หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


สอบถามการใช้เครื่องบินในยุทธนาวีเกาะช้างครับ

โดยคุณ : MIG31 เมื่อวันที่ : 01/11/2016 20:16:07

                        1.สอบถามว่าในช่วงเตรียมเข้าสงครามอินโดจีนนั้น ทร.มีการฝึกทิ้งระเบิดใส่เรือบ้างรึเปล่าครับ

                        2. ในช่วงนั้น(ก่อนเข้าสงครามอินโดจีนเล็กน้อย)การใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดหรือตอร์ปิโด สำหรับทร.ไทย จัด                               เป็นองค์ความรู้ใหม่

                         3.เรามีเครื่องบินทิ้งตอร์ปิโดใช้งานหรือไม่ครับ

                         4.เรามีแผนใช้เครื่องบินเข้าต่อตีกองเรือฝรั่งเศสเป็นอันดับแรกหรือมีแผนจะใช้ อยู่หากกองเรือตรวจเจอประ                               มาณนี้รึเปล่าครับ

                        ขอบพระคุณครับ





ความคิดเห็นที่ 1


           1ช่วงเตรียมเข้าสงครามอินโดจีนนั้น ทร.มีการฝึกทิ้งระเบิดใส่เรือบ้างรึเปล่าครับ

           - ตอนนั้นทร.มีแต่เครื่องบินทะเลใหม่เอี่ยมจำนวนไม่กี่ลำครับ ตามสเป๊กมันบรรทุกระเบิดได้ก็จริง แต่เอาแค่บินขึ้นลงได้ก็ถือว่าเก่งแล้ว เครื่องบินทอ.ต่างหากที่ทำหน้าที่นี้

 ปี 2480 กองทัพเรือสั่งซื้อเครื่องบินทะเลรุ่น Watanabe WS-103 จำนวน 6 เครื่อง จากบริษัท Watanabe Iron Work ประเทศญี่ปุ่น  เพื่อนำมาใช้ในภารกิจลาดตระเวนทางทะเล โจมตี คุ้มกัน ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และฝึกบิน เครื่องบิน 2 ลำประจำการอยู่บนเรือสลุปชั้นเรือหลวงท่าจีน ส่วนที่เหลือประจำการฐานทัพเรืออ่าวสัตหีบ วันที่ 4 พฤษภาคม 2481 มีพิธีการส่งมอบเครื่องบินที่กรุงเทพ ต่อมาในวันที่ 1 มิถุนายน 2481 กองทัพเรือได้จัดตั้งหมวดบินทะเลขึ้นโดยให้สังกัดกองเรือรบ และกำหนดชื่อเครื่องบินทะเล WS-103 ว่า เครื่องบินราชนาวี 1 หรือ บ.รน.1

WS-103S  SIAM NAVY RECONNAISSANCE SEAPLANE เป็นเครื่องบินใบพัดปีก 2 ชั้น 2 ที่นั่ง ทุ่นคู่ คันบังคับคู่ ทำความเร็วสุงสุด 128 ไมล์ต่อชั่วโมง บินได้นานสุด 5 ชั่วโมง  ติดตั้งปืนกลขนาด 7.7 มม.นอกวงใบพัดจำนวน 2 กระบอก สามารถบรรทุกลูกระเบิดชนิดต่างๆได้น้ำหนักรวม 300 กิโลกรัม  ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2  กองทัพเรือใช้เครื่องบินราชนาวี 1 ในภารกิจลาดตระเวนอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เพื่อตรวจการณ์และปราบเรือดำน้ำ คุ้มกันการเดินเรือพาณิชย์ รวมทั้งปฏิบัติการร่วมกับกองเรือรบ โดยมีฐานทัพหลักอยู่ที่สัตหีบและที่อ่าวฉลองจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังได้ใช้บริเวณเกาะสมุยเป็นสถานีที่เติมน้ำมันเครื่องบินด้วย

 

 

2. ในช่วงนั้น(ก่อนเข้าสงครามอินโดจีนเล็กน้อย)การใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดหรือ ตอร์ปิโด สำหรับทร.ไทย จัด เป็นองค์ความรู้ใหม่

