หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ทายกันเล่นๆ แดจังกึม จะมีฟาแลงซ์มาด้วยมั้ย???

โดยคุณ : กบ เมื่อวันที่ : 26/11/2018 21:42:48

มาเดากันเล่นๆ ดีกว่า ว่า เอฟๆจี แดจังกึม จะใช้แซมรุ่นใด และ จะมี ซีไอดับบลิวเอส ฮาร์ดคิลล ติดมาด้วยหรือไม่ โดยส่วนตัวเชื่อว่า กระจอกทะเลวิวัตร มีประสิทธิภาพพอที่จะรับมือเป้าบินเรียดน้ำความเร็วสูง แต่ถ้าเป็น แซมระระไกล สแตนดาร์ด อันนี้ไม่น่า ..... จึง คิดว่า ฟาแลงซ์ และ ปืนซุเปอร์ ราปิด จะเป็นตัวชี้ว่า แซมจะเป็นชนิดไหน....




ความคิดเห็นที่ 1


ผมว่าเจ้าฟาแลงซ์ ตามแบบน่าจะต้องมีอยู่แล้ว หรืออาจเป็นของเก่าจากเรือฟริเกตที่ปลดประจำการไปแล้วมาใส่.  แต่ไหนๆท่านกบบอกใบ้มาให้สงสัย. ผมเลยคิดต่อไปอีกว่าด้วยปัจจุบันความเร็วของจรวดโจมตีเรือก็มากกว่า 1 มัคแถมทนทานกับกระสุนปืนมากขึ้นหากใช้แค่ปืนฟาแลงซ์เป็น CIW คงไม่พอ. ก็ขอเปลี่ยนเป็น SeaRAM น่าจะไว้ใจได้มากกว่า และหากให้ดีกว่านั้นก็จัดครบชุดคือ SeaRAM ไว้ท้ายเรือแล้วเอา ฟาแลงซ์ไว้ด้านหน้าเรือ (ไว้ด้านหลังชุดยิงจรวด MK41)  อย่างนี้ถึงจะสมเป็นเรือฟริเกตสมรรถนะสูงครับ

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 25/11/2018 07:19:26


ความคิดเห็นที่ 2


ส่วนจรวดต่อสู้อากาศยานระยะไกลเกิน 40 กิโลเมตร น่าจะยังไม่มี. แต่ถ้ามีก็มีที่ใส่ได้จากชุดยิง MK41 8 cell ใช้ไปแล้ว 4 เหลืออีก 4. ก็คงต้องเลือกระหว่างจะใส่ Asroc vl 4 ลูกสำหรับปราบเรือดำน้ำ หรือ ใส่ SM2 4 ลูกสำหรับภารกิจป้องกันภัยทางอากาศ.  หรือแบบแหวกแนวแบบขอครบไม่เน้นปริมาณ ไม่เน้นยิงซ้ำก็ใส่ Asroc vl 2 ลูก. และ SM2. 2 ลูก ก็ถือว่าครบเครื่องสมบูรณ์เพียงพอกับการใช้งานในยามปกติ มีแนวป้องกันครบทั้งระยะไกล. กลาง. ประชิด

