หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เรายังต้องมีอัลฟ่าเจ็ทต่อไปหรือไม่ ทฤษฏีตัวเปิด ตัวตาม ที่นี่มีคำตอบ

โดยคุณ : กบ เมื่อวันที่ : 16/06/2016 13:55:04

เข้าไปในพันทิป เจอกระทู้ชวนขบคิด .................  “ถ้าให้เลือกปลดเครื่องบินรบหนึ่งฝูง ระหว่าง เอฟ-5 และ อัลฟ่าเจ็ท  ท่านจะเลือกแบบใด”  ................ ตอบแบบวิชาการคงว่า ไม่ได้ทั้งคู่ เพราะต่างทรงคุณค่าไม่แพ้กัน   แต่ถ้าแบบถึงกึ๋น  ตรงๆไม่เอนเอียง   เห็นจะต้องปลด  เอฟ-5   เพราะอะไร????    .......ด้วยนับอายุการใช้งาน และคุณค่ายุทธการ  อัลฟ่าเจ็ทยังเปี่ยมล้น ชนิดที่ทุกคนอาจมองข้ามของดีชิ้นนี้ไป....... .................

     ท่ามกลางกระแสคลั่งไคล้เทคโนโลยี่  หลายคนหลงใหลไปกับอาวุธไฮเทคจนลืมพื้นฐานทางยุทธวิธี ............   ถ้าจับเอากระแสความดังของ กริเป้น และ เหยี่ยว  มาเปรียบกับของดีโลว์เทค อย่าง แอลฟ่าเจ็ท  บางคนอาจ(แกล้ง) ลืม  พยายามมองข้ามเจ็ทแบบหลัง  ซึ่งแท้จริงแล้วผลสัมฤทธิ์การโจมตีจะเกิดขึ้นได้ ด้วยการกวาดล้างจากน้ำมือของเขาเหล่านี้.............

    การรบด้วยวิธีการรุก มุ่งทำลายข้าศึกอย่างแตกหักเพื่อยึดและสถาปนาพื้นที่.............  กลยุทธโจมตีแบบเป็นกลุ่ม เกิดจากสัญชาตญาณไม่ต้องไปเรียนในโรงเรียนเสธ ฯ ที่ไหน    “มึงเปิด เดี๋ยวพวกกูตาม”      ซึ่งตามประวัติศาสตร์การรบของชาวยุโรป โรงเรียนเสนาธิการขั้นสูง ซึ่งตั้งโดยพระเจ้า นโปเลียน ที่ 37 แห่ง แคว้นลิทัวเนีย นคร ลักแซมเบิก ได้ส่งนายทหารหัวกะทิมาศึกษาจากเด็กช่างแถวนนบุรีนี่เอง.....................

     ลำดับการรบด้วยวิธีรุกแบบเบสิคอินสติ๊งท์ ประกอบด้วย

  1. การเข้าโรมรันพันตู  หลังจากซามูไรจดจ้อง  ยกดาบโง้งกระดกขึ้นลง  เขี่ยเท้าซ้ายขวาล่อหลอกอีกฝ่ายอยู่นั้น  สมองก็คิดประมวลผลต่อเหตุการณ์รับรู้.........  เมื่อตัดสินใจบุกประชิดก็อาศัยช่วงชิงจังหวะ  มือที่กำศาสตราวุธทรงอนุภาพ พลันถาโถมเข้าใส่คู่ต่อสู้ด้วยสุดยอดยุทธวิธี  มุ่งตรงไปจุดที่อ่อนไหวและเปราะบาง   จุดมุ่งหมายเพื่อลดทอนความสามารถป้องกันตัวของอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด
  2. การขยายผล      คมของดาบแรกสร้างความเจ็บแปร้บ สั่นสะท้านแก่คู่ต่อสู้ ด้วยเฉือนถูกเอ็นที่ถือศาสตราวุธ มีผลให้พละกำลังและความแม่นยำในการต่อกรลดลง   เมื่อสถานการณ์เป็นไปดังนี้  จึงชิงความได้เปรียบ ทุ่มสรรพกำลังทั้งหมดโถมไปยังจุดเดิมและลามไปยังจุดสำคัญอื่นๆ  เป็นการขยายบาดแผล เกิดความบอบช้ำต่อสรรพางกายโดยรวม
  3. การกวาดล้าง    ความเพลี่ยงพล้ำทำให้อีกฝ่ายเข้าสู่สถานการณ์คับขัน   ความบอบช้ำสาหัสเกินกว่าจะพลิกมาชนะ  ............ซึ่งนั่นหมายถึงปิดประตูแพ้  แต่การสยบคู่ต่อสู้ราบคาบชนิดล้มคว่ำ ศาสตราวุธหลุดจากมือระล่ำระลักขอชีวิต  ยังต้องดำเนินไปอีก 1 ขั้น   ........    ว่าแล้ว ซามูไร ก็ยกดาบ ลากเท้าซ้ายไปบนพื้น กำกระชับแล้ววิ่งปรี่จ้วงฟัน  แรงกระแทกทำให้ดาบคู่ต่อสู้หลุดจากมือ ล้มไปนอนแบพังพาบกับพื้น  ซามูไรสบโอกาส ควงดาบสองรอบ แล้วโยนทิ้งกระโจนขึ้นนั่งคร่อม  จิกผมและบรรเลงเพลงตบ พร้อมกับผุสวาด    “อีดรอก   แน่นักใช่มั้ย.......... มรึ๊งแย่งผัวกรู๊”........!!!!!!!