- ตามข้อ 1

 

 

3.เรามีเครื่องบินทิ้งตอร์ปิโดใช้งานหรือไม่ครับ

- ไม่มีครับ

 

4.เรามีแผนใช้เครื่องบินเข้าต่อตีกองเรือฝรั่งเศสเป็นอันดับแรกหรือมีแผนจะ ใช้ อยู่หากกองเรือตรวจเจอประ มาณนี้รึเปล่าครับ

ขอบพระคุณครับ

-แผนของเราคือ เอาเรือหลวงศรีอยุธยาไปยันครับ โดยใช้เรือดำน้ำลาดตระเวณหาข่าว ไม่มีเครื่องบินทร.เข้าร่วมตามที่เคยกล่าวมา

    เช้าตรู่วันที่ 17 มกราคม 2484 กองเรือรบจำนวน 7 ลำของหมวดเรือเฉพาะกิจที่ 7 ฝรั่งเศส ได้รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำไทยบริเวณเกาะช้าง ก่อนตรงเข้าเข้าโจมตีหมวดเรือไทยที่ส่งเรือรบจำนวน 6 ลำเข้ามาปักหลักตั้งรับ ผลการสู้รบส่งผลให้เรือตอร์ปิโดใหญ่จำนวน 2 ลำของไทยอัปปางลง ด้านเรือหลวงธนบุรีก็เกิดความเสียหายหนักก่อนจมลงบริเวณแหลมงอบ จังหวัดตราด 7 เดือนหลังจากนั้นกองทัพเรือได้ว่าจ้างบริษัทมิตซุยบุซซันไกชา ให้มาทำการกู้เรือขึ้นและจัดการลากกลับสู่ฝั่ง แต่ราคาซ่อมเรือคืนสภาพที่ญี่ปุ่นเสนอมาให้ค่อนข้างแพงมาก กองทัพเรือจึงให้กรมอู่ทหารเรือทำการซ่อมเรือปืนหนักลำนี้ให้สามารถใช้งาน ได้ ถึงแม้จะหมดคุณค่าในเรื่องทำการรบจริงไปแล้วก็ตาม แต่เรือหลวงธนบุรีก็ยังรับใช้ชาติต่อไปในฐานะเรือฝึก กระทั่งปลดประจำการวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2502

    เรือปืนหนักลำที่ 2 คือเรือหลวงศรีอยุธยา คือเรือที่ฝรั่งเศสคาดว่าประจำการอยู่ที่เกาะช้างอย่างแน่นอน หลังการประกาศสงครามราชนาวีไทยได้ส่งเรือรบจากหมวด 1 กองเรือที่ 1 รวมทั้งสิ้น 6 ลำ เข้าไปรักษาการณ์บริเวณเกาะช้าง ซึ่งเป็นชายแดนภาคตะวันออกติดกับดินแดนอินโดจีนฝรั่งเศส ในหมวดเรือดังกล่าวประกอบไปด้วย เรือหลวงศรีอยุธยาศรีอยุธยา เรือหลวงภูเก็ต เรือหลวงสุราษฎร์ เรือหลวงคราม เรือดำน้ำ 2 ลำ และเรือหลวงตระเวนวารี ซึ่งถ้าหมวดเรือเฉพาะกิจที่ 7 ฝรั่งเศสบุกรุกเข้ามา ก็จะต้องปะทะกันกับเรือหลวงศรีอยุธยาอย่างแน่นอน ทว่าวันที่ 14 มกราคม 2484 กองทัพเรือไทยได้ส่งเรือรบจากหมวด 2 กองเรือที่ 1 จำนวน 6 ลำ นำโดยเรือหลวงธนบุรี เรือหลวงสงขลา เรือหลวงชลบุรี เรือหลวงระยอง เรือหลวงหนองสาหร่าย และเรือหลวงเทียวอุทก  เข้าไปผลัดเปลี่ยนหมวดเดิมที่ประจำการมานานแล้ว จากนั้นในวันที่ 16 มกราคม 2484 เรือรบจากหมวด 1 กองเรือที่ 1 จึงได้เดินทางกลับฐานทัพเรือสัตหีบ ถ้ากองทัพเรือฝรั่งเศสตัดสินใจบุกรุกน่านน้ำไทยก่อนหน้านี้ซัก 1 ถึง 2 วัน พวกเขาจะต้องพบกับเรือปืนหนัก 2 ลำ เรือตอร์ปิโด 5 ลำ เรือดำน้ำ 2 ลำ และเรืออื่นๆอีก 3 ลำ แปรขบวนรอตั้งรับอยู่

