ภาพที่หลายๆท่านเห็นข้างบนนี้ หลายๆคนดูแล้วอาจจะรู้ว่า เป็นป้ายห้อยชื่อทหาร

แต่ป้ายชื่อทหารแบบนี้ ไม่ได้มีไว้ใช้แต่ในสงคราม ในยุคปัจจุบัน มันไม่ได้มีไว้แค่ใช้ในการทหาร

ประชาชนหลายคนนิยมนำมาใช้ทำเป็นพวงกุญแจสลัก ชื่อเบอร์เทอร์ไว้เพื่อใช้เป็นประโยชน์

เพราะในสมัยนี้ มีร้านที่รับทำด้วยราคามันก็ไม่แพงในหลักที่ไม่เกิน200บาท

แถมยังเป็นแฟผ่นป้าย แสตนเลสที่ไม่เป็นสนิมไม่คงไม่พังง่ายๆ หลายๆคนจึงนิยมนำมาใช้

อย่างเช่นผู้ปกครอง ทำให้เด็กสลักเบอร์โทร ข้อมูลพ่อแม่ไว้ เพื่อให้ติดต่อกลับได้สบาย

ในส่วนประโยชน์ทางทหารก็ได้แก่ การสลักข้อมูลของทหารเข้าไป พอเวลาที่ทหารประศพเหตุถึงชีวิต

แล้ว ต้องใช้เวลานานในการกู้ศพ จึงทำให้พอเวลาไปถึงร่างแล้วไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นใคร ก็ได้ป้ายนี่แหละช่วยบอกข้อมูล เพื่อส่งร่างกลับคืนแนวหลัง

หรืออีกอย่างคือทหารประสบเหตุถึงขั้นหัวขาด ก็จะมีป้ายอีกอันที่รองเท้า (เป็นแบบของอเมริกา) ช่วยบอกข้อมูลของทหารได้

หรืออีกอย่างป้ายทหารนี้ก็ช่วยบ่งบอกกรุ๊ปเลือดของทหารได้ในกรณีที่เจ้าตัวไม่สามารถ พูดได้

ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก

สิ่งที่เป็นเรื่องดลใจให้ผม อยากรู้เรื่องนี้คือผมกลับไปอ่านหนังสือ "นักรบเลือดไทย"

ในตอนของ ผู้พันหาญ เพไทย ในบทความบางตอนในการกลับไปกู้ศพ ของทหารชุดขุนศึกที่เข้าไปค้นหาเครื่องบิน

F-5 ของกองทัพอากาศในวันที่ 11 มิ.ย 2519 ทัพบกได้ส่งชุดช่วยเหลือเข้าไปค้นหา นักบิน

แต่ชุดช่วยเหลือชุดแรกหรือชุดขุนศึกนั้น ถูก ผกค. ที่มีกำลังมากกว่าเข้าโจมตี ภารกิจค้นหาและช่วยเหลือจึงหยุดชะงักลง

และชุดขุนศึกได้เคลื่อนกำลังเข้ารวมตัวกันที่เนิน QU059428 ซึ่งเป็นเนินสูงที่ได้เปรียบในการตั้งรับ

แต่อย่างไรก็ตาม ชุดขุนศึกก็ยังต้องประสบปัญหาหลายอย่าง เช่น ฮ. ไม่สามารถลงมารับคนเจ็บได้เนื่องจาก

กลุ่ม ผกค. ได้ระดมยิงใส่ ฮ.อย่างหนักจึงไม่สามารถลงไปรับคนเจ็บได้ ชุดขุนศึกจึงต้องขุดหลุมตื้นๆฝังศพทหารที่เสียชีวิตไว้ตรงพื้นที่นั้น

หลัง จากนั้น พตท.1617 ได้ส่งชุด นเรศวร ทั้งหมด 118นาย เข้าไปช่วยเหลือชุดขุนศึก  แต่ชุดนเรศวรก็ประสบปัญหาอีกเช่นกันเพราะมีกำลังน้อยกว่า

