ถ้ากองทัพอากาศจะจัดหามาแทน F-5 พอจะเป็นไปได้ไหมครับแทนที่จะใช้งบปรับปรุ่ง F-5 เพื่อยืดอายุการใช้งานแต่เอาเงินไปจัดหาเจ้าKfir Block 60 มาใช้แทนพอดีไปเห็ข้อมูลนี้ใน http://aagth1.exteen.com/20131008/kfir-block-60-1
Colombian Kfir C10/12 participated in the Red-Flag 7/2012 exercise, claiming eight simulated kills of F-16 and F-15s.
Israel Aerospace Industries (IAI) is offering a modernized version of its 1970 era delta-winged Kfir Mach 2+ fighter aircraft. Equipped with advanced avionics and mission systems that, the IAI claims its old fighter jet could rank in the same class of contemporary ‘fourth generation’ fighter jets.
According to sources at IAI, the company can deliver up to 50 Kfirs, configured to the newest ‘Block 60’ standard, utilizing airframes retired from IAF service in the 1990s. These aircraft were mothballed in the southern Negev desert, and are in good condition for refurbishment. Israel has offered these modernized fighter jet to Bulgaria, addressing Sofia’s planning to replace its MiG-21s and MiG-29s with western-compatible fighter jets.
Bulgaria is interested in buying 10 ‘pre owned’ fighter jets, optimizing them to fulfill combat missions with the NATO alliance. Among the alternatives evaluated by Bulgaria is the procurement of nine used F-16 Block 15s from Portugal, at a cost of $464 million; purchasing Eurofighter Typhoon fighter jets from the Italian Air Force surplus would cost even more. According to IAI, the acquisition of Kfir Block 60 from would cost a third of that price. Bulgaria was also evaluating a Swedish proposal to buy new Gripen fighter jets from SAAB.
The Kfir Block 60 offers a robust and versatile Mach 2+ multi-role jet fighter, carrying 5.5 tons payloads on nine hard-points under the wings and fuselage. The weaponry is enhanced to include Python 5 and Derby. Kfir Block 60 has also completed the integration of RAFAEL Spice autonomous guided weapon, (second platform offering that capability, after the F-16). Conforming to NATO standards, Kfir Block 60 supports Link-16 datalink protocol. The aircraft has combat radius of 1,000 km (540 nm) unrefueled. With refueling the aircraft can fly to a range of 1,100 nm.
