http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=9926&topic=การยุทธที่ช่องบกสรุปบทเรียนจากการรบบริเวณช่องบก
เรื่อง ยุทธวิธีการใช้หน่วยทหารขนาดเล็กของเวียดนามและจุดอ่อนการปฏิบัติฝ่ายเรา
13. การกระโจมยาม
หมายถึงการเข้าตีป้อมค่ายมั่นคง ซึ่งจำเป็นต้องเข้าประชิดป้อมให้ได้ด้วยการยิงเตรียมอย่างหนัก เพื่อทำลายที่หมายให้อ่อน ปิดล้อมที่หมายป้องกันมิให้มีการเพิ่มเติมกำลัง ณ บริเวณที่หมายได้โดยเด็ดขาด หลังจากนั้นจึงจะใช้กำลังจู่โจมเข้าตีที่หมายด้วยกำลังขนาดเล็ก เป็นระลอกในลักษณะของการเข้าตีโอบ 2 ปีก เป็นส่วนเข้าตีหลัก การเข้าตีตรงหน้าเป็นการเข้าตีรอง
14. การใช้ ป.
จากการสอบถาม ทวน. จะไม่พยายามดวล ป. กับฝ่ายไทย เพราะฝ่ายไทยยิงแม่นกว่า แต่จะไม่พยายามใช้ ป. 130ๆ จะไม่ขึ้นจนกว่าจะถึงเวลาอันควร รูปแบบยุทธวิธีหนึ่งคือ เมื่อสืบสภาพแน่นอน ทวน. จะใช้ ป. เข้ารบจริง อัตรา 10 ต่อ 1
15. ยุทธวิธีทหารเวียดนาม
ทวน. ชอบมากที่ข้าศึกตั้งรับประจำที่ ฉะนั้นการรบกับ ทวน. จำเป็นต้องใช้การจรยุทธย้ายฐานตลอด เพราะเวียดนามใช้กลยุทธทุกวิถีทาง ให้แสดงที่ตั้งก่อนมืด และดีที่สุดก็คือเผ้าพังกับระเบิดแตก การรอยิงมาร์คจุด(กางมุ้งแบบไอ้กัน) ซึ่งถูกเผ้าตรวจการ์ณตลอด และที่ดีที่สุดคือ ทวน. จะใช้หน่วยขนาดเล็ก 3 คน เข้าเกาะและควานหาที่ตั้งฐานด้วยการแสดงลวงต่างๆ จนกว่าฝ่ายเราจะเปิดเผยที่ตั้ง
ข้าศึกจะจัดเตรียมพื้นที่สังหาร โดยอ่านการปฏิบัติการ ฝ่ายตรงข้ามก่อนเสมอ เช่น การปล่อยให้เราขึ้นเนินและยิงถล่มปล่อยให้อยู่ในพื้นที่ที่ถูกเลือไว้ เช่นในหุบเขาแล้วใช้อาวุธวิ๔โค้งและเล็งตรงถล่ม เป็นต้น
ยุทธวิธีรักษาความลับ ของ ทวน. จะรักษาความลับได้อย่างสูง เราจะไม่ทราบการเคลื่อนไหวของ ทวน. สวจ. ที่ทำการดักฟังมักจะดักฟังได้เฉพาะข่าวสารกำลังพล ส่วนข่าวสารการเคลื่อนย้ายหน่วยการปฏิบัติการทางยุทธวิธีจะดักฟังยาก และขณะนี้ข้าศึกใช้รหัสถึง 3 ขั้น ซึ่งฝ่ายเราทดสอบอยู่ และยังถอดรหัสไม่ออก
การเลือกเวลาปฏิบัติการ ข้าศึกเลือกเวลาได้ดีมาก เลือกเวลาที่สภาพอากาศเลวทำให้ทัศนวิสัย จำกัด เช่นเวลาคืนเดือนมืดและฝนตกเป็นต้น ข้าศึกจะเข้าตีหลายทิศทาง และบีปให้ฝ่ายเราถอนตัวในทิศทางที่ข้าศึกต้องการ และจะวางพื้นที่สังหารไว้และทำลายฝ่ายเราในพื้นที่สังหารเมื่อฝ่ายเราถอนตัว
