ฝ่ายรักษาความปลอดภัยนายกฯ สั่งทหารเสือนวมินทราชินี เข้าอารักขานายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ...
?
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (22 เม.ย.) ว่า ฝ่ายรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ได้เปลี่ยนทีมรักษาความปลอดภัย ให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง โดยสั่งให้กำลังพล จากศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัยนายกฯ และนายสุเทพ ที่ใช้ตามอารักขา ในช่วงเกิดเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงทุบรถนายกฯ โดยเปลี่ยนไปใช้กำลังทหาร จากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ (ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี) หรือ "ทหารเสือนวมินทราชินี" 30 นาย แบ่งเป็น 2 ชุดๆ ละ 15 นาย ผลัดกันชุดละวัน และใน 15 นาย แบ่งเป็นส่วนที่ติดตามประกบ ในขบวนนายกฯ 1 ชุด และส่วนล่วงหน้าเพื่อเคลียร์พื้นที่อีก 1 ชุด
?
?
อย่าง ไรก็ตาม ในชุดรักษาความปลอดภัย ของนายกฯ ยังคงกำลังของทหารอากาศโยธิน ของกองทัพอากาศ ที่สั่งมาเสริม ในช่วงหลังเกิดเหตุกลุ่มคนเสื้อแดงทุบรถนายกฯ ที่กระทรวงมหาดไทยไว้เช่น เดิมข้อมูลจำเพาะ
กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2493 ตามคำขอขององค์การสหประชาชาติ ในการจัดตั้งกำลังเข้าช่วยเหลือรัฐบาลของสาธารณรัฐเกาหลีใต้ เพื่อยับยั้งการรุกรานของฝ่ายคอมมิวนิสต์ โดยใช้นามหน่วยครั้งนั้นว่า กรมผสมที่ 21 ก่อนแปรสภาพมาเป็นชื่อในปัจจุบันเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2502
ในการรบสงครามเกาหลี ปี 2493-2515 ทหารไทยได้สร้างวีรกรรมเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ จนได้รับสมญานามจากกองทัพสหประชาชาติในสมรภูมิเกาหลีว่า พยัคฆ์น้อย และยังสร้างชื่ออีกครั้ง ในนามกรมอาสาสมัคร จงอางศึก ในการปฏิบัติการสงครามเวียดนาม ระหว่างปี 2511-2512 ตลอดจนการปฏิบัติราชการในการป้องกันและปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และการช่วยเหลือประชาชนใน จ.น่าน จนก่อเกิดวีรกรรมบ้านห้วยโกร๋น ในปี 2518 รวมถึงการยับยั้งการรุกรานของเวียดนาม ที่สมรภูมิเขาพนมประ อ.ตาพระยา จ.ปราจีนบุรี ในปี 2526 เป็นผลให้กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญและเครื่องอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีประดับธงไชยเฉลิมพล
ทหารเสือ เป็นหลักสูตรพิเศษหลักสูตรหนึ่งของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อค่ายอันเป็นที่ตั้งของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ว่า ค่ายนวมินทราชินี พร้อมทั้งพระราชทานสมญานามของกรมฯ ว่า กรมทหารเสือนวมินทราชินี
ต่อมาในปี 2524 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ได้รับอนุมัติจากกองทัพบกให้ดำเนินการฝึกหลักสูตรทหารเสือ เพื่อเป็นการสนองในพระราชเสาวนีย์ ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์ผู้บังคับการพิเศษของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้กำลังพลได้รับการฝึกพิเศษ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจทุกรูปแบบ ทุกสภาพภูมิประเทศ โดยคุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึก ต้องเป็นกำลังพลที่รับราชการอยู่ในหน่วยของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ และส่วนหนึ่งยังแบ่งให้กับกำลังพลนอกหน่วยที่กองทัพบกอนุมัติให้เข้ารับการฝึก
ระยะเวลาการฝึกทหารเสือ ใช้เวลาทั้งสิ้น 16 สัปดาห์ โดย 4 สัปดาห์แรก เป็น การปรับสภาพร่างกายและจิตใจ เตรียมร่างกายให้พร้อมในการฝึกภาคต่อ ๆ ไป และมีการปูพื้นฐานด้านการยิงปืนฉับพลัน การดำน้ำ โดดร่ม การต่อสู้ป้องกันตัว การต่อต้านการก่อการร้ายสากล รวมถึงการสอนภาษาของประเทศใกล้เคียง และภาษามือด้วย
นอกจากการฝึกแล้ว ยังต้องทดสอบ มาตรฐานในด้านสภาพร่างกาย โดยต้องวิ่งระยะ 1 ไมล์ 3 ไมล์ 5 ไมล์ วิ่งประกอบอาวุธและเครื่องสนาม 12 ไมล์ การเดินเร่งรีบพร้อมรบ 65 กิโลเมตร และว่ายน้ำระยะไกล ตลอดจนการทดสอบการใช้อาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 และปืนพก 86 ในลักษณะการยิงฉับพลัน ซึ่งผู้ที่ผ่านเกณฑ์เท่านั้นถึงจะสามารถเข้ารับการฝึกในภาคต่อไปขั้นต่อไปเป็น ภาคป่า-ภูเขา ระยะ เวลาอีก 4 สัปดาห์ โดยใช้พื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นการฝึกการแทรกซึมทางอากาศด้วยอากาศยาน (บล. 8 หรือ ซี 130) หลังจากนั้นจะฝึกแทรกซึมทางพื้นดิน เข้าปฏิบัติการต่อที่หมายในลักษณะหน่วยทหารขนาดเล็ก หรือชุดปฏิบัติการ ซึ่งเป็นการนำความรู้ในภาคที่ตั้งมาปฏิบัติจริงในภูมิประเทศทุรกันดาร และภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูง
เรื่องที่ทำการฝึกหลักคือการจัดตั้งและใช้กำลังกองโจร การพิสูจน์ทราบพื้นที่ป่า การฝึกขี่บังคับม้าและการบรรทุกต่าง ๆ ฝึกปฏิบัติในการถวายความปลอดภัยองค์พระประมุข การศึกษางานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เสด็จฯ ทอดพระเนตรผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ และเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นประจำทุกปี จากนั้นเป็นภาคทะเล ระยะเวลา 3 สัปดาห์ ใช้พื้นที่ชายฝั่ง จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง มุ่งเน้นการแทรกซึมทางน้ำ การดำน้ำทางยุทธวิธี การใช้เรือยาง การลาดตระเวนชายฝั่ง การยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การโดดร่มลงทะเล การดำรงชีพในทะเล และประเพณีชาวเรือ
ภาคปฏิบัติการในเมือง ระยะเวลา 3 สัปดาห์ ระยะเวลา 3 สัปดาห์ ใช้พื้นที่ จ.ชลบุรี และกรุงเทพฯ มุ่งเน้นการปฏิบัติในพื้นที่สิ่งปลูกสร้าง การต่อต้านการก่อการร้ายสากล การชิงตัวประกัน การขับขี่จักรยานยนต์ทางยุทธวิธี รวมถึงการฝึกยิงปืนพกระบบ PPC
สุดท้ายคือภาคอากาศ ระยะเวลา 2 สัปดาห์ ใช้พื้นที่ภายในค่ายนวมินทราชินี เป็นการฝึกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในพื้นฐานของการกระโดดร่มแบบ กระตุกเองการบังคับร่ม การพับร่ม และการแก้ไขเหตุติดขัด
เมื่อจบการฝึก กำลังพลที่สำเร็จการฝึกหลักสูตรทหารเสือทุกนาย จะได้พระราชทานเครื่องหมายแสดงขีดความสามารถทหารเสือ จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์ผู้บังคับการพิเศษ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ
เครื่องหมายเชิดชูเกียรติทหารเสือ ทำด้วยโลหะ ประดับหน้าอกเสื้อชุดปกติ เป็นรูป หัวใจสีม่วงประดับพระนามาภิไธยย่อ สก. หมายถึง ผู้บริสุทธิ์ ซื่อสัตย์สุจริต และจริงใจ ทั้งนี้เพราะผู้ที่ใกล้ตาย หัวใจจะกลายจากสีแดงเป็นสีม่วง ในห้วงเวลานั้น บุคคลผู้นั้นจะไม่พูดปดหรือปิดบังสิ่งใด ๆ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานหัวใจสีม่วงนี้แก่กำลังพล ด้วยทรงมุ่งหวังให้ทหารเสือทุกนายมีความซื่อสัตย์สุจริต และจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนรูป เสือประคองหัวใจสีม่วง หมายถึง กำลังพลทหารเสือทุกนายที่เทิดทูนความซื่อสัตย์ สุจริต และจงรักภักดีแทบเบื้องพระยุคลบาท ภูเขา เกลียวคลื่น ก้อนเมฆ หมายถึงทุกหนแห่ง ไม่ว่าบนฟ้า พื้นดิน ภูเขา หรือในทะเล ทหารเสือทุกนายพร้อมจะดั้นด้นไป เพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยของชาติ และองค์พระมหากษัตริย์
ในวันนี้ 21 กุมภาพันธ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเครื่องหมายทหารเสือ แก่ผู้ที่จบหลักสูตรรุ่นที่ 13 รุ่นล่าสุด จำนวน 72 นาย ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้เหล่าทหารเสือราชินี ทุกนาย ใช้ความรู้ความสามารถที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก นำไปรับใช้ชาติบ้านเมือง สืบต่อไป.
ที่มา : http://cop036.tkc.go.th/content.asp?pageid=Mw&directory=MTg3&parent=MA&lv=MA&lang=&content=MTk0
ท่านใดพอจะทราบบ้างครับว่าทหารเสือราชินี เมื่อเทียบกับ แรนเจอร์ รีคอน และซีล ของไทยนะครับ ...เรื่องความเข้มข้นในการฝึก และขีดความสามารถในการรบอยู่ในระดับไหนครับเมื่อเทียบกับสามหน่วยดังกล่าวครับ
หลักสูตรมนุษย์กบ(SEAL) จะฝึกหนักและเข้มข้นกว่าหน่วยอื่นครับ และใช้เวลาฝึกมากกว่าหน่วยอื่น คือ 7 เดือน ส่วนหลักสูตรทหารเสือนั้นจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของทหารในหน่วย เนื่องจากหน่วยนี้มีภารกิจถวายความปลอดภัยองค์พระเจ้าอยู่หัวและองค์พระราชินี นอกเหนือจากภารกิจปกป้องประเทศ หน่วยนี้จึงต้องมีขีดความสามารถสูง
ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยนะที่นี้ครับ
ขอนิดนึงครับ
ทหารเสือได้ไปใต้กับเขาบ้างไหมครับ
บอกตามตรงนะครับ เหมาะกับ พื้นที่นั้นมาก เพราะฝึกอย่างนี้
ผมว่ามีลุ้นที่ใต้ครับ คนที่ปะทะด้วยนี่ ช่วงไล่ล่าน่าจะเชื่อถือได้นะครับ