   

 

 

ซึ่งการนี้ เสธ.ฯของพระเจ้านโปเลียน ที่ 37 ที่เข้ามาร่ำเรียนวิชาการรบที่สถาบันช่างกลโปลี่เทคนิค  ได้เขียนรายงานสรุปถึงผู้บังคับบัญชา มีแนวความคิดไปในทางคล้ายๆผมว่า

  1. ไอ้ตัวเปิดเนี่ย มันต้องถือของแรง ของๆมันมีอำนาจทำลายล้างและข่มขวัญสูง มีขีปณไกล เป็นของหายาก มีครอบครองจำนวนน้อยจึงใช้มากและพร่ำเพรื่อมิได้  ประกอบกับลักษณะทางคาแรคเตอร์ที่ไม่เอื้ออำนวยให้นำมาใช้งานได้ต่อเนื่อง   เสธ.ฯ ผู้เขียนรายงาน ยังประเมินคุณลักษณะด้วยว่า ด้วยข้อได้เปรียบทางขีปณ ทำให้ลดความเสี่ยงการถูกตีโต้  ........ฉากหน้าเหมือนเป็นพระเอก เพราะเป็นตัวเปิด ต้องเข้าทำก่อน  เสร็จภารกิจก็อันตรทาน สลัดตูดหายไป 
  2. ไอ้ตัวตาม  ตัวนี้ น่าสงสาร แต่ไหนแต่ไรชัยชนะที่แสนภาคภูมิใจ ต่างแลกด้วยเลือดเนื้อและความสูญเสียของนักรบกลุ่มนี้  ......นักรบตัวตามมีความอ่อนตัวจึงเหมาะสำหรับภารกิจขยายผลและกวาดล้าง  เสธ.ฯ ยังเขียนวิจารณ์ได้อย่างน่าฟังว่า กลุ่มตัวตามเป็นของจริงที่ปิดทองทั่วพระ  ด้วยคาแรคเตอร์ที่จัดตั้งง่าย เป็นนักรบราคาถูก ใช้ปริมาณเป็นเงื่อนไขสู่ชัยชนะ .................เช่นเดียวกัน ความสูญเสียก็มากด้วย....................

 

วิเคราะห์การใช้กำลังทางอากาศ แบบตัวเปิดตัวตาม  ของกองทัพอากาศต่างๆ

อาเจนติน่า ซูแปร์ เอตองดาร์ด และ เอ-4 ในสงครามฟอล์คแลนด์

สงครามครั้งนี้มีเรื่องเซอร์ไพร้ส์เกิดขึ้นกับฝ่ายอังกฤษ กล่าวคือ อังกฤษไม่ทราบมาก่อนเลยว่า เครื่องบินรบ ซูแปร์เอตองดาร์ท  ที่อาเจติน่าซื้อจากฝรั่งเศส บัดนี้มันสามารถติดปลาบินมรณะที่จัดหาอย่างลับๆจำนวน 6 ลูกได้ด้วย

 

ชมคลิปซะ

 

                                          https://www.youtube.com/watch?v=KAHKKSWnlng

 

ในคลิป นาทีที่ 3.15  คือการโจมตีทางอากาศในแบบฉบับสุดคลาสสิค   เมื่อ ซูแปร์เอตองดาร์ท  เป็นตัวเปิดด้วยของแรงอย่าง เอ็มๆ-39     ซ้ำด้วยตัวตาม คือ เอ-4   ................  จะเห็นว่า ความเสียหายอันใหญ่หลวง เกิดจากการขยายผลและกวาดล้างของตัวตามนี่เอง    ..............    ดังที่กล่าว    ตัวตามเป็นของจริง  ด้วยคาแรคเตอร์ที่จัดตั้งง่าย เป็นนักรบราคาถูก ใช้ปริมาณเป็นเงื่อนไขสู่ชัยชนะ มีอัตราสูญเสียสูง ที่สำคัญ  “นักรบตัวตาม ใช้ความกล้าห้าวหาญ  ชดเชยเทคโนโลยี่”

 

.กองทัพอากาศไทย ในสงครามร่มเกล้า

สงครามครามร่มเกล้า เป็นตัวอย่างให้เห็นถึงโลกทัศน์ในยุคที่ยังไม่มี ยูทู้บ    ยังไม่มีสงครามอิรัค สงครามอัฟกานิสถาน ให้เป็นกรณีศึกษา  เสนาธิการไทย ยังมองภาพการใช้กำลังทางอากาศในแบบสงครามเวียตนาม และที่สำคัญ   ต้องขอยืมคำพูดของนักบินท่านหนึ่งที่สุราษฎร์กล่าวว่า “แล้วมันมีอะไรดีกว่านี้อีกมั้ย ????”............

