หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


F-2เหนือกว่าF-16 จริงหรือไม่!!

โดยคุณ : TonyStaff เมื่อวันที่ : 16/03/2011 12:51:01

ลองเข้าไปหาในGoogle เว็ปนึ่งบอกว่า F-2 เจ๋งกว่า F-16  จริงหรือไม่ครับ 





ความคิดเห็นที่ 1


Mitsubishi F 2 พัฒนาจาก F-16 block40 ตามข้อเสนอ Agile Falcon ของบ. Lockheed Martin

นั้นคือมีการออกแบบลำตัวและปีกใหม่เพื่อเพิ่มแรงยก และติดตั้งอุปกรณ์อิเลคโทรนิคของปี 1990 เข้าไป

ดังนั้น Mitsubishi F 2 ก็น่าจะเทียบได้กับประมาณ F-16ES หรือ F-16C/D block50/52 แต่ F 2 มีน้ำหนักมากกว่า

กล่าวกันว่าด้วยข้อบกพร่องในการออกแบบใหม่ทำให้เรด้าห์ AESA ของ Mitsubishi F 2 สามารถตรวจจับได้แค่ระยะ 40 ก.ม.แค่นั้น(พอๆ กับเรด้าห์ของ F-5E) จากที่กำหนดความต้องการไว้ว่าต้องระยะตรวจจับอย่างน้อย 100 ก.ม. ซึ่งต้องใช้งบประมาณมากและระยะเวลาหลายปีในการแก้ไข

นอกจากนี้ยังมีข้อบกพร่องอีกอย่างหนึ่งก็คือ ปีกที่ใหญ่ขึ้นทำให้ปีกของ F 2 มีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยร้าวในการบินหลบหลีกที่ความเร็วสูง

ข้อมูลคร่าวๆ สำหรับการต่อยอดกันนะครับ

แต่ที่แน่ๆ ลำนี้แพ้คลื่นซึนามิ

โดยคุณ monsoon เมื่อวันที่ 13/03/2011 15:58:07


ความคิดเห็นที่ 2


F-2 เพิ่มประสิทธิภาพในการติดตั้ง อาวุธนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำของ ญี่ปุ่น ประมาณ ฮาร์พูน ครับ และปฏิบัติการร่วมกับเรือรบ จึงต้องมีขนาดปีกที่ใหญ่กว่าเพื่อรองรับภาระกิจในทะเล ด้วยครับ...ถ้าให้เปรียบเทียบ F-2 น่าจะมีภาระกิจเหมือน F/A-18 ครับ...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 13/03/2011 21:28:50


ความคิดเห็นที่ 3


สงใสf-2 อยากจะเล่นน้ำทะเลนะหรือใม่ก้อยากเข้าไปอยุ่ในอาคารหลังนั้นเพราะตากแดดตากฝนมันร้อน อิๆๆๆ

โดยคุณ hukikada เมื่อวันที่ 13/03/2011 22:42:45


ความคิดเห็นที่ 4


สมมุติอย่างมาก ถ้าผลจากสึนามิทำให้ญี่ปุ่นต้องการเงิยตราต่างประเทศ ญี่ปุ่นเลยเปลี่ยนกฎหมายสามารถส่งออกอาวุธได้ เราจะซื้ออาวุธจากญี่ปุ่นไหมครับ อย่างf2 หรือ type  90 ก็ดูดีไม่น้อย แต่ถ้าได้เรือรบนี่คงสุดยอดเลย

โดยคุณ nok43 เมื่อวันที่ 14/03/2011 00:40:28


ความคิดเห็นที่ 5


สงสัย ครับ ไม่ใช่ สงใส

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 14/03/2011 02:00:36


ความคิดเห็นที่ 6


ตกลงเรด้าห์ AESA ของเจ้า F 2 ตรวจจับได้แค่ระยะ 40 ก.ม จริงหรอครับ แล้ว ราคาก็ดันแพงกว่าเจ้า F-16C/D block50/52+ เป็น2เท่าอีก ดูเหมือนการ ละลายงบประมาณเลย ผมว่าการที่สร้างเองได้ ก็ใช่ว่าจะดีไปซะหมด นะครับ

ต้องดูความคุ้มค่าด้วย (การที่ญี่ปุ่นซื้อแบบมาสร้างเองเหมือนช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่2เลย * หรือว่าญี่ปุ่นคิดแผนอะไรอยู่)


โดยคุณ ninedeemark เมื่อวันที่ 14/03/2011 03:48:20


ความคิดเห็นที่ 7


ญี่ปุ่น เค้าเชื่อมั่นในอาวุธของเค้า และที่เค้าพัฒนาสร้างเองครับ เครื่องบินฝึกแบบแรก T-1A ใช้เครื่องยนต์อเมริกันแรงขับสูงกว่า T-1B ที่ญี่ปุ่นเลือกใช้เครื่องยนต์ที่ตนเองวิจัยพัฒนาเอง  มันไม่ได้สรุปว่า "เอางบประมาณมาละลาย" แต่เค้าพยายามพึงพาตนเอง สร้างเองแม้จะแพงกว่า แต่เป็นวัสดุ สิ่งของที่มีในประเทศ เป็นหลัก 

F-2A/B นอกจากขนาดที่ใหญ่กว่า F-16 แล้ว สังเกตุกระจก ที่ญี่ปุ่น ไม่เชื่อมั่นว่า กระจกแบบ F-16 จะป้องกันการชนของนกได้ จึงคิดออกแบบ อย่างที่เห็น