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 25/11/2018 07:32:01


ความคิดเห็นที่ 3


แม้ไม่มี ซีไอดับบลิวเอส ฮาร์ดคิลล์ ติดมาด้วยแต่อย่างไร หาก แดจังกึมของเรา ติดตั้ง เอสเอ็ม-2 มาด้วย ย่อมกล้าเอ่ยได้เต็มปากแน่นอนครับ ว่าน่านน้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ รวมถึงข้ามมหาสมุทรไปถึงทวีปออสเตรเลีย เรือรบของไทยคือหมายเลข1 ...... เนื่องจาก เปอรี่ เอฟๆจี ของออสซี่ มีแซมระยะไกลสแตนดาร์ด แต่อย่างไรเสีย แดจังกึมของเรา จะสามารถติดตั้งกระจอกทะเลวิวัติเข้าไปได้อีกด้วย นั่นหมายความว่า เรือของเรานำหน้าเปอรี่ไปอยู่ขั้นหนึ่ง ซึ่งหาก แดจังกึมติดตั้งใช้งานด้วย สามนิ้วซุเปอร์ราปิด จะทำให้มีขีดความสามารถป้องกันภัยทางอากาศครอบคลุมทุกระยะ ตั้งแต่ระยะไกล สแตนดาร์ ระยะปานกลาง กระจอกทะเลวิวัติ(ยังป้องกันเรือจากอาวุธปล่อยเรียดผิวน้ำระยะเส้นขอบฟ้าได้อีกด้วย) สามนิ้วยิงเร็วสุเปอร์ราปิดชั้นใน แต่ถ้าได่ฟาแลงซ์ หรือ ซีแรมป้องกันอากาศยานและ อวป.ในระยะประชิดอีกชั้น ก็ยอดเยี่ยมยกใหญ่ ชนิด ดีเยี่ยมเกรดเอ บวกๆ...... อย่างที่กล่าวก็ขนาดนี้ จะไม่ เมพขิงๆ ได้อย่างไร..... นี่ยังมี แอสรอค และโซนาร์ลากท้ายด้วย งานนี้ไม่ได้เปอรี่มาครอง แต่ได้แดจังกึมมา ก็โอ่ได้ทั่วหล้าเจ็ดคาบสมุทรแล้วครับ.............. แต่โดยส่วนตัวผม เอสเอ็มสอง ใส่ไว้สองลูก กระจอกทะเลวิวัตร สี่ลูก แอสรอค สองลูก ถึงไม่มีฟาแลงซ์ ในภารกิจ ลว. ยามปกติ ไปไหนก็ำม่กลัวใครแล้วครับ....
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 25/11/2018 10:08:57


ความคิดเห็นที่ 4


แต่ถ้าว่ากันด้วยหลักเศรษฐศาสตร์ หรือมิลิตะลี่คอมเมอเชี่ยวแล้ว การหวังผลเลิศจาก กระจอกทะเลวิวัตรในการป้องกันระยะประชิด จะผิดหลักอยู่สักหน่อยครับ คือเนื่องจากการหวังผลดังกล่าวแบบเต็มๆ ย่อมหมายถึงการเพิ่มจำนวนติดตั้งลูกจรวดเข้าไปอีก ซึ่งหากวตถุประสงค์คือป้องกันเครื่องบินจำนวนอาจลดลง ดังนั้นเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายและเสริมช่องว่าง จึงเห็นตามคุณระยองว่า ซีแรมก็น่าสนใจครับ เนื่องจากมีระยะยิงไกลกว่าปืนฟาแลงซ์......... มี สแตนดาร์ด กระจอกทะเลวิวัตร และซีแรม ปราการสามด่าน ด่านแรกลูกยาวไกลสุดกู่ ด่านสองระยะกลางสอยได้ทั้งเครื่องบินและจรวดเรียดน้ำ ด่านสุดท้ายระยะใกล้/ประชิด เป็นอินฟาเรด ยิงแล้วลืมแบบจริงจัง แท่นเดียวรับได้หลายเป้าทั้งเครื่องบินทั้งจรวด.......โหว่ะ แม่เจ้าโว้ย
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 25/11/2018 10:24:50


ความคิดเห็นที่ 5


เรือหลวงท่าจีนมีฟาลังค์ติดอยู่บนดาดฟ้าหลังเรือครับจากภาพที่ออกๆมาพอจะยืนยันได้ ส่วน SAM คงเป็น ESSM ครับ แต่ไม่มีข่าวการSM-2 และ ASROC แบบนี้อาจไม่ได้มีมา แต่ไม่ทราบว่าอยู่ในแผนหรือไม่ 

โดยคุณ akekolos เมื่อวันที่ 25/11/2018 12:15:13


ความคิดเห็นที่ 6


น่าจะไม่พลิกโผ นะครับ (ส่วนตัวก็อยากได้ ซีแรม มากกว่าอ่ะนะ)


โดยคุณ SSA เมื่อวันที่ 25/11/2018 20:32:27


ความคิดเห็นที่ 7


แหนมดอนเมืองมีไฟฉายที่หัวไหล่ด้วยนะครับ ชัดเจนเปลี่ยว!