ปรส. เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการรบบนภูเขาเพราะบนสันเขาแคบๆ หรือพื้นที่อับกระสุนนั้น ป.ไม่สามารถทำการยิงได้อย่างแม่นยำ นอกจากนั้น ปรส. ยังมีขีดความสามารถในการทำลายสิ่งกีดขวาง และบังเกอร์ได้อย่างดี เป็นอาวุธที่สามารถทำลายขวัญกำลังใจในการรบของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมาก การลดอันตรายจาก ปรส. ทำได้คือ การทำบังเกอร์ให้เสมอกับพื้น และการยิงในคูยิงจะได้รับอันตรายจาก ปรส. น้อยมาก บังเกอร์ที่สูงจากพื้นดินโดยใช้กระสอบทรายก่อขึ้นมา จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
การสูญเสียของเราส่วนใหญ่ จะถอนตัวออกมาในพื้นที่ที่ข้าศึกได้วางไว้ การสูญเสียภายในที่มั่นมีเปอร์เซ็นต์ต่ำมาก ฉะนั้นฝ่ายเราต้อวระวังกลอุบาย ทวน.ให้ดี ทวน.มีขีดความสามารถสูงในการดักฟัง ฝ่ายเรามีวินัยการติดต่อสื่อสารแย่มาก ทวน. จะเงียบรับฟังและแอบฟังวิทยุเราเมื่อส่งตามปกติ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์จะแทรกทันที่ และสายโทรศัพท์ของฝ่ายเรายังเป็นตัวนำ ทวน.สู่ฐานที่มั่นฝ่ายเราได้อีกด้วย ฉะนั้นการวางสายโทรศัพท์จะต้องฝังดินให้มิดชิด
ทวน.จะใช้กลยุทธในการเคลื่อนที่ตลอดเวลาไม่ปักหลักกอยู่กับที่ ทำให้ข้าศึกครองความริเริ่มในการปฏิบัติและสร้างปัญหาให้กับฝ่ายเราตลอดเวลา กลยุทธที่ซ้ำซากของ ทวน. ที่ใช้ได้ผลเสมอก็คือ การใช้กำลังส่วนน้อยพิสูจน์ทราบที่ตั้งของฝ่ายเราและระดมยิงด้วยอาวุธหนัก เพื่อข่มมิให้ลุกขึ้นมาตอบโต้ได้ และในที่สุดกำลังพลของฝ่ายเราก็ขวัญต่ำหมดกำลังใจในการต่อสู้รบ จำต้องถอนตัวและทิ้งที่มั่นออกมา
การแก้ไขกลยุทธของข้าศึก เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ง่ายแต่ทำยาก เพราะกำลังฝ่ายเรายังไม่มีขีดความสามารถเพียงพอ จากการรบจะเห็นได้ว่า โดยทั่วไป ฝ่ายข้าศึกมีกำลังรบและอาวุธน้อยกว่าแต่บางเฉพาะตำบล หรือพื้นที่ข้าศึกสามารถรวบรวมกำลังรบและอาวุธทันสมัย ทั้ง ปรส., ป. เข้าทำการรบต่อสู้กับพวกเรา เหตุนี้มักปรากฏว่าในการรบเฉพาะแห่งอาวุธหนักของฝ่ายข้าศึกเหนือกว่าฝ่ายเรา สามารถระดมยิงฝ่ายเราได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิ์ภาพประกอบการอาศัยภูมิประเทศลมฟ้าอากาศและเหมาะในการรบ ดังนั้นจะเห็นว่านักรบเราถึงแม้จะใจสู้ แต่เมื่อต้องเผชิญอันตรายที่เห็นอยู่เบื้องหน้าที่ไม่มีโอกาสต่อสู้ได้อย่างนั้น บางครั้งก็ทำให้ขวัญเสียและถอนตัวต่อหน้าข้าศึกได้เหมือนกัน การติดต่อสื่อสารนอกจากวิทยุแล้วยังมีทางสาย และการนำสารที่ ทวน. ชอบใช้