อาวุธที่ผลิตในญี่ปุ่นวันนี้ ดีเรื่องเทคโนโลยี แต่ไม่เหมาะกับการจัดหามาใช้ในประเทศอื่น เพราะมีข้อจำกัด ในบางเรื่อง แม้ไม่มีกฏหมาย อาวุธญี่ปุ่น จำกัดเรื่องพิสัย รัศมีค้นหา ฯลฯ เพราะแค่ป้องกันประเทศ ไม่ใช่รุกราน 


โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 14/03/2011 04:06:56


ความคิดเห็นที่ 8


ที่ญี่ปุ่นพัฒนาเองก็เพราะ เขามีเทคโนโลยีสูงมากในหลาย ๆ ด้านและมีความพร้อมเรื่องงบด้วยครับ การพึ่งตนเองได้นั้นก็จะต้องยอมที่จะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ่น

ญี่ปุ่นมีค่าเรงงานที่สูงของที่เขาทำในประเทศเขาก็ต้องแพงเป็นธรรมดา แต่ก็ได้ประสบการณ์และความชํานาญเพิ่มขึ่น ของบางอย่างมีเงินก็ซื้อไม่ได้ครับ ญี่ปุ่น

ขอซื้อ F22 อเมริกันไม่ขายให้ เขาจึงต้องหาทางพัฒนาเองครับ

โดยคุณ ThaiPc53 เมื่อวันที่ 14/03/2011 07:31:40


ความคิดเห็นที่ 9


เหมือนที่ท่าน ThaiPC53 กล่าวครับ  เพราะฉะนั้น เมื่อมองย้อนกลับมาที่ไทย หลายคนชอบพูดว่าอยากให้เราพึ่งพาตนเองและสร้างเองได้ ปัญหาคือเงินต้องใช้มากกว่าซื้อครับ ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ทอ.ไทยสร้างเครื่องบินเองได้ หลังสงคราม (ผมไปเห็นเอกสารรายงานของทูตทหารในวอชิงตัน) ทอ.ไทย ซื้อสิทธิบัตร AT-6 มาสร้างเอง พร้อมสร้างเครื่องยนต์และอาวุธ แต่ยังไม่ทันสร้าง ทอ.สหรัฐฯ มอบ AT-6 ให้ฟรี 200 กว่าเครื่อง นับตั้งแต่นั้นจึงคิดว่า ซื้อดีกว่าวิจัยพัฒนาและสร้างเองในประเทศ

เงินที่เราต้องจ่าย ก้อนนี้ จะสร้างเองได้ ๖ - ๑๐ เครื่อง แต่วงเงินเท่ากันนี้ เราเอาไปซื้อได้ มากกว่า ๓๐ เครื่อง

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 14/03/2011 21:28:43


ความคิดเห็นที่ 10


เหมือนเคยอ่านจากที่ไหนสักที่นึง จับใจความได้ว่า

เพื่อต้องการรักษาองค์ความรู้ด้านการวิจัยและสร้างเครื่องบินของญี่ปุ่นไม่ให้ขาดตอนด้วย

จากการที่เมื่อก่อนช่วงสงคราม ญี่ปุ่นเป็นแนวหน้าในการสร้างเครื่องบินรบที่มีประสิทธิภาพสูงครับ

โดยคุณ UndergrounD เมื่อวันที่ 15/03/2011 00:22:14


ความคิดเห็นที่ 11


เอามาให้ดูครับจากเว็บท่าน AAG_th1

เครื่องบินขับไล่ Stealth ต้นแบบของญี่ปุ่นจะขึ้นบินในปี 2014

Japan stealth jet prototype set to fly in 2014
By AP News Mar 08, 2011 5:45AM UTC

TOKYO (AP) — A senior military official says Japan is on track to test a domestically designed prototype stealth fighter in three years.

Lt. Gen. Hideyuki Yoshioka says the prototype will likely be rolled out for a test flight on schedule in 2014.

Yoshioka is the director the air systems development at Japan’s Ministry of Defense and spoke with The AP this week.

Japan has put 39 billion yen ($ 473 million) into the project since 2009 after it became clear the United States was not likely to sell its most advanced fighter jet because of a congressional export ban.

Japan relies to a large degree for its defense on its alliance with the United States.

But China and Russia have made great strides toward perfecting advanced stealth fighters that could rival the U.S.

 

พลโท ฮิเดยูกิ โยชิโอกะ ผู้อำนวยการการพัฒนาระบบทางอากาศ กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้ให้สัมภาษณ์ว่า
เครื่องบินขับไล่ Stealth ต้นแบบ จะมีกำหนดขึ้นบินทดสอบภายในปี 2014

จากการที่สหรัฐฯไม่อนุมัติขาย F-22 ให้ญี่ปุ่น ทำให้ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมาญี่ปุ่นได้ลงงบประมาณในการพัฒนา บ.ขับไล่ Stealth ของตนเองมากกว่า 39,000ล้านเยน ($473 Million) แล้ว
ถึงแม้ว่าสหรัฐฯและญี่ปุ่นจะเป็นพันธมิตรทางทหารที่สำคัญต่อกัน แต่การพัฒนาระบบอาวุธที่เป็นภัยคุกคามต่อญี่ปุ่น
โดย เฉพาะจีนและรัสเซียที่มีโครงการพัฒนา บ.ขับไล่ยุคที่5 ซึ่งก้าวหน้าไปมากแล้วนั้น ทำให้ญี่ปุ่นต้องพัฒนาระบบที่พึ่งพาตนเองมากขึ้นครับ

ที่มา

http://aagth1.exteen.com/20110310/stealth-2014-1

http://asiancorrespondent.com/49789/japan-stealth-jet-prototype-set-to-fly-in-2014/

โดยคุณ ThaiPc53 เมื่อวันที่ 16/03/2011 01:51:01