิงรั่ว ไม่มีการยิงต่อต้านด้วยอาวุธต่อสู้อากาศยาน

โดยคุณ ตี๋อุบล เมื่อวันที่ 11/03/2011 02:26:54


ความคิดเห็นที่ 9


๑๕ ก.พ.๒๕๓๑   ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๖๒ (๐๐)/๓๑) ห้วงเวลา ๑๒๒๕-๑๔๑๗   ๓ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) (เครื่องที่ ๑ และ ๒ บรรทุกระเบิด  LGB ๕๐๐ ปอนด์  เครื่องที่ ๓ เป็น บ.ชี้เป้า LTDS) โจมตีทางอากาศบริเวณบ้านต้นตาล สปปล.พิกัด QV 248417  เป้าหมายเป็นที่ตั้งปืนใหญ่ไม่ทราบขนาด ๑ กระบอก อาคารที่พัก ๔ หลัง และ ๓ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๒,๑๐๒๓ (โคราช) โจมตีทางอากาศบริเวณภูซำเนียน สปปล.พิกัด QV 190553, 196546  เป้าหมายเป็นอาคารที่พักและอาวุธต่อสู้อากาศยานไม่ทราบขนาดและแบบ โดยมี
๔ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๒ (ตาคลี) เป็น บ.คุ้มกัน  ๑ บ.ตล.๑๑ (RT-33) จากหน่วยบิน ๕๖๑๑ (ดอนเมือง) เป็น บ.ถ่ายภาพหลังการโจมตี  และ ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จาก
หน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณ อ.ด่านซ้าย จ.เลย
                                     ผลการปฏิบัติ  ห้วงเวลา ๑๒๒๕-๑๒๔๕   ๓ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) ปฏิบัติภารกิจเรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมาย แต่ห้วงเวลา ๑๖๕๒-๑๖๕๘   ๓ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) ต้องละภารกิจเนื่องจากสภาพอากาศเหนือเป้าหมายปิด ส่วน ๖ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๑๐๒๒,๑๐๒๓ (โคราช)
โจมตีภูซำเนียนสำเร็จ อาวุธตกคลุมเป้าหมาย มีการยิงต่อต้านด้วยอาวุธต่อสู้อากาศยาน
       ๑๖ ก.พ.๒๕๓๑   ตามคำสั่ง ยก.ย่อยที่ ๖๒ (๐๐)/๓๑) ห้วงเวลา ๑๑๓๐-๑๑๕๐   ๒ บ.ข.๑๘ /ก (F-5A/B) จากหน่วยบิน ๒๓๑๓ (อุดรธานี) ( เครื่องที่ ๑ บรรทุกระเบิด  LGB ๕๐๐ ปอนด์  เครื่องที่ ๒  เป็น บ.ชี้เป้า LTDS) โจมตีทางอากาศบริเวณบ้านนาโนน สปปล.พิกัด QV 237443  เป้าหมายเป็นที่ตั้งปืนใหญ่ไม่ทราบขนาด ๑ กระบอก อาคารที่พัก ๔ หลัง  โดยมี ๒ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5E/F) จากหน่วยบิน ๔๐๓๒ (ตาคลี) เป็น บ.คุ้มกัน  ๑ บ.ตล.๑๑ (RT-33)จากหน่วยบิน ๕๖๑๑ (ดอนเมือง) เป็น บ.ถ่ายภาพหลังการโจมตี  และ ๑ บ.ตล.๗ (ARAVA) จากหน่วยบิน ๔๐๔๑ (ตาคลี) เป็น บ.ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ เหนือบริเวณ อ.ด่านซ้าย จ.เลย
                                     ผลการปฏิบัติ  เรียบร้อย อาวุธตกคลุมเป้าหมายไปทางทิศตะวันออกประมาณ ๑๕๐-๑๙๐ เมตร  ไม่มีการยิงต่อต้านด้วยอาวุธต่อสู้อากาศยาน
       หมายเหตุ  เป็นการปฏิบัติการทางอากาศครั้งสุดท้ายในกรณีพิพาทบ้านร่มเกล้า เนื่องจากมีการพบปะหารือระหว่างคณะผู้แทนทหารของไทย นำโดย พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ ผู้บัญชาการทหารบกรักษาราชการผู้บัญชาการทหารสูงสุด กับคณะผู้แทนทหารสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชานลาว นำโดย พล.อ.สีสะหวาด  แก้วบุนพัน หัวหน้าเสนาธิการสูงสุด กองทัพประชาชนลาว ที่ห้องรับรองกองทัพอากาศ กรุงเทพฯ  
                                  การปฏิบัติการทางอากาศในกรณีพิพาทบ้านร่มเกล้าครั้งนี้ ทอ.ได้เสียเครื่องบินตรวจการณ์ไร้นักบิน  บ.ว.๑  (RPV: REMODE PILOTED VEHICLE) ของ ฝูงบิน ๔๐๔
(ตาคลี) จากการถูกยิงตก ๑ เครื่อง (ยังหาหลักฐาน วัน เวลา สถานที่ และรายละเอียดของเหตุการณ์ที่ถูกยิงตกไม่ได้)

