หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


กองทัพอากาศเคยพิจรณาเครื่องบิน LCA ของอินเดียมั้ยครับ

โดยคุณ : porgripen เมื่อวันที่ : 01/05/2009 13:02:32

HISTORY:

First Flight

(TD-1) 4 January 2001

Service Entry

planned for 2015

CREW:

one: pilot

ESTIMATED COST:

$21 million

AIRFOIL SECTIONS:

Wing Root

unknown

Wing Tip

unknown

DIMENSIONS:

Length

43.27 ft (13.20 m)

Wingspan

26.88 ft (8.20 m)

Height

14.42 ft (4.40 m)

Wing Area

412.6 ftฒ (38.4 mฒ)

Canard Area

not applicable

WEIGHTS:

Empty

12,125 lb (5,500 kg)

Normal Takeoff

18,740 lb (8,500 kg) [clean]

Max Takeoff

27,560 lb (12,500 kg)

Fuel Capacity

internal: 795 gal (3,000 L)
external: 1,055 gal (4,000 L)

Max Payload

8,820 lb (4,000 kg)

PROPULSION:

Powerplant

(prototypes) one General Electric F404-F2J3 or F404-IN20 turbofan
(production) one GTRE GTX-35VS Kaveri turbofan

Thrust

(F404-F2J3) 18,100 lb (80.50 kN)
(F404-IN20) 18,700 lb (83.18 kN)
(GTX) 20,200 lb (89.86 kN)

PERFORMANCE:

Max Level Speed

at altitude: 1,195 mph (1,920 km/h) at 36,000 ft (11,000 m), Mach 1.8
at sea level: unknown

Initial Climb Rate

unknown

Service Ceiling

50,000 ft (15,250 m)

Range

460 nm (850 km)

g-Limits

+9 / -3.5

ARMAMENT:

Gun

one 23-mm GSh-23 twin-barrel cannon (220 rds)

Stations

eight external hardpoints

Air-to-Air Missile

R-77/AA-12 Adder, R-73/AA-11 Archer, BVRAAM

Air-to-Surface Missile

up to two conventional cruise missiles, anti-ship missiles

Bomb

laser-guided bombs, conventional bombs, cluster bombs

Other

rocket pods

KNOWN VARIANTS:

LCA-TD-1

First technology demonstrator equipped with a General Electric F404-F2J3 turbofan

LCA-TD-2

Second technology demonstrator

LCA-PV-1 and PV-2

Single-seat prototype vehicles




ความคิดเห็นที่ 1


อีกรูป


โดยคุณ porgripen เมื่อวันที่ 27/04/2009 08:36:56


ความคิดเห็นที่ 2


....ส่วนตัวว่า เตจาส นั้นไม่ได้อยู่ในความต้องการของ ท.อ.ครับเพราะว่า มีขนาดเล็กเกินไป ไม่มีชาติใดใช้นอกจากอินเดียและพึ่งได้รับการพัฒนาเข้าประจำการ  อื่นๆก็เรื่องระบบที่ใช้ครับ เพราะอินเดียออกจะแนวรัสเซีย เป็นต้น  ซึ่งอาจจะทำตลาดกับชาติที่ไม่ได้มีงบประมาณมากครับ ซึ่งคู่แข่งก็ได้แก่ FC-1 นั้นเอง
โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 27/04/2009 10:20:24


ความคิดเห็นที่ 3


ราคาพอๆกับ A-50 และ MAKO-2000  ผมว่ารอซื้อสองแบบหลังดีกว่าครับ   โดยเฉพาะ MAKO-2000 ถ้าไม่แป๊ก   มีรุ่นขับไล่เบาด้วย   อัตราส่วนแรงขับต่อนน.ดีกว่า F-16 รุ่นล่าสุดซะอีก   แถมมีเทคโนโลยีสเตลธ์ด้วย   และน่าจะใช้อาวุธต่างๆที่อยู่ในคลังของเราได้ทั้งหมด    แต่ดูเหมือน A-50 จะมาแรงกว่ามากครับในเครื่องไซด์นี้   

 