 

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองย้อนไปดูเรือฟริเกตนอร์เวย์ลำที่จมดูสิครับ ท้ายเรือติดแค่ปีนกล 12.7 มม ติดรีโมทเท่านั้นเอง ตามแผนเขาจะติด 40 มม.แต่เงินหมด ตามแผนเขาจะมี 16 VLS แต่เงินหมด ตามแผนเขาจะมีจรวดปราบเรือดำน้ำ 375 มม.ด้วยแต่เงินหมด เอาไปลงโซนาร์ลากท้ายผลิตเองในประเทศ (ซื้อลิคสิทธิ์เมกา) กับเรดาร์ SPY-1 กับระบบเอจิสหมด ตามลำดับความสำคัญนั่นแหละ

 

ฉะนั้นเรือเราผมว่า....ติดอาวุธแค่นี้พอก่อนเถอะ ไปหาทางเสกลำที่ 2 โผล่มาให้ได้ก่อนดีกว่า นอร์เวย์หายไป 1 ยังเหลืออีก 4 ของเราหายไป 1 เหลือเท่ากับ 0 หมายถึงเรือที่มีโซนาร์ลากท้ายนะครับ ภัยใต้น้ำน่ากลัวว่าภัยลอยฟ้าเยอะ อย่าไปทุ่มเงินทั้งหมดกับทางนั้นเลย เชื่อโผมมมม......


โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 25/11/2018 21:34:01


ความคิดเห็นที่ 8


เห็นด้วยเลยครับ ตอนนี้อยากให้ทัพเรือเข็นลำที่สองออกมาก่อน ให้รอนานๆชักน่ากลัวว่าจะไม่มา นี่ลำแรกก็จะมาแล้ว....  /// กรณีเรือรบนอรเวย์ผมก็เคยลองคิดว่าถ้าเป็นบ้านเรานี่แบบ คงน้ำตาไหล..

โดยคุณ akekolos เมื่อวันที่ 25/11/2018 22:10:55


ความคิดเห็นที่ 9


ที่น้ำตาไหลนี่คือ คนโดนสอบความรับผิดทางละเมิดสินะครับ

โดยคุณ Naris เมื่อวันที่ 26/11/2018 08:07:17


ความคิดเห็นที่ 10


เช่นนั้น น่าจะเป็นเหตุเป็นผลยืนยันว่า ระบบอาวุธต่อสู้อากาศยานจะมีแค่ กระจอกทะเลวิวัตร ใช้ควบคู่กับระบบป้องกันตัวระยะประชิดฟาลังซ์ครับ การนี้ คงยังไม่ไปถึงขั้นลูกยาว สแตนดาร์ด.... เอาง่ายๆคือ ภูธรมีเบนซ์ (อีคลาส) ก็เลยฝันจะล่อ เอสคลาส ไปซะโน่น...... สรุปคือ กระจอกทะเล กับ แนวปราการด่านสุดท้าย คู่กันก็เพียงพอรับมือได้แบบเหลือๆแล้วครับ........ ในส่วน โซน่าร์ลากท้ายของท่านสุเปอร์บอย เป็นที่น่ายินดีว่ามีให้ด้วย ซึ่งอันนี้เห็นควรเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเราเคยมีและก็ปลดไปเสียแล้วถึงสองระบบ... ..... ติดแต่ว่าลูกยาวอย่างแอสร็อคนี่สิครับ ไม่มีมาให้ด้วย........ โดยส่วนตัวเชื่อว่า ทร.ไม่ลืมหรอกครับ หากจะว่าแพงก็ไม่น่าใช่ เพราะกระจอกทะเลว่าแพงระยับแล้วยังอุตส่าไขว่คว้ามาจนได้..... ผมหล่ะว่า น่าจะติดที่ต้นสังกัดหรือปล่าวครับ เพราะรุ่นที่ต้องการเป็นแบบยิงแนวตั้ง ของดีของใหม่ พี่แกคงไม่อยากปล่อยง่ายๆ....... น่าเสียดายนะครับ โซนาร์ลากท้ายสมรรถนะสุดยอด แต่อาวุธยังเป็น ต.ลูกสั้นเหมือนเดิม

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/11/2018 08:47:33


ความคิดเห็นที่ 11


ขอถามหน่อยครับว่า MK41 1แท่น บรรจุก ASROC กับ ESSM รวมกันได้มั้ยครับ
เช่น ESSM 16นัด + ASROC 4นัด แบบนี้ อ่ะครับ

