หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


== ขอถามเรื่อง F-16 MLU TH กับ MIG-29 SMT ของพี่หม่อง ครับ==

โดยคุณ : UNFINISHED เมื่อวันที่ : 02/03/2010 08:41:27

อยากได้ความรู้ประดับหัวเพิ่มเติมครับ ลอง Search ดู แล้วส่วนมากจะเจอภาษา English ซึ่งผมแปลได้แบบ งูๆ ปลาๆ

......อยากขอแบ่งปันความรู้จากพวกพี่ๆว่า....

1. F-16 ของไทยเนี่ย ถ้าทำการ MLU ตามโครงการ และงบประมาณตามที่อนุมัติไป 6 เครื่องแรกเนี่ยครับ(ทราบว่ายังไม่มีใครรู้ว่าจะเป็น spec แบบใดทั้งหมด) อยากทราบว่าขีดความสามารถ ตามความเข้าใจของเพื่อนๆพี่ๆทั้งหลาย F-16 MLU ของ ทอ. ไทย ถ้าเทียบ หมัดต่อหมัด ตัวต่อตัว อุปกรณ์ต่ออุปกรณ์ และระบบอาวุธปล่อย ซึ่งผมทราบมาว่า SMT ของพี่หม่องเค้า พัฒนาให้มีความคล่องตัวสูงกว่าเดิม ทันสมัยกว่าเดิม มีขีดความสามารถในการรบทางอากาศสูง และ สกัดกั้น ถ้าเทียบกันแล้ว อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ไม่นับบุคลากร เอาอุปกรณ์ล้วนๆ ใครได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไรครับ

2. แนวทางการ ทำ MLU ของความคิดแต่ละท่าน ทอ. จะเลือกทำและติดอุปกรณ์แบบไหนบ้างครับ เช่นเรดาร์ กระเปาะ ต่างๆ ระบบสงครามอิเลคทรอนิกส์ เพราะเข้าใจว่า งบทำ MLU ต่อลำของไทยค่อนข้างสูงมาก สูงกว่าประเทศยุโรปที่ได้ทำไปก่อนหน้าบางประเทศอีก หรืออาจจะทั้งหมด

3. F-16 ADF ของโคราช นอกจากจะมีความสามารถปล่อย BVR ได้แล้ว ยังมีคุณสมบัติพิเศษต่างจาก รุ่น AB เดิมอย่างไรบ้างครับ

4. แล้วถ้า F-16 ทำ MLU แล้วจะสามารถใช้ DATALINK ร่มกับ Gripen และสื่อสารกับ Erieye ได้หรือไม่ครับ ผมอยากให้ปฏิบัติภารกิจร่วมกันได้สมบูรณ์ ครับ

5. อยากให้กระทู้นี้ เป็นที่ศึกษาของ การทำ MLU ของผมและเพื่อนๆด้วยครับ


ขอบคุณมากครับ ขาดตกบกพร่อง หรือถามไม่เข้าใจอย่างไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ^^





ความคิดเห็นที่ 1


ลองไปอ่านที่นี้เลยครับ

http://www.thaiarmedforce.com/forum.html
โดยคุณ lasvegas เมื่อวันที่ 24/02/2010 06:21:39


ความคิดเห็นที่ 2


ตอบท่าน UNFINISHED

ข้อ 1###

ลองคิดเล่นๆ ดูน่ะครับ

จากข้อมูลเรดาร์ คือ
1. เรดาร์ของ F-16 MLU แบบ APG-68(V)9 สามารถตรวจจับ บ.ขับไล่ (RCS 5 m2) ได้ที่ระยะ 58 nm
2. เรดาร์ของ F-16 ADF และ F-16 OCU แบบ APG-66A และ APG-66(V)1 สามารถตรวจจับ บ.ขับไล่ (RCS 5 m2) ได้ที่ระยะ 32 nm
3. เรดาร์ของ Mig-29B แบบ N019 สามารถตรวจจับ บ.ขับไล่ (RCS 5 m2) ได้ที่ระยะ 47 nm
4. เรดาร์ของ Mig-29SMT แบบ N010ME สามารถตรวจจับ บ.ขับไล่ (RCS 5 m2) ได้ที่ระยะ 67 nm

จากข้อมูล RCS คือ
1. ค่า RCS ของ F-16 MLU/ADF/OCU ประมาณ 1.2 m2
2. ค่า RCS ของ Mig-29B/SMT ประมาณ 5 m2