Melamed claims Lahav can deliver the first Kfir Block 60 within 12 months after receiving the an order, at roughly a third of the cost of other fighter jets with similar capabilities. This assessment is based on the experience IAI Lahav has gained processing over 2500 aircraft, upgrading earlier Kfir, F-4E, F-16, A-4M, MiG-21, MiG-27, MiG-29 and Su-22. “At times where air forces are seeking cost savings, without degrading operational capabilities, the upgraded Kfir has demonstrated superior performance and reliability in operational use and combat exercises.” Melamed concludes.
http://defense-update.com/20131006_at-40-years-of-age-kfir-turns-into-a-networked-fighter.html
แม้ว่าจะมีอายุเกือบ 40ปีแล้วแต่ Israel Aerospace Industries (IAI) ยังคงเสนอเครื่องขับไล่ Kfir บ.ขับไล่ปีกสามเหลี่ยมที่อิสราเอลพัฒนาเองโดยมีพื้นฐานจาก Mirage III ฝรั่งเศส
ซึ่ง Kfir Block 60 ที่เป็นการนำเครื่องเก่าที่กองทัพอากาศอิสราเอลปลดประจำการไปแล้วในช่วงปี 1990s มาปรับปรุงใหม่ นั้นเป็นเครื่องที่ขีดความสามารถสูงทัดเทียบ บ.ขับไล่ในปัจจุบัน
โดย Kfir Block 60 สามารถติดอาวุธได้หนัก 5.5tons ทั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ Python 5 และ Derby อาวุธอากาศสู่พื้นความแม่นยำสูงอย่าง Spice
และระบบเครือข่าย Link-16 มีรัศมีทำการรบ 1,000km และจะไกลขึ้นถ้าเติมเชื้องเพลิงทางอากาศ ความเร็วสูงสุดมากกว่า 2 Mach
IAI ตั้งใจจะนำ Kfir Block 60 เข้าแข่งขันในโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่ของบัลแกเรีย ซึ่งจะนำมาทดแทน MiG-21 และ MiG-29
ซึ่ง IAI อ้างว่าสามารถนำ Kfir เครื่องที่เก็บสำรองไว้มาปรับปรุงเป็น Block 60 พร้อมส่งได้ถึง 50เครื่อง โดยสามารถส่งมอบเครื่องชุดแรกได้ใน 12เดือน
บัลแกเรียมีความต้องการจัดหา บ.ขับไล่ใหม่ชุดแรก 10เครื่อง แต่เครื่องที่สนใจก็มีเครื่องจากตะวันตกหลายแบบเช่น
F-16 Block 15 มือสองจากโปรตุเกสราคา $464 million, Typhoon Tranche 1 มือสองจากอิตาลี และ Gripen จากสวีเดน
ซึ่งข้อได้เปรียบหนึ่งของ Kfir Block 60 คือมีราคาถูกกว่าถึง1ใน3ของเครื่องในข้างต้นครับ
ถามว่าเครื่องบินดีไหม ดีครับ เมื่อนำมาปรับปรุงโครงสร้างใหม่ติดLink16เข้าไป และใช้อาวุธประจำตัวอย่าง derby และ phython5 ก็มีความสามารถในการสู้รบได้ไม่เลวเลย แต่เราจะมีเครื่องบินเพื่มขึ้นมาอีก1แบบใช้เครื่องยนต์ที่แปลกไปใช้ระบบอาวุธที่ต้องซื้อใหม่หมดจากอิสราเอล ขณะที่ตัวเครื่องบินเองผมให้20ปีแล้วกัน ถึงตอนนั้นต้องปรับปรุงอีกรอบหรือไม่ก็ปลดประจำการ
ถ้าเรามีภัยคุกคามเร่งด่วนและเครื่องบินไม่พอใช้ผมเห็นด้วยนะ จัดมาเลย24ลำ ใช้จริง18เป็นอะไหล่อีก6 แต่ตอนนี้ผมว่าไม่ใช่นะ ถ้าเราจะเพิ่มเงินอีกหน่อยจัดหาFA-50ในราคา30ล้านเหรียญ1ฝูง+เครื่องบินฝึกT-50อีก1ฝุง(ลำหละ20ล้านเหรียญ) โดยมีโครงการที่จะนำชิ้นส่วนประกอบเครื่องพวกนี้เองในประเทศจนไปถึงสร้างได้เองทั้งลำอะไรแบบนี้ มันจะมีประโยชน์กับเราในอนาคตมากกว่า(อย่างน้อยก็พอจัดหาอะไหล่จากในประเทศได้เองหละ) ระบบอาวุธต่างๆใช้ของที่มีได้เลยเครื่องยนต์รุ่นเดียวกับกริเเพนแต่ลดสเป็กลงเท่านั้น
