หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


อย่าให้ไทยเสียเอกราชเป็นครั้งที่สาม

โดยคุณ : crash เมื่อวันที่ : 24/01/2010 09:04:07

     อย่าให้ไทยเสียเอกราชเป็นครั้งที่สาม!!!

ครับไทยกำลังจะเสียเอกราชครับ แต่เป็นเอกราชทางภาษาและวัฒนธรรม 

     ผมเป็นห่วงการใช้ภาษาไทยของเด็กรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่การพูดที่เดี๋ยวนี้มักชอบใช้คำทับศัพท์อยู่เสมอโดยไม่จำเป็น  ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการทับศัพท์สามารถใช้ได้อันเนื่องมาจาก1.เป็นศัพท์วิชาการ ศัพท์เฉพาะ 2.ไม่มีคำศัพท์ภาษาไทย 

    สาเหตุเนื่องมาจากนักวิชาการ(บางคน)  ดารา นักแสดง พวกนี้มักชอบอวดรู้ว่าตัวเองมีความรู้ และรู้ภาษาอังกฤษดี  ทั้งที่ความจริงแล้วมีความรู้แค่หางอึ่ง เที่ยวพูดทางทีวีและวิทยุบ่อยๆ จนปัจจุบันคนไทยหลายคนพูดไทยคำอังกฤษคำโดยไม่รู้ตัว  จะด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แต่สำหรับผมๆถือว่าพวกคุณกำลังทำลายภาษาและวัฒนธรรมไทยอย่างแรง!!! ย้ำอย่างร้ายแรง เพราะนานๆไปคำศัพท์เหล่านั้นได้แทรกซึมกลายเป็นคำที่ใช้แทนภาษาไทยไปแล้ว 

ตัวอย่างศัพท์วิบัติ(ทั้งๆที่ความจริงมีคำไทยให้ใช้) เช่นเคส(case) = กรณี , เลท(late) = สาย , โลเคชั่น (location) = ทำเล/สถานที่ ฯลฯ

ตัวอย่างการสนทนาที่ได้วิบัติ เช่น อย่างเคสนี้เนี่ยเรทค่าบริการจะอยู่ 150/ชม. ไม่โอเวอร์ไปกว่านี้แล้วครับ....

เยอะแยะมากมายครับผมขี้เกียจเอามาลงให้รกเวบบอร์ด หลายๆท่านคงพอจะนึกออกกันนะครับ

    หลายคนคงคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ผมไม่ใช่นักภาษาศาสตร์แต่สำหรับผมมันคือการทำลายวัฒนธรรมและภาษาซึ่งบรรพบุรุษให้ไว้อย่างใหญ่หลวงครับ อีกหน่อยเราคงมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติหรือไม่ก็คิดว่าคำบางคำเป็นภาษาไทยไปเสียแล้วกระมัง....





ความคิดเห็นที่ 1


แต่ที่แน่ๆ นายอึ่งนรก helldiver ก็มีน้องสาวด้วยวุ้ย



โดยคุณ : เด็กทะเล




ฉายาน่าผัดเผ็ดจริง ๆ - -
โดยคุณ Banyat เมื่อวันที่ 21/01/2010 03:13:33


ความคิดเห็นที่ 2


การใช้คำบางคำเป็นภาษาอังกฤษ มันก็ยังพออณุโลมครับ แต่อย่าให้มากจนเกินงาม แต่ที่ผมว่าควรเน้น คือ การใช้คำที่เป็นภาษาวิบัติ เช่นคำว่า

เครียด .......... สะกดเป็น เคลียด
กลาย.............สะกดเป็น กราย
น่าซื้อ............สะกดเป็น หน้าซื้อ
ราดหน้า...........สะกดเป็น ลาดหน้า (หน้ามีทางลาด)
ครับ..............สะกดเป็น คับ(หน้าเขียวแย่)
คุณ ............... สะกดเป็น คุง (อาแป๊ะมาเอง)
ใจ..............สะกดเป็น จัย (วิบัติเสียไม่มี)
ให้.............. สะกดเป็น หั้ย (นี่ก็สุดวิบัติ)


บางคนอาจจะอ้างว่า "ภาษามันดิ้นได้ ดูอย่างภาษาสมัยนี้เทียบกับสมัยก่อนสิ" แต่สำหรับผมเห็นว่า ข้ออ้างนี้มันก็เป็นแค่คำอ้างแบบเอาสีข้างเข้าถูเท่านั้นครับ

