หลังขาดแคลนเครื่องบินอย่างรุนแรงเหตุจาก “โคอิโตะ” พ่นพิษทำเก้าอี้ไม่ได้มาตรฐาน เล็งเครื่องขนาด 300 ที่นั่งที่มีอายุไม่เกิน 3 ปี เชื่อทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทันทีใน 3 ปีกว่าพันล้านบาท...

นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในวันนี้ (12 มี.ค.) ฝ่ายบริหารการบินไทยจะมีการเสนอแผนการเช่าเครื่องบินขนาด 300-350 ที่นั่ง จำนวน 6 ลำในราคาที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยพิจารณาเห็นชอบ หลังจากที่ในช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา บอร์ดได้เห็นชอบในหลักการแล้ว โดยจะนำมาใช้ในเส้นทางบินยุโรป คาดว่าจะทำให้การบินไทยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นภายใน 3 ปี กว่า 1,000 ล้านบาท

รอง กก.ผอ.ใหญ่ฝ่ายกลยุทธ์ฯ การบินไทย กล่าวต่อว่า จากที่การบินไทยได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ในปี 2553 อยู่ที่ 4,3000 ล้านบาท ปี 2554 อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท และปี 2555 อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท การเช่าเครื่องบินดังกล่าวเป็นแผนเร่งด่วน ที่จะนำมาแก้ไขปัญหาการขาดแคลน เครื่องบินอย่างรุนแรง สืบเนื่องจากเครื่องบินที่มีอยู่ของการบินไทย มีอายุการใช้งานนานแล้ว และเครื่องโบอิ้ง 747 ต้องมีการซ่อมอยู่ตลอด

นายโชคชัย กล่าวอีกว่า รวมถึงปัญหาเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A 330-300 ที่รับมอบมาแล้ว 3 ลำ แต่ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะเก้าอี้โดยสารที่การบินไทยจ้างบริษัทโคอิโตะผลิต ไม่สามารถใช้งานได้ตามมาตรฐาน ส่งผลให้ตารางการบินของการบินไทยมีความล่าช้ามาตลอด อย่างไรก็ตาม หากบอร์ดอนุมัติในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะเซ็นสัญญาได้ภายในเดือนมี.ค.นี้ และคาดว่ากลางเดือนเม.ย.-กลางเดือนพ.ค. จะสามารถรับมอบเครื่องบินได้

“เครื่องบินที่การบินไทยจะเช่ามานั้นจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยไม่เกิน 3 ปี มีลักษณะใกล้เคียงกับ B777-300ER หรือถ้าเป็นแอร์บัส จะเป็นรุ่น A 340-600 เนื่องจากเป็นรุ่นที่ประหยัดน้ำมัน โดยจะเช่าในราคา 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐต่อลำต่อเดือน ทั้งนี้มีการบินไทยได้ส่งทีมไปดูหลายสายการบินแล้ว เช่น สิงคโปร์แอร์ไลน์ อินเดีย เป็นต้น ขณะที่แผนการพัฒนาฝูงบินของการบินไทย ให้สอดคล้องกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงใน 5 ปีข้างหน้า ว่าการบินไทยได้จัดทำแผนพัฒนาฝูงบินในระยะเวลา 10-15 ปี” รอง กก.ผอ.ใหญ่ฝ่ายกลยุทธ์ฯ การบินไทย กล่าว

นายโชคชัย กล่าวด้วยว่า แผนดังกล่าวครอบคลุมการจัดหาเครื่องบินรุ่นใหม่ระหว่างปี 2553-2567 แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ประกอบด้วยช่วงปี 2553-2557 จะปลดระวางเครื่องบินเก่าจำนวน 25 ลำ รับมอบเครื่องบินที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 9 ลำ จัดหาเครื่องบินรุ่นที่จำหน่าย และใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เพื่อใช้งานจำนวน 15 ลำ ช่วงปี 2558-2562 ปลดระวางเครื่องบินเก่าจำนวน 32 ลำ และจัดหาเครื่องบินรุ่นใหม่ เพื่อทดแทนการปลดระวาง และรองรับการเจริญเติบโต ไม่น้อยกว่า 38 ลำ และช่วงปี 2563-2567 ปลดระวางเครื่องบินเก่าจำนวน 20 ลำ และจัดหาเครื่องบินรุ่นใหม่ เพื่อทดแทนการปลดระวางและรองรับการเจริญเติบโต ไม่น้อยกว่า 28 ลำ

http://www.thairath.co.th/content/eco/70135