จากการคำนวณจะพบว่า
1. F-16 MLU จะตรวจพบ Mig-29B/SMT ได้ที่ระยะ 58 nm หรือ 104 km
2. F-16 ADF/OCU จะตรวจพบ Mig-29B/SMT ได้ที่ระยะ 32 nm หรือ 58 km
3. Mig-29B จะตรวจพบ F-16 MLU/ADF/OCU ได้ที่ระยะ 33 nm หรือ 59 km
4. Mig-29SMT จะตรวจพบ F-16 MLU/ADF/OCU ได้ที่ระยะ 47 nm หรือ 84 km

ระยะยิงของ อวป.อากาศ-สู่-อากาศ คือ
1. F-16 MLU/ADF ใช้ AIM-120C-5 ระยะิยิง 58 nm
2. Mig-29B ใช้ R-27R ระยะยิง 43 nm
3. Mig-29SMT ใช้ R-77M2 ระยะยิง 54 nm

สรุปผล
1. F-16 MLU vs Mig-29SMT = F-16 MLU win (ยิงเค้าได้ก่อน แต่ต้องรีบหนีทันที)
2. F-16 MLU vs Mig-29B = F-16 MLU win (ยิงเค้าได้ก่อนนานมาก)
3. F-16 ADF vs Mig-29SMT = F-16 ADF lose (โดนยิงก่อน)
4. F-16 ADF vs Mig-29B = F-16 ADF win (ยิงพร้อมกัน แต่ฝ่ายตรงข้ามใช้ อวป. semi-active ยังมีโอกาสชนะได้มากกว่า)
5. F-16 OCU vs Mig-29SMT = F-16 OCU lose (โดนยิงก่อน หนีได้แต่รอดยากหน่อย)
6. F-16 OCU vs Mig-29B = F-16 OCU lose (โดนยิงก่อน แต่อาจจะรอดได้ถ้าหนีทันทีที่เห็น)

หมายเหตุ
1. F-16 MLU คือ F-16A/B ฝูง 403 หลังจากปรับปรุงแล้ว
2. F-16 ADF คือ F-16A/B ฝูง 102
3. F-16 OCU คือ F-16A/B ฝูง 103 และฝูง 403 ก่อนปรับปรุง
4. Mig-29B คือ Mig-29 ชุดแีรกที่พม่าซื้อ 10 เครื่อง
5. Mig-29SMT คือ Mig-29 ชุดล่าุสุดที่พม่าซื้อ 20 เครื่อง

ปล.
1. เหมือนกรณี Gripen นะครับ การคำนวณนี้ไม่ได้คิดถึงปัจจัยประกอบ (ตัวช่วย) อื่นๆ เลย
2. ไม่ต้องคิดถึง Su-30MKM หรอกครับ อันนั้นปล่อยเป็นหน้าที่ของ Gripen เค้าไปครับ

 

อ.rinsc seaver วิเคราะห์ไว้ ที่ TAF

โดยคุณ terdkiet เมื่อวันที่ 24/02/2010 09:16:55


ความคิดเห็นที่ 3


ข้อ 2####

Re: I dreamed about RTAF F-16MLU

Postby rinsc seaver » 02 Feb 2010 10:41

ในเมื่อตอนนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าโครงการ MLU ของฝูงบิน 403 นั้น มีแน่นอนและเราก็พอจะทราบคร่าวๆ ถึงรายละเอียดกันแล้ว มีจุดนึงที่น่าพิจารณานั่นคือ ทอ.จะยังคงภารกิจหลักของฝูงบิน 403 เอาไว้เป็นภารกิจโจมตีเช่นเดิมหรือไม่ เนื่องจากถ้าพิจารณาแล้วจะเห็นว่าหลังการทำ MLU แล้วนั้น ขีดความสามารถในภารกิจ air-to-air ของฝูง 403 จะเหนือกว่าฝูงบินทุกฝูงยกเว้นแต่เพียง Gripen ของฝูง 701 เท่านั้น โดยเฉพาะฝูงบิน 102 ที่มีภารกิจ air-to-air เป็นหลักมานาน ดังนั้นมีความเป็นไปได้หรือไม่ในการปรับภารกิจหลักของฝูงบิน 403 เป็นเน้นที่ air-to-air แทนหรือปรับลดเป็น air-to-air : air-to-ground = 50:50 จากเดิมที่สัดส่วน 70:30 แล้วโอนภารกิจโจมตีให้กับฝูงบินอื่นแทน เช่น ฝูงบิน 103 เป็นต้น และจะยิ่งดีมากขึ้นหาก ทอ.สามารถจัดสรรงบฯ มาทำ partial-MLU ให้กับฝูง 103 ซึ่งตัวเครื่องยังเหลือ ชม.การใช้งานค่อนข้างมาก (ขั้นต่ำ 20 ปี โดยเฉพาะเครื่องใน lot PN.II) เพื่อให้ใช้ในภารกิจโจมตีได้เต็มรูปแบบ โดยอาจเลือกเฉพาะเครื่องรุ่น A เท่านั้นก็ได้ (แค่ 6 หรือจะ 12 หรือเต็ม 18 เครื่อง)