โดยคุณ neosiamese เมื่อวันที่ 27/04/2009 11:19:42


ความคิดเห็นที่ 4


อินเดีย...มีความพยายามที่จะเปิดตลาดอาวุธนอกประเทศมานานแล้ว...และปัจจุบันในส่วนความร่วมมือกับกองทัพไทยก็มีความสัมพันธ์ในระดับดีเยี่ยมประเทศหนึ่ง....ในส่วนของกองทัพอากาศ  ทั้งสองกองทัพอากาศ มีการแลกเปลี่ยนการเยือนซึ่งกันและกัน....ฝูงบินผลาดแผลงของอินเดียเคยมาแสดงการบินในไทย สองครั้ง (จากแผน สามครั้ง ยกเลิกหนึ่งครั้งคือฝูงบิน ฮ.ผลาดแผลง เนื่องจากเกิดปัญหาทางเทคนิคของฝูงบินนกยูง)....การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร....การให้นักบินไทย เยี่ยมชมการปฏิบัติการของ Su-27/30 ในช่วงการพิจารณาจัดซื้อเครื่องบิน....การให้ทหารอากาศไทยเข้าร่วมสังเกตุการณ์การฝึกโคปอินเดีย (ระหว่างอินเดีย  เอมริกา  สิงคโปร์) ซึ่งอนาคตอาจจะมีชื่อของ ทอ.ไทยเข้าร่วมฝึก.....

....เรื่องของเครื่องบินรบ....โจทย์ที่ถามต้องย้อนกลับมาที่ ทอ.ไทย ว่า ในระยะ ๑๐ ปี นี้ ต้องการเครื่องบินรบแบบไหน

....อันดับหนึ่ง เครื่องบินขับไล่ (Gripen 39 และว่าที่ F-16 C/D ยังคงรั้งอันดับอยู่)

....อันดับสอง เครื่องบินลำเลียงขนาดกลาง...ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณา ATR 72 เพิ่มเติม ต่อจาก บ.พระที่นั่ง และ บ.สำรองที่จัดหาไปแล้ว ทดแทน Avro 748

....อันดับสาม เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งและกู้ภัย...แบบ S-92 จำนวนหนึ่ง

โครงการในอนาคต.....

...อาจจะมีการจัดหาเครื่องบินลำเลียงขนาดใหญ่และขนาดกลาง

...อาจจะมีการจัดหาเครื่องบินสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด...ทดแทน L-39 ที่จะถูกยุบฝูงเหลือเพียงฝูงบินเดียวเพื่อใช้ฝึกนักบินพร้อมรบก่อนไปบิน F-5  F-16 Gripen ให้ได้เต็มที่

 

....ท้ายสุด..เครื่องบินของอินเดีย  ยังไม่เห็นชัดเจนในการติดตราธงชาติอื่นๆ นอกจากอินเดีย ...จึงเลือนลางถ้าจะอยู่ในสายตาของ ทอ.ไทย หากเทียบกับเครื่องจากเกาหลีใต้ ซึ่งมีโอกาสสูงกว่าที่จะเกิดใน ทอ.ไทย (เพราะชาติในอาเซียนเริ่มจัดหามาบ้างแล้ว)

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 27/04/2009 20:39:49


ความคิดเห็นที่ 5


จากข้อมูลของคุณท้าวทองไหลในข้างต้นนั้นโครงการจัดหาอากาศยานของกองทัพอากาศที่อาจจะมีในอนาคตนั้น นอกจาก บ.ลำเลียงขนาดกลาง(น่าจะแทน G222) และ บ.ลำเลียงขนาดใหญ่(น่าจะแทน C-130) แล้ว

ยังมีการจัดหา บ.โจมตีเพื่อทดแทน L-39 จำนวน 1ฝูงด้วยครับ

เคยให้ความเห็นก่อนหน้านี้ว่าในอนาคตอีกราว 10-15ปีนั้น L-39 ในฝูง401 ซึ่งเป็นฝูงฝึกและ ฝูง 411 ที่เป็นฝูงโจมตีนั้นคงจะต้องปลดประจำการลงครับ ซึ่งการจัดหา บ.ใหม่ทดแทนนั้นก็น่าจะถูกใช้แทนทั้งในภารกิจ ฝึกนักบินและโจมตีครับ โดย L-39 คงจะถูกยุบเหลือฝูงเดียวและประจำการไปอีกสักพักก่อนจะถูดปลดครับ

ส่วนตัวคิดว่า บ.โจมตีที่จัดหามานั้นถ้าดูจากตลาดอากาศยานในปัจจุบันอย่างไรก็คงจะเป็น บ.ฝึก ย.Jet ขั้นก้าวหน้าครับ( บ.โจมตีแท้ๆค่ายตะวันตกนั้นดูเหมือนจะไม่มีแล้ว) แต่ บ.จากเกาหลีใต้อย่าง T-50 หรือ A-50 นั้นดูเหมือนจะมีราคาและสมรรถนะเครื่องที่เกินความจำเป็นไปสำหรับใช้เป็น บ.ฝึกก้าวหน้าหรือเป็น บ.โจมตีครับ (รูปแบบอากาศยานและ ย.นั้นคล้าย Gripen ซึ่งเป็น บ.ขับไล่มากกว่า บ.โจมตี)

