หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ถ้าเอา JAS39 กริปเป้น มาลงที่สุราษฏร์ แล้ว F-5E เดิมจะนำไปไว้ที่ไหนอ่ะครับ

โดยคุณ : AIRFORCE_TEN เมื่อวันที่ : 11/02/2010 13:04:59

หรือว่าจะนำไปเป็นเครื่องสำรองให้กับ ฝูงบิน211 หรือขายให้กับ ต่างประเทศ เช่น ฟิลิปินส์ อ่ะครับ




ความคิดเห็นที่ 1


ก็ปลดทิ้งสถานเดียวอะครับ  เก่าขนาด

โดยคุณ RMUTK เมื่อวันที่ 08/02/2010 09:18:03


ความคิดเห็นที่ 2


แต่ตอนแรกมันจะยังบินคู่กันไปก่อนครับ เหอ ๆ

ล็อตสองมาช้า F-5 เลยยังลา บ่ ได้ ^ ^
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 08/02/2010 10:51:31


ความคิดเห็นที่ 3


พักผ่อนไงครับ ลุงแกทำเพื่อชาติมาเยอะแล้วให้วัยรุ่นมาทำต่อบ้าง
โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 08/02/2010 13:55:26


ความคิดเห็นที่ 4


น่าจะเข้าพิพิทธพันธ์เพื่อการศึกษาอากาศยานหรือวิศวกรรมอากาศยานนะครับ
โดยคุณ pat555 เมื่อวันที่ 08/02/2010 20:57:45


ความคิดเห็นที่ 5


ถ้าถึงวาระต้องปลดประจำการ เข้าประจำการในพิพิธภัณฑ์                 โดยเปิดโชว์โครงสร้างให้เห็นภายในแบบ CUTAWAY                         ลำไหนที่มีเกียรติประวัติการรบจากสมรภูมิก็ยกให้เป็น                     WING OF FAME พร้อมชื่อนักบิน                                                         ยกตัวอย่างลำที่เคยถูกแซมยิงเข้าท่อท้ายแล้ว                                บินกลับฐานบินได้ ประมาณนี้ครับ

โดยคุณ Flyman เมื่อวันที่ 08/02/2010 21:51:33


ความคิดเห็นที่ 6


ขออภัยครับ จัดหน้ากระดาษไม่เรียบร้อย มันเลยกระจายไปหน่อย

โดยคุณ Flyman เมื่อวันที่ 08/02/2010 22:07:08


ความคิดเห็นที่ 7


คมชัดลึก :ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องปรับลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงไป

โครงการจัด ซื้อเครื่องบินขับไล่รุ่น Gripen-39 C/D หรือ "กริพเพน" เฟส 2 ทดแทนเครื่องบินรบรุ่น เอฟ-5 ซึ่งประจำการมานานกว่า 30 ปีจึงต้องชะลอไว้ก่อน แต่เฟสแรก 6 เครื่องที่จะประจำการในปี 2554 ก็จะมาถึงตามกำหนดการเดิม


กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ จึงนำคณะสื่อมวลชนเหินฟ้าไปเยี่ยมชมการเตรียมพร้อมรับ "ฝูงบินรบกริพเพน" ถึงกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี พร้อมพานายทหารระดับสูงของกองทัพอากาศมาชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาด้วย

พล. อ.ท.ประจิน จั่นตอง รองเสนาธิการทหารอากาศ ชี้แจงว่า กองทัพอากาศมีแผนเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว แต่ยังต้องรอดูการแปรญัตติงบประมาณในเดือนสิงหาคมนี้ก่อน

แต่ ขณะนี้มีความชัดเจนว่า จะได้กริพเพน 6 เครื่องเท่านั้น จึงอาจมีการปรับปรุงเครื่องเอฟ-5 ของกองบิน 7 จำนวน 7 เครื่อง เพื่อนำมาปฏิบัติภารกิจร่วมกับกริพเพน โดยภายในเดือนสิงหาคมนี้ จะมีความชัดเจนเรื่องแนวทางปรับปรุง และวงเงินงบประมาณ

