หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


กองทัพเวียตนามน่ากลัวตรงไหน ย้อนรอย เมื่อเวียตนามอยากบุกไทย

โดยคุณ : กบ เมื่อวันที่ : 13/01/2018 07:22:48

ผมเป็นสมาชิกเฟสบุ๊ค ชมรมณ์ผู้ศึกษาสงครามเวียตนาม ...............   มีการถกและแสดงความคิดเห็น กรณีย้อนหลังไปเมื่อเวียตนามมีเป้าหมายจะบุกเข้าไทย  โดยมีผู้ชี้แจงว่า เสธ.ฯฝ่ายไทยประเมินขีดความสามารถการตั้งรับหน่วงเวลาได้เพียง 2 วัน  กองทัพเวียตนามจะบุกเข้าถึงกรุงเทพ ซึ่งตรงกับการคุยโอ่ของนายพล เกี๊ยบ ซึ่งตั้งเป้าว่า จะส่งทหารบุกจากชายแดนไทยตอนเช้า และจะตามเข้ามานั่งเปิบมื้อกลางวันที่กรุงเทพ.......................    ด้วยสาเหตุนี้ นายกไทย คือ ท่านหม่อมคึกฤทธิ์ ถึงกับก้นร้อน ............... เรียกว่า กราบขออภัยพี่ใหญ่ นำคณะผู้ติดตาม เข้าพบผู้นำจีน ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูกับจีนครั้งแรก หลังจากถูกปิดตายด้วยสลักกลอนแห่งความต่างลัทธิกันมานาน.........

 

ผลการเจรจาเบิกฤกษ์ครั้งนั้น เป็นอย่างไรทุกท่านคงทราบ   เวียตนามประสบปัญหาการรบหนักในเขมร  เพราะต้องชนกับเขมรแดง ซึ่งมีจีน และพี่ไทยหนุนหลัง    อาวุธต่างๆ ปืน กระสุน แซม รถถัง(ซึ่งอาจลงไปดำน้ำในอ่าวแถวๆนี้) ถูกส่งเข้าไปเพื่อยันการรุกคืบหน้า อีกด้าน จีนเคลื่อนทัพกดดัน จนทำให้เวียตนามต้องเปลี่ยนแนวรบ......................

 

ทุกอย่างผ่านไปแล้ว.....................   หลายคนมีข้อสงสัย    ทำไมไทย กลัวเวียตนามหนักหนา ................  คำตอบคือ กำลังยานเกราะ   ............... เวียตนามมีกองทัพยานเกราะที่น่าเกรงขามมาก   แม้ปัจุบันก็ยังน่าสะพรึง   ด้วยตัวเลขรถถังรวมกว่า 2 พัน..............นี่เองที่ทำให้ไทยถึงกับขวัญผวา ................  แม้การรบสั่งสอนของจีน  ก็ประสบการสูญเสียอย่างหนัก....................  กองทัพรถถังเรือนพัน เคลื่นที่ไปข้างหน้ามันน่ากลัวยังไง   ลองชม  วีดีโอนี้ดู

 

https://www.youtube.com/watch?v=039mG8zUjV0

 

 





ความคิดเห็นที่ 1


ตามดูด้วยครับ

โดยคุณ cumulus เมื่อวันที่ 02/12/2017 20:42:45


ความคิดเห็นที่ 2


เราเป็นหนี้บุญคุณจีนใช่ไหมครับท่านกบ. พอจะเข้าใจว่าอาวุธเค้าเหลือเยอะ แต่เราไม่ไหวจริงๆใช่ไหมครับถึงได้ข่มกันขนาดนั้น...

โดยคุณ 8iam เมื่อวันที่ 03/12/2017 16:13:12


ความคิดเห็นที่ 3


สรุปโดยรวมคือ.............. งานนี้เรารอดได้เพราะจีนครัับ...................... แต่มูลเหตุที่นำไปสู่การช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะจีนรักเรา หรือเราเคยไปช่วยพ่อแม่เขาตกน้ำป๋อแป๋มมเช่นนั้นดอกครับ......................

 

จีนมองเห็นความคุ้มค่าในการลงทุนทางทหารด้านนี้  โดยมองว่า ที่เคยสนับสนุนผู้ก่อการร้ายคอมมิวสิตส์ที่ผ่านมานั้น ยุทธศาสตร์ไม่สามารถเอาชนะความเป็นปึกแผ่นของไทยได้...............  กลับกัน   คราวนี้ สยามถึงคราวคับขัน จะถูกเวียตนามซึ่งมีลูกพี่เป็นโซเวียตคิดรวมหัวรวบหาง  วิ่งหนีตาย กระเสือกกระสนมาขอความช่วยเหลือ   จีนเจ้าตำหรับการตลาด  มีหรือจะคิดน้อยแค่หน้าเดียว.........