ผกค. อย่างมาก พตท.1617 จึงได้ส่ง ชุด สมเด็จ(กองพัน)และชุด เม็งราย(กองร้อยทหารราบ) เข้าไปช่วยเหลือ และเข้าสมทบกับชุด นเศวร

เพื่อ เข้าไปช่วย ชุดขุนศึก พอทั้ง3ชุดรวมตัวกันได้แล้ว ได้เดินทางไปถึงลำน้ำเข็ก ในจุดนี้มีทหารฝ่ายเราได้หายสาบสูญ 3นาย เนื่องจากลำน้ำเข็กนั้น

ไม่ มีที่กำบัง ทหารที่พยายามจะข้ามไป นั้นจึงต้องพบกลับการระดมยิงจากอีกฝั่ง แต่ผ่ายเราที่อยู่บนฝั่งก็ได้ยิงจน ผกค. ล่าถอยไปและได้เข้า

ไปช่วย เหลือชุด ขุนศึกได้สำเร็จ มีทหารฝ่ายเราเสียชีวิตทั้งหมด 29นาย เป็นชุดสมเด็จจมน้ำหายไป 3นาย ชุดขุนศึกฝังศพไว้ในพื้นที่ 24 นาย

ชุดสมเด็จส่งกลับทางอากาศยานได้ 2นาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีถึง 45นาย

ส่วนการค้นหาซากเครื่อง F-5 นั้นไม่ประสบผลสำเร็จ

หลังจากนั้น พล.อ.หาญได้ ผลักดันการค้นหาศพทหารทั้ง 24 นาย  และได้ศพผู้เสียชีวิทั้งหมด 11นาย

นอกนั้น คาดว่า การฝังศพภายใต้การสู้รบครั้งเป็นการฝังที่มีการสู้รบติดพันกันอยู่ จึงได้ฝังไว้ตื้นๆแล้วใช้ดินกลบให้สูง พอเวลานานไป

สัตว์ป่าจำพวกหมูป่าจึงได้มาขุดคุ้ย กระดูกออกไปจึงคาดว่ากระดูกบางส่วนคงหายไป

"กรณีโครงกระดูกของ ร้อยตรีพจน์ รัตนัย ลูกน้องซึ่งเป็นคนฝังศพไว้บอกกับผมว่าตอนที่ผู้หมวดตาย ผมขุดหลุมฝังผู้หมวดแล้วเอา"เหรียญบาท"

ใส่ ปากไว้ พอเราเจอกะโหลกศรีษะในบริเวณที่ขุด เราก็พบเหรียญบาทอยู่ในปากตรงตามที่ลูกน้องบอก ก็เป็นอันพิสูจน์ได้ว่ากะโหลกศรีษะนี้เป็นของ ร้อยตรีพจน์ รัตนัย จริงๆ "

บทความบางตอน จากหนังสือ นักรบเลือดไทย คงไม่ถึงขั้นละเมิดลิขสิทธิ์ นะครับ

ถ้าถึงขั้นระเมิด ผมต้องขอโทษเจ้าของลิขสิทธิ์ด้วยใจจริงมา ณ ที่นี้ ด้วย

เอามาซะไกล เลย ผมจึงคิดป้ายทหารจึงมีความสำคัญอย่างมาก

อย่างเช่น การกลับไปกู้ศพครั้งนั้นถ้าทหารของเรามีป้ายDOGTAGละก็คงจะพิสูจน์ ข้อมูลได้ไม่ยาก

อยากถามจริงๆว่า ตอนนี้ทหารของเราได้รับการแจกป้ายDOGTAG กันหรือไม่???

เพราะบทเรียนที่ผ่านมา มันเป็นสิ่งที่เราสามารถนำมาแก้ไขได้

ผมเคยเห็นภาพทหารที่ ทำงานอยู่ในพื้นที่ 3 จชต. ถูกตัดศรีษะ

และนำไปโยนทิ้งในน้ำ น่าจะทำเป็นแบบของอเมริกาที่ติดที่เท้าด้วย

หรือว่าทางคนไทยเราเขาถือว่ามันเป็นลาง ไม่ดี