เก็บข่าวมาให้อ่านเพื่อ update ข้อมูลทางทหารในภูมิภาคแถวนี้เท่านั้น ของดเรื่องการเมืองตามกติกาของผู้ดูแลเวปนะครับ
|
เอฟ 16 ดี (ชนิดสองที่นั่ง) เจ้าของฉายาฟอลคอน "เหยี่ยวเวหา" ตัวจริง ผ่านสมรภูมิรบมาโชกโชน ตลอด 30 กว่าปี ที่เข้าประจำการ ทั้งบินรบขับไล่และทิ้งระเบิดขนาดเบา จัดเป็นคู่ต่อกรชนิดฟ้าสะเทือนกับ เฉิงตู เจ-10 ของจีน (ภาพเอเยนซี) | |
 |
เอเอฟพี-ไต้หวันแถลงวันอังคาร 23 ก.พ. ว่ายังคงปรารถนาจะซื้อเครื่องบินขับไล่จากสหรัฐฯ อยู่ โดยเฉพาะหลังจากที่เพนตากอนออกรายงานชี้ศักยภาพของฝูงบินรบไต้หวันยังห่างชั้นกับจีน เมื่อวันที่ 22 ก.พ. สำนักงานข่าวกรองกลาโหมสหรัฐ (ดีไอเอ) ได้เผยรายงานประเมินสมรรถภาพกองทัพไต้หวัน ระบุว่า เครื่องบินรบเกือบทั้งหมดที่ไต้หวันมีอยู่ราว 400 ลำ อาจไร้ประสิทธิภาพเนื่องจากประจำการมานาน และขาดการบำรุงรักษาที่ดีพอ นอกจากนี้ การป้องกันสนามบินของไต้หวันที่อยู่ห่างจากจีนเพียง 160 กิโลเมตร ก็เปราะบางอ่อนแอเกินต้านทาน และชี้ว่าไต้หวันจำเป็นต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของกองทัพอากาศ เนื่องจากนับวันแสนยานุภาพกองทัพจีนยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
โดยการนี้ ไต้หวันต้องการซื้อเครื่องบินเอฟ 16 ซี/ดี ซึ่งสามารถทำการรบพิสัยไกล กว่าที่มีอยู่ เช่นเดียวกับต้องการเรือดำน้ำ
นายกรัฐมนตรีไต้หวัน อู๋ ตุน อี้ กล่าวที่รัฐสภาว่า ข้อพิจารณาถึงยุทโธปกรณ์สองรายการนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพต้องการมาก ยังคงอยู่ และไม่มีการยกเลิกคำสั่งซื้อ รายงานนี้ชี้ว่า ไต้หวันจำเป็นต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของฝูงบินรบ เนื่องจากนับวันกองทัพอากาศจีนจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน หยู ซื่อจู่ว์ กล่าวกับนักข่าวว่า ไต้หวัน หวังว่า สหรัฐฯ จะยังจัดหายุทโธปกรณ์ป้องกันให้ไต้หวันต่อไปตามกฎหมายว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน-สหรัฐฯ
ทั้งนี้ กฎหมายฉบับนี้ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่สหรัฐฯ ได้เปลี่ยนจุดยืนไปยอมรับสถานะทางการเมืองของสาธารณรัฐประชาชนจีน แทนไต้หวัน ในปี พ.ศ. 2522 และไต้หวันในเวลานั้น พึ่งพาสหรัฐฯ ในการจัดหาอาวุธเพื่อรบกับจีน
โดยสมรรถภาพกองทัพอากาศของไต้หวันที่มีอยู่นับแต่เวลานั้น ประกอบด้วย ฝูงบินเอฟ 5เอส 60 ลำ, มีเครื่องบินรบที่สร้างภายในประเทศ(ไอดีเอฟ ) 126 ลำ, ฝูงบิน เอฟ 16เอ/บีเอส 146 ลำ, และเครื่องบินขับไล่มิราจของฝรั่งเศส 56 ลำ
ในรายงานของเพนตากอน ระบุว่า เครื่องบินรบ รุ่นเอฟ 5 ล้วนถึงเวลาปลดระวางแล้ว ขณะที่ เครื่อง ไอดีเอฟ ยังไม่มีศักยภาพในการรบเพียงพอที่จะมาทดแทน
เมื่อเดือนมกราคม วอชิงตันได้ประกาศขายยุทโธปกรณ์ป้องกันให้แก่ไต้หวัน มูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์ แม้ฝ่ายจีนขู่จะคว่ำบาตรทุกบริษัทที่มีส่วนร่วมกับดีลนี้
แต่ฝ่ายสหรัฐฯ ยังเกรงใจจีน ไม่กล้าขายเครื่องบินเอฟ-16 ให้ไต้หวันอีก 66 ลำ และฝูงเรือดำน้ำ ตามที่มังกรน้อยต้องการ โดยอ้างว่าต้องประเมินความจำเป็นของไต้หวันก่อน การเผยรายงานชิ้นนี้ของดีไอเอ จึงถูกบรรดานักวิเคราะห์การทหาร มองว่า เพื่อให้สภาคองเกรสสหรัฐฯ ใช้สำหรับเสนอเพนตากอนให้อนุมัติการขายเอฟ-16 ให้ไต้หวันซึ่งสหรัฐฯ ยังคงความสัมพันธ์แนบแน่นเสมอมา อีกทั้งยังเป็นผู้ขายอาวุธรายใหญ่ให้ไต้หวัน ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ต้องการกระชับความสัมพันธ์กับจีน และสนับสนุนนโยบายจีนเดียวของจีนแผ่นดินใหญ่
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000026170