ข้อเสนอรายการปรับปรุง
1. คอมพิวเตอร์ MMC
2. อุปกรณ์เชื่อมต่อเรดาร์ตัวเดิมกับ MMC
3. ระบบ EWMS
4. ห้องนักบิน มีเฉพาะ HUD+ICP, MFD, DTC, HOTAS
5. เครื่องรับ GPS แบบ jam-resistance
6. วิทยุ HAVE QUICK II และ SINCGARS
7. data-link แบบ IDM
8. MIL-STD-1760 weapon mux bus เฉพาะ station 3 กับ 8
9. อาวุธเฉพาะ PGM เท่านั้น
 
อ.รินทร์ เจ้าเก่า
โดยคุณ terdkiet เมื่อวันที่ 24/02/2010 09:20:51


ความคิดเห็นที่ 4


ผมเห็นด้วยนะครับ กับข้อ 2 ถ้าทำการ MLU 403 ครบตามต้องการแล้ว หากมีงบประมาณ อยากให้ ทำ MLU ในส่วนเครื่องที่เหลือ ชม. มากครับ
โดยคุณ UNFINISHED เมื่อวันที่ 24/02/2010 09:33:26


ความคิดเห็นที่ 5


ต่อข้อ 2### อีกหน่อย

EW suite ของ MLU อาจจะประมาณนี้ครับ คือ
1. ระบบจัดการสงครามอิเล็กทรอนิกส์แบบรวมการ AN/ALQ-213(V) EWMS ของ Terma
2. ระบบแจ้งเตือนเมื่อถูกตรวจจับด้วยเรดาร์ (RWR) AN/ALR-69A(V) ของ Raytheon
3. ระบบปล่อยเป้าลวง AN/ALE-47 ACMDS ของ BAe Systems
4. กระเปาะมาตรการต่อต้านทางอิเล็กทรอนิกส์ (ECM) AN/ALQ-131(V) ของ Northrop Grumman หรือถ้าจะเอาขั้นเทพก็ AN/ALQ-211(V)9 AIDEWS ของ ITT Electronic Systems
5. เป้าลวงลากท้าย AN/ALE-50(V)2 AAED ของ Raytheon (แต่ว่าสหรัฐฯ จะขายให้หรือไม่??)
6. ระบบแจ้งเตือนทิศทางของอาวุธปล่อยนำวิถีที่ถูกยิงเข้ามา (MAWS) AN/AAR-60(V)2 MILDS-F ของ EADS
7. ไพลอนติดระบบเป้าลวง/สงครามอิเล็กทรอนิกส์ PIDS+ ของ Terma

ข้อ 1-3 เป็นไปได้สูงสุด ข้อ 4 แค่อาจจะ ข้อ 5-7 ต้องลุ้นแรงๆ

 

ข้อ 3###

ADF ต่างจาก Block-15OCU ตรงที่ได้รับการปรับปรุงเรดาห์ AN/APG-66 ให้เป็น APG-66A ให้มีขีดความสามารถมองลง/ยิงลง เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับเป้าหมายเล็กๆ....ตามนี้ 

Modifications included Bendix King (now Allied Signal) AN/ARC-200HF/SSB radios with Have Quick II Secure Speech Module and the Teledyne/E Systems Mk.XII Advanced IFF system (APX-109). The APG-66 radar was modified (designated APG-66A) to provide look down/shoot-down capability, enhanced small target detection, and CW (Continuous Wave) illumination for AIM-7 guidance.

จาก http://www.f-16.net/f-16_versions_article14.html

โดยคุณ terdkiet เมื่อวันที่ 24/02/2010 09:38:57


ความคิดเห็นที่ 6


...............