แน่นอน ไม่มีอะไรในโลกได้มาเปล่าๆ............. นี่ข้อแรก     ข้อที่สองคือ   การให้ความช่วยเหลือแก่ไทยครั้งนี้ ถือเป็นการแผ่ขยายอำนาจของจีนสู่ภูมิภาคอย่างเต็มรูปแบบ ..........................  ท่ามกลางคมหอกของยักษ์ใหญ่สองฝ่าย คือ ไอ้กัน และ โซเวียต จีนจะสามารถแผ่ขยายอิทธิพล โดยแทรกลงกลางระหว่างสองฝ่ายได้อย่างเนียนๆ   และถือเป็นการตบหน้าอเมริกาด้วยฝ่าเท้าตรงบริเวณกึ่งกลางของส้นแบบฉาดใหญ่ เพราะเอ็งบ่มีไก๊แม้แต่จะปกป้องลูกกะเป๋งอันเป็นที่มั่นสุดท้าย...................

สงครามครั้งนั้น  จีนลงทุนเยอะ แต่ก็รับเยอะ............... ทางลับ รับอะไรไปมั่ง คงไม่มีใครรู้    (ขนาดไอ้กันสิงอยู่เป็นครึ่งร้อยปี มีใครรู้บ้าง ว่าสูบอะไรไป????)    แต่ทางสว่างเห็นโต้งๆนั้นมีแน่แท้............ ไอ้กันจะขยับอะไรแรงๆเหมือนสมัยยุคจีไอบุกก็คงทำไม่ได้ เพราะลูกกะเป๋งบอก เบาๆหน่อยลูกพี่ เกรงใจผู้มีพระคุณผมหน่อย.............. ความสัมพันธ์การทูต ผู้ใหญ่ก็ไปมาบ่อยๆ     พักหลังสยาม ดูจะกลายเป็นนกสองหัวด้วยซ้ำ (การทูตแนวถนัด สองหัวนก , ยกให้เพื่อแลก เราคงความเป็นเอกราช มีชาติให้ลูกให้หลานแว้นได้ ก็ด้วยนโยบายเหล่านี้ )................  และที่สำคัญ    ยุคนี้แหล่ะพี่น้อง  2017    ชัดเจนว่า   กำลังจะหักลูกพี่ หันเข้าหาผู้มีพระคุณแบบเต็มลำเข้าแล้ว.............

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 03/12/2017 20:00:21


ความคิดเห็นที่ 4


เทียบกำลังรบในช่วงนั้นนะครับ   ผมเคยอ่านหนังสือสงครามสมัย ปอ.3     บอกว่า  เวียตนามมีกำลังทัพบก ราว ล้านสอง อันนี้ไม่รวมกำลังสำรองนะครับ    ฝ่ายไทย มีกำลังอยู่ทั้งหมด สี่แสน   ..... เป็นรองด้านปริมาณ 3 / 1 ...................  ด้านยานเกราะ  เวียตนามมีราวๆเกือบ สี่พัน  จำนวนนี้เป็นรถถังหลัก และรถถังเบาถึงสองพัน    ฝ่ายไทยมี รถถังเบา เอ็ม-41 ราวๆ สองร้อย  จำนวนนี้ หลายสิบ ต้องจอดอยู่เมืองหลวงไว้กันท่า การปฎิวัตร ( ถถถถถถถถถ )  .....................  เครื่องบินรบ  เวียตนามมี มิก-17 , 19 , 21   ซู-22  รวมกว่าสามร้อย    แต่ตามข่าวบอกว่า นำมาจัดทัพแนวรบด้านนี้ได้ครึ่งนึงคือ 150     ฝ่ายไทย มี เอฟ-5 สองฝูง (เอฟ-5อี พึ่งมีฝูงเดียว) รวม 30 กว่าๆ   เอ-37, โบรองโก้ อีก40   ศิริรวมทุกอย่าง    โดยเฉพาะยานเกราะ และ การครองอากาศ ถือว่า เป็นรองหลายขุม     สถานการณ์น่าเป็นห่วงครับ...........

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 03/12/2017 20:27:58


ความคิดเห็นที่ 5


ขอบคุณครับ. 

 

โดยคุณ 8iam เมื่อวันที่ 03/12/2017 21:44:44


ความคิดเห็นที่ 6


ในเวลานั้นถึงเราจะไม่ไปขอให้จีนช่วย ยังไงจีนก็ต้องรบกับเวียดนามอยู่ดี เพราะจีนต้องการสั่งสอนเวียดนาม เพียงแต่มันประจวบเหมาะกับเวลาที่จีนพึ่งเปิดประเทศแล้วต้องการหามิตร แล้วเวียดนามเองก็พยายามแผ่อำนาจในภูมิภาคนี้ การทำให้เวียดนามต้องพะวักพะวงกับแนวรบทางกัมพูชาและไทย จะทำให้ไม่สามารถทุ่มกำลังเพื่อฝั่งจีนด้านเดียว จะเป็นประโยชน์กับจีนมากกว่า ๆการช่วยเหลือไทยเพื่อเป็นบุญคุณจึงเป็นผลพลอยได้ไปด้วย
โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 04/12/2017 10:09:14