โดยคุณ SSA เมื่อวันที่ 26/11/2018 09:50:21


ความคิดเห็นที่ 12


แต่อย่างว่าครับ .............. เรือมีแล้ว ระบบมีแล้ว .................  งวดหน้าถูกหวยเป็นเศรษฐี  ค่อยจัดหามายัดลงทีหลังก็ได้ ทั้งลูกยาว สแตนดาร์ด และลูกยาวแอสร็อค .............. เชื่อว่า คงไม่ถึงขั้นรื้อถอนติดตั้งใหม่เหมือนชั้น นเรศวร ดอกครับ แค่จับยัด และเพิ่มซอฟท์แวร์เข้าไป  โดยเฉพาะ สแตนดาร์ดเนี่ย ยังเป็น นำทางกลับบ้านกระฉับกระเฉงกึ่งนึงอยู่เลย ถ้าไม่ใช่รุ่นใช้งานกับเรดาร์เฟสอาร์เรย์ ถ้ายิง กระจอกทะเลวิวัตรได้ สแตนดาร์ดไม่น่าจะมีปัญหาครับ...................


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/11/2018 09:52:45


ความคิดเห็นที่ 13


น่าจะได้ตามภาพครับ    .................... ท่อมี 3 ไซส์   คือ มินิ (เซลฟ ดีเฟ้นส์)    อย่างกลาง   และ คิงไซส์     ถ้าจัดอย่างกลางมา ยัดได้หมด  ยกเว้น โตมาฮอว์ค กับ สแตนดาร์ด บล็อค 4 หมาย 21 ครับ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/11/2018 09:54:50


ความคิดเห็นที่ 14


ท่าน Naris ผมหมายถึงถ้าเรือเราเกิดอุบัติเหตุแบบเรือนอร์เวย์นี่คงเศร้ามากครับ ว่าแต่คนละเมิดนี่คือยังไงหรอครับ??

โดยคุณ akekolos เมื่อวันที่ 26/11/2018 11:50:03


ความคิดเห็นที่ 15


ฟาลังค์มาแน่ๆพร้อมกับ essm ครับ ส่วน sm2 ยังยิงไม่ได้เพราะในปัจจุบัน 9lv ยังไม่ cert กับ sm2  อีกอย่าง กิมจิยังคงยิงได้สองเป้าๆละสองนัดเท่ากับ รล.นเรศวร และยังต้องลุ้นให้ 4a หากทำได้ตามที่โฆษณาก็จะยิง essm ได้หลายเป้ามากขึ้น  แอสร็อคก็ยังไม่มาทางโน้นไม่ขายให้   ส่วนตัวคิดว่า แอสร็อคและ sm2 คงจะมาช่วง mlu โน่นแหละครับตามสไตล์ ทร.

โดยคุณ ausangi เมื่อวันที่ 26/11/2018 16:23:28


ความคิดเห็นที่ 16


น่าเสียดายนะครับ เรดาร์กับจรวด ดันคุยกันไม่รุเรื่อง เป็นว่าก็ต้องไปรอม้อดเหมือนเรือชุดนเรศวร..... ส่วน กระจอกทะเลวิวัตร อันนี้เป็นคาแรคเตอร์ของ นำทางกลับบ้านกึ่งกระฉับกระเฉงครับ ติดตามได้เท่าจำนวนจาน จะต่างจากพวก ทวนซ้ำ อย่างเอสเตอร์ อันนั้นไม่จำเป็นต้องแพร่คลื่นดินสอ แต่จานก็ต้องหมุนติ้วๆรอบจัด เพื่อให้ข้อมูลเรียวไทม์อย่างที่สุด........ มีทางเดียวสำหรับนำทางกลับกระฉับกระเฉงกึ่งนึง ที่จานเดียวซัดได้หลายเป้าคือ ต้องเป็นเฟสอะเรย์ครับ เพราะเรดาร์พันนั้น การแพร่ลำคลื่น ใช้ธรรมชาติเกิดดับแบบเร็วยิ่งยวด(สวิทชิ่ง) มันจึงแบ่งภาคเกิดเป็นลำคลื่นต่อเนื่องได้หลายๆเส้น เหมือนเฮ่งเจียแยกร่างออกเป็นหลายๆตัว......... พูดไป จะเข้าใกล้วิมุตซะแร้วครับ
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/11/2018 16:53:18