ช่วงเวลานั้น ศักยภาพโจมตีของกองทัพอากาศอยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก  อากาศยานเกือบทั้งหมดใช้ระเบิดธรรมดาเป็นอาวุธโจมตี      ซึ่งสภาพไม่สอดคล้องต่อสถานการณ์จริง ............จรวดนำวิถีตามความร้อนประทับบ่า กลายมาเป็นภัยคุกคามสำคัญย่านนี้สักระยะหนึ่งแล้ว  ความจริงคือภายใต้สถานการณ์กดดัน  เราพยายามขยายกองทัพในเชิงปริมาณ แต่ละเลยการพัฒนาขีดความสามารถอาวุธรบ   ................ เอฟ-5 จำนวนหนึ่งซึ่งน้อยมาก ถูกดัดแปลงให้ใช้ระบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์  แต่ด้วยขีดจำกัดของอุปกรณ์ จึงไม่ประสบผลสำเร็จในการใช้งานจริง   ข้อนี้เห็นไชัดว่า หลังสงครามครั้งนั้น เอฟ-5 อี/เอฟ ทั้งหมด ถูกส่งเข้ายกระดับ ติดตั้งระบบนำร่องด้วยแรงเฉื่อย ,อุปกรณ์แจ้งเตือนการตรวจจับด้วยเรดาร์  ติดตั้งจอภาพหัวตั้ง และ คอมพิวเตอร์ควบคุมการใช้อาวุธ...................ซึ่งก่อนหน้าไม่เคยคิดทำ  ...........ไม่แน่นะครับ    ถ้าเรามีสิ่งเหล่านี้ สถานการณ์การรบอาจไม่เลวร้ายเท่าที่เห็น   เราอาจไม่ต้องเสีย เอฟ-5อี และ โอวี-10  ในการรบ    ที่สุดการโจมตีทางอากาศก็ประสบความสำเร็จก็เป็นได้.....................

 

การรบแบบ ตัวเปิดตัวตาม ถูกใช้ในการโจมตีครั้งนี้  ต่างแต่ว่า ตัวเปิดของเราไม่มีของแรงเลย มิหนำซ้ำ เพื่อนมีของแหลมดักรอกระซวกอยู่อีกต่างหาก

เราเปิดด้วย เอฟ-5 กับระเบิดนาปาล์ม และ มาร์ค 81 82 84   ฝ่ายตรงข้าม มีของแหลม เป็นจรวด สเตล่า รอจิ้มอยู่ข้างล่าง  .....................  แม้ไม่ได้อยู่ในการรบ  แต่หลับตานั่งทางในแล้ว เห็นภาพที่เราไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบเลยครับ ................. การรบอีหลุกขลุกขลัก   ตอนซ้อมรบ แค่บินต่ำๆ ทอยระเบิดลงกลางเป้าก็ยากอยู่แล้ว   แต่นี่สถานการณ์รบจริง ต้องรีบบินตีวงจิกหัวรักษาระยะสูง  ไหนจะพะวงกับแซมกลัวแจ็คผ็อต ไหนจะสมาธิที่อยู่กับศูนย์กากะบาด ไม่มีระบบนำร่องช่วยคำนวณ  สรุปคือ ไม่น่าจะทอยโดนอะไร นอกจากยอดไม้กับภูเขา พูดยังไม่ขาดคำ  เอฟ-5 บี ของวีระบุรุษเราก็โดนแซมจิ้มตูดเข้าให้   นี่แค่ตัวเปิดนะ โดนศอกสวนมาหน้าหงายเลย ........................... เมื่อการรบถูกออกแบบไว้แล้ว แผนยังดำเนินไป  ....... ตัวเปิด พึ่งโดนยันถอยกรูดไม่เป็นท่า ไม่มีเวลาแล้วที่ตัวตามจะตะโกนขอเวลานอก แผนเป็นไปตามลำดับ   ............... ยังไม่ทันได้ประยุทธ์ แค่ไหว้ครูถอดมงคล ถลาปีกจิกหัวจะเข้าตี โอวี-10 ก็โดนทั้งปืนทั้งแซม สวนร่วงไม่เป็นท่า นี่เป็นการโฉบเข้าโจมตีเที่ยวแรกของผู้ฝูงก็โดนน็อคซะแล้ว แต่ทั้งหมดต้องขอคารวะในความกล้าหาญ ในเวลานั้นคงเหมือนเลือดเข้าตา ให้เป็นรองแค่ไหนก็คงต้องสู้ ความห้าวหาญคงไม่แพ้ เอ-4 ของอาเจนติน่าในคลิปเลยหล่ะ     ...... ตรงนี้ขอคารวะ ครับ..................

 

 

.อเมริกาสงครามเวียตนาม และสงครามอ่าว

  อเมริกัน รบแบบเศรษฐี     ใน สงครามเวียดนามระบบอิเล็คทรอนิคไม่เต็มใบ  และด้วยความห่างชั้นยุทโธปกรณ์ของคู่ต่อสู้    เรามักเห็นการกวาดล้างในฉากของสงครามอยู่เนืองๆ ..............

 

ตัวอย่างชัดเจนกว่า เห็นในสงครามอ่าวทั้งสองครั้ง.................กล่าวคือ

ตัวเปิด   มาจากจรวดร่อนทั้งยิงจากเรือและอากาศยาน   มีการใช้จรวดทำลายฐานเรดาร์ จากกลุ่มนักรบ ไวล์วีซึ่ล  ขยี้จุดอ่อนข้าศึก ........... นักรบล่องหล เอฟ-117 ก็อยู่ในกลุ่มตัวเปิดนี้เช่นกัน ................

เมื่อเส้นเลือดใหญ่ถูกตัดจึงเข้าสู่การขยายผล  การทำลายจุดยุทธศาสตร์ยังดำเนินไปด้วยระเบิดนำวิถีจาก เอฟ-16, เอฟ-15อี      คุ้มกันด้วยกลุ่มอินทรีย์นักรบ เอฟ-15ซี..............................

เมื่อปราศจากการต่อต้าน  การโจมตีทางอากาศก็เป็นเรื่องง่าย    การกวาดล้างก็เริ่มขึ้น ซึ่งได้แก่การขัดขวางในพื้นที่การรบ และการสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด ทั้งหมดสำเร็จด้วยระเบิดโง่และปืนใหญ่อากาศ จาก เอฟ-16 และ เอ-10..................