 

โดยคุณ ตี๋อุบล เมื่อวันที่ 11/03/2011 02:28:22


ความคิดเห็นที่ 10


ขอบคุณครับข้อมูลละเอียดมาก

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 11/03/2011 04:47:01


ความคิดเห็นที่ 11


ทำไม เวลาเครื่อว f5 ไปทิ้งระเบิด ต้อง มี บ. rt 33/ avara   บินตามไปด้วยครับ

โดยคุณ ตี๋อุบล เมื่อวันที่ 11/03/2011 05:59:07


ความคิดเห็นที่ 12


หมายเลข ๒ มี ร.อ.อานนท์  จารยะพันธุ์ และ ร.ท.สุรพันธ์  สุวรรณทัต  เป็นนักบิน

ผมเคยอ่านหนังสือ นักรบเลือดไทย 

หน้า121 ตอน นักรบเวหาผู้ไล่ล่า ผกค.

 

เป็นเรื่องราวของ นักบินคนที่1เครื่องหมายเลข 2 ร.อ.อานนท์  จารยะพันธุ์ 

 

เป็นเรื่องตั้งแต่ เลือกเรียน ทีแรกท่านเลือกเหล่า เรือ ครับ แล้วพี่ชายทั้งสองของท่านบอกใ้ห้เปลี่ยนไป

เลือกเหล่า อากาศ ซึ่งตอนแรกท่านเลือก เหล่าอากาศเป็นอันดับสอง 

 

"  สงครามที่ไม่มีการประกาศระหว่างโลกเสรีกับคอมมิวนิสต์เกิดขึ้นทั้งในเวียดนาม ลาว และในกัมพูชา

   ประเทศไทยซึ่งดำเนินนโยบายทหารตามแนวทางของ  สหรัฐอเมริกาจึงส่งนักบินเข้าร่วมในสงครามเหล่านั้น 

ทั้งในลักษณะของความร่วมมือทางทหารทหารอย่างเปิดเผยและ "นักบินลับ" ที่บินให้กับแอร์อเมริกาและซีไอเอ

 

  แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ สถานการณ์ภายในประเทศกองทัพไทยต้องทำสงครามปราบปรามผู้ก่อการร้าย

ซึ่งเป็นกองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในหลายภูมิภาค

ความต้องการนักบินจึงมีอยุ่สูงและในประเทศไทยไม่มีโรงเรียนหรือ

สถาบันแห่งไหนที่ผลิตนักบินให้กับกองทัพโดยตรง

ดังนั้นกองทัพอากาศจึงมีความจำเปนต้องรับ "พลเรือน" รวมทั้ง นักเรียนจ่าอากาศเข้าไปเป็นศิษย์การบิน