ความคิดเห็นที่ 7


ขออนุญาตถามครับ

1. จากข้อมูลกำลังรบ เวียตนามมีกำลังรบมากกว่าเรา ห้าเอาหนึ่ง หากเวียตนามต้องการเอาชนะเราแบบเบ็ดเสร็จภายใน 1 วัน เขาจะต้องส่งกำลังรบมุ่งหน้ามาหาเราทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ครับ

2. เรารับทราบการรวมกำลังเพื่อบุกนั้นเมื่อใดครับ จึงสามารถไปเจรจากับประเทศจีนได้ทันเวลา (ถ้าถึงขนาดมั่นใจว่าเริ่มบุกเช้า เที่ยงก็กินข้าวในกรุงเทพได้ อย่างนี้ทันทีที่รู้ว่าเขาจะบุก ก็ไม่น่าบินไปจีนทันแล้วนี่ครับ)

3. ประเทศจีนใช้เวลานานเท่าใดในการตัดสินใจ และเตรียมความพร้อมในการเปิดสงครามกับเวียตนามเพื่อช่วยเหลือไทยครับ (จีนเอง เมื่อไทยขอเข้าพบ ก็ต้องเรียกประชุม หารือ ตัดสินใจ ระดมพล ทั้งหมดนี่ ก็ไม่น่าทันภายในครึงวันหนะครับ)

4. เสนาธิการของฝ่ายเวียตนาม ไม่คาดคิดว่าไทยจะมาแผนนี้ใช่ไหมครับ (ถ้าสมมุติว่า เวียตนามมองออก ชิงส่งคนไปคุยกับจีนไว้ก่อน หรือ แค่ไปถ่วงเวลาไม่ให้ผู้แทนไทยเข้าพบผู้แทนรัฐบาลจีนได้ภายในครึ่งวัน หรือ ขอให้โซเวียตจัดทัพกดดันจีนรอไว้ทางด้านหลังบ้าง หากเป็นเช่นนั้น เราก็คงแพ้ไปแล้ว ใช่ไหมครับ)

5. ประเทศจีนใช้กำลังเท่าใดครับ ถึงสามารถทำให้กองทัพเวียตนามที่ใช้เวลาแค่วันเดียวก็ถึงกรุงเทพ ต้องถอยกลับกระทันหันได้เช่นนั้น (เหตุใดจึงไม่บุกให้ชนะก่อน แล้วค่อยถอย คือ ผมดันไปนึกถึงทัพพม่าเผากรุงศรีฯ แล้วกวาดต้อนเชลยถอยกลับอังวะ ไปช่วยพระเจ้าอังวะรบมองโกลก็ยังทัน)

6. ในคราวนั้น ทัพเวียตนามบุกเข้ามาได้ถึงที่ใดครับ (ทางบก ทางเรือ ทางอากาศ โดยเฉพาะทางอากาศครับ ถ้าการรบจะจบลงในครึ่ง หรือหนึ่งวันได้จริง ทัพเวียตนามต้องครองฟ้าได้ก่อนหน้านั้นใช่ไหมครับ และในคราวนั้น มีการรบทางอากาศเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรครับ)

7. ด้วยกำลังรบของจีน จีนได้สร้างความคับขันอะไรให้กับเวียตนามครับ แบบว่า บุกวันเดียวก็ถึงฮานอยเหมือนกัน อะไรอย่างนั้นหรือเปล่าครับ

8. และหากเป็นเช่นนั้นจริง ทัพที่เตรียมบุกไทยอยู่ทางใต้ จะสามารถย้อนกลับขึ้นไปช่วยภาคเหนือของเวียตนามได้ทันเวลาหรือครับ

ขอบคุณครับ

โดยคุณ Naris เมื่อวันที่ 06/12/2017 09:45:49


ความคิดเห็นที่ 8


ที่จริงผมเองก็อ่านเรื่องเกี่ยวกับไทยเจรจาจีน ให้จีนไปเปิดสงครามอีกด้านกับเวียดนาม

จนเวียดนามพะวักพะวงและถอนทหารกองพลที่ดีที่สุด(เขาว่างั้น)ที่เตรียมใช้บุกไทย กลับไปยันจีน

ซึ่งบทความแนวๆนี้..ลงตามเว็บต่างๆหลายแห่ง ใครได้อ่านดูแล้วก็ให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ ว่าฝ่ายไทยเราเทพมาก

สามารถวางกลยุทธ์จนเวียดนามต้องถอนทหารกลับไปได้

แต่ความจริงแล้วผมรู้สึกว่ามันเป็นการเขียนอวยตัวเองยังไงก็ไม่รู้

เพราะในความจริงผมก็สงสัยหลายๆอย่างเหมือนที่ท่าน Naris สงสัยเช่นกัน

และอีกเรื่องนึงก็คือ หากไม่มองกำลังทางบกของเวียดนาม เอาเฉพาะกำลังทางอากาศของเวียดนาม

ผมว่าตอนนั้นก็เหนือกว่าไทยมาก มีทั้งเครื่องบินรบของเวียดนามเอง อย่างมิก-21 , มิก-17 , Mig-19

ทั้งเครื่องบินรบที่เวียดนามยึดได้จากของที่อเมริกาทิ้งไว้ขนกลับไม่ทัน ก็น่าจะเป็นตัวเลขที่สูงอยู่