ความคิดเห็นที่ 17


ขออนุญาต ท่านกบ ถามในกระทู้นี้เลยนะครับ
เรื่อง ระบบขับเคลื่อนเรือรบ แบบ CODAG กับ CODOG แตกต่างกันอย่างไรครับ
ปัจจุบันแบบไหน เป็นที่นิยมมากกว่ากันครับ
แล้ว รล.ท่าจีน ลำใหม่นี้ จะใช้ระบบขับเคลื่อน แบบไหนครับ

โดยคุณ SSA เมื่อวันที่ 26/11/2018 19:00:05


ความคิดเห็นที่ 18


โคด็อค ก็คือ คอมไบน์ ดีเซล ออร์ แกสเทอร์ไบน์ เป็นการวางชุดเครื่องยนต์ประสมระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลและแกสเทอร์ไบน์นั่นก็คือ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างสองแบบ จึงใช้เพลาใบจักรตัวเดียวกันได้ เรือชุดนเรศวร และ แดจังกึม ของเราเป็นอย่างนี้ครับ......... ... ... ส่วนโคแด็ก ก็คือ คอมไบน์ ดีเซล แอ่นด์ แกสเทอร์ไบน์..... คือการประสมระหว่างเครื่องดีเซลและแกสเทอร์ไบร์ แต่การประสมของเครื่องยนต์ประเภทนี้จะมีซีเคว้นที่ต่างจาก โคด็อก และโคแด้ด เนื่องจาก โคแด็ก เป็นการทำงานของเครื่องยนต์สองประเภทพร้อมๆกัน แต่เนื่องจากปัญหาการซิงค์ (ซิงโครไหน) รอบเครื่องระหว่างเครื่องยนต์สองชนิดในการใช้ใบจักรเดียวกันผ่านเกียร์บ็อกซ์ จะทำได้ยาก ไม่เหมือนโคแด้ด ที่เป็นเครื่องชนิดดีเซลมีแรงม้ารอบเหมือนกัน...... มีต่อ
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/11/2018 19:46:40


ความคิดเห็นที่ 19


ดังนั้น โคแด็ก จึงนิยมแยกเพลาใบจักร .... คือ อาจจะดีเซลสองใบจักร และแกสเทอร์ไบน์ หนึ่งใบจักรหรือสองใบจักร ( เครื่องเดียวก็ปั่นสองใบจักรได้ เหมือนเรือหลวงมกุฎ (อ่อ ว่าแล้ว เรือลำนี้ก็โคด็อกเหมือนกัน)) การรันก็แยกกันไปเลย...... แต่ไม่รุเหมือนกันนะครับ ถ้าสามารถรันรอบเครื่องให้ซิ้งไปด้วยกันได้ แบบว่า ต่างคนต่างบิดคันเร่งแต่รอบขึ้นลงเท่ากันตลอด(ความจริงแทบเป็นไปไม่ได้) ก็อาจใช้เกียร์บ๊อกซ์ขับเพลาใบจักร่วมกันได้ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องใช้ระบบคลัช....ซึ่งก็มีแต่เปลืองกับเปลือง ทั้งการสึกหรอ และ เอฟฝิเชี่ยนซี่ ก็ไม่รุจะทำไปทำไม........ ครับ เท่าที่เล่ามา คงพอเห็นภาพแล้วนะครับ ว่าหลักการเป็นเช่นไร อ่ออีกอย่างนึง โคแด็ก นี่ ใบจักรควรปรับพิทชได้ด้วยนะครับ กรณีจะหยุดเครื่องซักชนิดนึงทำให้ใบจักรหยุดหมุน หากปรับพิชทไม่ได้ องศาใบพัดยังป้านน้ำอยู่ อันนี้ก็กลายเป็นแดร็ก หรือลอส ทันทีนะครับ....... แต่อย่างว่า ชื่อมันบ่งบอกว่า " แด็ก" คือ ดีเซลแอ่นด์แกส มันต้องทำงานพร้อมๆกัน แต่อันนี้เผื่อเครื่องสำลักหยุดด้วยเหตุสุดวิสัยนะครับ
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/11/2018 20:01:11


ความคิดเห็นที่ 20


ท่านกบครับ...เรือหลวงท่าจีน CODAG ครับ

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 26/11/2018 20:20:11


ความคิดเห็นที่ 21


สองใบจักร นี่นะครับ???? ฮ่วย... หรือ ดีเซลใบจักรซ้าย แกส ใบจักรขวาครับ??????
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/11/2018 20:25:33