การปรับปรุงครั้งนี้จะใช้คำว่า "ปรับสภาพ" เพื่อ "ยืดอายุ" ให้เอฟ-5 สามารถทำภารกิจได้ไปจนกว่าเครื่องกริพเพนในเฟส 2 จะมาถึง


น. อ.สุทธิพงษ์ อินทรียงค์ รองเจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ ย้ำถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า สิ่งสำคัญที่เราจัดซื้อครั้งนี้ไม่ใช่แค่กริพเพน เพราะลำพังกริพเพนอย่างเดียว ความสามารถก็สูงกว่าเอฟ-16 เล็กน้อยเท่านั้น

ประสิทธิภาพ การมองเห็นของกริพเพน สามารถตรวจจับอากาศยานของฝ่ายตรงข้ามได้ไกลโพ้น โดยเครื่องบินซาบ (SAAB) ที่ติดตั้งระบบแอร์บอร์น เออร์ลี่ วอร์นนิ่ง สามารถใช้เรดาร์ตรวจจับฝ่ายตรงข้ามได้ไกลถึง 250 ไมล์ ส่วนตัวกริพเพนเองก็มีเรดาร์ที่ตรวจจับได้ 40 ไมล์

พูดง่ายๆ คือ ในรัศมีตั้งแต่ขอบอ่าวไทยยันเวิ้งทะเลอันดามันไม่มีอากาศยานเล็ดลอดจากเรดาร์ของกริพเพนได้แน่

ส่วน แผนการส่งมอบกริพเพนจะเริ่มจากเครื่องบินซาบลำแรกที่จะส่งมอบที่สวีเดนใน เดือนธันวาคม 2553 ก่อนจะทยอยส่งมอบเครื่องบินกริพเพนที่จะมาถึงประเทศไทยในเดือนมกราคม และมีนาคม 2554

รองเจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ ทิ้งท้ายว่า "เราจะส่งนักบินไปฝึก 10 คน และช่างเทคนิคอีก 180 คน ซึ่งการฝึกคนมีความสำคัญที่สุด เพราะต่อให้เทคโนโลยีดีเลิศแค่ไหน แต่ถ้าคนของเรารับไม่ได้ กริพเพนก็เป็นเพียงแค่เศษเหล็กเท่านั้น"


น. ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย ในฐานะ "ว่าที่ผู้ฝูงกริพเพน" ซึ่งพ่วงดีกรีอดีตนักเรียนนายเรืออากาศสหรัฐ "อันดับที่ 1" และปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกนโยบาย กองนโยบาย และแผนกรมยุทธการทหารอากาศ กล่าวถึงภารกิจควบคุมฝูงบินดิจิทัลฝูงใหม่ว่า

การ คัดเลือกนักบินกริพเพนทั้ง 10 คนขณะนี้เราคัดเลือกได้หมดแล้ว โดยคัดเลือกจากนักบินรบที่มีชั่วโมงบินตั้งแต่ 500-700 ชั่วโมงขึ้นไป และเป็นคนที่กลับมาแล้วจะสามารถรับเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

แถมเทคโนโลยีบางตัวก็ยังใช้งานง่าย และไฮเทคกว่าเอฟ-16 ของมะกันด้วย !!

