สัตหีบ วันนี้ (16 ก.พ.53) จากกรณีที่ เรือรบสาธารณรัฐเกาหลี ชื่อ SUNGINBONG (LST 685) เข้าเยี่ยมประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการฝึกร่วมและผสมคอบร้าโกลด์ 2010 กับกองทัพไทย โดยจอดเรือ ณ เทียบท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2553 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งหลังจากเรือจอดเทียบเมืองท่า พลเรือโท Lee, Hong-Hee ผู้บัญชาการนาวิกโยธินเกาหลีใต้ ได้ถือโอกาสเดินทางเข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึกร่วมและผสมในครั้งนี้ด้วย พร้อมกับได้เข้าเยี่ยมคำนับ พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และ พลเรือโท สุวิทย์ ธาระรูป ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ทั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไมตรีระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือเกาหลีใต้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
และในวันนี้เป็นวันที่กองทัพเรือเกาหลีใต้ครบกำหนดต้องเดินทางกลับประเทศ เพราะเสร็จสิ้นการฝึกร่วมคอบร้าโกลด์แล้ว พลเรือโท สุรศักดิ์ พุ่มพวง เสนาธิการ กองเรือยุทธการ ผู้แทนกองทัพเรือ ได้ลงเรือยกพลขึ้นบก เพื่อมอบของที่ระลึกให้กับ นาวาเอก โช ( Choi) ผู้บังคับการเรือ SUNGINBONG (LST 685) พร้อมคณะ ซึ่งฐานทัพเรือสัตหีบ ได้จัดวงดุริยางค์ สำหรับบรรเลงเพลงของทั้ง 2 ประเทศ ณ ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด โดยมีผู้ให้ความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะลูกเสือ เนตรนารี ที่เดินทางมาเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร โดยทหารเรือทั้ง 2 ประเทศได้ถอดหมวกโบกลากันมีทั้งกำลังพลประจำเรือ และกำลังพลนาวิกโยธินที่เดินทางมาทำการฝึกยกพลขึ้นบกในการฝึกผสมร่วมคอบร้าโกลด์ ณ หาดยาว ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่ กองทัพเรือประเทศเกาหลีใต้นำเรือรบเข้ามาเทียบเมืองท่าในประเทศไทย และเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่กองทัพเรือเกาหลี และกำลังนาวิกโยธินในเข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ 2010 ในปีนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ กองทัพเรือเกาหลีใต้ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กำลังพิจารณาจัดหาเรือพิฆาตติดตั้งระบบ Aegis เพิ่มอีก ลำ ทั้งนี้ กองทัพเรือเกาหลีใต้ได้จัดหาเรือพิฆาตติดตั้งระบบ Aegis จำนวน 3 ลำ ภายในปี 2555 โดยลำแรกได้ทำการปล่อยลงน้ำ เมื่อเดือนเมษายน 2550 และจะขึ้นระวางประจำการในปี 2552 ลำที่ 2 มีกำหนดปล่อยลงน้ำ 3 ในปี 2553 และลำที่ 3 มีกำหนดปล่อยลงน้ำในปี 2555 อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือเกาหลีใต้มีความต้องการอย่างน้อย 6 ลำ อีกทั้งยังมีแผนจัดหาเฮลิคอปเตอร์กวาดทุ่นระเบิดจำนวน 8 เครื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการต่อต้านภัยคุกคามทางทะเลจากเกาหลีเหนือ ซึ่งกองทัพเรือได้เสนอความต้องการต่อคณะเสนาธิการทหารเพื่อจัดหาเฮลิคอปเตอร์ที่มีขีดความสามารถในการต่อต้านทุ่นระเบิด (AMCM) ให้สามารถนำเข้าประจำการจำนวน 4 เครื่อง ภายในปี 2558 โดยพิจารณาคัดเลือกระหว่างเฮลิคอปเตอร์ MH-60S Knighthawk ของบริษัท Sikorsky กับเฮลิคอปเตอร์ EH-101 ของบริษัท Agusta Westland
-ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะครับ...ปีหน้าเจอกันอีก อย่าลืมเอา KDX มาอวดด้วย
ใช่ครับ ทร.บริหารงบได้เก่งมากๆยอมรับเลยครับ เก็ยเล็กผสมน้อยค่อยๆเป็นค่อยๆไป ตอนนี้ผมว่าเรื่องที่สำคัญที่สูด การปรับปรุงเรือรบในทร.หลายๆลำเพื่อให้ทันสมัย ทั้งระบบอำนวยการรบและระบบอาวุธ ต่อมาคือเรือดำน้ำครับ ผมว่าแค่เรามีระบบป้องกันภัยทางอากาศดีๆ ก็พอครับไม่ต้องถึง Aegis หรอกครับ
ส่วนตัวคิดว่าปรับปรุงเรือชั้นนเรศวร ให้ครบตามที่ตั้งแผนไว้แต่แรก เช่น ประจำการด้วย ฮ.อย่างเต็มรูปแบบ ปรับปรุงระบบอำนวยการรบให้ดียิ่งขึ้น เสริมการป้องกันภัยทางอากาศ เช่น แท่นยิง VLS. ระบบ CIWS เป็นต้น ซึ่งแล้วแต่ทร.จะเลือก ( อยากให้ติด VLS. หรือไม่ก็ SEA RAM ) ผมว่าแค่นี้เรือชั้นนเรศวรทั้งสองลำ ก็ร้ายกาจไม่แพ้ชั้น Aegis แล้วครับ อย่างน้อยก็ทำหน้าที่ได้ครบ 3 มิติ