ถ้าตอนนั้นไทยมีเอฟ-5 เวียดนามก็มีเอฟ-5ที่ยึดจากเมกาเหมือนกัน แถมมีมิกจากโซเวียตอีกเป็นกระบุง

ชนิดที่ว่าเอาจำนวนเอฟ-5 ของเราทั้งประเทศรวมกัน ณ ตอนนั้น ยังไงก็สู้ไม่ได้

ซึ่งในทางหลักการที่เขาว่ากันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร  หากใครต้องการความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ต้องครองอากาศให้ได้

หากเวียดนามต้องการรบกับไทยถึงขนาดบุกมายึดกรุงเทพจริง คงต้องทำสงครามเต็มรูปแบบกับไทย

กำลังทางอากาศของเวียดนามก็คงต้องออกโรงแน่ๆ แต่ทำไมแทบไม่มีบันทึกเกี่ยวกับการนำกำลังทางอากาศของเวียดนาม

มาใช้ในการรบกับไทยเลย  เคยเห็นแต่บันทึกเรื่องเครื่องบินสอดแนมเวียดนามล้ำชายแดนไทยเข้ามา แล้วเอฟ-5ของเรา

ขึ้นสะกัดกั้น เอาเข้าจริงๆบันทึกเรื่องที่เราเอากำลังทางอากาศไปโจมตีที่ตั้งทหารเวียดนามตามแนวชายแดนยังมีมากกว่าซะอีก

ทำให้รู้สึกว่า ตอนนั้นเวียดนามจะบุกจริงไทยจริงหรือ..? ไทยเจรจาให้จีนเปิดสงครามกับเวียดนามเพื่อช่วยไทยจริงหรือ..?

แถมช่วงนั้นก็ไม่รู้ว่าเวียดนามเองคุมกัมพูชาได้เบ็ดเสร็จแล้วยัง..ผมว่าตอนนั้นในกัมพูชาเอง น่าจะมีเขมรกลุ่มต่างๆที่รบกับ

เวียดนามอยู่ด้วย..แล้วถ้าเวียดนามมาบุกไทยจะไม่ทำให้เกิดพะวักพะวงหลายทางหรือ..?

จะว่าเวียดนามถอนทหารทั้งหมดไปยันจีนก็ไม่น่าใช่ เพราะผมคุ้นๆว่าเวียดนามเพิ่งถอนทหารออกจากกัมพูชาจนหมด

เมื่อประมาณปี 2530ต้นๆนี้เอง (เหมือนเคยเห็นในข่าว แต่จำได้ไม่แน่ชัด เพราะตอนนั้นยังเด็กมากๆ)

ดูเหมือนตอนนั้นเวียดนามยังจำกัดการรบกับเราอยู่ตามแนวชายแดนมากกว่า หนักไปทางรบกับเขมรแดง

แล้วล้ำเข้ามาในเขตไทย

ผมว่าข้อมูลเรื่องไทยเจรจาจีนให้เปิดสงครามสั่งสอนที่เห็นตามเว็บต่างๆ มันมีหลายๆอย่างที่ไม่ Make Sense

โดยคุณ A_hatyai เมื่อวันที่ 06/12/2017 11:10:32


ความคิดเห็นที่ 9


คือถ้ามองแบบรวบรัด  เวียตนามประกาศจะบุกไทยนั้น คงรวมไว้ในแผนครองรัฐอินโดจีน ซึ่งมี ลาว กัมพูชา และไทย ไว้เป็นหนึ่งเดียว...............    ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าจะใช้เวลาบุกไทยแค่วันเดียว น่าจะเป็นสปีชบนโพเดี้ยมก่อนการเคลื่อนทัพ................... ซึ่ง  ในเขมรแม้เวียตนามสถาปนารัฐบาล เฮงซัมริน ขึ้นเป็นหุ่นเชิด ทว่าความจริง ยังได้รับการต่อต้านจาก เขมรสีหนุ และที่แข็งแกร่งสุดคือ เขมรแดงของ เขียวสัมพัน  ...................

 

การรบมีขั้นตอนพิชัยยุทธ อยู่สามขั้นคือ   การกระแทก    แผ่ขยายผลกวาดล้าง และสถาปนา     ในเขมร แม้เวียตนามจะกระแทกจนแตก จัดตั้งรัฐบาลได้  ทว่าการขยายผลกวาดล้าง ยังไม่สามารถจัดการให้ราบคาบลงไปได้ การสถาปนาความมีเสถียรภาพเต็มรูปแบบจึงยังไม่เกิด....................   อเมริกาเจอกับเวียตกงยังไง เวียตนาม เฮงซัมริน ก็เจอกับเขมรอีก2ฝ่ายในลักษณะแบบนั้น............................   มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 06/12/2017 11:52:07


