มุ่งสู่เชียงใหม่ เครื่องยนต์ที่1ระเบิดกึกก้อง
กัปตันลงจอดอย่างปลอดภัย
313ชีวิตขวัญฝ่อระทึกกลางเวหา เครื่องยนต์โบอิ้ง
747 ของสายการบิน "เจ้าจำปี" ระเบิดกลางอากาศ หลังทะยานขึ้นจากพื้นดินไม่ถึง 20
นาที หวิดพาผู้โดยสารกว่า 300 ชีวิตตายหมู่ยกลำ
โชคดีที่นักบินคุมสติได้และนำเครื่องร่อนลงอย่างปลอดภัย
บิ๊กบินไทยสั่งตั้งกรรมการสอบสวนหาสาเหตุ
พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบกับฝ่ายช่าง
ชี้เป็นอุบัติเหตุค่อนข้างรุนแรงเกิดขึ้นไม่บ่อย
ประธานบอร์ดเจ้าจำปีชมนักบินที่ใช้ความสามารถ
พาผู้โดยสารรอดชีวิตได้ทั้งลำ
เหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกือบจะกลายเป็นอุบัติเหตุสยองของสายการบินไทย
อันเกิดจากเครื่องยนต์ของเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ระเบิดกลางเวหา
หวิดพาผู้โดยสารกว่า 300 ชีวิต ไปตายหมู่ยกลำกลางอากาศ
หลังทะยานขึ้นจากพื้นดินได้เพียง 20 นาที เป็นที่เปิดเผยขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 5 ก.พ.
โดยนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากฝ่ายบริหาร
บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า เมื่อค่ำวันพุธที่ 3 ก.พ. เครื่องบินโบอิ้ง
747-400 ของบริษัทการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 116 เส้นทางบิน กรุงเทพฯ-เชียงใหม่
ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารจำนวน 313 คน มีกำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในเวลา 17.15 น. แต่ภายหลังจากเครื่องบินทะยานขึ้นไป
ได้ประมาณ 20 นาที ก็เกิดเหตุไฟไหม้ที่ห้องเครื่องยนต์ ที่ 1
และเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง ทำให้นักบินต้องขออนุญาตภาคพื้นดิน
นำเครื่องบินกลับมาลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ แต่อย่างใด
หลังเกิดเหตุได้มีการเปลี่ยนเครื่องบินลำใหม่ และทำการบินอีกครั้งเมื่อเวลา 18.08
น. ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานของกรมการบินพลเรือน กำลังสอบสวนหาสาเหตุอยู่
คงต้องใช้เวลา ทั้งนี้ สำหรับเครื่องยนต์ที่ไหม้นั้นเกิดขึ้นที่เครื่องยนต์
SS1TGV
ด้านนายสุรพล อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤติ การบินไทย กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา
1 ชุด มีกัปตันมนตรี จำเรียง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายช่างการบินไทย
เป็นประธาน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายการบิน ฝ่ายช่างและกรมการบินพลเรือน
เข้ามาร่วมเป็นกรรมการ
เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากอะไร ทั้งนี้
เหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นอุบัติการณ์ที่ไม่ปกติ ค่อนข้างรุนแรง
เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบเครื่องยนต์ที่ 1 ที่เกิดไฟลุกไหม้
และคาดว่าเกิดจากชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ภายในที่ลุกไหม้
เมื่อเกิดเหตุที่เครื่องยนต์ 1
กัปตันได้สั่งการไปยังระบบดับเพลิงอัตโนมัติที่เครื่องยนต์ให้ดับไฟและดับเครื่องยนต์ทันที
ก่อนที่เครื่องบินจะลงมาที่พื้นดิน
"ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าว
ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ที่การบินไทย
มีให้บริการครั้งนี้เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรก โดยการสอบสวน ข้อเท็จจริงนั้น