ขณะ ที่ น.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บังคับการกองบิน 7 กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับกริพเพนว่า กองบิน 7 จะใช้งบประมาณลงทุนรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างเก่า และก่อสร้างโรงเก็บ และโรงซ่อมเครื่องบิน รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยประมาณ 700 ล้านบาท


นอก จากนี้ ยังต้องแบ่งพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยเสียใหม่ โดยจะแบ่งเป็น 3 โซน คือ 1.โซนสีแดง ซึ่งอยู่ชั้นในสุดเป็นเขตยุทธการ 2.โซนสีเหลือง อยู่ชั้นกลาง เป็นเขตราชการ และ 3.โซนสีเขียว เขตพื้นที่รอบนอก

นอก จากนี้ ยังจะติดตั้ง "ระบบอิเล็กทรอนิกส์" ไว้คอยตรวจจับสิ่งผิดปกติ รวมทั้งติดตั้ง "ระบบต่อสู้อากาศยาน" เพื่อคุ้มครองฝูงบินดิจิทัลอย่างเต็มพิกัด

ทีมข่าวความมั่นคง

http://www.komchadluek.net/detail/20090 ... B8%AA2.htm

http://www.thaiarmedforce.com/forum/viewtopic.php?f=7&t=16&start=105


อันนี้เป็นข่าวเก่านะครับที่ผมเคยนำมาแปะไว้ ก่อนที่ทางรัฐบาลจะอนุมัติเฟส 2 แต่มีเนื้อหาที่บอกถึงความจำเป็นในการยืดอายุ F-5 ออกไปก่อนครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 08/02/2010 21:34:54


ความคิดเห็นที่ 8


ลำที่ถูกแซมยิงที่ท่อเนี่ยเห็นว่า ชนนกตกแล้วไม่ใช่ครับครับ

นักบินก็เสียชีวิตด้วยไช่ครับ ครับ

ผิดถูกบอกทีนะครับ

โดยคุณ pinkmaster เมื่อวันที่ 11/02/2010 01:16:36


ความคิดเห็นที่ 9


จะเอาข้อไปไหนก็ได้ แต่อย่าเอาไปทำเป็นประการัง แบบรถถังเลยนะครับ เห็นแล้วหดหู่ลุงๆแกไปทำเพื่อชาติมาหลายครั้งแล้วนิครับ
โดยคุณ pinkmaster เมื่อวันที่ 11/02/2010 01:17:59


ความคิดเห็นที่ 10


F5 ที่สุราษฯก็ยังคงไว้ครับ  เอาไว้เป็นคู่ซ้อม คู่ฝึก ให้กับเจ้ากริฟเปนไงครับ

 

ลองคิดดู ซื้อกริฟเปนแค่ 6 ลำ ในความเป็นจริงเมื่อประจำฝูง ผลัดกันเข้าซ่อมตามชม.บินซะ 2 ลำ จอดเตรียมพร้อมซะ 2 ลำ ฝึกบินตามปรกติ 2 ลำ  มันจะได้ประโยชน์อะไรครับ กริฟเปนเป็นบ.ที่มีเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อปฏิบัติภารกิจเป็นหมู่ อย่างน้อยที่สุดหมู่ 2 หรือหมู่ 4 โดยมีระบบดาต้าลิ้งที่จะส่งผ่านข้อมุลซึ่งกันและกัน จากเรด้าอิรี่อาย + เรด้าภาคพื้น 

ฝึกบิน 2 ลำ เต็มที่ก็ได้แค่ด๊อกไฟลล์กันครับ ส่วนภารกิจสกัดกั้นไม่ต้องพูดถึงเลย นี่แหละครับ คือความจำเป็นที่จะต้องคงเอฟ5 ไว้เพื่อเป็นข้าศึกสมมุติ ไว้ให้เจ้ากริฟเปนซ้อม เรียกว่า เป็นคู่ซ้อม คู่ฝึก อีกทั้งยังสามารถปฏิบัติภารกิจร่วมกันได้เมื่อมีความจำเป็นอีกด้วย  แต่ถ้าซื้อกริฟเปน 12 ลำ ตามที่ทอ.ขออนุมัติ ปัญหานี้จะหมดไป เอฟ5 ก็ได้พักผ่อน หลังจากที่รับใช้ชาติมานาน กริฟเปนก็มีเพียงพอที่จะใช้ฝึก ,ซ้อม ,รบ ฯลฯ ครับ

โดยคุณ Gapster เมื่อวันที่ 11/02/2010 02:04:59