1. เกี่ยวกับกิจการกองกำลังรักษาดินแดน อยากทราบว่าท่านต้องการในเรื่องของการเรียนของนักศึกษาวิชาทหาร อยากทราบว่าควรปรับปรุงอย่างไร อยากให้อธิบายและบรรยายถึงการฝึกไว้เป็นตัวอย่างสักหน่อยนะครับ
ที่ตั้งคำถามนี้เพราะผมเห็นหลายท่านตอบคำถามในหลายกระทู้และได้กล่าวถึงความไม่มีความพร้อมในกำลังสำรองในส่วนของ รด.ของเรา ผมจึงอยากทราบครับว่าควรปรุงปรับอย่างไรถึงจะถูกใจกัน
ความคิดเห็นที่ 1
ส่วนตัวผมอยากให้ รด. มีการฝึกเต็มวันครับ เป็นจุดเริ่มต้นด้วยเหตุที่ว่าความมีระเบียบยังอ่อน ความพร้อมยังรุ่งริ่ง การฝึก 1 วัน ณ. ปัจจุบันผมว่าเหมาะสมเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและความจำเป็นที่ไม่เร่งด่วนอะไร และเพื่อให้นักเรียนมัธยมปลายทั้งหลายได้รับการฝึกอย่างเต็มที่ไม่ใช่ (หนี)เรียนหนังสือตอนเช้ามาฝึกตอนบ่าย (หรือหนีเรียนมันทั้งคู่) จะได้เพิ่มเวลาขัดเกลาให้มันดูดีมากขึ้น และการฝึก 1 วันคุณยังได้การเคารพธงชาติในตอนเช้าหรืออาจจะได้ในตอนเย็นอีกด้วยครับ
การรับสมัครใช้เกณฑ์เดิมดีแล้วครับแต่ผมอยากให้ลดจำนวนการรับให้น้อยลงอีกเพื่อรองรับการฝึกเต็มวันได้ครับ อีกสาเหตุนึงคือ ผมอยากให้เด็กไทยสนใจจริงๆมากกว่านี้คือไม่อยากให้คิดว่าเป็นการหนี้การเกณฑ์ทหาร ถึงแม้วิธีนี้จะลดไม่ได้แต่เพื่อเป็นการสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นเมื่อลดอัตราการรับลงเด็กจะได้ภูมิใจขึ้นมาอีกนิดนึง และที่สำคัญหากพบว่าอ้วนเกินมาตรฐานให้ทดสอบกันปีต่อปีเลยครับแบบว่าขึ้นปี2 ทดสอบไม่ผ่านให้ออกหรือให้โอกาสแก้ตัว1เดือนสอบใหม่ก่อนให้ออก อะไรประมาณนี้ครับ งบประมาณผมอยากให้ นศท. เสียเงินมากกว่านี้ครับเพราะการฝึกของ นศท. ไม่ใช่ความต้องการหลักของกองทัพเพียงฝ่ายเดียวแต่เป็นความต้องการของ นักเรียนเองมากกว่า เพื่อสอดคล้องกับการฝึกเต็มวันที่ต้องใช้งบประมาณสูงครับ
ส่วนเรื่องการฝึก ผมวาดไว้อย่างนี้ครับ ทุกจังหวัดผมไม่กล่าวถึงเพราะ 1 จังหวัดก็มี 1ค่ายทหาร(ประมาณนั้น)ไว้รองรับการฝึก อาจจะเป็นจังหวัดใกล้ๆ ผมไม่อยากให้ใส่อาร์มเพื่อแ่บ่งโรงเรียนครับอยากให้ฝึกรวมกันโดยคละตามอักษรไปเลย ในกรุงเทพ(อันนี้ต้องขออภัยก่อนหากผมกล่าวผิดเพราะผมไม่ทราบทั้งหมดมาก่อนว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร)ผมเชื่อว่ายังมีหลายค่ายไม่ได้ฝึก รด. ครับก็อยากปรับเปลี่ยนให้ฝึกด้วยครับ การฝึกเต็มวันผมออกแบบว่าให้ทหารเกณฑ์ฝึกร่วมกับ รด. ครับโดยอาจจะแบ่งกันเป็น 2 หมวด(สมมติ) หมวดนึงทหารเกณฑ์ อีกหมวด รด. ฝึกร่วมกันลงโทษคล้ายกัน (ให้เหมือนนักเรียนช่างทหารเลยครับที่มีนักเรียน สอง ส่วน คือส่วนนักเรียนอาชีวะธรรมดากับนักเรียนที่จบรับราชการทหารทันที) ปี1-3 ฝึกได้ทุกค่ายรวมทั้ง ค่ายที่สนามหลวงกับที่ดินแดง ส่วนปี4-5 ผมอยากให้แยกเหล่าฝึกตามค่ายที่สังกัดเหล่านั้นๆเลย(ต่างจังหวัดอาจจะลำบากครับอันนี้คงต้องแบบเดิมไปก่อน 555 เศร้าในมันสมองอันน้อยนิด) การฝึกภาคสนามผมเห็นด้วยครับการฝึกทุกปี
ทั้งหลายทั้งปวงผมก็อยากให้ได้ขึ้นรถจริงๆกันบ้างครับดังนั้นการฝึกภาคสนามในการฝึกของปี1-3(เพราะ4-5ไม่ทราบเลยไม่กล่าวเพราะผมเรียนเพียง3ปีครับ)เค้าใจครับเรื่องงบประมาณแต่อย่างที่ทราบการฝึก ณ. ปัจจุบันมันเหมือนเล่นในสวนสนุกมากครับไม่เชื่อท่านรองแวะไปดูได้ครับ แต่ก็เป็นเพียงภาพวาดครับ
