เท่าที่ทราบ ไม่มีครับ....ดูบทความนี้ก็แล้วกันจากเว็ปเสี่ยโย
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=skyman&month=08-2006&date=27&group=2&gblog=10
เมื่อจบจากโรงเรียนนายเรืออากาศ ทางกองทัพอากาศจะทำการคัดเลือกศิษย์การบิน โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือก จะได้เข้ารับการฝึกที่ โรงเรียนการบินกำแพงแสน โดยแบ่งเป็นปีละ 2 รุ่นๆ ละ 35-50 คน
เมื่อผ่านขั้นตอนการบินต่างๆตามที่ ร.ร.การบินได้กำหนดไว้และสำเร็จตามหลักสูตรแล้ว กองทัพอากาศจะบรรจุนักบินใหม่เข้าสู่การเป็นนักบินขับไล่โจมตี นักบินลำเลียง นักบินเฮลิคอปเตอร์ต่อไป ในรุ่นหนึ่งๆของศิษญ์การบินที่จบประมาณ 30 นาย จะถูกคัดสรรจากกองทัพอากาศเข้าสู่เส้นทางการบินเป็นนักบินขับไล่โจมตีจำนวน 10 นาย ทั้ง 10 นายจะถูกส่งไปฝึกเป็นนักบินขับไล่ขั้นต้น ณ.กองบิน 1 จ.นครราชสีมาการฝึกจะใช้เครื่อง แบบ L-39 จะทำการฝึกประมาณ 6 เดือน เมื่อจบหลักสูตรนักบินทั้งหมดจะแยกย้ายกันไปประจำฝูงบินขับไล่ทางยุทธวิธี เช่น L-39, Alphajet,F-5,F-16
หลังจากที่ได้รับคัดเลือกเพื่อที่จะมาบินกับ F-16 แล้วก็ต้องเข้าเรียนหลักสูตรการบิน F-16 ซึ่งแบ่งเป็น 2 ภาค คือ วิชาภาคพื้นและภาคอากาศ วิชาภาคพื้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องบิน F-16 เช่น ระบบโครงสร้างและการทำงานทั้งหมด ของF-16 ระบบเครื่องยนต์ ระบบเอวิโอนิคส์ ระบบอาวุธ ฯลฯ
อีกส่วนหนึ่งคือการเรียนทฤษฎีการบิน โดยมีครูการบินเป็นผู้ทำการสอนถึงวิธีการบินเปลี่ยนแบบนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งในภาคนี้จะใช้เวลาทำการเรียนประมาณ 2 เดือน
เมื่อจบวิชาภาคพื้นดินแล้วก็จะเป็นภาคอากาศก็จะปฏิบัติการบินกับ F-16 ซึ่งก่อนจะบินกับบ. F-16 จริงๆ นักบินทุกนายจะต้องไปฝึกบินกับเครื่องฝึกจำลอง ซึ่งตั้งอยู่ที่กองบิน4(ไม่แน่ใจนะครับว่าปัจจุบันที่กองบิน1มีหรือยัง เพราะนี่เป็นข้อมูลจากหนังสือ ปี 45/nok) เพื่อให้มีความคุ้นเคยกับระบบและการปฏิบัติต่างๆใน Cockpit ของ F-16 เป็นเวลา 2 อาทิตย์ โดยมีครูการบินเป็นผู้ควบคุมและให้การแนะนำอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้น จึงจะเริ่มการบินภาคอากาศด้วย F-16 B ที่กำหนดไว้ 7 เที่ยวบินโดยในหลักสูตรจะให้นักบินทำการปล่อยเดี่ยวได้ในเที่ยวที่ 7 เมื่อนักบินสามารถทำการบินเดี่ยวได้แล้วก็จะช่วยทำให้นักบินมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือการบินยุทธวิธีด้วยการบินสกัดกั้น 1V1 (หนึ่งต่อหนึ่ง) 2เที่ยวบิน การบิน Air To Air ด้วย Basic Fighter Maneuver( BFM) (การใช้อาวุธเบื้องต้น) 11 เที่ยวบิน และAdvance Combat Maneuver (ACM) (การปฏิบัติการรบขั้นสูง) 6 เที่ยวบิน การบินยิงเป้าอากาศ (DART) 2 เที่ยวบิน การบิน Air To Ground จะเป็นการบิน Surface Attack (SA) 6 เที่ยวบิน และ Surface Attack Tactic (SAT) อีก เที่ยวบินและขั้นตอนสุดท้ายก็คือการบิน Air Combat Tactic (ACT) 2เที่ยวบินกับการบิน NITE 1 เที่ยวบินที่เหลือก็เป็นการบิน Instrument รวมบินภาคอากาศด้วย F-16 ประมาณ 46 เที่ยงบิน อันเป็นการจบหลักสูตรนักบิน พร้อมรบ F-16 หรือที่ เรียกว่า F-16 Combat Readey นั่นหมายถึงนักบินผู้นี้ได้จบหลักสูตรอย่างสมบูรณ์แล้วพร้อมได้รับประกาศนียบัตรการเป็นนักบิน F-16 และเมื่อได้เป็นนักบิน F-16 แล้วก็จะต้องฝึกบินกับ F-16 อย่างต่อเนื่องเพื่อสั่งสมประสบการณ์ด้านการบินยุทธวิธีและอื่นๆซึ่งต้องอาศัยความรู้ความสามารถและทักษะด้านการบินอย่างมากเพื่อพร้อมที่จะนำ F-16 ทะยานขึ้นปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกเวลาตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายหน้าที่ให้และนี่คือด่านต่างๆกว่าจะได้เป็น นักบิน F-16 อย่างเต็มภาคภูมิ
ข้อมูลจากหนังสือสมรภูมิ ฉบับเดือน พ.ค. 2545ครับ
^
^
จะเห็นได้ว่าคีย์หลัก จะอยู่ที่รร.นายเรืออากาศ งั้นมาดูกันว่ารร.นายเรือฯ เค้าต้องการคนลักษณะไหน
http://www.rtafa.ac.th/admission/qualification.html
คุณสมบัติของผู้สมัคร (โดยย่อ)
^
^
จากสมการสองอันข้างบน รวมกันสรุปว่าต้องเป็นชายเท่านั้นครับ
คงเป็นไปไม่ได้อะครับ เพราะสรีระสาวเอเชีย โดยเฉพาะสาวไทย คงเอาไปเปรียบกับสาวยุโรปไม่ได้ (หึหึ) สาวไทยอ้อนแอ่น คงไม่เหมาะอะครับ ไหนจะเรื่องวัฒนธรรมอีก จะมีบ้าไหน ยอมให้ลูกสาวตัวเองไปทำงานเสี่ยงๆ จริงไหม ขนาดชายแท้ๆ พ่อแม่ยังห่วงเลย จิงปะ?? ^ ^
ทอ.สหรัฐเคยทำวิจัยแล้วผู้หญิงสามารถเป็นนักบินรบได้ดี ไม่น้อยกว่าผู้ฃาย อาจดีว่าด้วยฃ้ำ แต่ถ้าโดนยิงตกทุกชาติก็คงหวังว่านักบินคนนั้นจะเป็นผู้ชาย