ทวน. เพิ่มเติมด้านอำนาจกำลังรบที่ไม่มีตัวตนคือ ขวัญและกำลังใจสู้รบนั้น ทวน. มีขวัญและกำลังใจสูงเยี่ยมในการสู้รบ จะยอมตายเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ อดทนต่อความยากลำบาก มีวินัยยึดมั่นในอุดมการณ์ในการสู้รบ รวมถึงการปลุกระดมทหารที่สั่งเข้ามาสู้รบในยุทธภูมิมีใจรักชาติอดทนต่อสภาวะเศรษฐกิจอันอย่างจนอย่างแสนสาหัส เพื่อนำชาติไปสู้ความเกรียงไกร
ทวน. มีการซ่อนพรางและดัดแปลงภูมิประเทศ ทำให้ตรวจการณ์ได้ยาก ยุทธวิธีการเข้าตีของฝ่ายเวียดนาม จะยึดหลักรู้เขา รู้เราก่อนการเข้าตี ผบ. ร้อย จะต้องวางแผนมาถ้าไม่ละเอียดจะไม่เข้าตี จะแหย่จนอ่อน ไม่ให้นอน มีโอกาสจะเข้าตีใหม่ โดยยึดหลักแรกของเมาเจอตุง คือ หยุดแหย่ แย่ตี หนีตาม โอกาสที่ดีที่สุดคือ ฝนตก เดือนมืด โดยเฉพาะเข้าตีประมาณตี 2- 5 ผบ.ร้อย จะเข้ามาดูทุกทิศทางด้วยตัวเอง และสืบสภาพจนแน่นอน จะต้องกำหนดทิศทางโจมตีหลัก ทิศทางโจมตีรอง และมักจะอยู่เฉียงกัน เวลาเข้าตีที่หมายจะไม่เข้าตีด้านตรงข้าม จะหลอกยิงให้หลงทิศและเข้าตีทางด้านหนึ่ง แต่กำลังหลักจะเข้าตีทางด้านหนึ่ง ทำคนน้อยให้ดูเหมือนมาก ทำคนมากให้ดูเหมือนน้อย
ทวน. จะตั้งฐานที่มีลักษณะ สามารถทำการเข้าตีตอบโต้ได้ โดยโอบล้อมข้าศึกที่กำลังโจมตีฐานเราอยู่ด้านหนึ่งด้านใด ซึ่งเรื่องนี้ทหารไทยเราจะไม่เคยตีตลบหลัง จะเกาะอยู่ในฐานอย่างเหนียวแน่น ทวน. จะใช้ระเบิดมือเป็นหลักในการเข้าตีฐาน ปาแล้วชาร์ทเข้า เลย ขณะข้าศึกกำลังหลบระเบิดอยู่กับที่ ทวน.ถูกสอนให้พรางโดยใช้เครื่องสานพรางโดยการใช้กิ่งไม้ผูกหลังอย่างประณีต ไม่ทำอย่างลวกๆ หรือสักแต่ว่าทำหรือยึดถือพรางหน้าเป็นหลัก ซึ่งต้องเปลืองน่ำล้างหน้าและเนื้อตัวเลอะเทอะ การเดินทางของทหารเวียดนาม เป็นการเดินสูงโย่งสูงโย่งต่ำ เข้าหาที่หมายใช้การพรางในลักษณะ ที่ดูแล้วคล้ายต้นไม้ ในคืนเดือนมืดจะเดินตามกันทำให้มองเป็นเหมือนคนเดียว ซึ่งหากตรวจการณ์สังเกตไม่ดี จะไม่เห็นเลย จะดูเหมือนตุ๊กตา แต่เมื่อเข้าใกล้ที่หมาย จะพุ่งเข้าหาบังเกอร์ข้าศึก และเช่นเดียวกันทหารเวียดนามจะใช้ระเบิดขว้างเป็นหลักในการนำทางเข้าจู่โจม