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 31/10/2016 22:12:07


ความคิดเห็นที่ 2


ทีนี้ผมพูดบ้างนะครับ สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศแรกที่ใช้เครื่องบินในการทำสงครามทางทะเลคือ "ญี่ปุ่น" ครับ อังกฤษ ฝรั่งเศสเอง ยังไม่ทันสมัยเท่าเลย แล้วจะมาเอานิยายอะไรกับประเทศสยาม

 

 

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 31/10/2016 22:17:56


ความคิดเห็นที่ 3


ความจริงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องบินทะเลหรือเปล่าครับ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเป็นตอร์ปิโดด้วย (เราเองก็พิเศษด้วยการบอมบ์เรือหลวงศรีอยุธยามาแล้ว) 

แต่น่าจะเป็นประเด็นที่กล่าวมาคือเป็นยุทธวิธีแบบใหม่ เราคงยังไม่มีอยู่ในหัว

เพราะสมัยนั้นทอ.เราก็บินหย่อนระเบิดกันไปมากับฝรั่งเศสอินโดจีนแถวเขมรอยู่แล้ว แต่การประสานระหว่างเหล่าทัพสมัยนั้นเราก็คงยังไม่เป็น 

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 01/11/2016 08:54:54


ความคิดเห็นที่ 4


http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4768.0

แนะนำบทความเพิ่มเติมอีกแหล่งหนึ่งครับ เรือนไทยวิชาการ

โดยคุณ Naris เมื่อวันที่ 01/11/2016 09:12:14


ความคิดเห็นที่ 5


1. ได้อ่านหนังสือเรื่อง "การเดินทางรอบโลก ตอนประเทศสยาม" เขียนโดย กองต์ เดอ โบวัวร์ แล้วกรมศิลปากรนำมาแปลเป็นไทย แม้จะไม่ได้เขียนเรื่องการสู้รบของประเทศสยามกับฝรั่งเศสในสมัยนั้น แต่การเดินทางของ มร.กองต์ มาประเทศสยามเกิดขึ้นในช่วงนั้นพอดี มีช่วงหนึ่งเขาบรรยายสภาพของสยามประเทศ ในการเดินทางด้วยเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา (หน้า 8) มีช่วงหนึ่งเขียนว่า "เรา (มร.กองต์กับคนที่อยู่ในเรือ) เดินทางต่อไปในแม่น้ำ (แม่น้ำเจ้าพระยาโดยเดินทางด้วยเรือจากสิงคโปร์) อีกเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ทางด้านซ้ายมือมีป้อมซึ่งปราศจากอาวุธ ปืนใหญ่ซึ่งเหลือแต่ซาก ปกคลุมด้วยหญ้าและเถาวัลย์... ทางด้านขวามือมีศาลายาวหกร้อยเมตรมุงด้วยจาก (ใบจาก) ศาลานี้เป็นที่เก็บ ลาซางกุตะ หรือโซ่ศักดิ์สิทธิ์ โซ่นี้ประกอบด้วยไม้สักขนาดสองตารางฟุตเป็นร้อย ๆ แผ่น ร้อยติดกับด้วยห่วงเหล็กขนาดใหญ่ นำมาใช้เพื่อป้องกันแม่น้ำ พวกนักรบชาวสยามเชื่อว่า ถ้าเขากั้นแม่น้ำด้วยโซ่นี้แล้ว เรือปืนของชาวยุโรป จะไม่สามารถแล่นผ่านเข้าไปได้..." 