โปรเจคข้างบนจัดตามแบบท่านนีโอเขาหนะครับ แต่ถ้าเราจะหันไปสนใจกริเพนC/Dแทนก็ไม่เสียหายอะไรนี่นา (ราคาแพงกว่าเท่าตัวคงได้เครื่องน้อยลงแต่เป็นมาตราฐานเครื่องบินในอนาคต) ถามว่าชอบไหมชอบนะแต่มันไม่มีอนาคตเท่านั้นเอง อิสราเอลไม่มีโครงการสร้างเครื่องบินใหม่ด้วยถ้าเราซื้อลำนี้เราก็ต้องเป็นผู้ซื้อต่อไปอีกหลายสิบปี คงต้องมองให้ลึกซ้อนลึกเข้าไปอีกหละครับ ว่าควรจัดหาเครื่องบินแบบไหนกันแน่
ส่วนตัวชื่นชอบสินค้าของยิวมากกว่าของเกาหลี และเห็นว่าเราน่าจะจัดหามาเพื่อทดแทน F-5 ที่กำลังหมดอายุ ซัก 18 ลำ ซึ่งฝูงอุบลก็เป็นฝูงที่มีระบบอาวุธของยิวอยู่บ้างแล้ว เราจะได้มีปีกสามเหลี่ยม บวก คานาร์ดอีกฝูงครับ
ผมมีความเห็นว่า กรณีให้เลือกซื้อ Kfir เก่าปรับปรุงใหม่ประจำการ 20 ปี ผมจะเลือกใช้งบนั้นไปปรับปรุง F16A/B ที่เหลืออีก 24 เครื่องของฝูงบิน 1 ให้มีประสิทธภาพให้ทัดเทียม Kfir 60 และประจำการได้อีก 20 ปี จะดีกว่า หรือไม่ก็ซื้อ Jas39 มือสองมาปรับปรุงเป็นรุ่น C/D จะดีกว่าครับ เหตุผลเพราะจะได้เครื่องบินไม่มากแบบเกินไปแถม F16 Jas39 ก็เป็นเครื่องรุ่นใหม่กว่า ใช้อาวุธเก่าที่มีอยู่แล้วได้ นักบินก็มีความคุ้นเคยอยู่แล้ว อะไหล่ก็ไม่ต้องสำรองมาก ฯลฯ ครับ
ผมเห็นด้วยกับ คุณrayong ครับว่า ถ้าจะเอาตัวนี้มือสอง JAS-39A/B มือสองมาอัพเป็น C/D จะดีกว่าเพราะเครื่องบินไม่มากแบบและทุกอย่างใช้แทนกันได้หมด
ถ้าทดแทน F-5 น่าจะ JAS 39 Gripen ทั้งหมดเลย การทดแทนต้องเป็นไปตามสเต็ปๆๆๆ ตามความเหมาะสม และตามอายุงานของ F-5 ด้วย ซึ่งก็จะใช้ระเวลาอีกหลายๆๆ ปี เมื่อทดแทน F-5 ครบทั้งหมด
หลังจากนั้นเราก็จะมี บ.ที่จัดว่าทันสมัย 2 รุ่นใช้ คือ F-16 ร่วมกับ JAS 39 ไปอีกหลายๆ ปี
หลังจากนั้นเมื่อใกล้หมดอายุงาน F-16 เราก็มาจัดหา บ.รุ่นใหม่ๆๆ มาแทน F-16 เราจะได้ บ.ที่ทันสมัยมาใช้
เป็นสเต็ปๆๆ แบบนี้น่าจะเวิร์คกว่า เพราะ F-16 ก็จัดได้ว่ามีอายุงานครึ่งทางแล้ว ถ้าเราจัดหา บ.เก่า ที่ปรับปรุงมาใช้ ถ้ามีอายุงานอีก 20 ปี ก็จะเท่ากับว่า บ.รุ่นเก่าที่จัดหามา กับ F-16 จะหมดอายุการใช้งานไปพร้อมๆ กัน อีก
กด LIKE ให้ท่าน superboy ครับ อย่างฮาเลย....55555555....
คิดเหมือนท่าน rayong เช่นกันครับ ไหนๆก็ Jas-39 C/D แล้ว ถ้าเอามาแทนฝูงขับไล่สกัดกั้น F-5 และ ฝูง 102 ในอนาคต Jas-39 C/D มือสองทั้งจากทอ.สวีเดนและขอซื้อของเก่าอัฟริกาใต้ จะดีกว่า ไม่มากแบบครับ และใช้ระบบ NCW เดียวกันได้ทันที ลดแบบเครื่องด้วยครับ
T-50 T/A-50 หรือ FA-50 เหมาะสำหรับ แทน L-39 จำนวน 40 เครื่อง และทดแทน alpha-jet 20 เครื่อง และฝูงโจมตีที่ขาดไปอีก 1 ฝูงดีกว่า แถมได้เครื่องใหม่ใช้งาน 40 ปี ราคาไม่หนีกันกับ Kfir block-60 ด้วย ทั้งยังสามารถ upgrade ใช้เรด้าร์ APG-67 V4 ( T-50 T/A-50) EL/M-2032 (FA-50) และเรด้าร์ AESA 3 แบบ (FA-50)ทั้งจากอเมริกาและ Sumsung-Thales ที่กำลังพัฒนาอยู่ได้อีกด้วย เครื่องยนต์ก็ตัวเดียวกันกับ Jas-39 ด้วย ซ่อมบำรุงง่ายดี ช่างเครื่องทำงานกับเครื่องบินทั้งสองรุ่นได้