วินัยการยิงปืนของ ทวน. จะยิงเป็นจังหวะเป็นนัด จะไม่ยิงแบบอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถ ประเมินขวัญจากการยิงของทหารนี้ได้ ทวน. จะเข้าฝึกการหลบระเบิด อย่างที่ควรจะหลบ เพราะระเบิดจะระเบิดเฉียงขึ้น มิใช้ปาแล้วอยู่ในบังเกอร์ ,คูเรดลัวยีงจะหมอบอีก โอกาสที่ข้าศึกหลบระเบิดจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะวิ่งเข้าหาที่หมาย ยิ่งใกล้ตัวเท่าใด ป. หรือ ค . ก็จะทำอะไรไม่ได้ เพราะจะเกิดอันตรายทั้ง 2 ฝ่าย แต่การใช้ ปล. ก็ยากในพื้นที่การรบประชิดในป่าทึบ สิ่งที่ดีที่สดคือการใช้ลูกระเบิดขว้างอีกนั้นเอง
จุดอ่อนของฝ่ายเรา
1. การทิ้งร่องรอย วินัยการเดิน การใช้แสงเสียง
กำลังพลฝ่ายเราทิ้งร่องรอยไว้เต็มหมด เช่น มาม่า บุหรี่ กิ่งไม้หัก รอยเท้า หน่วยทหารขนาดเล็ก3 คน ที่เกาะเราอยู่จะกลับไปรายงานและตามเราถูก สามารรู้ระยะเวลาคำนวณเวลาที่ไปอย่างแน่นอน ดังนั้น ฝ่ายเราจะต้องกลบเกลื่อนร่องรอย ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติการ
2. การปะทะ
ฝ่ายเราจะหยุดอยู่กับที่ทันที่ แทนที่จะกระจายกำลังออกไป เพื่อเพิ่มอำนาจการยิงด้านหน้า จะไปซุกอยู่ต้นไม้ใหญ่ ต้นเดียว 4-5 คน หรือกำลังด้านที่นอนหมอบเป็นแถวอยู่ จะเป็นฉากการยิงซึ่งทำให้หน่วยข้างหน้าเสียขวัญมาก หรือข้างหน้าแปรรูปขบวนได้เพียง 3 คน เข้าทำการยิงสู้รบแต่ด้านหลังยังหมอบนิ่ง อำนาจการยิงจึงยังไม่รุนแรง เพราะข้างหลังช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไปกองกันอยู่ สาเหตุหนึ่งนอกจากการฝึกไม่ดีแล้วคือการกลัวกับระเบิด ดังนั้นความเร็วจึงเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ระหว่างการเดินอาจจะต้องมที่หมายที่จะวางตัวตลอดเวลา
3. ผู้หญิง
ทวน. นิยมใช้ผู้หญิงในการหาข่าวจากฝ่ายตรงข้าม ทหารไทยส่วนใหญ่ชอบคุยว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร โดยเฉพาะต่อหน้าสาวๆด้วยแล้ว ดังนั้นเมื่อ ทวน. มอบตัวต่อ พัน ร. 603 จึงได้ทราบว่า เราจะเข้าตีในวัน ว. คือ 14 เม.ย 2530 ซึ่งเป็นสาเหตุหึ่งนอกจากการดักฟัง
4. การสูญเสียจากการหลงกล
การสูญเสียส่วนใหญ่นั้น เกิดจากการถอนตัวออกมาในทิศทางที่ข้าศึกเลือกพื้นที่สังหารไว้ จากการสูญเสียภายในที่มั่นมีเปอร์เซ็นต์ต่ำมาก