ความคิดเห็นที่ 10


มองในวิวของจีน................. การบุกยึดและสถาปนารัฐอินโดจีนโดยเวียตนาม ท่ามกลางการยุยงส่งเสริมของโซเวียต เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้     ......... อย่าว่าแต่ไอ้กันซึ่งเพลี่ยงพล้ำเลือดหยดติ๋งๆจากสงคราหมื่นวันเลย       จีนซึ่งอยู่ใกล้ชิดที่สุดในภูมิภาคนี้ก็ไม่อาจยอมรับได้.....................       เมื่อจีนมองเห็นความย่อยยับของอเมริกาที่เกิดขึ้นก็คงไม่อาจนิ่งดูดาย  จึงผันตัวเข้ามาเป็นสปอนเซอร์แบบจัดเต็ม ข้อนี้เป็นการแก้ไขปัญหาแบบมูลฐานแบบหลับตามองข้างเดียวก็อ่านออก..........  มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 06/12/2017 11:59:46


ความคิดเห็นที่ 11


จาก ทามไลน์   จะเห็นว่า  จีนเริ่มเข้ามามีบทบาทแซกแซงทางทหาร  และการช่วยเหลือ (จริงๆอย่าใช้คำว่าช่วยเหลือเลย  ใช้คำว่าขัดขวางการขยายอิทธิพลของโซเวียตจะดีกว่า) ตั้งแต่สนับสนุนเขมรแดง รบกับเวียตนาม เฮงซัมรินแล้ว   ....................  ทุกอย่างคล้องเป็นห่วงวงเดียวกัน  หาใช่ภาพยนต์คนละเรื่อง    การช่วยเหลือมิใช่มุ่งเจาะจงช่วยไทยแต่ฝ่ายเดียว หากแต่ทุกอย่างมันเป็นเรื่องเดียวกัน และดำเนินไปเป็นขั้นตอนตามลำดับ.............. มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 06/12/2017 12:07:16


ความคิดเห็นที่ 12


การช่วยเหลือทางทหารของจีนต่อเขมรแดงนั้น เรียกว่าทำแบบจัดหนักจัดเต็ม โดยผ่านเข้าสู่ทางไทย     อาวุธหลายอย่าง ไทยจำเป็นต้องมีใช้ ทั้งนี้เพื่อความสมเหตุสมผลในการลำเลียงเข้าพื้นที่การรบ  ยกตัวอย่างเช่นรถถัง ที-69   และปืนใหญ่ ไทป์ 59  ................   อาวุธสองชนิดนี้ เป็นตัวอย่างของการลับลวงพราง    เคยมีเพื่อนสมาชิกถกกับผม ว่า รถถังที่มาทดแทน เอ็ม-41 คือ ที-69  ผมบอกว่าไม่ใช่   ที่ถูกคือ เอ็ม-48 เอ5       เจ้า ที-69 เป็นรถถังราคาถูกผ่านการใช้งานแล้ว   เราจัดหาไว้ 30 -50 คัน   รวมถึงปืนใหญ่ น้องหมวยอีก 18 กระบอก     ด้วยความสมเหตุผล  จึงมีการตั้งคลังอาวุธในไทย   มีกระสุนปืนเล็กปืนใหญ่และระเบิด  แท้จริงปลายทางของอาวุธเหล่านี้หาใช่ที่ไทย แต่มันถูกส่งลึกเข้าไปในเขมร ...................... ก็ยังย้ำเล่าซ้ำถึงความจี้เส้น  เมื่อครั้ง พลตำรวจโท ประทิน (ยศขณะนั้น)  ผบ . สอบสวนกลาง   ตรวจพบแหล่งเก็บอาวุธของพ่อค้าอาวุธสงคราม มีกระสุน ปืนเล็ก ปืนใหญ่ อาพีจี ปรส  กระทั่ง จรวด เสตลล่า  (ซึ่งขำไปอีก ที่มีนายตำรวจสาธิตการประทับบ่ายิงโดยเอาลำกล้องด้านเรียว เล็งชี้เงยขึ้นฟ้า).......................ข่าวประโคมอยู่วันเดียว ก็เงียบยังกัเป่าเสาตอม่อ บีทีเอส....................... มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 06/12/2017 12:21:06


ความคิดเห็นที่ 13


ซึ่งตรงนี้   ไทยเราเริ่มตระหนักถึงความร้อนที่ก้น เมื่อเวียตนามกรีฑาทัพบุกเข้าเขมร    ซึ่งเริ่มสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตแบบเอาจริงเอาจังจากทางเวียตนาม    ...................  การดำเนินการทางการทูต และการเตรียมความพร้อมยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง  ..................  