เหมือนเช่นที่เคยกระทำมาในอดีต และด้วยเหตุนี้ทางโรงเรียนการบินจึงมีการกำหนดชื่อแยกแยะ อย่างชัดเจนตามที่มาของศิษย์การบินแต่ละประเภท

 ว่าที่ เรืออากาศตรีอานนท์จึงเป็นศิษยืการบิน ชั้น"สัญญาบัตร" ในปีนั้น โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นทั้งสิ้น 50นาย ในจำนวนนี้มาจาก กองทัพเรือ5นาย "

 

บทความบางตอน จากหนังสือ

 

ท่านยังกล่าวอีกว่า OV-10 เหมาะกับการทำสงครามปราบปรามผู้ก่อการร้ายมากที่สุด เพราะมีความเร็วน้อยกว่าเครื่องบิน ไอพ่น แบบ F-5

ส่งผลให้การใช้อาวุธมีประสิทธิภาพแม่นยำกว่าเครื่องบินความเร็วสูง

 

แต่ไม่เหมาะกับการทำสงครามกับต่างประเทศ อย่างเช่น สงครามบ้านร่มเกล้า เพราะเครื่องบินมีความเร็วช้าและข้าศึกมีศักยภาพในการต่อสู้อากาศยาน

อาทิ เช่น SAM-7 แต่ผกค.นั้นส่วนมากก็ใช้พวกปืนเล็กยาว

 

 

ผมขอคารวะ นักบินไทยทุกท่านที่ปกป้องน่าฟ้าไทยและนำเครื่องบินฟ่าดงกระสุน ปตอ. ไปทิ้งระเบิดทำให้เกิดความเสียหายแก่ข้าศึก

ถ้าไม่มีพวกเขาเหล่านี้ และทหารกล้าทุกนาย ในวันนั้น ประเทสจะกลายเป็น คอมมิวนิสต์ไปแล้ว

 

ขอบคุณครับ ว่างๆ หายุทธเวหาเหนือน่านฟ้าลำปางมาให้อ่านบ้างสิครับ 

 

ปล.ผมเคยได้ยินมาว่า B-29 ถูกยิงตกเครื่องแรกโดยนักบินไทย ท่านที่ทราบบอกผมหน่อยว่าเครื่องบินที่สอย B-29 นี้เครื่องอะไรครับ

โดยคุณ gokinw31652 เมื่อวันที่ 11/03/2011 06:34:39


ความคิดเห็นที่ 13


ตอบคุณgokinw31652  ในวิกิเคยบอกไว้ตอนนี้เจอลบออกไปแล้ว แถมบอกว่าบี29ที่ปฏิบัติการในไทยไม่เคยตกเพราะเจอสอย เหอะๆ

เลยหาข้อมูลจากที่อื่น เครื่องที่สอยคือกิ-43 ฮายาบูซาครับ (Ki-43 Hayabusas)

http://blog.nationmultimedia.com/print.php?id=1611

ดูล่างสุดของหน้าเลยครับได้ข้อมูลดังนี้
Hayabusas and B-29s. On November 27, 1944, the Allies sent fifty-five B-29s to bomb Bangsue marshalling yard in Bangkok. Flight Lieutenant Terdsak Worasap led a flight of seven Ki-43 Hayabusas to intercept, shooting down one B-29.

แปลคราวๆไทยใช้ฮายาบูซา 7ลำ ในการรุมยิงบี29มะกันที่มาถล่มกรุงเทพฯ จนตกไปหนึ่งลำครับ
แถมภาพวาดมาด้วย


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 11/03/2011 06:52:37


ความคิดเห็นที่ 14


ขอบคุณพี่แทนมากเลยครับไม่คิดว่าพี่แทนจะมาตอบโพสผมด้วย

 