2. คนไทยจำนวนมาก ที่มีความคิดเทิดทูนฝรั่งสุดจิตสุดใจ ถ้าได้มาดูประวัติศาสตร์ความจริงที่ฝรั่งเศสยึดแผ่นดินด้านตะวันออก อังกฤษยึดแผ่นดินด้านใต้ คุณจะเปลี่ยนความรู้สึกที่ถูกระบบการศึกษาไทยที่ส่วนใหญ่จะกล่าวถึงระบบแบบตะวันตกดีแทบทุกอย่าง เรารับข้อมูลแบบนั้นตั้งแต่เด็ก น่าเศร้าใจกับประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งย่ำยีประเทศสยามเรา จนในหลวง ร. 5 แค้นใจจนพระประชวร แต่คนไทยปัจจุบันส่วนใหญ่ กลับเทิดทูนฝรั่ง ระบบการศึกษาชั้นประถม/มัธยมแบบไทย ๆ/คุณภาพครูไทย (ส่วนใหญ่) ?

โดยคุณ boonn1234 เมื่อวันที่ 01/11/2016 10:28:06


ความคิดเห็นที่ 6


จำได้ว่าที่ช่วงกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส สนามบินเนินพลอยแหวน จันทบุรี จะมีกำลังทางอากาศสนามวางอยู่คือ

กองบินน้อยผสมที่๗๕ จันทบุรี มี ๒ฝูงบินขับไล่ ๑ฝูงบินตรวจการณ์ และ ๑หมู่บินลาดตระเวน

และ ฝูงบินร่วมกองทัพเรือ จันทบุรี มี ๑ฝูงบินขับไล่ และ ๑หมู่บินลาดตระเวน

 

ตามที่มีรายงานเหตุการณ์บอกเล่ามาภายหลังระบุว่า หลังจากที่หมู่เรือฝรั่งเศสเข้าปะทะกับกองทัพเรือไทยที่เกาะช้างแล้ว

ทางกองทัพอากาศได้ส่งหมู่บินโจมตีพร้อมด้วยหมู่บินขับไล่คุ้มกันบินออกทะเลเพื่อติดตามเรือรบฝรั่งเศสเพื่อจะเข้าโจมตีตอบโต้

แต่ทว่าหมู่บินไทยไม่พบกองเรือฝรั่งเศสจึงต้องบินกลับฐานครับ (สมัยนั้นมีวิทยุสื่อสารบนเครื่องบินแล้ว แต่ดูเหมือนไม่ได้ติดตั้งทุกเครื่องและมีข้อจำกัดในการใช้งาน)

 

อีกส่วนหนึ่งคือตั้งแต่สมัยยังเป็น กรมอากาศยาน กองทัพบก ในปี พ.ศ.๒๔๗๗ มีการฝึกซ้อมรบทางอากาศร่วมระหว่างกรมอากาศยานกับกองทัพเรือ ในการฝึกภาครวมของกองทัพเรือที่สัตหีบ ในภารกิจตรวจการณ์กระสุนตกให้กองเรือ การลาดตระเวนในอ่าวสยาม และการโจมตีเรือในทะเลด้วยครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 01/11/2016 10:40:22


ความคิดเห็นที่ 7


ประเทศแรกที่ใช้เครื่องบินทำสงครามทางทะเล โจมตีเรือรบสำเร็จ คืออังกฤษ ในยุทธการรบการกองเรืออิตาลี ที่Taranto harbour

ฐานทัพเรือ โตแลนโต้ของอิตาลี ในปี 1940 และเป็นแบบอย่างให้กับญี่ปุันที่ใช้โจมตีเพิล์ฮาเบิ่ล ในเดือนธันวาคม 1941

https://en.wikipedia.org/wiki/Battle_of_Taranto

ครั้งที่สองกับเรือBISMARCH บิสมาร์ค ของเยอรมัน ต้องพบจุดจบ ในเดือน May 1941 สาเหตุก็เพราะ เครื่องบินทิ้งตอร์ปิโดจากเรือบรรทุกเครื่องบินHMS Ark Roya อาร์ค รอยัล โดยเครื่องบินSwordfish  ของอังกฤษ สาเหตุที่ต้องใช้เครื่องบินเหล่านั้นโจมตีเรือ บิสมาร์ค เพราะอังกฤษเข็ดขยาดเรือรบลำนี้หลังจาก สูญเสียเรือ  HMS Hood อังกฤษออกคำสั่งห้ามไม่ให้เรือประจันบานของตนเองเข้าปะทะกับเรือ บิสมาร์คโดยตรง

https://en.wikipedia.org/wiki/German_battleship_Bismarck

 