ภาษาไทยเราเป็นภาษาที่มีเอกลักษณ์ ฝรั่งมังค่าดั้นด้นมาเรียนภาษาเรา บางคนยอมจ่ายเงินแพงๆที่ประเทศเขาเพื่อที่จะได้เรียน ที่มหาวิทยาลัยน้องสาวผม ก็มีสอน ยิ่งไปกว่านั้น ภาษาไทย ยังถูกบรรจุในหลักสูตรภาษาต่างประเทศ ในหลักสูตรรบพิเศษ ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกาด้วย เสียดายครับที่คนไม่เห็นค่า ใช้กันผิดๆ ไม่รู้ค่าของสิ่งที่ตนเองมีดุจวานรได้แก้ว
โดยคุณ helldiver เมื่อวันที่ 20/01/2010 13:01:19


ความคิดเห็นที่ 3


เกือบดีแล้วครับท่าน จขกท.ท่าท่านไม่ติดทับศัพท์ตอนบรรทัดท้ายๆไปนิดนึง
เพราะเรื่องการใช้ภาษาผมเห็นด้วยเต็มที่
โดยคุณ ลมหมุนวน เมื่อวันที่ 20/01/2010 13:21:57


ความคิดเห็นที่ 4


เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกันได้ครับ ช่วยกันรักษาเอกลักษณ์และวัฒธรรมอันดีงาม

ปล.(อีกแล้วเอามันทุกกระทู้เลย) พิมพ์ผิดโดยไม่ได้ตั้งใจถือว่าไม่นับใช่ไม๊ครับ...

โดยคุณ Xmode เมื่อวันที่ 20/01/2010 14:02:28


ความคิดเห็นที่ 5


นั่นไง พิมพ์ผิดอีกแล้ว "วัฒธรรม" ดันตก "น" จริงๆ ตั้งใจพิมพ์ "วัฒนธรรม" ครับ ราตรีสวัสดิ์สำหรับค่ำคืนนี้ ฝันดีทุกคนครับ 
โดยคุณ Xmode เมื่อวันที่ 20/01/2010 14:05:03


ความคิดเห็นที่ 6


ส่วนผมยังยืนยันเหมือนเดิมครับว่าภาษามันดิ้นได้ แต่ดิ้นแบบพอประมาณไม่ใช่แดนซ์ (นั่น ทับศัพท์) อย่าง คอมพิวเตอร์ จะเรียกเป็นภาษาไทยตามพจนานุกรมน่ะ มันจะดูประหลาดไปในบันดล เช่นเดียวกับอีกหลายๆคำ ที่มันฝังอยู่ในสมองมาตั้งแต่เด็ก เช่น แอร์,สวิตซ์,ทีวี,จิ๊กซอว์,เว็ปบอร์ด ฯลฯ หรือศัพท์ที่ชาวบอร์ด( ทับอีกและ) คุ้นเคยแบบพวกอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆก็จะเห็นว่า ทับศัพท์เล็กๆน้อยๆบานเบอะ เพราะคุ้นเคย กระชับ ได้ใจความ
และตอนเรียนมหาลัยคงทราบกันดีตอนอ่านตำราจากต่างประเทศว่า คำบางคำแปลเป็นไทยแล้ว ไม่รู้เรื่อง  ก็พูดตามคำเดิมเขาละกัน เพราะแค่ประคองตัวจนจบก็ปวดจิตแล้ว ผมเคยถามอาจารย์สอนภาษาไทยนะ เขาบอกว่า คำทับศัพท์น่ะไม่เป็นไรหรอก แต่พวกที่ดัดแปลงภาษาแบบที่คุณ  helldiver ยกตัวอย่างน่ะ ภาษาจะ -ิบหาย
โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 20/01/2010 15:47:52


ความคิดเห็นที่ 7


เราเสียเอกรชทางภาษามาตั้งนานแล้วค่ะ เสียอย่างไม่รู้ตัว  ภาษาไทยที่เราพูดอู่ทุกวันนี้ หลายประโยคมันมาจากรากศัพท์ภาษาอังกฤษ เช่น

คุณเข้าสู่บริการฝากข้อความ .................... ยู แอคเสท ทู ลิวฟ เมสเสจ เซอร์วิส  ถ้าไม่อยากจะเสียเอกราช คุณต้องบอก อยากฝากข้อความก็เอาเลย

 

จะสำรองตั๋วได้อย่างไร   .....................ฮาว ทู รีเสริฟ อะ ทิคเก็ต        สำรอง????? จะมีตั๋วสองใบ  เอาไว้สำรองอีกใบเหรอ????