บ.ที่ส่วนตัวคิดว่าน่าสนใจคือ M-346 ของอิตาลี ซึ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรนต์เลือกจัดหาเป็นใช้ บ.ฝึกเหนือ T-50 ครับ ซึ่งในอีก 10ปีข้างหน้านั้นก็เป็นไปได้ว่า บ.M-346 นั้นจะเป็นที่นิยมครับ (ที่จริง M-346 คล้าย Alphajet ครับ คือมี ย.2เครื่อง ภารกิจก็คล้ายกัน แต่ M-346 ทันสมัยกว่า)

นั้นจะทำให้ในอนาคตกองทัพอากาศจะมี ฝูง บ.ฝึกก้าวหน้าคือ L-39 1ฝูง และฝูง บ.โจมตี2ฝูงคือ Alphajet และ บ.โจมตีที่จะจัดหามาใหม่ครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 27/04/2009 22:53:50


ความคิดเห็นที่ 6


พูดจากคนที่ไปเห็นมาแล้ว ...... บอกได้ว่าไม่เวิร์คครับ ...... เครื่องบินจีนยังเวิร์คกว่าครับ
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 27/04/2009 23:32:39


ความคิดเห็นที่ 7


ไม่เวิร์คตรงไหนครับคุณสกายแมน? ช่วยสงเคราะห์คนอยากรู้หน่อยครับ??? :)
โดยคุณ smish เมื่อวันที่ 28/04/2009 04:18:48


ความคิดเห็นที่ 8


ความคล่องตัวยังไม่ดีเท่า F-5 เลยครับ ดูมันบินแล้วไม่เวิร์คจริง ๆ ครับ ง่าย ๆ ก็คือ ตัวมันเบากว่า Gripen แต่ใช้เครื่องยนต์ของ Gripen แล้วยังไม่กำลังขับไม่พอเลยครับ การออกแบบมันมี drag พอสมควรที่ปีก แผนแบบค่อนข้างล้าสมัยแล้วครับ อันนี้พูดถึงการบินอย่างเดียวเลยนะครับ ยังไม่นับปัญหาอื่นอีก แม้แต่คนอินเดียเขายังพูดเลยว่าเครื่องมันไม่ค่อยดีน่ะครับ ^ ^"
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 28/04/2009 06:03:31


ความคิดเห็นที่ 9


เสี่ยอย่ามา discredit product ผมสิแหม อิอิอิ

เ้ข้าเรื่องครับ  Tejas ยังมีปัญหาหลายๆอย่างที่ต้องตามอีกเยอะ ช่วงนี้ก็แค่มีการทดสอบอาวุธ และอื่นๆเล็กน้อย



ยังงัยก็อย่าไปซื้อกริปเปนเสี่ยนะครับ ผมจะทำโปรดักใหม่เป็น บ เกาหลีใต้ละครับ เพราะหน้าตาก็ออกไปทางนั้น คงเข้ากันดีครับ
โดยคุณ helldiver เมื่อวันที่ 28/04/2009 09:19:51


ความคิดเห็นที่ 10


ไม่ได้หรอก มันก็ต้องมีบลัพกันมั้งสิตามประสานายหน้า 555+

 

ว่าแต่ประโยคสุดท้ายนี่รับไม่ได้ -*-

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 28/04/2009 21:27:51


ความคิดเห็นที่ 11


แล้วทำไม ทอ. ไม่จัดหาเครื่องโจมตีโดยเฉพาะอย่าง A-10 ไปเลยละครับ

 

เห็นในแค็ตตาล้อกของ wiki บอกว่าเครื่องละ 11-12ล้าน US เอง (- -")

โดยคุณ NATSKI13 เมื่อวันที่ 29/04/2009 01:10:28


ความคิดเห็นที่ 12


ในปัจจุบันนั้น บ.โจมตีเครื่องยนตร์ Jet แท้ๆแทบจะไม่มีสายการผลิตแล้วครับ อย่าง A-10 นั้นก็มีเพียงกองทัพอากาศสหรัฐฯใช้ประเทศเดียวและจะปรับปรุงให้ใช้ไปอย่างน้อยถึงราวปี 2028

แนวโน้มการจัดหาอากาศยานที่ผ่านมาของแทบทุกประเทศซึ่งกองทัพถูกลดงบประมาณลงนั้นตามสภาพเศรษฐกิจนั้น จะเปลี่ยนไปเป็นการจัดหา บ.ที่สามารถใช้งานได้หลายภารกิจในเครื่องเดียวครับเช่น บ.ขับไล่พหุภารกิจซึ่งทำได้ทั้งภารกิจอากาสู่อากาศและอากาศสู่พื้น และ บ.ฝึก Jet ก้าวหน้าซึ่งใช้ในภารกิจโจมตีได้ด้วยครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 29/04/2009 04:37:17