แต่ถ้าจะบอกว่าอังกฤษเป็นชาติแรกที่ริเริ่มใช้เครื่องบินทางทะเลนั้นไม่ใช้ครับ คือสหรัฐอเมริกาครับ

บนเรือลาดตระเวน  USS Birmingham ในปี 1911

แต่มีการนำเครื่องทางทะเลมาใช้ในสงครามอย่างเป็นทางการในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

 เรือบรรทุกเครื่องบินอย่างไม่เป็นทางการลำแรกของโลก ที่มีดาดฟ้าขึ้นลงของเครื่องบินที่ยาวไปตลอดลำ ซึ่งเป็นเรือต้นแบบของเรือบรรทุกเครื่องบินในเวลาต่อมา  ปล่อยลงน้ำ ในปี 1917 คือ เรือ อาก๊อส (HMS Argus)" ซึ่งมันได้รับการ ปรับปรุงมาจากแบบเรือสำราญ คอนเต้ รอสโซ่ (Conte Rosso)

โดยเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้งานเฉพาะกับเครื่องบินจริงๆ คือ ยังเถียงกันไม่จบว่าระหว่างเรือ Hosho ของญี่ปุ่น หรือ เรือ USS Langley ของสหรัฐ ที่เข้าประจำการพร้อมกันในปี 1922 แต่ทางwiki ยกให้เรือ Hosho เพราะว่ามันถูกวางกระดูกงูก่อนคือ ในปี 1918

ส่วนสาเหตุที่ญี่ปุ่นมีเรือบรรทุกเครื่องบินและกองบินรบทางทะเลมากที่สุดในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่สองก็เพราะ ญี่ปุ่นได้ลงนามทำสนธิสัญญานาวิกวอชิงตันที่ทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถสร้างเรือประจัญบานได้จำนวนเท่าสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ

ญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินจำนวนมากเพื่อทดแทนเรือประจัญบาน ที่ต้องถือดุลอำนาจทางทะเลกับสหรัฐและอังกฤษ

https://en.wikipedia.org/wiki/History_of_the_aircraft_carrier

 

ประเทศสยามเราในยุคนั้น กองทัพเรือยังไม่มีเครื่องบินรบสำหรับโจมตีเรือครับ แค่เครื่องบินติดระเบิดของกองทัพอากาศ เท่านั้น

 

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 01/11/2016 11:07:08


ความคิดเห็นที่ 8


กรณีอังกฤษทั้ง 2 ครั้ง ผมขอใช้คำว่า "ตบเด็ก" กับ "ปอดแหก" น่าจะเหมาะสมกว่านะครับ

 

อันที่จริงการโจมตีท่าเรือ ไม่น่าเรียกว่าการรบทางทะเลเลย เพราะอีกฝ่ายไม่มีกำลังทางเรือเลยก็โจมตีได้ เช่นทอ.เราส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดท่าเรือที่ไซ่ง่อนก็ว่าไป

 

ส่วนกรณี BISMARCH บ่งบอกอย่างชัดเจน ว่ากองทัพเรืออังกฤษมียุทธวิธีที่ล้าสมัยมาก ทั้งที่รู้อยู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นเรือรบทันสมัยมาก  ก็ยังดันทุรังส่งแม่แก่ออกไปแบกน้ำหนัก ถ้าอังกฤษมียุทธวิธีที่ทันสมัยจริง จะต้องส่งเครื่องบินออกไล่ล่าตั้งแต่รอบแรกแล้วสิครับ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า BISMARCH ออกทะเล ยังดื้อแพ่งทำตามวิธีการรบแบบเดิม สุดท้ายก็เลยต้องระดมทั้งกองทัพออกไล่ล่า เพื่อรักษาหน้าตัวเองเท่านั้นเอง ค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็เยอะพอสมควรเลยนะ