ผมติดตามเว็บพี่มาตลอดเลยครับพี่อะ บุรุษในดวงใจเลยครับ

โดยคุณ gokinw31652 เมื่อวันที่ 11/03/2011 07:57:31


ความคิดเห็นที่ 15


SAM-7 ถึง 7 ลูก จึงจะสามารถสยบเครื่อง F-5 E/F ที่ไม่มีพลุไฟ ของไทยได้

แบบนี้ไม่สงสัยในฝีมือ นักบินของไทยแล้วหละ

เอ่อรู้สึกเหมือนเคยได้ยินมาด้วยนะว่าเคยสอย F-15 เมกา ด้วย F-5 ใครรู้ช่วยบอกหน่อยว่าจริงป่าว

โดยคุณ Markrura เมื่อวันที่ 11/03/2011 08:26:09


ความคิดเห็นที่ 16


F-5 เราเคย ส่อยF-15 ในการฝึกซ้อมมาแล้วครับ F-5เราส่อย F-15ได้1ลำ และF-5เรา ล่วงยกฝูงครับ

นักบิน F-15 บอกว่า งงกับลูกหลอกของF-5ครับ เลยทำให้ ตกไปโดยแบบงง

โดยคุณ rukku_mam เมื่อวันที่ 11/03/2011 10:59:26


ความคิดเห็นที่ 17


มีรูปเครื่อง F 5E ของไทยที่โดนจรวด Sam ที่ช่องโอบก

เครดิตให้ตามเว็บนี้เลยครับ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=12-05-2006&group=2&blog=1


โดยคุณ Freebird เมื่อวันที่ 11/03/2011 11:16:15


ความคิดเห็นที่ 18


ขอแก้ไขข้อมูลนะครับ จากรูปเป็น F-5B ไม่ใช่ F-5E หมายเลขเครื่อง 400778  จากรูปจะเห็นท่อไอพ่นที่ถูกแซม  และรูปที่ซ่อมแล้วนำกลับมาประจำการต่อไปได้อีก

ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=12-05-2006&group=2&blog=1



โดยคุณ Freebird เมื่อวันที่ 11/03/2011 11:36:43


ความคิดเห็นที่ 19


ไม่คลางแคลงใจในความสามารถของนักบินไทยเลยครับ ว่าแต่ทางกองทัพ จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดขนาดนี้เลยเหรอครับ

โดยคุณ PIZZi เมื่อวันที่ 11/03/2011 21:19:30


ความคิดเห็นที่ 20


เห็นด้วยกับท่าน PIZZi reportแบบนี้ละเอียดกว่า(เรื่องราวการรบของทอ.สหรัฐ)ที่ลงในเว็ปกองทัพอากาศสหรัฐด้วย
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 11/03/2011 23:43:38


ความคิดเห็นที่ 21


ข้อมูลแบบนี้ดครับ

 

ลงเผยแพร่ให้คนไทยทราบมีประโยชน์มากกว่าปกปิด

โดยคุณ jaidee เมื่อวันที่ 11/03/2011 23:57:24


ความคิดเห็นที่ 22


บ.ตล.๑๑ (RT-33) <---- ทำหน้าที่ถ่ายภาพบริเวณจุดพิพาท เพื่อประเมิณสถานการณ์การวางกลยุทธ์

บ.ตล.๗ (ARAVA) <---- ทำหน้าที่หาข่าว ทางสัญญาณ(Signal Intelligent)/ข่าวทางการสื่อสาร



โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 12/03/2011 05:59:59


ความคิดเห็นที่ 23


RT-33

 

 

Arava

โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 12/03/2011 11:07:06


ความคิดเห็นที่ 24


แหมรูป F-5B และเรื่องราวจากเวป www.wingsofsiam.pantown.com แท้ๆ แต่ไปปรากฏในเวปบ๊อก ได้เครดิต ไปซะงั้น  น้อยใจจริงๆ

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 12/03/2011 11:15:46


ความคิดเห็นที่ 25


เห็นรูปF-5 ที่โดน SAM แล้วยังบินกลับฐานได้ ทำให้ผมเห็นความสำคัญ บินรบแบบสองเครื่องยนต์เลยทีเดียว

แต่แนวโน้มบินรบไทยในอนาคตมีแต่แบบยนต์เดียว

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 13/03/2011 11:48:48