 

ว่าที่จริงแล้ว   เวียตนามประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไปมาก     ที่บอกว่า ฉ็อตปิดจบ จะบุกไทยวันเดียวนั้น      แท้จริง การรบพุ่งเพื่อกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามในเขมรก็ยังทำไมสำเร็จ       การส่งกองทัพข้ามไปตีอีกประเทศหนึ่ง โดยขาอีกข้างยังก้าวไม่พ้นอีกประเทศหนึ่ง  มันทำได้ยากมาก     ลองนึกว่า ทัพหน้าจะรบกับไทย    แต่การส่งกำลังบำรุง ต้องผ่านเขมรงซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงฝ่ายตนเองยังเคลียร์เป็นเซฟตี้โซนไม่ได้   การใช้กำลังทางอากาศสนับสนุนการรบ อากาศยานต้องบินข้ามอีกประเทศเป็นระยะทางไกล   อันนี้ถ้าไม่แกร่งจริงแจ๋วจริงแบบไอ้กัน ซึ่งมีอากาศยานขนาดใหญ่ มีระบบการเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ แทบไม่มีทางเป็นไปได้................. มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 06/12/2017 12:36:00


ความคิดเห็นที่ 14


คือ  ลองนึกไปอีกแบบนะครับ....    ลองมองว่า จีนทุ่มแบบเหยาะแหยะ ไม่เต็มร้อย   เขมรแดงง่อยเปรี้ยเสียขา ถึงเราเองจะช่วยแบบสุดใจ ส่งอาวุธให้ พลาดมาให้ถอยเข้ามตั้งหลัก   แต่ท้ายที่สุด เขมรแดงก็จะป่นเป็นแป้ง   การกวาดล้างสำเร็จ   เวียตนาม เฮงซัมริน มีเสถียรภาพในอนาเขตเต็มที่     เมื่อนั้น กำลังหลายแสน  ยานเกราะเรือนพัน  จะจอดย่างข้าวหลามกินเล่นๆแถวชายแดน รอนายพลเกี๊ยบเป่านกหวีต   ฟากทัพอากาศ เหล่าบรรดามิก จะจอดพร้อมอยู่สนามบิน โบเชนตง และที่อื่นๆ ในเขมร รอให้การคุ้มกันทัพบก...... อันนี้ ก็จะเป็นมุมกลับ

 

หากแต่ว่าในความจริง     เวียตนามเก็บเขมรไม่ได้      อีกด้าน จีนก็ประชิดกดดันอย่างหนัก       ผมกลับมองว่า การรบที่ช่องบก ช่องโอบก   เป็นการหยั่งเชิงของเวียตนามซะมากกว่า    คือ  ในใจท่านเหล่าขุนพล คงมองแล้วว่า โอกาสจะเปิดศึกลึกเข้าไปในไทย แทบเป็นไปไม่ได้     เราจึงเห็นการรบ ระหว่างไทนยกับเวีตนามแค่ยกเดียว    เวียตนามก็โกยหนีไม่เป็นท่า......        คือถ้าเป็นผมสมัยหนุ่มๆ ต้องบอกว่า    ทุ่มทุนไปหลายเติบแต่จีบเป็นแฟนไม่ได้  เอาวะ ตูย่องเข้าข้างหลัง ขอกอดทีนึงให้ชื่นใจ จากนั้นตูก็เผ่นก่อนละว้า.................... 555555

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 06/12/2017 12:47:38


ความคิดเห็นที่ 15


เวียดนามโดนอเมริกาวางยายังไม่รู้ตัวหรือรู้ตัวแล้วแต่ไม่มีทางเลือก

หลายคนมองแต่ว่าเวียดนามมีอาวุธมหาศาลแถมยังยึดอาวุธของอเมริกาจำนวนมากจากเวียดนามใต้ มีกำลังทหารมากมาย แต่ไม่ได้มองถึงเรื่องเศรษฐกิจและทรัพยากรของเวียดนาม ณ เวลานั้นเลย ว่าเข้าขั้นโคม่าแล้ว ตลอดระยะเวลาสงครามเวียดนามแทบไม่ได้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมอะไรเลย ประชาชนอดอยาก ขาดการเล่าเรียนตอนรวมประเทศสำเร็จ พวกระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค สะพาน ถนน บ้านเรือน ถูกทำลายเสียหายเกือบหมด เงินเฟ้อขึ้นไปสูงถึง 774% - 900% ตลอดระยะเวลาที่ทำสงครามในอินโดจีน

 

https://www.theguardian.com/news/2015/apr/22/vietnam-40-years-on-how-communist-victory-gave-way-to-capitalist-corruption

 

คนมักคิดว่าอเมริกาถอนตัวไปจากเวียดนามเฉยๆ แต่เปล่าเลย อเมริกาเตะตัดขาเวียดนามทุกทาง

ทั้งเงินช่วยเหลือจากองค์กรอย่าง IMF , World Bank และ Unesco และเงินอุดหนุนจากประเทศญี่ปุ่น

ยิงช่วงบุกกัมพูชาเวียดนามแทบไม่สามารถทำการค้าขายกับประเทศใดได้เลย นอกจากประเทศคอม กับสหภาพโซเวียต

แต่ประเทศเวียดนามเองในก็ไม่ค่อยมีเงินไปซื้ออะไรเสียอีกต้องพึ่งเงินช่วยเหลือจากโซเวียตอีกนั่นแหล่ะ