 

และอีกมากมายที่ยังคิดไม่ออกค่ะ

โดยคุณ กบฏ เมื่อวันที่ 20/01/2010 21:55:26


ความคิดเห็นที่ 8


แต่ที่แน่ๆ นายอึ่งนรก helldiver ก็มีน้องสาวด้วยวุ้ย
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 20/01/2010 22:29:48


ความคิดเห็นที่ 9


ไม่ค่อยได้ log in เท่าไหร่ครับ  ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นครับ

 

คำถามคือ  ภาษามีหน้าที่อะไรครับ   เพื่อใช้สื่อสารใช่หรือไม่  ถ้าใช้สื่อสารได้นั่นก็คือ สำเร็จเป้าหมายของมันแล้วใช่ไหมครับ

 

การอนุรักษ์ คืออะไรครับ  ถ้าแปลว่าเก็บไว้ให้เหมือนเดิม ห้ามดัดแปลงแก้ไข  หรือ  พัฒนาปรับปรุงให้มันสามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ถ้าภาษามันปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไม่ได้  ภาษามันจะตายครับ  คือทำหน้าที่ได้แย่ลงเรื่อยๆ

 

คำถามสุดท้าย  สุนทรภู่ ที่สมัยนั้นเอากลอนแปดมาเขียน

หรือพญาอินทรีย์แห่งสวนอักษรกับสำนวนเพรียวนมอย่างรงค์  วงษ์สวรรค์   

 

สองคนนี้ทำให้ภาษาวิบัติ  ไม่อนุรักษ์ภาษาใช่หรือไม่  เพราะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงความนิยมในการใช้ภาษาในสมัยของแต่ละท่านซะเละเทะเลยครับ

โดยคุณ aezy เมื่อวันที่ 20/01/2010 22:30:24


ความคิดเห็นที่ 10


ปกติคนเราโดยธรรมชาติก็ไม่ค่อยชอบกับการเปลี่ยนแปลงนักหรอกครับ จริงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยภาษามันก็ตาย แต่ที่ผิดแบบเต็มประตูเลยก็ไม่น่าให้อภัย ผู้หญิงคำว่า คะ/ค่ะ มันปนกันมั่วไปแล้ว รุ่นผมยังใช้ถูกอยู่เลยรุ่นหลังมาไม่กี่ปีผิดแล้ว หรือว่าใครกินอะไรเข้าไปถึงได้ใช้ผิดกันเป็นแถว เบสิก (+_= ทับซะแล้ว) แค่นี้ยังพังแล้วต่อไปจะเหลืออะไร

ส่วนคำทับศัพท์ผมไม่ถือเพราะคำไทยที่ประดิษฐ์ขึ้นมาได้มันก็....ขอหน่อยเถอะ....ออฟ....น่ะฮะ เช่น ซอฟท์แวร์/โปรแกรม = ประมวลภัณฑ์??? จะให้ไปเดินพันธุ์ทิพย์แล้วบอก ขอดูประมวลภัณฑ์อันนี้หน่อย แบบนี้เหรอครับ ฟังแล้วมันยังไงก็ไม่รู้ ถ้ามันง่ายกว่าก็ทับไปเหอะ

หลายประเทศที่ชาตินิยมหนักๆ อย่างเกาหลีญี่ปุ่นก็มีการทับศัพท์เช่นคำว่าเค้ก หรือไรเฟิล แต่บางประเทศก็ไปไกลถึงขั้นจับปรับอย่างฝรั่งเศสเป็นต้น ทับศัพท์ให้ตำรวจได้ยินเมื่อไหร่โดน --" (กรณีหลังนี้ไม่รู้ว่าเลิกไปหรือยังเพราะเงียบมานานแล้ว)
โดยคุณ Praetorians เมื่อวันที่ 21/01/2010 06:46:22


ความคิดเห็นที่ 11


คุณ  aezy  ครับ

คำว่าวิวัฒนาการ กับคำว่าทำให้วิบัติ มันห่างกันอยู่นะครับ อย่างที่ผมยกตัวอย่างมาข้างต้น เช่น


เครียด .......... สะกดเป็น เคลียด
กลาย.............สะกดเป็น กราย
น่าซื้อ............สะกดเป็น หน้าซื้อ
ราดหน้า...........สะกดเป็น ลาดหน้า (หน้ามีทางลาด)
ครับ..............สะกดเป็น คับ(หน้าเขียวแย่)
คุณ ............... สะกดเป็น คุง (อาแป๊ะมาเอง)
ใจ..............สะกดเป็น จัย (วิบัติเสียไม่มี)
ให้.............. สะกดเป็น หั้ย (นี่ก็สุดวิบัติ)