แหมมมม.....น่าจะสร้างถัง CFT ให้เครื่องตระกูล T-50 ด้วยนะจะแจ่มเลย
เหมาะสมจะเป็นกระบี่มือสามใน ทอ. รองจาก F-35 และ Jas-39 เครื่องบินรบหลักจะได้มีแค่ 3 แบบ เครื่องยนต์ 2 แบบเท่านั้น บริหารง่ายดี
แต่ผมคิดในแง่ที่เราไม่มีงบจัดหาบินใหม่จริงๆ เพราะตามข้อมูลเขาบอกว่าราคาเท่ากับ1ใน3ของเครื่องที่กล่าวมาน่าจะล้วนแต่เป็นมือสองทั้งสิ้น ผมก็เลยคิดว่ากองทัพอากาศน่าจะเอางบที่ปรับปรุงF-5 ไปซื้อเลยแทนที่จะปรับปรุงF-5 เหมือนโครงการของ กองทัพบกที่เอางบซ่อมชีนุ๊กไปซื้อMI17มาใช้แทนเพราะกว่าเราจะมีงบซื้อบินใหม่คงอีกนาน ลำพังงบซื้อ jas-39 หกลำยังใช้งบผูกพัน 10ปี แต่ผมก็ไม่รู้งบที่ใช้ปรับปรุงF-5 มีราคาพอๆกับบินพี่ยิวไหมครับใครรู้ช่วยหาข้อมูลให้ด้วยครับ แบบว่าเอามาใช้แก้ขัดช่วงที่บินเราปลดเยอะๆก่อน
เห็น tango ฉบับบล่าสุดลงเรื่อง Kfir block-60 แจ้งราคาเรื่องมาด้วยว่า 20 ล้านเหรียญครับ ติดตั้งเรด้าร์ EL/M-2032 ให้มาด้วย แต่บอกว่าเป็น EL/M-2032 รุ่นที่เป็น AESA (มีรุ่น AESA ออกมาด้วย....!) ผมยังไม่แน่ใจนะสำหรับ EL/M-2032 แต่ถ้าเป็น AESA จริงๆ ถือว่าดีมาก แต่อายุการใช้งานแค่ 20 ปี ผมว่าไม่คุ้มแล้วล่ะครับ ซื้อ T-50 ที่ราคาเท่าๆกันแต่ใช้งานได้ 40 ปีดีกว่า ( ไม่มีเรด้าร์มาให้)
ส่วนการปรับปรุง F-5 T ที่ยังเหลือชั่วโมงบิน 3000 กว่าชม. เป็นกระทู้ปักหมุดอันเก่าครับ ลองหาด้านบนดูไม่แน่ใจว่ายังอยู่ไหม ราคาการ Upgrade ประมาณกันว่า 10-12 ล้านเหรียญเท่านั้น และใช้งานได้ประมาณ 20 ปี โดยคาดว่าอาจจะติดตั้งเรด้าร์และระบบของอิสราเอลเหมือนเดิม เช่น EL/M-2032 ซึ่งถ้ามันมีรุ่น AESA จริงๆ เท่ากับว่าประสิทธิภาพเท่าๆกัน Kfir ในเรื่องระบบตรวจจับ
จัดหา modem และ LINK 16 ใช้งาน BVR ของอิสราเอลได้ทั้งหมด ติดตั้งกระเปาะต่างๆจากอิสราเอล เรียกว่า Kfir block-60 ติดตั้งอะไร F-5 T ติดตั้งได้หมดครับ และความคล่องแคล่วทางการบินของ F-5 นั้นสูงกว่า F-16 จึงไม่น่าจะด้อยกว่า Kfir lock-60 เช่นกันครับ แต่จะบรรทุกได้น้อยกว่า ระยะปฎิบัติการน่าจะสั้นกว่าด้วย แต่ราคาที่จ่ายต่ำกว่าการซื้อ Kfir block-60 ถึง 1 เท่าตัวครับ
เพราะแบบนี้ผมถึงสนับสนุนว่า ถ้ามีการจัดหาเครื่องใหม่ทดแทน F-5T แล้ว ควรเก็บ F-5 T ไว้สำรองประจำการอย่างยิ่งครับ เพราะต้นทุนการ upgrade น้อยกว่า Kfir block-60 ซะอีก และประสิทธิภาพไม่หนี Kfir กับ FA-50 ด้วย
แต่ถ้าเงินขาดรุนแรง ก็เลือก upgrade F-5 T ดีกว่าครับ ใช้เงินน้อยกว่าด้วย
เห็น F-5 M ของ ทอ. บราซิลแล้วยอมรับว่าเทพจริงๆ ใช้งานร่วมกับระบบ อีรี่ย์เหมือนของเรา ทำการซ้อมรบชนะ Mirage-2000 ที่ว่าเจ๋งๆทันสมัยมาแล้วด้วย..........