ข้อสังเกตคือ ความร่ำรวยทำให้สามารถก่อตั้ง กลุ่มตัวเปิดในสัดส่วนที่มากมาย  ส่งผลลดความเสี่ยงการรบของกลุ่มตัวตามลงไปด้วย    ข้อนี้เห็นได้จากในสงครามทะเลทราย อเมริกาแทบจะไม่สูญเสีย เจ้าเหยี่ยว และหมูเขี้ยวตันเลย

 

.กองทัพอากาศไทย ในปัจจุบัน

  เราเดินมาถึงจุดที่มีกำลังทางอากาศอยู่ในลำดับต้นของภูมิภาค เรามีระบบการรบเป็นเครือข่ายทันสมัย สามารถใช้อากาศยานพิทักษ์น่านฟ้าอย่างได้เปรียบ ทำการรบได้ทุกกาลอากาศไกลเกินกว่าสายตามองเห็น   ...................

      ด้านการโจมตี เรามีอากาศยานติดตั้งระบบนำร่องสมัยใหม่ มีอาวุธนำวิถีที่น่าเกรงขาม ................. ในวันนี้แม้ เอฟ-16 จะขาดอาวุธโจมตีแบบ สแตนด์ออฟ   แต่ระเบิดนำร่องด้วยดาวเทียมและเลเซอร์  ก็ทำให้ เอฟ-16 เป็นตัวเปิดทรงอานุภาพ เป็นตัวเปิดที่มีของแรงอยู่ในมือจริงๆ .........................

    และแน่นอนที่สุด  อัลฟ่าเจ็ท กับบทบาทตัวตาม  .................... ผมเข้าไปดูเวป กองบิน 23  เห็นแกลลอลี่ภาพถ่ายกลุ่มนักบินคู่กับเครื่องบินของเขา   ผมมองต่างจากภาพของเหล่านักบิน เอฟ-16 และ กริเป้น เพราะสิ่งที่ผมเห็นในสองกลุ่มหลัง เป็นกลุ่ม อินเทลิเจ้นท์แมน ผู้มีแอพติหจูด เหมาะแก่เทคโนโลยี่การบิน กลุ่มตัวเปิด ผู้มีของแรงเป็นเทคโนโลยี่สร้างความได้เปรียบ   ................... ต่างจากกลุ่ม อัลฟ่าเจ็ท   กลุ่มตัวตาม    ซึ่งผมมองว่า ในการรบจริงพวกเขาจะเป็นนักรบที่เหมือนซามูไร   นักรบทางอากาศที่จิกหัวดำฝ่าห่ากระสุนเอาชีวิตเป็นเดิมพัน   ขึ้นอยู่ว่ามัจจุราชจะเลือกข้างใคร .............  ทีนี้ถึงบางอ้อ หรือยังครับ  ว่า เรายังต้องมีอัลฟ่าเจ็ท  เพราะนี่แหล่ะ คือของจริง  ............ตัวตาม ในภารกิจ ขยายผลและกวาดล้าง ....................





ความคิดเห็นที่ 1


a jet ของเรามันพอจะเป็นตัวตามที่ไว้ใจได้ไหมครับ มีของหนักที่ฆ่าคู่ต่อสู้ให้ตายได้ไหมครับ


โดยคุณ nathekop เมื่อวันที่ 09/06/2016 13:51:48


ความคิดเห็นที่ 2


ตัวตาม ............. ถ้าเป็นบทบาทขยายผล  ระเบิดพิมพ์นิยม 250 ปอนด์ มาร์ค 81   4-6 ลูกต่อลำ น่าจะพอตบกะโหลกได้นะครับ..............  ลองนึกดูว่า มีอัลฟ่าเจ็ท สัก 2หมู่ บินว่อน วนเวียนผลัดกันจิกหัวดำทิ้ง 250 ปอนด์ คงกัปนาทสั่นไหวน่าดู .................  ถ้าลดความเสี่ยง บินต่ำผ่านรอบเดียว ใช้วิธีการทอยไม่จิกหัว  ก็ต้อง สเนคอาย จำนวนเท่าๆกัน    เจ้าสเนคอาย  นี่ จัดเป็น  ไฮแดร็ก บอมบ์ หรือระเบิดหน่วงความเร็ว   วัตถุประสงค์การใช้สำหรับความแม่นยำด้วยการทอยระยะต่ำ  เนื่องจากเวลาถูกปล่อยจากเครื่องบินจะมีแรงเฉื่อยเคลื่อนที่ตามไปด้วย  เวลากระทบเป้า ไอ้สะเก็ดมันจะกระเด็นมาบาดท้องน้อยเครื่องบิน  ก็ต้องติดร่ม หรือเงี่ยงหน่วงความเร็วไว้ให้..............

ถ้าเป็นการกวาดล้าง  กระเปาะจรวด 2.75 นิ้วก็เข้าท่า เหมือน ซู-25 อัดกบฏ ซีเรีย    ติดแต่ อัลฟ่าเจ็ทตัวนี้ไม่ได้เอากระเปาะปืนติดมาด้วย นัยว่าราคาลูกปืนแพงระยับ ก็เลยไม่มีปืนสาดนำไปก่อนที่จรวดจะตามลงไป .................