 

ทีนี้มาถึงญี่ปุ่นของผมบ้าง พวกเขาใช้แผนส่งเครื่องบินออกไปโจมตีเรือฝ่ายตรงข้ามมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ชื่อว่าเป็นคนแรกที่ทำ ด้วยเหตุผลง่ายมาก็คือ เพราะเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สองทีหลัง ถ้าญี่ปุ่นบุกพร้อมเยอรมันเขาได้ชื่อว่าเป็นรายแรกแน่นอน

 

เรื่องต่อมาก็คือ ญี่ปุ่นบุกจีนก็ใช้ยุทธวิธีเช่นนี้ คือใช้แบบนี้ตั้งแต่ทำ Interwar แล้ว แต่จีนไม่มีเรือรบให้จัดการซักเท่าไหร่ ไอ้ที่มีก็ลำเล็กลำน้อยไม่มีชื่อเสียง พวกเรืออีกแปะ เรือเอี้ยมจุ๊น เรือหาปลา จึงไม่ได้รับการบันทึกจากฝรั่งหัวทอง

 

จากข้อมูลท่าน ObeOne  ก็บอกอย่างชัดเจนแล้ว ว่าเรือ เรือ Hosho ของญี่ปุ่นเข้าประจำการในปี 1922 ชัดเจนมากว่ายุทธวิธีของเขาเตรียมพร้อมมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ถึงได้มีกองเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่มากเพียงนี้ รวมทั้งมีนักบินที่เก่งมากจำนวนมากอีกด้วย (แต่ตายเกือบหมดตั้งแต่สงครามมิดเวย์) เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลาเตรียมตัวเป็นสิบ ๆ ปีนะครับ

 

 

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 01/11/2016 13:32:21


ความคิดเห็นที่ 9


เรื่องสนธิสัญญาอะไรเนี่ย ผมว่ามันไร้สาระมาก ดูอย่างเยอรมันก็ได้ โดนบีบจนไข่เขียวแล้วเขียวอีก ก็ยังสร้างกำลังทางทหารขนาดมหาศาลขึ้นมาได้ไง ???

 

อังกฤษกับฝรั่งเศสทำได้แค่มองตาปริบ ๆ แล้วก็ตัดสินใจประกาศสงคราม จากนั้นจึงส่งทหารเข้าสมรภูมิจำนวนมากกว่าฝ่ายเยอรมันด้วยซ้ำ สุดท้ายต้องระดมเรือมาขนทหารตัวเองหนีกลับเกาะ ถ้าไม่มีทะเลช่วยไว้สงครามจบใน 6 เดือนไปแล้ว

 

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 01/11/2016 13:43:35


ความคิดเห็นที่ 10


ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลา ในตอนต้นของหนังเรื่อง เพิลฮาเบอร์ ตอนต้นเรื่องเขาได้เล่าเล็กน้อยเกี่ยวกับการวางแผนโจมตีเพิลฮาเบอร์ หรืออีกเรื่องคือเรื่อง โตราโตรา แต่ก็นานแล้วที่ได้ดู ในเนื้อเรื่องคือกองทัพแห่งจักพรรดิญี่ปุ่นได้วางแผนที่จะโจมตีฐานทัพอเมริกาและทำการฝึกนักบินให้พร้อมทำหรับการโจมตี ประมาณนี้ล่ะครับเท่าที่จำได้

 