แหมน่าจะขอซื้อถัง CFT สำหรับ F-5 M มาใช้กับ F-5 T มั่งจัง ไม่รู้ว่าจะต้องโมดิฟายด์แค่ไหน
เดาว่าน่าจะไม่ใช่ EL/M-2032 ครับ ถ้าเป็น AESA ควรเป็น EL/M-2052 ตัวลดขนาดที่ติดบน LCA ครับ ดูจากรูปแล้วขนาดน่าจะยัดเข้าหัว F-5 สบาย ๆ แต่ข่าวเงียบมากกกกกกกก
ผมว่าไม่เหมาะ
เพราะเครื่องบินมีพื้นฐานการออกแบบที่เก่ามาก กลักนิยมการรบสมัยนี้กับสมัยนั้นมันต่างกันเยอะ
สมัยนั้นเน้นบินเร็ววิ่งหนีมิสไซล์กันซึ่งๆหน้าเลย (สมัยก่อนเครื่องบินรบเร็วกว่าสมัยนี้เยอะ วิ่งกันบางลำสามมัค) บินสูง เพื่อสกัดกั้นเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ เพราะฉะนั้นทรงจึงเฟี้ยวได้ใจ ไต่เร็ว ดำดิ่งเร็ว บินสูง ความเร็วสูง
นอกจากเราต้องการเร่งด่วนมากๆก็น่าสนใจ ใช้อัดเด็กได้ แต่ไซส์เดียวกันคงต้องหลบแล้ว
ถ้าเป็นอย่างข้อมูลที่ท่านneosiamese2 ผมเห็นด้วยกับการ upgrade F-5 T ครับ แต่ใจจริงอยากให้ ใช้ JAS39 แทนทุกฝูงของ F-5 T แต่ก็ต้องยอมรับความจริงเรื่องงบประมาณครับ
ขอบคุณมากครับท่าน Logieng ในด้านข้อมูล
ผมว่าคอลัมนิสต์ของ Tango ตงจำผิดพลาด หรือไม่ก็แหล่งข้อมูลภาษาอังกฤษผิดพลาดซะเอง ซึ่งจริงๆตัวเลข 2032 กับ 2052 นี่จำผิดเอาง่ายๆ ผมเองก็เคยหน้าแหกมาแล้วที่ว่าบอกว่ารุ่น 2032 เป็น AESA จนท่าน superboy มาแย้งว่าเป็น เมคานิคธรรมดา เลยลองกลับไปดู อ้าวว....รุ่น 2052 ต่างหากที่เป็น AESA เป็นรุ่นเล็กสุดใช้กับ Tejas หน้าแหกยับ
2052 นี่มีตั้งแต่ขนาดใหญ่หนัก 180 Kk. ใช้กับ F-15 จนขนาดเล็ก 130 Kk. ใช้กับ Tejas ซึ่งขึ้นกับขนาดสายอากาศ ไม่รู้ว่า T/A-50 จะสามารถติดตั้งใช้งานได้หรือเปล่า แต่น่าจะได้โดยไม่มีปัญหา
ถ้า F-5T upgrade ใช้ 2052 ก็จ๊าบสุดๆ เมื่อเครื่องปลดแล้วน่าจะสามารถถอดเรด้าร์ไป upgrade T/A-50 ต่อได้ทันที
http://www.iai.co.il/sip_storage/FILES/4/36834.pdf ใบโฆษณาครับ
เอ่อ.....จะว่าไป ถ้าทอ.จัดหาเครื่องมาทดแทนแบบดังต่อไปนี้ผมคิดว่าน่าจะคุ้มค่าใช้เงินน้อยที่สุดนะ
ปลด F-16 ADF แล้วเอา Jas-39 C/D มือสองจากอัฟริกาใต้ หรือ จากสวีเดนมาทดแทน ส่วน F-16 ADF สำรองประจำการไป (เหลือชม.บินน้อยแล้ว)
ปลด F-16 ฝูง 103 แล้วเอา Jas-39 C/D มือสองจากอัฟริกา หรือจากสวีเดนมาทดแทน สำรองประจำการ F-16 OCU (เหลือชม.บินน้อยแล้ว)เช่นกันกับฝูง 102
Upgrade F-5 T ให้ใช้เรด้าร์ AESA ไปเลย อาจจะจ่ายแพงขึ้นถึง 20 ล้านเหรียญ(หรือกว่านั้น)ต่อเครื่องก็เอา เพื่อให้มันเทพต่อไป
จัดหา T-50 ทดแทน L-39 จำนวน 40 เครื่อง
จัดหา T-50 ทดแทน Alpha-jet และเติมฝูงโจมตีที่ขาดไป 1 ฝูง
อีก 15-20 ปีต่อมาเมื่อปลดประจำการ F-5T แล้ว ย้ายอุปกรณ์สำคัญ เช่น เรด้าร์ AESA ไปใช้กับ T-50 ฝูงทดแทน Alpha-jet เท่ากับว่าใส้ในชั้นเยี่ยมของ F-5Tยังไปทำประโยชน์ให้กับเครื่องในฝูงอื่นต่อไปได้ครับ ไม่ต้องมาจ่ายเงิน upgrade T-50 ซ้ำซ้อน
ส่วนเครื่องที่มาแทน F-5T upgrade จะเอา F-35 หรือคู่แข่งแบบอื่นๆในอนาคน เช่น FS-2020 หรือ KFX ก็ว่ากันไปครับ
แบบนี้ช่วงเวลาของการปลดประจำการน่าจะลงตัวพอดี
ขอถามท่าน Neo เป็นความรู้หน่อยครับ...