อาหารก็แทบไม่มีกินจนต้องนำเข้า อาวุธที่ยึดจากอเมริกามีเอามาใช้บ้างช่วงบุกกัมพูชา

อย่างเครื่องบิน A-37 Dragonfly แต่หลังจากนั้นต้องปลดประจำการหมดเนื่องจากไม่มีอะไหล่ พวกอาวุธอเมริกาที่เหลือก็คงไม่ต่างกัน ยิ่งก่อนโซเวียตจะล่ม เวียตนามถูกตัดเงินช่วยเหลือยิ่งทำให้ย่ำแย่เข้าไปอีก

การปฏิรูปการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายๆ อย่างก็ล้มเหลว

https://en.wikipedia.org/wiki/Economic_history_of_Vietnam#Subsidy_phase:_1976-1986

หัวข้อ Vietnamese reform and withdrawal

https://en.wikipedia.org/wiki/Cambodian–Vietnamese_War

https://www.ukessays.com/essays/history/the-impact-cold-war-on-the-vietnam-economy-history-essay.php

 

สรุป ยิ่งยื้อสงครามไปเรื่อยๆ ที่จะตายน่ะเวียดนาม

1. เวียดนามรวมประเทศสำเร็จไปไม่กี่ปี ยังไม่ฟื้นจากความเสียหาย เศรษฐกิจก็ไม่ดี เงินเฟ้อขึ้นไปสูงถึง 900% 

    ทรัพยากรก็ขอจากโซเวียต ประชาชนยังไม่ค่อยมีกิน  ทำสงครามต่อยิ่งทำให้ประเทศเฉา

2. อาวุธที่สหรัฐทิ้งไว้นี่ภาระโดยแท้ ปริมาณอาวุธในเวียดนามตอนนั้นติด 1 ใน 5 ของโลก  อะไหล่ไม่มี

   อาวุธก็ใช้ร่วมกับของโซเวียตไม่ได้ ขยะดีๆ นี่เอง ใช้อะไหล่กินตัวหมดก็ต้องปลดไป คิดดูต้องใช้งบประมาณ 

   ขนาดไหนในการดูแลหรือปฏิบัติการณ์อาวุธปริมาณขนาดนี้ อย่างเครื่องบิน F5 เอามาใช้จริงๆ จังบ้างไหม

3. ประเทศไทยไม่ได้ปวกเปียกแบบกัมพูชาหรือลาว ทหารเรามีประสบการณ์ในการรบกับพวกเวียดนาม

    สหรัฐแม้จะถอนกำลังทหารไปแล้ว แต่ก็ยังมี military advisor กับ CIA ปฏิบัติงานแบบลับๆ อยู่อีก

    แถมเรายังสามารถค้าขายได้ตามปกติ ในขณะที่เวียดนามถูกคว่ำบาตร โซเวียตเองก็ร่อแร่เต็มที

 

   ดูแค่ GDP ไทยกับเวียดนามตอนนั้นเสียก่อน ช่วง 1979-1990 ขนาดโซเวียตทุ่มทรัพยากรและเงินทุนให้เวียดนามอย่างเอาเป็นเอาตายก็ได้แค่นั้น แถมในช่วงเดียวกันต้องไปสนับสนุนคิวบา รบในอัฟกานิสถานอีก พอโซเวียตล่ม GDP เวียดนามก็กลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น ลองคิดดูถ้าเวียดนามดึงดันรบต่อไม่ยอมถอยจะเป็นยังไง


โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 07/12/2017 13:18:54


ความคิดเห็นที่ 16


ยิ่งช่วงที่ไทยมีปัญหากับเวียดนาม การค้าขาย การลงทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากญี่ปุ่น และสหรัฐพุ่งกระจุย

การผลักดันเศรษกิจจากชาติตะวันตกยิ่งทำให้เศรษฐกิจของไทยทิ้งเวียดนามมากขึ้นไปเรื่อยๆ ในขณะที่เวียดนามถูกคว่ำบาตร

พอถึงช่วงปี 2530 นี่ เริ่มเข้าสู่ยุคโชติช่วงชัชวาล เสือตัวที่ 5

นี่แหล่ะคือการช่วยเหลือของสหรัฐที่หลายคนมองข้าม




โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 07/12/2017 13:25:26


ความคิดเห็นที่ 17


ถ้าถามว่าจีนใช้เวลารวมกำลังแค่นานแค่ไหนที่จะเปิดศึกกับเวีดนามช่วยเหลือไทย ขออธิบายนิดครับว่าจีนไม่ได้ตั้งใจจะช่วยไทยนะครับ ตอนที่นายกฯคึกฤทธิ์ไปเยือนจีนเพื่อเปิดสัมพันธ์ทางการฑูต ก.ค.2518 ตอนนั้นไซ่ง่อนพึ่งแตก เม.ย.2518 เวียดนามพึ่งจะรวมประเทศได้ ยังไม่มีการบุกได้กัมพูชานะครับ แล้วประเด็นที่คุยกับประธานเหมาก็เป็นเรื่องพรรคคอมมิวนิสต์ไทย ไม่ได้คุยเรื่องเวีดนามเลย จีนมารบกับเวียดนามกพ.2522 หลังจากที่จีนจัดการปัญหาในประเทศ(แก๊งค์4คน)เรียบร้อยแล้ว รัฐบาลเริ่มจะมีสเถียรภาพ การเปิดศึกภายนอกเพื่อรวมคนในชาติจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง และการยับยั้งการขยายอิทธิพลของเวียดนามคือเหตุผลที่ตัดสินใจทำสงคราม