ฝ่ายช่างจะเป็นแกนนำในการสอบสวนหาสาเหตุ
เนื่องจากที่ผ่านมาวิศวกรฝ่ายช่างเป็นผู้ทำหน้าที่รับผิดชอบเครื่องบินของการบินไทยอยู่แล้ว
หากมีความผิดปกติทางด้านเครื่องยนต์มากๆ
ฝ่ายช่างจะมีการสอบถามไปยังบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์
คือบริษัทจีอีและผู้ผลิตเครื่องบิน คือบริษัทโบอิ้ง"
นายสุรพลกล่าว
ต่อมาเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน นายอำพน กิตติอำพน
เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
ได้รับรายงานตรงจากนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี)
การบินไทย ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว โดยได้รับรายงานว่า
หลังจากเครื่องทำการบินขึ้นไปในระดับความสูง 6,000 ฟิต
ปรากฏว่านักบินพบสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติ ของน้ำมันหล่อลื่นที่เครื่องยนต์ 1
เครื่อง จึงดับเครื่องยนต์ ที่มีปัญหาและดับไฟ
เสร็จแล้วก็บินกลับมาลงที่สุวรรณภูมิอีกรอบ
ให้ผู้โดยสารลงจากเครื่องบินเพื่อเปลี่ยนเครื่องบินลำใหม่ก่อนบินไปยังเชียงใหม่
นายอำพนกล่าวว่า
ภายหลังจากเกิดเหตุแล้ว
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ได้สั่งให้ฝ่ายปฏิบัติการดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น
แต่จะนานเท่าไหร่ยังไม่ทราบ เท่าที่ทราบก่อนการนำเครื่องบินขึ้นบินนั้น
ก็มีการตรวจสอบเครื่องยนต์ตามระเบียบ เรื่องความปลอดภัยเป็นไปตามปกติอยู่แล้ว
ต้องขอชมเชยนักบินที่ดำเนินการเกี่ยวกับความปลอดภัย
ตามกระบวนการและตามระเบียบที่มีการกำหนดไว้ทุกอย่างได้ครบ 100%
และไม่มีใครเป็นอะไรเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากเหตุการณ์ไฟไหม้
เครื่องยนต์ที่ 1 ของเที่ยวบินทีจี 116 กทม.-เชียงใหม่ เมื่อ วันที่ 3 ก.พ.แล้วนั้น
เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันเดียวกัน เครื่องบินการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 030
เส้นทางบิน กทม.-อุบลราชธานี ก็ประสบปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องเช่นกัน
แต่โชคดีที่ไฟยังไม่ลุกไหม้เครื่องยนต์ของเครื่องบิน โดยเครื่องบินลำดังกล่าวมี
ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงไอซีทีและบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ประมาณ
20 คนอยู่บนเที่ยวบินดังกล่าว เพื่อเดินทางไปร่วมเปิดงาน "เอ็มไอซีที
สร้างคนสร้างชาติ" ที่ จ.อุบลราชธานี
ทั้งนี้
ผู้โดยสารที่เดินทางมากับเครื่องบินลำดังกล่าวเล่าว่า
เมื่อเครื่องบินลำดังกล่าวถอยออกจากหลุมจอดเครื่องบินประมาณ 5 นาที
กัปตันได้ประกาศให้ผู้โดยสารทราบว่า เครื่องบินมีเหตุขัดข้อง ไม่สามารถทำการบินได้
และได้นำเครื่องบินกลับมาที่หลุมจอดเดิม
จากนั้นกัปตันได้ประกาศให้ผู้โดยสารลงจากเครื่องบิน เพื่อตรวจสอบ
โดยผู้โดยสารในเที่ยวบินลำดังกล่าวรอเครื่องบินซ่อมแซมประมาณ 2 ชั่วโมง
จนเวลาประมาณ 19.20 น.
ผู้โดยสารจึงเดินทางโดยเที่ยวบินดังกล่าวได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า
ขณะนี้ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันในบริษัทการบินไทยอย่างมาก
ถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารของการบินไทย
จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การซ่อมแซมเครื่องบินมีปัญหามาโดยตลอด