1) ที่ว่า F16 เหลือชั่วโมงบินน้อยแล้วเนี่ย มันจะน้อยกว่า F5 อีกเหรอครับ ผมเข้าใจว่า F5 มันเก่ากว่ามาก มันน่าจะยิ่งเหลือน้อยกว่า F16 อีก หรือมันใด้รับการปรับปรุง air frame ไปแล้ว
2) เก้าอี้นักบิน F5 ยังดีดใด้อยู่หริอเปล่าครับ
ขอบคุณครับ
F-16 ADF นี่ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นเครื่องเก่าของอเมริกาครับ ทำการอับเกรดขายราคาถูกแก่ชาติพันธมิตร ซึ่งตอนแรกเราจัดหา F-18 แต่สะดุดปี 40 เข้าก้เลยไม่มีเิงินพอจ่าย ทางอเมริกาเลยเสนอ F-16 ADF ให้ครับ เครื่องอายุมากแล้วเพราะเป็นเครื่องมือสอง น่าจะเป็นฝูงที่ต้องปลดก่อนเพื่อน
ส่วนฝูง 103 เป็นฝูงที่จัดหามาโดยเป็นเครื่องใหม่ เป็น F-16 ฝูงแรกของประเทศครับ ผมยังเชียร์สุดตัวในตอนนั้นเลย พอรู้ว่าทำการจัดหา F-16 ผม เฮ...สนั่น
แล้วผ่านการ falcon up มาแล้ว ก็ทำการยืดอายุการใช้งานไปได้อีกพักใหญ่ ก็น่าจะเป็นฝูงถัดไป อายุชั่วโมงบินน่าจะเหลือน้อยกว่า F-5T นะครับ
ส่วน F-5 ฝูงนี้รู้สึกจะเป็นฝุงหลังๆที่มีการจัดหา จะมีปรับปรุงจาก F-5E มาเป็น F-5T มีการปรับปรุงโครงสร้างยืดอายุการใช้งานและปรับปรุงระบบต่างๆโดย Elit เปลี่ยนสถาปัตยกรรมในห้องนักบิน เพิ่มหมวก helmet (จำสลับกับหมวกแดสหรือเปล่าไม่แน่ใจ) ใช้งาน ไพธ่อน ได้ แต่เงินไม่พออับเกรดถึงขนาดใช้ BVR ได้จึงหยุดการอับเกรดครึ่งๆกลางครับ จึงทำให้ยังเหลืออายุการใช้งานมากโขอยู่ครับ
ผมจะไม่แม่นเป๊ะๆแบบเพื่อนๆ TFC บางท่านนะครับ คงต้องรอเพื่อนๆท่านอื่นมาเสริม แต่ในกระทู้ปักหมุด เห็นบอกว่าเหลือมากถึงประมาณ 3700 ชม.บินทีเดียว ก็ใช้ได้อีก 15-20 ปีล่ะครับ
เหมือนๆ Alpha-jet ที่เราจัดหาจากเยอรมันที่เขาเหลือใช้และสำรองไว้แทบไม่ได้ใช้ ชม.บินเหลือเพียบ ทอ.จึงจัดหามาใช้งานในราคาถูก ซึ่งตอนแรกต้องการ 50 เครื่อง จำนวน 2 ฝูงบนโจมตี แต่เนื่องจากพิษปี 40 เช่นกัน จึงได้มาแค่ฝูงเดียว 25 เครื่อง (ใช้ 20 เครื่อง ที่เหลือเป็นอะไหล่) แต่เป็นเครื่องฝึกโจมตีเบายุคเก่าครับ
ลืมตาขึ้นมาดูโลกผมก็เห็นF-5Aบินผ่านเหนือเป็นประจำ แก่จนป่านนี้ยังมีF-5Tเป็นม้าใช้งาน อีก15ปีข้างหน้าพี่เขาก็ยังบินได้ ผบ.ทอ.ทุกท่านต้องเคยเป็นนักบินเครื่องบินตระกูลนี้มาก่อนแน่เชียว
ติดเรดาร์ใหม่แล้วขอPython5และDerbyด้วยนะครับท่านนีโอ ยุคนี้ต้องBVRได้แล้วค่อยหาเอแวคมือ2มาช่วยเสริม ไปไกลแล้วกลับมาT-50ดีกว่า สั่งเยอะขนาดนี้มันต้องประกอบเองในประเทศแล้ว :)
55555......55555......เก่าแต่เก๋าครับท่าน superboy จริงอย่างที่ท่านว่า ผบ.ทอ. ทุกท่านในรอบ 40 กว่าปีที่ผ่านมาคงต้องผ่านเครื่องรุ่นนี้มาก่อนชัวร์......55555.......
เครื่องรุ่นนี้ผ่านศึกโชกโชนในสงครามเวียตนาม เจอทั้ง MIG-21 Mig-23 Mig-27 กระดูกสันหลังหลักของไทยเรามาช้านาน ตั้งแต่ผมเพิ่งเกิดเช่นกันครับ 55555....5555.....