นี่ก็เป็นความต้องการของผมแบบพอสังเขปครับ (ไม่เป็นขั้นเป็นตอนสักเท่าไหร่)
โดยคุณ
PINJI 
เมื่อวันที่
20/02/2010 00:52:06
ความคิดเห็นที่ 2
ผมจึงอยากทราบครับว่าควรปรุงปรับอย่างไรถึงจะถูกใจกัน
ผมว่าใช้คำว่าถูกใจไม่เข้าท่าครับ ต้องเรียกว่าปรับปรุงอย่างไรถึงจะใช้ได้จริงและปกป้องดินแดนได้มากกว่า
จะทำแบบยุวชนทหารเราตอนสงครามโลกครั้งที่สอง ก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ (ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายุวชนทหารเค้าฝึกกันยังไง 555+)
โดยคุณ
tan02 
เมื่อวันที่
20/02/2010 00:55:24
ความคิดเห็นที่ 3
คือที่ว่าถูกใจเพราะดังที่กล่าวไว้ครับ หลายท่านบ่นถึง รด. ไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ จึงตั้งกระทู้นี้มาให้ได้ลงความเป็นกันครับ หมายความว่าให้ถูกใจผู้ตอบหละครับ
อืมเรื่องยุวชนทหารนี่ ผมก็จำไม่ได้ว่าชาติที่แล้วผมเรยีนหรือเปล่า 55+ ล้อเล่นนะครับ คือแค่อยากแซวครับ
โดยคุณ
PINJI 
เมื่อวันที่
20/02/2010 01:01:47
ความคิดเห็นที่ 4
ผมจะใช้ระบบ e-Learning ให้มากที่สุด ในการสอนแบบEdutainment และก็มีส่วนที่ฝึกซึ่งผสม การออกค่ายอาสาพัฒนา การเดินทางไกล การฝึกภาคสนาม การศึกษาประวัติศาสตร์ในพื้นที่ที่เคยเป็นสนามรบ
การเรียนกฎหมายนอกจากตัวบทผู้สอนต้องนำฏีกา อุทาหรณ์ต้างๆมาสอน การเรียนเรื่องทหารนอกจากหลักการยุทธแล้วประวัติศาสตร์การรบเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้สอนจะต้องสามารถถ่ายทอดได้ ครูทหารส่วนใหญ่เป็นคนที่ทำงานดีแต่ไม่ค่อยรู้ประวัติศาสตร์ การใช้Gameและระบบe-Learningช่วยจะช่วยให้เรียนสนุกและเข้าใจได้ดีกว่า ระบบเก่าๆ
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่
20/02/2010 06:27:05
ความคิดเห็นที่ 5
ผมว่าปี1-2 เอาแบบพลทหารไปปเลยครับ(เรียนในช่วงปิดเทอมเต็มวัน 1เดือนเต็ม)
คนที่มาเรียนเพื่อหนีทหารจะได้ไม่มี(คนน้อยทำให้จัดงบประมาณได้ง่ายและพอเพียง) สอดแทรกการใช้อาวุธเล็กน้อย
พอถึงปี3ค่อยว่ากันถึงเรื่องยุทธวิธีการเข้าตี การใช้อาวุธประจำกายอย่างเต็มรูปแบบครับ
โดยคุณ HS4-TES เมื่อวันที่
20/02/2010 09:51:28
ความคิดเห็นที่ 6
เข้าฝึกประจำการปีละ45วัน3ปี (ฝึก15วันประจำการ30วัน) ไม่มีวันหยุดห้ามลา ค่าใช้จ่ายออกเอง
เช่น ฝึกกรุงเทพประจำการโคราช
โดยคุณ s1209 เมื่อวันที่
20/02/2010 10:46:15
ความคิดเห็นที่ 7
ผมจบ รด.ปี5ครับ ผมว่าฝึกให้เข้มกว่านี้สัก1ส่วนก็พอ แต่ให้ภาคสนามเป็นตัวชี้วัดว่า"ผ่าน"หรือ"ไม่ผ่าน" จำได้เลยตอนปี4 นี่นรกมาก เป็นลมกันระเนระนาดเลย
โดยคุณ BOM เมื่อวันที่
21/02/2010 08:54:34
ความคิดเห็นที่ 8
ผมเอาแค่ให้เรียนรวดเดียวเหมือนสมัยก่อนก็พอแล้ว นักศึกษาที่เข้ามาฝึกจะด้วยเหตุผลใดก็ชั่งเขา แต่เข้ามาแล้วอย่าให้เสียเกียรติ์ อย่ามาสร้างความเสื่อมเสียให้กับชุดที่ใส่ เรียนอาทิตย์ละวันวินัยมันไม่ซึมเข้าเส้น
โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่
21/02/2010 14:38:10