ยังมีระเบิดอีกหลายแบบที่จัดเป็น อาวุธมหาปะลัย ซึ่งก็คงปิดบังอำพรางไว้บ้าง เช่ นาปาล์ม เพราะเท่าที่ทราบ ปัจจุบันจะจัดเป็นไอเท่มต้องห้ามตามสนธิสัญญาสากลไปแล้ว  หรือพวกระเบิดลูกปลาย บีแอลยู รุ่นเก่าๆ พวกนี้เรามีเป็น เวปป้อน อินเวนโตรี่ทั้งนั้น ..................    ดัวที่น่าสนใจกว่าคือพวก ทำลายรันเวย์ เช่น ดูรันดัล   ระเบิดพวกนี้ใช้ได้เฉพาะเครื่องบินที่จิกหัวลงด้วยความเร็วที่เข้าเกณฑ์  เพราะต้องใช้แรงตัวนี้ส่งเจ้าไข่เหล็กมุดไปในดินก่อนจึงระเบิดเกิดเป็นหลุมลึก  ซึ่งแอลฟ่าเจ็ทของเราเข้าเกณฑ์ใช้ตัวนี้ได้ ....... ก็ไม่รู้ว่า ได้จัดหามาครอบครองหรือยัง ครับ.................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/06/2016 15:04:23


ความคิดเห็นที่ 3


สุดสวย กระเตง 250 ปอนด์ มาร์ค 81  2 คู่  และถังน้ำมัน 2 ถัง  ซึ่งตาม สแตนดาร์ด คอนฟิกกุเรชั่น  ตรงกลาง จะต้องเป็นตำบลติดตั้งกระเปาะปืน    .............  ขออขอบคุณภาพจากเพื่อนสมาชิก



โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/06/2016 15:16:13


ความคิดเห็นที่ 4


มีข้อสอบถามครับ

1. เหตุใด F5 จึงใช้เป็นตัวตามไม่ได้ครับ

2. ข้อเขียนข้างต้น อธิบายเฉพาะกรณีการโจมตี อากาศ-พื้น เท่านั้นใช่หรือไม่ครับ หากสถานการเปลี่ยนไป เป็น เครื่องบินรบ 8-12 เครื่องรุกล้ำเข้ามาแบบประสงค์ร้าย โมเดล F16 เป็นตัวนำ Alpha Jet เป็นตัวตาม จะยังใช้ได้อยู่ไหมครับ

โดยคุณ Naris เมื่อวันที่ 09/06/2016 15:21:55


ความคิดเห็นที่ 5


อ่า..... เรื่องที่เขียน เป็นภรกิจ โจมตีทางอากาศอ่ะครับ คือบริบทมันเป็นเรื่องของการรบด้วยวิธีรุกอ่ะครับ .........   ถ้าการป้องกันภัยทางอากาศ มันเป็นการรบ อากาศ - อากาศ แบบตั้งรับ  คงต้อง ขอเวลากลับไปติดต่อ เสธ.ฯ จากทางญี่ปุ่นครับ เพราะล่าสุดที่ทราบ คณะนี้ถูกส่งไปเรียนยุทธวิธี กับช่างกลแถวๆ มีนบุรี  อ่ะครับ..............

 

เอฟ-5  ในศึกร่มเกล้า เป็นดาบแรกครับ ดีที่สุดที่เรามีแล้ว จึงต้องเป็นตัวเปิด...................... ปัจจุบัน เอฟ-5 ไม่ควรเป็นทั้งตัวเปิดและตัวตามครับ  ผมว่าภารกิจป้องกันภัยทางอากาศเหมาะสมกว่า เพราะแผนอัพเกรทจะมีเรดาร์ใหม่ ยิงบีวีอาร์ได้ แถมอาจมีลูกสั้น พัฒนาเป็น ไพธ่อน 5 อีกด้วย   เอามาโจมตีเป็นตัวเปิด ก็ไม่เจ๋งจริง เพราะคงสู้ เอฟ-16ไม่ได้   เอามาเป็นตัวตาม ก็เสียของ นะครับ..........

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/06/2016 15:31:54


ความคิดเห็นที่ 6


นี่ภาพเต็มๆ  ว่าจริงๆแล้ว ของเราหิ้วอะไรได้บ้าง


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/06/2016 15:41:04


ความคิดเห็นที่ 7


ภาพนี้คือกระเปาะปืน  ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไปครับ


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/06/2016 15:42:50


ความคิดเห็นที่ 8


250 ปอนด์ สเนคอาย  หว่านโดย เอ-6    ................ แม่เจ้าโว๊ย.............ก้นใหญ่ไข่ดกจริงนะน้อง...............


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/06/2016 15:45:14


ความคิดเห็นที่ 9


a jet มีอะไรที่เจ๋งๆหิ้วไปได้อีกไหมครับ ของเราหิ้วระเบิดฉลาดได้ไหมครับ 

โดยคุณ nathekop เมื่อวันที่ 10/06/2016 13:29:19


ความคิดเห็นที่ 10


เคยได้ยินว่า สมัยก่อน เอฟ-5 ของเรา ทอยระเบิดฉลาด จะใช้ 2 วิธีคือ

1. เครื่องหนึ่งทำหน้าที่ทอย  อีกเครื่องจะมีตัวชี้เป้าอยู่ด้านข้างนักบินใน ค็อคพิท

2. มีหน่วยชี้เป้าอยู่ภาคพื้นดิน เครื่องก็ทอยลงมา

ปัญหาน่าจะเป็นข้อยุ่งยากคือ  เครื่องบินอยู่สูง และไม่มีระบบนำร่องเข้าหาเป้าหมาย เรียกว่าใช้กิ๋นนักบินล้วนๆ ไม่มีคอมพิวเตอร์ช่วยคำนวณ 

 