ความคิดเห็นที่ 22


ขอเวลา อ่าน มัลติสปีด เกียร์บ๊อกซ์ แปร้บครับ....
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/11/2018 20:35:23


ความคิดเห็นที่ 23


โอเค จากการอ่านและทำความเข้าใจอย่างรวดเร็ว ขอสรุปตามความเข้าใจตัวเองว่า มัลติสปีดเกียร์บ็อกซ์ หลักการทำงานเช่นเดียวกับ เฟืองท้ายรถยนต์ เพียงแต่กลับด้านระหว่างต้นกำลังกับโหลด เช่นนี้ ถึงรอบของต้นกำลังสองชนิดจะต่างกัน แต่การถ่ายทอดกำลังก็ถือว่าไม่มีความสูญเสีย จากการไม่ซิงโครไหนกันครับ.......โอเค ขอเขกกระบานตัวเองสองที โป้กๆ.....

 

 

เพื่อเป็นการแก้เขิล เลยขอนำเสนอการทำงานของเฟืองท้าย ซึ่งเป็นต้นกำลังแหล่งเดียว แต่กระจายออกเป็นสองแรงต่างความเร็วรอบแบบไม่มีการสูญเสียจากการไม่ซิงโครไหน.................. สำหรับมัลติเกียร์บ้อกซ์ก็พิจารณาเป็นไปในทางกลับกัน    ต้นกำลังสองแหล่งรอบต่างกัน ส่งกำลังรวมกันในแกนเดียว

 

https://www.youtube.com/watch?v=7DUgCIHH3_8&t=346s

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/11/2018 20:44:45


ความคิดเห็นที่ 24


เรือฟริเกตรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่เป็น CODAG แทนที่ CODOG หมดแล้วน่ะครับ เพราะอะไรอย่าถามผมเลย  แต่....ส่วนใหญ่กว่าเป็นเครื่องดีเซล+ มอเตอร์ไฟฟ้าไปแล้ว สิงคโปร์ มาเล อินโด ทั้งนั้น อาจเป็นเพราะเรือเราใหญ่กว่าเขาหน่อยกระมัง แต่ผมอยากได้แบบของเขามากกว่านะ

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 26/11/2018 21:25:04


ความคิดเห็นที่ 25


ประเด็นก็คือ เจ้ามัลติเกียร์บ๊อกซ์ นี่แหล่ะครับ ทำให้เจ้าสองความเร็วรอบมาทำงานด้วยกันได้..... ซึ่งถ้ามองเช่นนี้ เครื่อง โคแด็ก ย่อมประหยัดกว่า โคด็อก ครับ ทั้งในแง่ จำนวนเครื่องจักรติดตั้ง และค่าใช้จ่ายโอเปอเรต........ ซึ่ง โคด็อก นั้น หากต้องการกำลังจัดจ้าน ก็ต้องหยุดเครื่องดีเซล แล้วมาเดินเครื่อง กังหันก้าซ เรียกว่า เครื่องแบบหลังต้องจัดหนักจัดเต็ม อย่างชุดนเรศวรหรือ เรือจักรีนฤเบศร ก็ต้องวางถึงสองเครื่องเพื่อรีดม้าสุดๆ เนื่องจาก ณ.เวลานั้นเครื่องดีเซลดับไปแล้ว....... ขณะที่ โคแด็ก ต้องการส่วนเพิ่มเป็นกังหันกาซ แค่ตอนต้องการกำลังจัด ซึ่งโดยปกติ ก็เดินเครื่องดีเซล พอรอบจัดก็อัดเครื่องกังหันเพิ่มเข้าไป จึงลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครื่องกังหันแกสไปได้เกือบครึ่งซึ่งอาจจะวางเครื่องกังหันแค่เพียงตัวเดียวก็ได้ แต่ จะเรียก ว่าโคแด็ก จริงๆก็ไม่ถูก เพราะว่าตามนี้มันต้องเดินคู่กันตลอด.... ซึ่งถ้าเครื่องกังหันเป็นเพียงส่วนเพิ่มบางเวลาซึ่งให้เผอิญต้องเดินเครื่องพร้อมกัน ควรเรียกใหม่เป็น โคแด็กเอส หรือ คอมไบน์ ดีเซล แอนด์ แก้สเทอร์ไบน์ บาย ซัมไทม์
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 26/11/2018 21:42:48