ขอถามท่านอีกรอบนะครับ

MLU รอบนี้เปลื่ยนในส่วนเครื่องยนต์ รึเปล่าครับ แต่น่าจะไม่ (ถามเพื่อความแน่ใจครับ)

ขอบคุณครับ และขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆข้างบนด้วยนะครับ พอมองภาพออกเลยครับ MLU เราไม่ธรรมดาจิงๆ แล้วถ้ามีนักบินดีๆเก่งอย่างบ้านเราอีก เหอะ ไม่อยากจะคิดเลย ^^
โดยคุณ UNFINISHED เมื่อวันที่ 24/02/2010 09:39:15


ความคิดเห็นที่ 7


หลักๆ คงเป็นระบบอวิโอนิกส์ เครื่องยนต์คงไม่ต้องทำอะไรมันมั๊ง แค่ซ่อมบำรุงตามวงรอบ

 

...ไม่ใช่เฉพาะนักบินที่เก่งนะครับ...ทีมช่างของเราก็ไม่ใช่ย่อย

โดยคุณ terdkiet เมื่อวันที่ 24/02/2010 09:46:21


ความคิดเห็นที่ 8


เพิ่มเติมข้อ 3           F-16 ADF  ยังโมฯไฟซีนอนที่แก้มซ้ายด้วยครับ

เรื่องมันมีอยู่ว่าก่อนหน้านั้น F-16 ADF ทั้งหลายสังกัดอยู่ในกองกำลังรักษาดินแดนทางอากาศสหรัฐอเมริกา ( Air National Guard ) มีหน้าที่พิสูจน์ทราบ-สกัดกั้นวัตถุบินไม่ทราบฝ่ายทุกชนิดที่จะเข้ามาในน่านฟ้าของอเมริกา  บางครั้งวิทยุไปที่วัตถุบินเหล่านั้นแล้วไม่มีการตอบกลับก็อาจต้องพิสูจน์ทราบด้วยสายตา  ถ้าเป็นตอนกลางคืนก็ใช้ไฟฉายข้างลำตัวนี่แหล่ะ!  ส่องดูทะเบียนเครื่องบินพลเรือนบ้าง  สัญชาติเครื่องบินบ้างครับ :)

โดยคุณ Lalunarจัง เมื่อวันที่ 24/02/2010 10:24:51


ความคิดเห็นที่ 9


^

^

ใช่ครับผม...ไฟฉายขนาด 150,000 แรงเทียน....ถ้าเป็นไฟบ้าน เปิดทีมิเตอร์คงหมุนเป็นลูกข่างเลยหล่ะ

A 150,000 candlepower night identification spotlight was installed on the port side of the nose (below and in front of the cockpit) to aid in the identification of nighttime intruders. The aircraft were equipped to carry 600 (US) gallon (2,271 liter) external drop tanks, and to carry 6 BVR missiles such as the AIM-7 Sparrow or AIM-120 AMRAAM.

จากลิงค์เดิมครับ

โดยคุณ terdkiet เมื่อวันที่ 24/02/2010 20:29:36


ความคิดเห็นที่ 10


เรื่องเรดาร์นั้น ผมอยากให้เป็นแบบ AESA อย่างเรดาร์ SABR ของ Northrop Grumman มากกว่า เพราะตามข้อมูลแล้วน่าจะติดตั้งได้กับ F-16 A/B ที่สำคัญคือราคาใกล้เคียงกับเรดาร์ APG-68(V)9 อาจจะแพงกว่านิดหน่อย แต่ปัญหาว่าไม่ทราบว่าทาง อเมริกา จะอนุญาตให้ส่งออกหรือไม่ ถ้าอนุญาตและกองทัพอากาศตั้งใจจะใช้เครื่องบิน F-16 MLU ไปอีกประมาณ 20 ปี ผมว่าน่าจะใช้ตัวนี้ไปเลยครับ เพราะในอนาคตอันใกล้ เรดาร์แบบ AESA คงเป็นเรดาร์ที่ใช้กันทั่วไปในเครื่องบินยุคใหม่ไปแล้วครับ
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 24/02/2010 22:30:10


ความคิดเห็นที่ 11


ผมว่า Radar AESA ไม่น่าจะได้ครับ เพราะต้อง MOD โครงสร้างส่วนหัว

ที่น่าสนใจคือ DATA link มากกว่าว่าจะให้แบบไหน

 

 

โดยคุณ O.B. เมื่อวันที่ 01/03/2010 21:41:25