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 01/11/2016 13:54:40


ความคิดเห็นที่ 11


คือเยอรมันระเมิดข้อตกลงสนธิสัญญาแวซายด์เหตุใดลองไปอ่านดูในกูเกิ่ลครับ 

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%A2

ในสนธิสัญญาแวซายด์ที่ผูกมัดกับเยอรมัน ส่วนหนึ่งมันล้มเหลวอันเนื่องมาจากชาติพันธมิตรกันเองที่ชนะสงครามในตอนนั้นแตกแยกกันเองในเรื่องของข้อตกลงการแบ่งดินแดน ทั้งโซเวียต และอิตาลี ในยุโรปและญี่ปุ่นในเอเซีย มีการละเมิดสนธิสัญญาดังกล่าวในกลุ่มชาติพันธมิตรเก่า ซึ่งนาซีเยอรมันฉวยโอกาสตรงจุดนี้ ละเมิดสัญญาบ้าง ทำให้สนธิสัญญาแวร์ซายด์ไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไป

แต่กับญี่ปุ่นในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจะเกิด ญี่ปุ่นเพิ่งพาแหล่งพลังงานน้ำมันจากสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก และจากอังกฤษรองลงมา ซึ่งอย่างที่รู้ๆกันว่า ในยุคนั้น แหล่งน้ำมันตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของยุโรปแทบทั้งหมด ไม่ว่าจะมาลายู บอเนียว หมู่เกาะฮอลันดาและแถบตะวันออกกลาง

ญี่ปุ่นต้องซื้อน้ำมันจาก 2 ประเทศนี้ ถูกบังคับให้ลงนามในสนธิสัญญา นาวิกวอชิงตัน อย่างไม่มีทางเลือก 

ช่วงที่ญี่ปุ่นไปลงนามสันธิสัญญาเป็นฝ่ายอักษะ(เยอรมัน อิตาลี และญี่ปุ่น) ซึ่งโดนสหรัฐตัดโควต้าน้ำมันที่ขายให้ญี่ปุ่น จนเป็นเหตุให้ญี่ปุ่นต้องรีบเข้าสู่สงคราม

และเป็นที่มาของการวางแผนการโจมตีเพิ่ลฮาร์เบิ่ลที่เกาะฮาวายของสหรัฐเพื่อประกาศสงครามกับอังกฤษแล้วส่ง กองเรือรบลงไปยึดอาเซียนซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันที่ญี่ปุ่นได้หมายตาเอาไว้แล้วเพื่อทดแทนการสั่งซื้อน้ำมันจากสหรัฐและอังกฤษ

 

การโจมตีเพิ่ลฮาเบิ่ล ก็ถือว่าเป็นยุทธวิธีตบเด็ก ก่ะ  ปอดแหกเหมือนกันนั้นแหละครับ ญี่ปุ่นทำมาเป็นออกมาแก้ต่างว่า ส่งสารประกาศสงครามล้าช้าไปหนึ่งชั่วโมง แต่แท้ที่จริงลึกๆแล้วคือต้องการจะลอบโจมตีกองเรือรบสหรัฐโดยไม่ทันได้ตั้งตัวต่างหาก

ถ้าเจตนาบริสุทธิประกาศสงครามกับสหรัฐตั้งแต่ยังไม่ส่งกองเรือไปประชิดฮาวายสิครับ (โดยก่อนหน้านั้นมีการส่งสารยังทูตสหรัฐในญี่ปุ่น ในช่วงระหว่างที่มีการเจราจาสันติ โดยกล่าวอ้างว่าทางญี่ปุ่นการส่งเรือรบคุ้มกันเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ห้าลำ (คือเรือบรรทุกเครื่องบินห้าลำ) ออกจากท่าเรือญี่ปุ่นเพื่อเดินทางไปทางอาเซียนแต่แท้จริงแล้วมุ่งหน้าไปฮาวาย เมื่อถึงเวลาตามนัดหมายก็ โจมตีเพิ่ลฮาเบิ่ล จนทำให้ ประธานาธิปบดีรูสเวลต์ ออกมาประนามการโจมตีครั้งนั้นว่า เป็นโจมตีแบบหมาลอบกัด และมีความอัปยศที่สุด

 

อังกฤษ ได้ประกาศสงครามกับอิตาลีไปก่อนหน้า หนึ่งปีถึงได้เปิดฉากโจมตี ฐานทัพเรือ โตลันโต้ โดยที่อิตาลีไม่คาดคิดว่าอังกฤษจะกล้าทำ

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 01/11/2016 20:16:07