ในกรณีอัลฟ่าเจ็ท ทราบว่า มีจอภาพฮัด และระบบนำร่อง จีพีเอส  ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ระบบนี้มันทำงานประสานกับคอมพิวเตอร์ควบคุมการใช้อาวุธ เหมือนกรณีระบบนำร่องด้วยแรงเฉื่อย (ไอเอ็นเอส) ได้หรือไม่   เพราะแบบหลังเนี้ย แค่พล็อตตำบลอ้างอิง ระบบซึ่งมีแกนไจโรเป็นเซ็นเซอร์ เมื่อบินด้วยท่าทางและความเร็วต่างๆ ก็สามารถคำนวณเวลาในการปลดระเบิดได้อย่างแม่นยำ

แต่ถ้าในลักษณะโจมตีบูรณาการ  คือทิ้งเอง ชี้เป้าเอง เห็นจะมีแต่ เอฟ-16 เท่านั้นที่ทำได้ครับ   เพราะ เอฟ-16 มีระบบนำร่องทันสมัย สามารถเชื่อมต่อกับกระเปาะชี้เป้าด้วยเลเซอร์ แบบ แอตลิส-2 ได้   ในอนาคตอันใกล้ หลังจาก เอ็มแอลยู กลับประจำการ เราจะมีกระเปาะชี้เป้าที่ดีกว่า คือสามารถทำงานได้แม้ในเวลากลางคืน (แอตลิส-2 ข้อมูลคลุมเคลือ แต่สรุปว่า น่าจะดีโด่ เฉพาะตอนกลางวัน)...............

 ซึ่งคาดว่า ทีเอ-50 ที ที่จะเข้าประจำการอีก 2 ปีข้างหน้า ระบบต่างๆใช้ในการโจมตีคงใกล้เคียงกับ เอฟ-16   เราอาจมีเครื่องบินรบ แบบตัวเปิด เพิ่มขึ้นอีกฝูงครับ   ตอนนี้พยายามหารูปในเวบต่างๆ  ว่าเจ้าอินทรีย์ทองตัวนี้ สามารถกระเตงกระเปาะชี้เป้าด้วยเลเซอร์ได้หรือไม่

 

ผมว่าสำหรับภารกิจตัวตาม ไม่จำเป็นต้องใช้ระเบิดฉลาดหรอกครับ   ระเบิดโง่นี้แหล่ะ    เพราะเป็นภารกิจเก็บสแปร์  ต้องบินต่ำลงมาโซ้ย  ค่อยๆเฉาะ ทีละเป้า ทีละเป้า  อาศัยมากันทีละหลายๆตัว ครับ......................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/06/2016 14:12:48


ความคิดเห็นที่ 11


คุ้นๆเหมือนเคยได้ยินมาว่า อัลฟาเจตของเยอรมันใช้จรวดมาเวอริคได้ ผมไม่มีหลักฐานบืนยันน่ะครับ ถ้าผิดก็ขอออกตัวล่ะครับ
โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 10/06/2016 14:33:56


ความคิดเห็นที่ 12


จรวด เมาเวอร์ริค  นำวิถีด้วยอินฟาเรด   ................ ในความเห็นของผม คิดว่าระบบไม่ซับซ้อนเหมือนพวก นำวิถีด้วยเรดาร์ หรือ เลเซอร์ครับ  .................... เอาง่ายๆว่า  เอฟ-5 เอ/บี  อัลฟ่าเจ็ท แอล-39 หรือแม้แต่ โอวี-10 ไม่มีเรดาร์ แถมบางแบบไม่มี  ฮัด / แหวค  เธอยังยิง ไซไวเดอร์ได้เลยครับ...................  แต่ของเมาเวอร์หริค อาจต้องมีภาพปรกฎให้นักบินได้ล็อคเป้าก่อนปล่อยจรวด  ซึ่งต่างจากไซไวเดอร์ ใช้การฟังเสียงครับ......................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/06/2016 14:39:46


ความคิดเห็นที่ 13


เพิ่มเติมอีกนิดนึงนะครับ .................... จรวด เมาเวอร์ริค นี่ มันเป็นจรวดเอนกประสงค์   ........แม้จะมีระยะยิงไกล (ขึ้นอยู่กับความสูงการบิน)  แต่หัวรบค่อนข้างเบาครับ  คือประมาณ ร้อยปอนด์เท่านั้น   อนุภาพทำลายได้ประเภทยานยนต์ อาคาร หรือที่มั่นบังเกอร์เล็กๆ ....................  แต่ถ้าเป็น หลุมเพลาะ แบบบ้านร่มเกล้า  หรือ อาคารบัญชาการใหญ่ๆ  มันต้อง จีบียู-10 ขนาด สองพันปอนด์  หรือถ้าไฮเทคกว่าก็ต้อง จีบียู-31 เจแดม    อันนี้เหมาะตัวเปิด  ครับ......................

 

ตัวขยายผล  สับย่อยลงมาหน่อย พวกฐานจรวดแซมประทับบ่า ก็ต้อง  จีบียู-12  สัก 500 ปอนด์    อาจต้องมีตัวลงไปล่อเป้า พอเผยตัวออกมาพวกบินวนรออยู่ข้างบน ก็หยอดไข่เหล็กที่ละลูกๆ ลงไปเลย        ขนาด 500 ปอนด์ คงละลายหน่วยแซมประทับบ่า ที่กระจายกันอยู่ได้แหล่ะ

เมื่อการต่อต้านเบาบางลง เพราะแซมก็คงล้มหายตายจาก   ฐานใหญ่ข้างบนก็โดนลูก 2,000 ปอนด์ เข้าไปสามสี่ตุ่บ  ........ ก็คงหลือแต่หน่วยที่กระจายอยู่รอบๆฐาน   คราวนี้ก็ถึงเวลาของตัวตาม เก็บสแปร์ ฉากกวาดล้างก็เริ่มขึ้น ฝูงแอลฟ่าเจ็ท กับ มาร์ค 81 250 ปอนด์ เข้ารุมทึ้ง บินกันให้ว่อน  แต่ งานนี้ต้องทำงานร่วมกับทหารทางภาคพื้นดินที่กำลังบุกขึ้นมาด้วยครับ..........................