คงไม่ใช่วิวัฒนาการแน่ๆครับ
โดยคุณ helldiver เมื่อวันที่ 21/01/2010 09:48:26


ความคิดเห็นที่ 12


ประเด็นอยู่ตรงนี้ครับ คุณ helldiver

 

คำ ที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแล้วเข้าท่า  คนนิยมใช้  มันก็จะกลายเป็นคำใหม่ให้ใช้ต่อไปเรื่อยๆ

 

 ส่วนคำที่คุณยกตัวอย่าง  ผมว่าเราอย่าเพิ่งไปตัดสินมันเลยว่าวิวัฒนาการหรือวิบัติ     ถ้าอีกยี่สิบสามสิบปีข้างหน้าคนนิยมใช้แบบนั้นเราก็ต้องยอมรับครับ  เพราะมันกลายเป็นคำมาตรฐาน

แต่ถ้าคนไม่ค่อยนิยมใช้  เดี๋ยวมันก็หายไปเองครับ ไม่ต้องห่วง

(แต่มันจะมีคำประหลาดๆมาแทนอยู่ดี)

 

ผมว่า  การเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับกาละเทศะ  น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีกว่าในการปลูกฝังเยาวชนให้รู้จักคุณค่าของภาษาไทย

ขอบคุณครับ

โดยคุณ aezy เมื่อวันที่ 21/01/2010 22:03:05


ความคิดเห็นที่ 13


"การเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับกาละเทศะ  น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีกว่าในการปลูกฝังเยาวชนให้รู้จักคุณค่าของภาษาไทย"

ผมชอบประโยคนี้จัง

ที่ตอนนี้ผมว่าคำเหล่านั้นมันวิบัติ เพราะบรรทัดฐานสังคมเรายังไม่ยอมรับครับ ต่อไปมันก็อาจเป็นวิวัฒนาการก็ได้เหมือนที่คุณบอก

เอาเป็นว่าหลักๆ เลย ตามประโยคนั้นเลยครับ
โดยคุณ helldiver เมื่อวันที่ 22/01/2010 04:06:26


ความคิดเห็นที่ 14


ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติครับ ปกติในที่นี้คือ ทำให้ภาษามันวิบัติลงนะ

ถ้าเราดูปัจจัยแวดล้อมก็จะพบว่ามันไม่น่าแปลกใจเท่าไร ที่ภาษาไทยมันจะแย่ลง ส่วนหนึ่งก็เพราะมาจากการบริโภควัฒนธรรมแบบขยะจากตะวันตก

เพราะกระแสวัฒนธรรมขยะเหล่านี้ เราจะพบมันตั้งแต่ตื่นนอนยันนอนหลับเลยล่ะครับ ตื่นมาลุกมาก็ต้องเปิดโทรทัศน์ไม่ก็ต้องฟังวิทยุ แล้วสื่อเหล่านี้มันก็กรอกหูเราอยู่บ่อย ๆ จนทำให้คนไทยรู้สึก "ชิน" กับมันไปเอง มันก็ไม่น่าแปลกใจหรอกครับที่คนไทยในปัจจุบันจะไม่รู้ซึ้งถึงคุณค่าของภาษาไทย จะไปว่าเขาก็ไม่ถูกหมดหรอกครับ คนใหญ่คนโตในประเทศยังไม่ใส่ใจจะดูแลเลย นับประสาอะไรกับคนธรรมดาทั่ว ๆ ไปล่ะครับ

 

จริง ๆ เรื่อง "การอนุรักษ์ภาษาไทย" ที่กำลังคุยกันอยู่นี้ เป็นอีกสิ่งหนึ่งซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้มาก่อนว่า "เป็นหนึ่งในพระบรมราโชวาท" ที่ทรงตรัสไว้ในหลายวาระแล้ว

 

ถ้าคนไทยเห่อใส่เสื้อสีต่าง ๆ ได้ ก็น่าที่จะลงมืออนุรักษ์ภาษาไทยได้เช่นเดียวกันครับ ยกเว้นแต่เห่อไปตามกระแสเท่านั้นเอง

 

ลองค้นหาพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับการอนุรักษ์ภาษาไทยได้ครับ ในอินเตอร์เน็ทมีเยอะมาก

โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 23/01/2010 22:04:05