เห็นเครื่องรุ่นนี้แล้วคิดถึงความหลังแฮะ
ถ้าทอ.เรา upgrade มันจริง ก็คงมีแต่ประเทศเรากับบราซิลที่ยังใช้ม้าแก่ตัวนี้ทำงานหนักอยู่เลยนะครับ บินคู่ F-5M
ส่วน T-50 นี่ถ้าจะประกอบในประเทศ คงต้องดูท่าทีรัฐบาลและ ทอ.แล้วล่ะครับ TAI น่าจะสามารถทำการประกอบได้โดยจัดหาเครื่องจักรมาเพิ่มเติม และคงต้องเป็นโครงการระยะยาวหน่อย T-50 จำนวน 80 เครื่องนี่น่าจะตกประมาณ 50,000 ล้านบาทนะสำหรับ พศ.นี้ เกลี่ยๆการจ่ายเิงินไป 10 ปี ก็ตกปีละ 5000 ล้าน ลุ้นได้นะท่าน
แต่ถ้าจะสร้างชิ้นส่วนบางชิ้นเองหรือทั้งหมด อันนี้ต้องรอดูโครงการนิคมอุตสาหกรรมอากาศยานของรัฐบาลต่อไปว่าจะเดินไปตามที่ตั้งความหวังหรือไม่ ถ้าแป๊กอีก อย่างเก่งก็แค่ซื้อชิ้นส่วนมาประกอบเอง ให้มันถูกลงหน่อย
lj
ผมสงสัยมานานแล้วครับที่ว่า F5T เหลือชั่วโมงบินใช้งานอีกมาก มากกว่า F16A/B ฝูง 103 จึงไม่ทำ MLU ฝูง 103
ถ้าจำไม่ผิดเค้าปรับปรุงยืดอายุโครงสร้าง F16A/B ไปเมื่อครบ 4000 ชั่งโมงเพื่อให้สามารถใช้งานได้จนถึง 8000 ชั่วโมงบิน และเคยได้ยินว่าสามารถยืดอายุได้ถึง 10,000 ชั่วโมงบินก็ยังได้ ดังนั้นถ้าหาก F16A/B สามารถยืดอายุไปจนถึง 10,000 ชั่วโมงได้ ก็น่าจะเหมาะที่จะนำมา upgrade mIni MLU โดยจำกัดงบปรับปรุงเครื่องล่ะไม่เกิน 15-20 ล้านเหรียญก็พอ แค่นี้ก็มีประสิทธิภาพสูงกว่า Kfir 60 และประจำการได้อีก 20 ปี ครับ
ส่วน F5T ก็ปลดสำรองราชการไว้เผื่อจำเป็นต้องใช้ ครับ
ตกลงที่นั่งนักบิน F5 มันยังดีดใด้มั๊ยครับ เห็นมีคนพูดประมาณว่าไม่ควรเอานักบินไปเสี่ยงบิน F5 เพราะที่นั่งเก่ามาก ดีดใด้หรือเปล่าก็ไม่รู้
หรือแค่พูดกันไปไม่ใช่ข้อเท็จจริง ?
F-16 ฝูง 103 และ 403 ทำการเข้าโปรแกรมยืดอายุโครงสร้าง falcon up และ falcon star ไปแล้วครับ แต่เนื่องจากฝูง 403 เป็นฝูงที่จัดหาทีหลังสุดจึงยังเหลืออายุการใช้งานมากกว่าฝูง 103 พอสมควรทีเดียว จึงมีความคุ้มค่าในการทำ MLU ครับ
การปรับยืดอายุการใช้งานนั้นไม่ได้ปรับที่ตัวเครื่องยนต์ด้วยนะครับ ยังเครื่องยนต์ตัวเดิม ระบบอิเลคทรอนิคเดิม แต่โครงสร้างบางส่วนใหม่ ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม ที่ฝูง 103 ไม่คุ้มค่าในการทำ MLU น่าจะมาจากส่วนของพวกเครื่องยนต์ (ซึ่งแพงมาก) หรือโครงสร้างบางส่วนที่ไม่ได้รับการเปลี่ยน เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายรวมถ้าต้องปรับปรุงยืดอายุออกไปอีก อาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ หรือ โครงสร้างอื่นๆใหม่ เมื่อรวมกับราคาระบบอิเลคทรอนิคใหม่ทั้งหมดจะแพงมากจนเห็นว่าซื้อเครื่องใหม่จะดีกว่าก็ได้ครับ