 

 

อ่อ ลืม.....................  เอ็มแอลยู อีก2 หมู่   ต้องบินเข้าไปหยอด จีบียู-12  500 ปอนด์  ใส่กองร้อยปืนใหญ่ของข้าศึกด้านหลังด้วยครับ งานนนี้ ต้องให้ เอดีเอฟ ติดอำรามคุ้มกัน...........

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/06/2016 14:39:47


ความคิดเห็นที่ 14


ผมเชื่อว่า  ในปี 2531  ถ้าเรามีกำลังทางอากาศแบบที่ผมกล่าวนี้ รับรองว่า  ประเทศลาวไม่กล้าทำสงครามร่มเกล้ากับเราแน่ๆ...............................  และในปี 2545  ด้วยศักยภาพทางอากาศ และท่าทีเป็นจิ๊กโก๋ของเรา   พม่า ก็ไม่ลังเลที่จะจัดหา มิก-29 เข้าประจำการ   ................... ซึ่งถ้าพม่ามีจรวด แอดเดอร์ ครอบครองด้วยแล้ว   ฉากของสงคราวที่ผมกล่าว  คงทำไม่ได้ง่ายๆครับ .....................   การเปิด หรือตัวเปิดของเรา อาจต้องเล่นบท รบ อากาศ-อากาศ  แบบที่เพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งได้ถามไว้ด้านบนครับ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/06/2016 15:49:31


ความคิดเห็นที่ 15


ALFA JET ที่ซื้อมาจากสุสานเครื่องมันเยอรมันนะเหรอ ตอนแรกนึกว่าเอามาเป็นเครื่องฝึกบินซะอีก


โดยคุณ f18-superhornet เมื่อวันที่ 11/06/2016 19:52:42


ความคิดเห็นที่ 16


.


โดยคุณ f18-superhornet เมื่อวันที่ 11/06/2016 19:55:57


ความคิดเห็นที่ 17


คุณ เอฟสิบแปด มีเจตนาอย่างไรถึงลงรูปแบบนี้ ที่นี่พวกเราโตๆกันแล้วนะ ถ้าไม่เห็นด้วยหรือขัดข้องอะไร ก็พูดคุยกัน ชี้แจงมาสิ ทำแบบนี้ไม่เหมาะเลยครับ หรือถ้าแปลเจตนาท่านผิดก็ขอโทษด้วย
โดยคุณ eak เมื่อวันที่ 12/06/2016 16:43:30


ความคิดเห็นที่ 18


ผมก็แปลไม่ออกครับคือเจตนาอะไร คิดไปบางมุมก็เหมือนเชียร์นะ55555  ...............        เอาเป็นว่าเข้าประเด็นก็คือ อัลฟ่าเจ็ทเนี่ย เราซื้อมาทำเครื่องโจมตีแทนโอวีสิบ   ปล่าวเอามาทำเครื่องฝึกก้าวหน้า สังเกตุจากการตั้งชื่อให้เป็นบอจอเจ็ด บอจอแปลว่า บินโจมตี ส่วนก้าวหน้า  เป็นหน้าที่ของแอวสามเก้า ชื่อคือบอขอฝอหนึ่ง  ขอฝอคือขับไล่ฝึกนะจ๊ะ............   ส่วนเรื่องภาพนั้นเอาเป็นว่าเห็นแล้ว ยืนยันว่าเป็นควายครับ

 

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 12/06/2016 18:24:50


ความคิดเห็นที่ 19


Login  เข้ามา.....ขำท่านกบ  โดยเฉพาะ  5  5  5.....Log out>>

โดยคุณ tng เมื่อวันที่ 12/06/2016 19:48:39


ความคิดเห็นที่ 20


ขอถามท่านกบครับ  คือผมสงสัยมานานแล้วว่าระหว่าง Alphajet กับ L39  ขีดความสามารถทางการบินรบทางอากาศ   โจมตีภาคพื้นดิน  ฝึกบิน ต่างกันมากหรือเปล่า  ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเราจัดหา Alphajet แบบเดียวทำหน้าที่ฝึกบิน 1 ฝูง   โจมตี/สกัดกั้น 2 ฝูง น่าจะดีกว่า L39

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 12/06/2016 21:19:01


ความคิดเห็นที่ 21


สมรรถนะ แอลฟ่าเจ็ทเหนือกว่า แอว-39 ครับ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด แรงขับ และความเร็ว ..............ถ้าเป็นภารกิจโจมตี แน่นอน แอลฟ่าเจ็ท ก็ต้องดีกว่าเหมาะสมกว่า.....  แต่ถ้าเป็นภารกิจฝึกก้าวหน้า แอลฟ่าเจ๊ทอาจดีกว่าแต่จะเหมาะสมกว่าหรือเปล่านั้นไม่แน่ครับ.......กองทัพอากาศอาจเน้นราคาถูกประหยัด สมรรถนะไม่จัดจ้านกระมังครับ จึงได้เป็น แอว-39 มาใช้ภารกิจนี้............. คือว่าไปแล้ว เทียบสมรรถนะ     แอลฟ่าเจ็ท เอ-37 ที-33 แอว-39     อย่างหลังนี้บ๊วยทิ้งห่างเพื่อนที่สุดครับ..................

