ซีฮอว์ค

นาวาเอก ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ที่ทางกระทรวงกลาโหมขออนุมัติจัดหาให้แก่เหล่าทัพหลายรายการเมื่อ 22 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา โดยในส่วนของ กองทัพเรือ เป็นเพียงการพัฒนาขีดความสามารถในการปราบเรือดำน้ำของเฮลิคอปเตอร์ ปราบเรือดำน้ำ แบบS - 70 ซีฮอว์ค กองทัพเรือได้มีเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบ Sea Hawk ไว้ใช้ราชการมาแล้วตั้งปี ๒๕๔๐ โดยสืบเนื่องมาจากในอดีตคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้กองทัพเรือ จัดหาเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ หรือ ฮ.ปด. แบบ S - 70 B จากสหรัฐอเมริกา จำนวน 6 เครื่อง เข้าประจำการในฝูงบิน 2 หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร โดยเฮลิคอปเตอร์ 2 เครื่องแรกได้เดินทางมาถึงประเทศไทย และขึ้นทะเบียนประจำการเมื่อ 16 กันยายน 2540 ส่วนอีก 4 เครื่องที่เหลือ ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยและได้ขึ้นทะเบียนประจำการเมื่อ 30 ธันวาคม 2540

เฮลิคอปเตอร์ Sea Hawk หรือ Navy Hawk ตามนามเรียกขานของราชนาวีเป็นเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำที่ใช้ปฏิบัติการร่วมกับเรือ เรียกได้ว่าเป็นพระเอกตัวจริง ด้วยสมรรถนะและขีดความสามารถที่หลากหลาย เพราะไม่เพียงแค่ปราบเรือดำน้ำเท่านั้น ยังมีภารกิจสนับสนุนกำลังทางเรือ กำลังนาวิกโยธิน ตลอดจนค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลอีกด้วย สมรรถนะของ S-70 B ที่เป็นเลิศจึงถูกกล่าวขวัญกันมาก ด้วยความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศ ซึ่งสามารถบรรทุกหมู่ทหารได้มากถึง 11คน พร้อมอุปกรณ์หรือปืน M102 howitzer ขนาด 105mm รวมกระสุน 30 ชุด และเจ้าหน้าที่อีก 6 คน รวมแล้วบรรทุกน้ำหนักได้ 2,600 ปอนด์ (1,170 กก.) หรือใช้ sling load ได้ 9,000 ปอนด์ (4,050 กก.) จึงไม่แปลกเลยที่กองทัพเรือสหรัฐจะมีไว้ประจำการ โดยเป็นรุ่น SH-60/MH-60 Seahawk หนึ่งในตระกูล S-70 ตั้งแต่ปี 1983

          ภายหลังจาก เดินทางมาถึงประเทศไทยไม่นานนัก ได้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ที่ตัวเมืองชุมพร ระดับน้ำที่ท่วมนั้นมีความความสูงกว่า 2 เมตร ทำให้เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ซึ่งในทันทีที่เกิดเหตุ กองทัพเรือได้จัดส่งเรือหลวงจักรีนฤเบศร พร้อมอากาศยานประจำเรือซึ่งรวมถึงเฮลิคอปเตอร์แบบ S - 70 Bและหมู่เรือ ช่วยเหลือประสบภัย ซึ่งประกอบด้วย เรือหลวงสายบุรี เรือหลวงสีชัง และเรือหลวงสุรินทร์ โดยการปฏิบัติภารกิจในครั้งนั้น มีการใช้เฮลิคอปเตอร์บินหาเป้าหมายที่ถูกน้ำท่วม เพื่อส่งเสบียงอาหารให้แก่ผู้ที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่ประสบภัย ตลอดจนให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บหรือยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมทั้งได้ให้ความช่วยเหลือหญิงที่ใกล้คลอดนำส่งโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย นอกจากนั้น ยังได้เข้าช่วยเหลือลูกเรือประมงที่ลอยคออยู่กลางทะเลจำนวนมากได้อย่างปลอดภัย นอกจากนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว เฮลิคอปเตอร์แบบ S - 70 B ได้ปฏิบัติภารกิจพร้อมเรือหลวงจักรีนฤเบศร ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ตลอดจนเหตุการณ์คับขัน ในพื้นที่ต่าง ๆ อีกหลายครั้ง อาทิ ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้บาดเจ็บ และนักท่องเที่ยวในสถานการณ์คับขันในทะเล ในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อปี พ.ศ.2543 เหตุการณ์จลาจลที่ประเทศกัมพูชา เมื่อปี พ.ศ.2546 ซึ่งเรือหลวงจักรีนฤเบศร ได้รอรับสถานการณ์ เพื่อเตรียมอพยพคนไทยที่อาศัยอยู่ในกัมพูชากลับประเทศ และล่าสุดคือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเก็บกู้ศพ ผู้เสียชีวิตจาก คลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อปลายปี พ.ศ.2547 เป็นต้น
         เรือหลวงจักรีนฤเบศร มีเฮลิคอปเตอร์ S-70B เป็นอากาศยานประจำเรือ ยามสงครามนับว่าเป็นอาวุธชั้นเยี่ยม แต่หากในยามสงบเป็นอากาศยานค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนการสนับสนุนภารกิจของกองทัพได้เป็นอย่างดี S-70B ในวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการพัฒนา ขีดความสามารถของกำลังทางเรือ ให้สามารถรักษาอธิปไตยและปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้อย่างเต็มกำลัง
          เฮลิคอปเตอร์แบบ S - 70 B ซีฮอว์ค มีคุณลักษณะที่สำคัญ คือ ประเภท เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ภารกิจ ปฏิบัติการร่วมกับเรือ (หลัก) และ ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย (รอง) เครื่องยนต์ T700-GE-401C จำนวน 2 เครื่อง เครื่องละ 1,662 HSP. ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางวงโรเตอร์หลัก 16.36 เมตร ความยาวลำตัว 15.26 เมตร (พับหาง 12.48) สมรรถนะ
          - สูง 5.18 เมตร
          - ความเร็วสูงสุด 180 นอต
          - ความเร็วเดินทาง 130 นอต
          - ระยะปฏิบัติการไกลสุด 480 ไมล์ทะเล (เมื่อติด Left Aux. Tank)
          - รัศมีปฏิบัติการ 200 ไมล์ทะเล (เมื่อติด Left Aux. Tank)
          - บินนาน 4.3 ชั่วโมง (เมื่อติด Left Aux. Tank) -เพดานบิน 13,000 ฟุต
          - อัตราไต่ 2,000 ฟุต/นาที -ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 3,953 ปอนด์ และเมื่อติด Left Aux. Tank รวม 4,757 ปอนด์
         - น้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 21,884 ปอนด์
          - Rescue Hoist ยาว 200 ฟุต รับน้ำหนักได้ 600 ปอนด์
         - Cargo Hook รับน้ำหนักได้ 6,000 ปอนด์

กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