ฝูง 403 ทำ MLU นี่ราคาสะดุ้งเลย ต้องไปหากระทู้เก่าๆ รู้สึกจะถึงหลัก 1000 ล้านต่อเครื่องนะครับในการ MLU ให้ได้ระดับเกือบเท่า block 50/52 ธรรมดา (ไม่ใช่ +) ราคานี่ไม่รวมเครื่องยนต์ใหม่นะครับ เครื่องยนต์ตัวเก่า
ส่วน F-5 T อาจจะมีอะไหล่ต่างๆเยอะ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ เพราะเราจัดหามาเยอะครับสำหรับตระกูล F-5 และราคาการ upgrade ของ F-5 T มันถูกมากแค่ 10-12 ล้านเหรียญเท่านั้น ก็เลยน่าจะคุ้มสำหรับการ upgrade ใช้งาน 15-20 ปี
แต่ถ้ามีการ upgrade อีกครั้ง ผมเลยคิดว่าถ้าจัดหาระบบเรด้าร์ดีๆไปเลย ระบบ data link และระบบอื่นๆที่ใหม่ ให้ราคาอย่าเกิน 20 ล้านเหรียญต่อเครื่อง ผมยอมรับได้ และผลงานของ F-5M ที่ร่วมทีมกับ อีรี่ย์ ออกมาแล้วน่าประทับใจครับ ถ้าได้เรด้าร์ใหม่เป็น AESA น่าจะแจ๋วกว่าเดิมาก
และเมื่อต้องปลดแล้ว น่าจะสามารถย้ายไส้ในไปให้เครื่องโจมตีเบาที่มาแทนฝูง Alpha-jet น่าจะคุ้มค่าที่สุดครับ เพราะผมคิดว่าถ้า ทอ. เกิดจัดหา T-50 มาจริงๆ กว่าจะจัดหาครบตามความต้องการ ก็ไม่น้อยกว่า 10 ปีล่ะครับ เพราะจำนวนมันเยอะทีเดียว และคงทดแทน L-39 ก่อน และทดแทน alpha-jet ทีหลัง ก็พอดีใช้งานเครื่องที่มาแทน alpha-jet ได้ไม่นาน F-5T ก็ต้องปลด เอาไส้ในมาใช้ต่อเลย ประหยัดดี
ส่วนที่นั่ง F-5 T ยังทำงานดีดตัวได้ไหม อันนี้ไม่ทราบเลยครับ คงต้องวานสมาชิกท่านอื่นตอบแล้วล่ะครับ
จากนิตยสาร Top gun ล่าสุด ผบ.ทอ.ท่านให้สัมษณ์ ฝูง 102 คงทำการปลดแน่นอน
ส่วนฝูง 103 จะทำการ MLU แสดงว่าคงเอาเครื่องที่ปลดจากฝูง 102 มาเป็นอะไหล่ ก็คงมีเครื่องยนต์เป็นอะไหล่ให้เยอะอยู่ครับ ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับฝูง 103 จะใช้ได้ไปอีกนาน ถ้าแบบนี้ไม่ต้องจัดหาเครื่องยนต์ใหม่ หรือถ้าจำเป็นต้องจัดหาเครื่องใหม่ก็คงไม่กี่เครื่องเท่านั้น แบบนี้ MLU ฝูง 103 คุ้มค่าครับ เท่ากับว่ายังเหลือ F-16 ใช้งานอีกไม่น้อยกว่า 20 ปี
ส่วน Jas-39 ทอ. คงจะทำการจัดหาให้ครบ 18 เครื่องตามที่ท่าน ผบ.ทอ.กล่าวนะครับ ยินดีด้วยครับ
ดังนั้น F-5T ก็มีทางเลือกคือ
1. ปลดประจำการเป็นเครื่องสำรอง แล้วซื้อ Jas-39 มาทดแทน กรณีนี้ทอ.มีงบจัดหาเพียงพอ
2. upgrade กรณีนี้ทอ.ขาดแคลนงบอย่างหนัก
ผมคิดว่าในอีก 10 ปีต่อไปนี้ ทอ. คงจะมีแผนดังนี้
ฝูง 711 เร่งจัดซื้อ jas39 อีก 6 เครื่อง
ฝูง 103 mini MLU ให้ทันสมัย เพื่อประจำการอีก 20 ปี
ฝูง 102 จัดหา Jas39 EF 18 เครื่องพร้อมระบบสนับสนุนต่างเพื่อให้กองบิน 1 สามารถทำการรบได้เหมือนกองบิน 7 (network centric)
ฝูง 211 ใช้ F5T ต่อไปอีก 10 ปี แต่จะมีเปลี่ยนอุปกรณ์บางตัวที่ไม่มีอะไหล่แล้ว เช่น ชุดอิเลคทรอนิค ชุดคอมพิวเตอร์ จึงต้องเรียกอิราเอลมาช่วยปรับปรุงให้ใช้งานได้