ความคิดเห็นที่ 13


เพราะหน้าตาก็ออกไปทางนั้น คงเข้ากันดีครับ>>>> เบยองโจ๊กไง 5555
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 29/04/2009 11:14:52


ความคิดเห็นที่ 14


LCA ดูน่ากลัวไปครับ (กลัวตก,กลัวไม่ดี)

สำหรับ บ.จ. และ บข.ฝ ผมเชียร์ MB-346,Yak-130,L-15 ครับ

ปล.ผมพูดตรงไปก็ขอโทษกองเชียร์ด้วยนะครับ
โดยคุณ Red@Baron เมื่อวันที่ 29/04/2009 14:07:26


ความคิดเห็นที่ 15


ขออนุญาติส่งบ.ตระกูล L-159 เข้าประกวดครับ เหตุผล

1. เป็นบ.ขั้นสุดท้ายก่อนบิน Gripen หรือ F-16 ตาม concept ของ Saab (L-159B หรือ L-159T1) และรับช่วงของ L-39 ใน 10-15 ปีข้างหน้า

2. ในบางส่วนใช้ในภารกิจลาดตระเวน เพื่อลดชั่วโมงบินของ บ.รบหลัก (F-16 หรือ Gripen)

3. เป็นบ.โจมตีเบา และรับช่วง Alpha Jet ต่อไป (L-159A)

ว่ากันไปแล้ว จะเป็น concept เดียวกับที่ทอ.ไทยพิจารณา L-39 ในตอนต้น คือในภารกิจ ART (Attack - Reconnaissance - Triainer) นอกจากนี้ การที่เราเป็นลูกค้าของ Gripen อยู่ก่อนแล้ว น่าจะคุยกันเรื่องงบประมาณได้ง่ายขึ้น ว่าแต่ถ้าตัดสินใจช้าเกินไปจะถูกชาติอื่นจองไปหมด แล้วจะได้มาในปริมาณน้อยเกินไป ซ้ำรอย Alpha Jet นะครับ (อุ๊ย ไม่พูด รัฐบาลพรรคเดียวกัน)

ปล. ถูกใจเสี่ยโยมั๊ยครับ

โดยคุณ เด็กหลังเขา เมื่อวันที่ 29/04/2009 23:46:53


ความคิดเห็นที่ 16


ถ้าหากว่าสนใจเจ้า เตจาส อาจมีความล่าช้าได้ หากมีปัญหาอย่างที่กล่าวมา ในสายตาผมนั้น A-50 ดูจะเกินความจำเป็นและใกล้เคียงกันกับ JAS-39 ส่วน L-159 นั้นอนาคตดูจะไม่ค่อยสดใสนักเพราะยังหาลูกค้าเพิ่มเติมไม่ได้(หรือหาได้แล้วฟะ)อีกทั้งถ้าจะจัดหาก็คงเป็นของมือสองที่เกินความต้องการของกองทัพอากาศเช็ค ซึ่งดูแล้วอาจจะมีปัญหาเรื่องอะไหล่ซ่อมบำรุงในอนาคต แต่ที่น่าสนใจคือ MB-346 ที่อิตาลี่ออกแบบร่วมกับ YAK-130 ของรัชเซีย ครับ ซึ่งประสปการณ์และความน่าถือของบริษัทในอิตาลี่นั้นมีสูง อีกทั้งภารกิจและรูปแบบค่อนข้างจะคล้ายกับ ALPHAJET ที่เรามีประจำการอยู่แต่ทันสมัยกว่าอย่างที่คุณ AAG_th1 กล่าวครับ
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 30/04/2009 00:25:25


ความคิดเห็นที่ 17


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

ถ้าเป็นเช่นนั้น เรามาวิเคราะห์ผู้ที่จะมาแทนในภารกิจ Lead-In-Fighter และ Attack เมื่อ L-39 และ Alpha Jet ถึงคราวปลดประจำการครับ

ปล. คือ เห็นแต่วิเคราะห์กันแต่ถึง บ.รบ หลักกัน เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างละครับ ขยับบอร์ดด้วย อิ อิ

 

โดยคุณ เด็กหลังเขา เมื่อวันที่ 30/04/2009 00:44:46


ความคิดเห็นที่ 18


M-346 ครับ


โดยคุณ priwan เมื่อวันที่ 01/05/2009 02:02:33