5. หน่วยไม่ใคร่คำนึงถึงการระวังป้องกัน
คือขาดการลวงอย่างจริงจัง และการหาจุดซุ่มโจมตี โดยอ่านทิศทางที่ข้าศึกน่าจะเข้าหาที่มั่นฝ่ายเราและยังขาดหน่วนที่จะรั้งการเข้ามาของข้าศึกอีกด้วย ข้าศึกจึงสามารถโจมตีฝ่ายเราได้ง่าย
6. การตั้งรับในปัจจุบัน
ทุกหน่วยอยู่ในที่มั่นทั้งหมด ไม่มีหน่วยเคลื่อนที่ทำให้เปรียบเสมือนทุกหน่วยติดอยู่กับที่ ทำให้เกิดช่องว่างข้าศึกสามารถเคลื่อนไหวอย่างเสรี ในพื้นที่นอกเหนือไปจากที่มั่นฝ่ายเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืนหรือทัศนวิสัยจำกัด ซึ่งข้าศึกมีขีดความสามารถสูงในเวลาดังกล่าว
7. การขาดการประสานงานที่ดี
จึงทำให้กำลังรบที่เหนือกว่าของฝ่ายเรา กลายเป็นกำลังน้อยไป ไม่สามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ เช่น บนเนิน 500 ทหารพรานสามารถยึดหัวหาดได้ แต่ขยายผลไม่ได้ เพราะกำลังส่วนน้อยจรยุทธ์เข้าไป กำลังทหารหลักขึ้นไม่ทันเวลาจึงขยายเข้าหาข้าศึกไม่ได้ เพราะจำนวนกำลังพลต่อสู้ไล่เลี่ยกัน และข้าศึกยังอยู่ในบังเกอร์ ปิดที่แข็งแรงจึงถูกยิงและตีตอบโต้ด้วย ค. ,ปรส ., ถอยลงมาจนไม่สามารถบรรลุภารกิจดังกล่าว เพราะสาเหตูการขาดการประสานงานที่ดี
8. การที่ ผบ.หน่วยไม่จัดทำแผนเผชิยเหตุไว้ล่วงหน้า
ไม่มีการทำ รปจ. ไว้ว่าจะปฏิบัติอย่างไรเมื่อเกิด ดังนั้นเมื่อถูกข้าศึกโจมตีหรือจู่โจมอย่างฉับพลันทันใดโดยทหารไม่คาดคิดมาก่อนจะทำให้เกิดการโกลาหลขึ้น
9. ความไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศ และสิ่งแวดล้อมรอบตัว ทำให้ยากลำบากต่อการเคลื่อนที่ เพราะภูมิประเทศเป็นป่ารกทึบ จึงทำให้การปฏิบัติขั้นจอนต่างๆ ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
10. การปฏิบัติในป่ารกทึบทำให้วิทยุติดต่อกันไม่ค่อยได้ การขาดความชำนาญของพนักงานวิทยุ และสภาพป่าทำให้ประสิทธิภาพการสื่อสารลดลง จึงทำให้การสื่อสารระหว่างหน่ายเหนือกับหน่วยรองไม่ทันการ
11. ทหารไทยชอบการตั้งรับ แต่ข้าศึกมีความถนัดในการรุกมากกว่ารับ โดยเฉพาะคติของข้าศึกรุกต้องชนะ ถ้าไม่ชนะต้องละลาย ดังนั้นเราควรจะหันมารบด้วยวิธีรุกเพื่อแก้กลยุทธรุกของข้าศึก
12. การส่งกำลังบำรุงต้องมีแบแผนโดยสมบูรณ์ การส่งกำลังที่ล่าช้าและไม่ต่อเนื่องจะทำให้กำลังพลซึ่งอิดโรยจากการเคลื่อนที่ในภูมิประเทศเสียขวัญได้