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 08/12/2017 09:15:02


ความคิดเห็นที่ 18


 

หากดูแค่ขนาดของกองทัพเวียตนาม ก้นับว่าน่ากลัว ในช่วงปี 2518-2522

แต่ระบบโครงสร้างของเวียตนาม แทบไม่สามารถสนับสนุนให้เวียตนามเปิดการรุกใหญ่เข้าพื้นที่ชั้นในของไทยได้

ยิ่งช่วงหลังปี 2522 นั้นเลยจุดพีคของเวียตนามในอินโดนจีนไปแล้วด้วย ยิ่งเป็นไปได้ยากครับ

 

ส่วนตัวก้มองว่า จีนช่วยเราเรื่องการเลิกสนับสนุน ผกค. มากกว่าเรื่องเวียตนาม

เวียตนามเผยแผนยุทธการดอกบัวบานปี 2518-19

เวียตนามบุกเขมรเต็มตัว ปี 2521 จีนสั่งสอนเวียตนามปี 2522

ซึ่งเวียตนามไม่ได้ถอนกำลังทั้งหมดไปยันจีน (กำลังส่วนใหญ่เริ่มถอนออกไปในปี 2525)

ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว เวียตนามใช้แผน K5 ในการคุมพื้นที่กัมพูชา และมีการปะทะกับไทยเรื่อยมา

ที่หนักก้คือสมรภูมิช่องบก ที่เรารู้จักกันดี แต่นั่นมันเลยช่วงเวลาพีคของเวียตนามในอินโดจีนมาแล้ว

หากเวียตนามต้องการรุกเข้าพื้นที่ชั้นในของไทยตามที่เคยประกาศไว้ ต้องใช้กำลังพลและการส่งกำลังบำรุงเท่าไหร่กัน??

ซึ่งการรุกแบบนั้น เวียตนามต้องมีภาคอุตสาหกรรมสนับสนุนในประเทศรองรับ ซึ่งเวียตนามแทบไม่มีสิ่งเหล่านั้นเลย

การรอรับการสนับสนุนของโซเวียตที่ลดลงเรื่อยๆ การปะทะตามแนวชายแดนจีน การก่อกวนจากไทยในกัมพูชา

ทำให้เวียตนาม จำใจต้องถอนกำลังออกจากกัมพูชาในที่สุด

โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 08/12/2017 11:13:41


ความคิดเห็นที่ 19


กำลังของเวียดนามสูญเสียไปมากในช่วงสงครามกับจีน ประกอบกับเป็นช่วงรวมประเทศใหม่มีปัญหาที่ต้องจัดการมากกว่าทุ่มเทเพื่อทางทหารกำลังที่แท้จริงของเวียดนามหลังปี2522 อาจจะไม่ได้มีแสนยานุภาพมากเท่าประเมินในช่วงเวลานั้น ความช่วยเหลือทางทหารจากโซเวียตในเวลานั้นก็คงเริ่มลดน้อยลงด้วย

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 08/12/2017 13:57:02


ความคิดเห็นที่ 20


ขอตบมือ ดังๆ ไม่ได้เสพอะไรแบบนี้มานาน แล้ว ขอ ขอบคุณ คุณ กบ ที่เปิดประเด้น ติดตามกันมา 10 ปี แล้วตั่งแต่ wing 21 

โดยคุณ chana เมื่อวันที่ 08/12/2017 23:31:30


ความคิดเห็นที่ 21


2 วันผมคิดว่าไม่มีทางแน่นอน ครึ่งวันยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะเราตอนนั้นไม่ใช่อย่างกัมพูชาที่ถูกเขมรแดงกดขี่แล้วมีเวียดนามเข้ามาปลดปล่อย ช่วงปี 30 ปัญหาคอมมิวนิส เรา เบาบางลงแล้ว ฉนั้นถ้าเวียดนามบุกจริงๆ ไม่ใช่แต่สู้กับกองทัพแน่นอนแต่จะกลายเป็นสู้กับคนไทยทุกคน อารมณ์น่าจะเหมือนกับโซเวียตบุกฟินแลนด์ แล้วอีกอย่างวีรกรรมทหารไทยที่เคยไปสร้างไว้ในลาวในเวียดนาม ก็น่าจะได้แสดงออกมาอีกแน่ๆในการสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดตัวเอง และกองทัพไทยทั้งหมดตอนนั้นไม่ได้อ่อนปวกเปียกขนาดที่จะให้บุกถึงกรุงเทพได้ง่ายๆอยู่แล้ว ผมมอวว่าจีนเป็นแต่ปัจจัยหนึ่ง ในการวางยุทธศาสตร์ ของเราแค่นั้น แต่ปัจจัยหลักคือปัจจัยในประเทศของเราเอง มากกว่า
โดยคุณ tm1 เมื่อวันที่ 13/01/2018 07:22:48