 

ถ้าท้าวความหลังที่ไปที่มา แอว-39       ย้อนไปปี 37  เราต้องปลดเครื่องฝูงโจมตี เอ-37  ระหว่างนั้นมีสาวน้อย 3 รายเสนอตัวให้เลือก ได้แก่ ฮอว์ค100,200  แอลฟ่าเจ็ท และ เอเอ็มเอ็กซื   ซึ่งสถานการณ์ขณะนั้นแบเบอร์แล้วว่าจะต้องเป็น เอเอ็มเอ็กซ์      แต่ก็มีเหตุให้ต้องกลับมาทบทวนใหม่คือว่า อีก2-3ปี คือราวปี 38-39 เครื่องฝึกก้าวหน้า ที-33 ก็ถึงคราวต้องปลดเหมือนกัน........ เดาว่า ทอ.คงไม่อยากมีเครื่องบินหลายแบบ จู่ๆม้ามืด แอว-39 ก็เข้าวิน  แถมเข้าแบบล็อตใหญ่เพราะซื้อทีเดียว 36 ลำ เอามาแทนทั้ง เอ-37 และ ที-33 กันเลยทีเดียว  งานนั้น เอเอ็มเอ็กซ์ก็เศร้าแห้งเหี่ยวกลับบ้านไป................ถ้าในภารกิจโจมตีแทน เอ-37 ผมว่า ผมว่า เน้น "ผมว่า" แอว-39 สอบไม่ผ่านครับ .......... หลายคนคิดว่า เอ-37 หน่อมแน้ม  จริงๆแล้ว ไม่หมูนะครับ เรียกว่าหายใจรดต้นคอ แอลฟ่าเจ็ททีเดียว...................  แต่ยังงัยก็ตาม แอลฟ่าเจ็ทที่พลาดจากรอบแรก ก็กลับมาประจำการ ทอ. จนได้ ในฐานะเครื่องบินมือสองครับ...................

 

แอลฟ่าเจ็ท เป็น เครื่องฝึก/โจมตีเบา ความเร็วต่ำกว่าเสียง  คงไม่เข้าข่ายเครื่องบินขับไล่สกัดกั้นนะครับ..................

 

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 12/06/2016 22:30:47


ความคิดเห็นที่ 22


รูปแผ่อาวุธโชว์ ไอ้ตรงกลางนี่คืออะไรครับ ที่เป็นท่อสี่ท่อ

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 14/06/2016 20:50:49


ความคิดเห็นที่ 23


ที่กระเปาะตรงกลางที่ คุณtoeytei สงสัยนั้น ผมสงสัยว่ามันคล้ายๆจะเป็นกระเปาะไว้สำหรับฝึกใช้อาวุธรึเปล่า

เพราะเคยเห็นกระเปาะคล้ายๆแบบนี้จากที่ไหนซักแห่ง ด้านบนมีรู 4 รู (น่าจะไว้ใส่จรวด 2.75") ส่วนด้านล่าง

ของกระเปาะ จะมีที่ไว้ติดลูกระเบิดฝึกลูกเล็กๆน่ารักๆได้จำนวนหนึ่ง....อันนี้ผมไม่ชัวร์นะครับ รอข้อมูลท่านอื่นอีกที

 

ส่วนคุณเอฟ-18นั้น ผมว่าตอนนี้แกไม่น่าจะเด็กแล้วนะ เพราะเคยเห็นอยู่ในบอร์ดมาน่าจะเกิน 3-4 ปีแล้ว

ถ้าสมมุติว่าตอนเห็นแรกๆที่แกโผล่มาในบอร์ด หากตอนนั้นแกอายุ 15-16 ปี เวลาผ่านมาจนตอนนี้แกก็น่าจะอายุ

บรรลุนิติภาวะรู้ว่าอะไรเหมาะอะไรควรแล้วล่ะ....ฉะนั้นอย่าไปสนใจแกเลย เพราะโตๆกันแล้วเหมือนท่านที่อยู่

ด้านบนว่าไว้นั่นแหละครับ

โดยคุณ A_hatyai เมื่อวันที่ 15/06/2016 08:39:57


ความคิดเห็นที่ 24


ถ้าพูดถึง บ.โจมตี  ยังเสียดาย AMX ไม่หาย เพราะทำภารกิจได้หลากหลาย  ติดจรวดโจมตีภาคพื้นดิน  จรวดโจมตีเรือ  จรวดยิงเครื่องบินแบบไซไวเดอร์   และถ้าตอนนั้นในฐานะลูกค้ารายแรก หากให้ปรับปรุงเป็นรุ่นฝึกบินก็น่าจะได้   ถึงปัจจุบันก็ยังประจำการในอิตาลี  บราซิล ผมก็ยังว่าหากไทยต้องการเครื่องบินราคาไม่แพง  ใช้โจมตีและฝึกบินเป็นหลัก   ป้องกันทางอากาศเป็นภารกิจเสริม  นำแผนแบบ AMX มาปรับปรุง ก็ยังน่าสนใจ กว่า T/A50 ที่ดีเกินไป แพงมากด้วยครับ

  ส่วน Alphajet ก็ยังดีอยู่   หากคิดจะใช้ต่อสัก 15-20 ปี ก็น่าจะปรับปรุงอีกสักหน่อย เอาแค่ประมาณเท่า AMX ของอิตาลี ก็พอครับ

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 16/06/2016 13:55:04