13. วินัยการกลุกปลอบขวัญทหารสำคัญมาก โกยเฉพาะเรื่องการสูญเสียต้องมีแน่นอนในการสู้รบ ผู้บังคับบัญชาต้องยึดถือตลอดเวลา
14. การถอนตัวแต่ละครั้งมักระส่ำระส่าย เพราะขาดเครื่องยึดเหนี่ยว ดังนั้น ผบ.หน่วยต้องใช้ความเป็นผู้นำหน่วยอย่างสูงสุด
15. การตั้งฐานระดับกองร้อย ย่อมเป็นที่หมายใหญ่ และคุ้มค่าต่อการระดมยิงด้วยอาวุธหนักของข้าศึก ควรจะแยกเป็นหน่วยเล็กมากกว่า1 ฐานขึ้นไป โดยภายในฐานควรจะมี ปรส. 2 กบ.,ค. 2 กบ. และยังสามารถช่วยเหลือกันได้ จากการเข้าตีโอบของข้าศึก
16. ที่ตั้งอาวุธยิงหนักของหน่วย เช่น ค. 4.2 ไม่มีการเคลื่อนย้าย ทำให้ข้าศึกค้นหาได้โดยง่าย และตอบโต้ข้าศึกไม่ได้เมื่อมีเหตุการณ์ถูกกดดันไว้
17. การถอนตัวอย่างมีแผนและระเบียบ จะลดการสูญเสียได้มากหากไม่มีแผนและถอนตัวอย่างไม่เป็นระเบียบแล้วเปรียบเสมือนวิ่งหนีข้าศึก ทำให้ข้าศึกปฏิบัติต่อฝ่ายเราได้อย่างเสรี
18. การตั้งรับประจำที่ในสงครามปัจจุบัน เสี่ยงต่อการถูกระดมยิงซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียจำนวนหนึ่ง การเคลื่อนย้ายที่ตั้งตลอดเวลา เพื่อมิให้ข้าศึกกำหนดที่ตั้งที่แน่นอนของฝ่ายเราและหาหลักฐานการยิง
19. หน่วยที่ออก ลว. เวลากลางวัน เมื่อกลับเข้า ที่ตั้งฐานอาจถูกเกาะจากข้าศึกที่ติดตามมาได้ จะต้องระวัง มิฉะนั้นข้าศึกจะค้นหาที่ตั้งฝ่ายเราได้แน่นอน การปฏิบัติที่ควรทำคิอ ทิ้งกำลังเป็นจุดๆ คอยซุ่มโจมตีข้าศึกที่เกาะเข้ามาในระยะ 500-
20. ฝ่ายเรามักจะละเลยต่อการพรางแนวที่มั่น เป็นผลทำให้ข้าศึกสามารถเห็นฝ่ายเราได้ง่าย แม้เป็นเวลากลางคืน
21. ข้าศึกมักจะซุ่มโจมตีฝ่ายเราเสมอ ตามเส้นทางเคลื่อนที่หรือเส้นทางส่งกำลังบำรุง ซึ่งฝ่ายเราควรจะแก้ไขโดยการวางจุดซุ่มเขาก่อน เช่น ข้าศึกโจมตีเราจากเนิน 367 ไปยังเนิน 369 ทำให้สุนัขสงครามและทหารช่างกู้กับระเบิดเสียชีวิต
22. การใช้กระสุน ป. ฝ่ายเรา ข้าศึกมักจะหลอกล่อฝ่ายเราโดยใช้แสงเสียงหรือปาเข้ามาด้วยระเบิด ให้เราตอบโต้ ระหว่างเราระดมยิงอยู่ข้าศึกจะใช้ ค. ระดมยิงเข้ามาอีกทิศทางหนึ่ง และเรายังไม่สามารถตรวจหาทิศทางการยิงของข้าศึกได้อีกด้วย
23. กำลังฝ่ายเรายังขาดความเชื่อมั่นในตนเอง และในตัว ผบ. หน่วยที่จะทำหารรบในระดับหน่วยขนาดเล็ก 2-3 คนทั้งนี้เนื่องจากประสบการณ์การฝึกมีน้อย
