พอดีเข้าไปเห็นใน google ครับรบกวนผู้รู้หน่อยนะครับ
แล้วจะเหมาะสมไหมครับถ้ากองทัพเรือนำมาใช้ในภาระกิจคุ้มกันกองเรือ
ผมเชียร์ให้เจ้าตัวนี้มาอยู่ กบร. มากเลยถ้าได้มันมาไม่ต้องนาโต้ใดๆทั้งสิ้นเพราะเจ้า 32 FN เนี้ยมันคืออี้โต้ของแท้เลย แค่หมู่บิน 2 เท่านั้นเรือพิฆาตก็หนาวๆร้อนๆแล้ว คุณสมบัติเทียบประมาณ Mini awac หมัดเด็ดอยู่ที่อาวุธโจมตีเรือ Bramos เห็นจะไม่ผิดเทียบกันตัวต่อตัวผมว่าดีกว่า SU 30 MKM ของมาเลย์สะอีกในทัศนะคติของผม
ถ้ามีเจ้านี่จริงๆ ซัก 1 ฝูง พร้อมอาวุธนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ จะเป็นยุทธศาสตร์ป้องปรามได้ดี ยิ่งถ้ามีเรือดำน้ำซัก 6 ลำ อยู่ทั้งสองฝั่ง ใครจะเข้ามาทั้งอ่าวไทยและอันดามัน คงต้องคิดหนัก แต่คงเป็นไปได้ยากเพราะเราคงไม่มีงบประมาณขนาดนั้น ผมเชื่อว่าถ้าหากชาติอาเซียนสามัคคีรวมกลุ่มกันทางยุทธศาสตร์ทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร ( การเมืองไม่ยุ่งเกี่ยว เรื่องของใครของมัน ) กำลังรบเชื่อได้ว่าพอมีอำนาจป้อมปรามชาติมหาอำนาจ เช่น สมมุติไทยมีเรือดำน้ำ 2 ลำ สิงคโปร์ 4 ลำ มาเลย์ 3 ลำ อินโดนิเซีย 4 ลำ พม่า 2 ลำ เวียดนาม 4 ลำ รวมแล้ว 19 ลำ ไม่น้อยน่ะครับ
Mini awac คล้ายกับ jas39 หรือเปล่าครับแต่เรดาร์ของ su-32
น่าจะไกลกว่ามากอยากทราบว่าราคา ของ su-32 ประมาณเท่าไรครับ
และขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับมีความรู้เพิ่มมาอีกรุ่น
พิมพ์ลงใน Google ครับ SU-34 หรือ ซู-34 ได้ข้อมูลแน่ครับ
ก่อนอื่นนะครับทำความเข้าใจกันก่อนว่า SU-32 คือ รหัสส่งออกของ S-34 หรือ SU-32 FULLBACK นั้นเองครับ
บทบาทของมันคือ บ.ขับไล่ทิ้งระเบิดทางลึก ( มากๆ )
อย่างที่บอกครับ มันขึ้นลงด้านล่าง มีห้องน้ำ ที่นั่งปรับได้เครื่องอำนวยความสะดวกครบครันครับ
ต่อมาเรื่องเหมาะกับกองทัพเรือไหม
ส่วนตัวคิดว่า ก็เหมาะครับ แต่คงไม่ได้เกิดละครับ
ทำไมล่ะ?
1.เลยคือ การจัดสันงบประมาณของทร.ในตอนนี้นั้น ดูแล้วจะค่อนข้างหนักไปทางปรับปรุงเรือที่มีให้ทันสมัยและครบตามที่ตั้งไว้แต่แรกกับการจัดหาเรือดำน้ำซะมากกว่า ที่เป็นแบบนี้ก็อาจจะมาจากการที่ทอ.ประจำการด้วย JAS-39 แล้วเจ้านี่มันติด RBS-15 ได้แถมมันติดมากับเครื่องด้วย ผมเลยคิดว่า ณ เวลานี้หน้าที่ป้องกันท้องทะเลทางอากาศคงจะปล่อยให้ทอ.ทำไปก่อน ซึ่งตรงนี้ผมก็พอใจในระดับหนึ่ง
2.เจ้า SU-32 เป็นบ.ที่ใหญ่มากๆครับ แถมมีสองเครื่องยนต์อีกต่างหากคงกินน้ำมันน่าดูและค่าบำรุงรักษาไม่ต้องพูดครับ บานแน่ๆครับ หากเอามาเพียงป้องกันท้องทะเลไทยผมว่ามันจะดูยิ่งใหญ่ไปครับทะเลไทยไม่ได้ใหญ่อันใดนัก เอาเจ้านี่มาใช้คงเปลืองไปหน่อย
ส่วนเรื่องระบบนั้นคงไม่ใช่ปัญหามากนักครับ เพราะ เจ้า SU-32 มันเป็นบ.ส่งออก ซึ่งน่าจะเปลี่ยนเป็นนะบบ NATO ได้ ( เพราะ NATO เองก็ขึ้นทะเบียนเจ้านี่ไว้ คงไม่ใช่ปัญหานัก )
ปล.ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอนาคตละครับ คอยดูกันไป
ซู-34 นั้นจัดเป็นเครื่องบินโจมตีทางยุทธศาสตร์มากกว่าน่ะครับ เพราะเข้าประจำการทดแทน ซู-22/24 เน้นหนักในเรื่องการโจมตีระยะไกลด้วยอาวุธนำวิถีความแม่นยำสูงหลายๆชนิด และระบบอำนวยการรบส่วนใหญ่เน้นหนักไปทางโจมตี
ส่วนภารกิจมองจริงๆสำหรับบ้านเรา เอฟ-16/18 กรีเพ้น ติด ฮาร์พูน ระเบิดร่อนก็เพียงพอต่อความต้องการในด้านการป้องกันและโจมตีพื้นที่รอบๆบ้านเราได้แล้วล่ะครับ เพราะเราไม่ได้วางยุทธศาสตร์เหมือนชาติมหาอำนาจที่ต้องบินข้ามประเทศอื่น เพราะภัยคุกคามสำหรับบ้านเราก็มีแค่รอบบ้านที่ไม่เกินความสามารถ บ.ข.ที่กล่าวมาข้างต้นเท่าใดครับ
มันไม่ต่างครับ....
SU-34 คือ SU-32 โอเคนะครับ
SU-32 คือรุ่นส่งออก มีระหัสใน NATO ว่า FULLBACK