24. ฝ่ายเรามักจะวางกำลัง เป็นกลุ่มก้อนเสมอ ทำให้ง่ายต่อการตรวจการณ์ของข้าศึก และเป็นเป้าหมายที่คุ้มค่าของการปฎิบัติทุกๆอย่างของข้าศึก
25. อาจเนื่องจากเวลาการฝึกมีน้อย หรือหลักนิยมและยุทธวิธีของเราในการฝึก ไม่เหมาะสำหรับการรบกับกองโจร หรือ กำลังรบของ ทวน. ประการหนึ่ง จึงทำให้ประสิทธิภาพในการรบ
ทั้งเป็นหน่วย และเป็นบุคคลของฝ่ายเราด้อยกว่าของข้าศึกอบ่างเห็นได้ชัด
26. แนวความคิดในการฝึกที่สำคัญที่สุดก็คือ ทางด้านจิตใจ และความเป็นผู้นำของบุคคลทุกระดับ ซ่งยังปลูกฝังได้น้อยมาก
27. แก้ปัญหาการฝึก อย่างไม่ได้นำไปรบ แต่อย่างที่ไม่ได้ฝึกให้ได้
28. แก้ปัญหาความอุ้ยอายของหน่วย เช่น หมวกเหล็ก เสื้อเกราะ ฝึกให้คุ้นเคยต่อการกินง่ายอยู่ง่าย การสุขาภิบาล กินโดยไม่ต้องปรุง ไม่มีการก่อไฟ
29. แก้ปัญหาเรื่องคน ที่พร้อมจะทำการรบกับ ทวน. ในสภาวะปัจจุบัน
30. มักจะใช้วิทยุพูดกันในเรื่องส่วนตัวเสมอ และบางเรื่องเผลอพูดความลับของทางราชการออกไป นับว่าเป็นผลเสียหายอย่างยิ่ง วินัยในการพูดถูกกำหนดไว้แต่ผู้ปฎิบัติไม่ยอมกระทำ
31. หน่วยไม่เชื่อมั่นในอาวุธหนักของกองทัพ เพราะการยิงอาวุธวิถีโค้ง ค.60 ,4.2 มักไม่ค่อยได้ผล เนื่องจาก มพ. อวน. ขาดความชำนาญที่เพียงพอ จึงทำให้อำนาจกำลังรบของหน่วยต้องลดลงไป
32. ฝ่ายเราไม่สามารถปฎิบัติเป็นชุดเล็กๆ ซึ่งมีกำลัง 3-4 คนได้ และการปฎิบัติการรบในเวลากลางคืน ซึ่งฝ่ายเราจะต้องฝึกกำลังพลให้มีขีดความสามารถในเรื่องนี้ต่อไป
อ่านแล้วอึ้ง........นึกถึงเพื่อนใน TFC ที่เล่าให้ฟังว่าขณะปฎิบัติหน้าที่ก็ยังอุตสาห์โทรศัพท์คุยกัแฟน.... ข้อห้ามเรื่องบุหรี่ในสนามรบก็ถูกสอนกันตั้งแต่เรียนรด. ก็ยัง... การวางสายโทรศัพท์แบบลวกๆ .... แล้วยุทธวิธีการรบที่ใช้ตามแบบพวกอเมริกันที่แพ้พวกเวียตกงยับเยิน อืมมมม ผมว่าพวกเวียตกงนี่มือโปรในการทำสงครามเลยนะครับ การฝึกรบหน่วยย่อย 3 คน นี่ยังกะพวกหน่วยรบพิเศษเลย เพราะคนแค่นี้ต่อหน่วยแต่สามารถทำการรบ...ติดตาม เกาะติด หาข่าว ได้ขนาดที่หน่วยรบพิเศษยังอาย ไม่แปลกครับที่อเมริกันยังแพ้
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
เวียดนามชนะได้ ด้วยคำคำเดียวครับ คือ "อุดมการณ์" ที่แน่วแน่
ซึ่งมันจะทำให้สามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้ฝ่ายตนชนะ