หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


คุณรู้ไหม อ.บันนังสตา เราสูญเสียวีรบุรุษมา 3 ท่านแล้ว

โดยคุณ : Ronin เมื่อวันที่ : 15/03/2010 12:18:09


  ร.ต.อ.ธรณิศ     ศรีสุข  ( ผู้กองแคน ) 


ผบ.มว. ร้อย รพศ.1 กก.1 บก.สอ.บช.ตชด. ( ตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร )

ชาตะ 28 กันยายน 2520
มรณะ 29 กันยายน 2550

เหตุเกิด เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2550

    ประวัติ ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข
    เหตุการณ์การสูญเสีย
    ประมวลภาพ


    เหตุการณ์การสูญเสีย

    ที่ จ.ยะลา เวลา 08.40 น. 29 ก.ย. 2550 พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.อ.บันนังสตา รับแจ้ง มีเหตุ จนท.ปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
ที่บริเวณเนินเนาวรัตน์หรือเนิน 9 ศพ ระหว่างบ้านสายสุราษฎร์-บ้านภักดี หมู่ที่ 3 ต.เขื่อนบางลาง หลังได้รับแจ้ง รีบนำกำลังเข้าไปยังที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ป่าเขาสูงลาดชัน จนท. เข้าไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้เวลากว่า 30 นาที ถึงที่เกิดเหตุพบกำลัง ตชด. หน่วยรบพิเศษอยู่ในสภาพการเตรียมพร้อม และพบศพ ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข อายุ 30 ปี รอง ผบ.ร้อย รบพิเศษ 1 (รพศ.1) กก.1 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (ตชด.) ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี สภาพศพนอนเสียชีวิตในชุดลายพรางของพลร่ม มีแผลถูกยิงที่ใบหน้าและลำตัว ต้องประสานขอสนับสนุน ฮ.ตำรวจ จาก ศปก.ตร. เพื่อรับศพกลับมายัง จ.ยะลา แต่การเข้าไปรับต้องใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากอากาศปิด ในที่สุดเฮลิคอปเตอร์ แบบเบลล์ หมาย เลข 1726 ของกองบินตำรวจ ประจำ ศปก.ตร. สน.ยะลา สามารถนำศพกลับมายัง จ.ยะลา และส่งไปตรวจชันสูตร ที่ รพ.ศูนย์ยะลา ในเวลา 10.30 น.

     จากการสอบสวนทราบว่า หน่วยรบพิเศษ 1 ตั้งฐานปฏิบัติการที่บ้านสายสุราษฎร์  ขณะเกิดเหตุ ผู้ตายเป็น หน.ชุด นำกำลัง 12 นายออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยตามปกติ เมื่อลาดตระเวนมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่น้อยกว่า 20 คน ซุ่มอยู่บนเนินสูงใช้อาวุธสงคราม
ทั้ง อาก้า เอ็ม 16 และลูกซอง กราดยิงเจ้าหน้าที่จนเกิดการปะทะกันดุเดือดกว่า 20 นาที คนร้ายได้อาศัยความชำนาญพื้นที่และป่าทึบ หลบหนีไป
หลังเสียงปืนสงบ ตรวจเคลียร์พื้นที่ พบฝ่ายเจ้าหน้าที่เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายได้เฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด เมื่อสบโอกาสจึงลงมือปฏิบัติการ และมุ่งเป้าสังหารที่ หน.ชุด ดังกล่าว

     พ.ต.อ.ไพโรจน์ ริมประโคน ผกก.1 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ ผู้บังคับบัญชา ร.ต.อ.ธรณิศ กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า ตนได้รับรายงานการเสียชีวิตของลูกน้องแล้ว และเร่งเดินทางลงพื้นที่ในวันเดียวกันนี้เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความสูญเสียในครั้งนี้นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของหน่วยงาน ส่วน พ.ต.ท.หญิง ชนัญญา วรอนุวัฒนกุล สว.งานมวลชนสัมพันธ์ บก.อก.บช. ตชด.
เปิดเผยว่า ทางต้นสังกัดได้ทำเรื่องเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาปูนบำเหน็จให้กับ ร.ต.อ. ธรณิศ ติดยศเป็น พ.ต.อ. ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์
์และเงินช่วยเหลือต่าง ๆ จะเร่งดำเนินการตามระเบียบราชการต่อไป

     สำหรับ ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข หรือ "ผู้กองแคน" ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ขอนแก่น จบการศึกษา นรต.รุ่นที่ 54
โดยสอบเข้า รร.เตรียมทหารเหล่าตำรวจได้เป็นอันดับ 1
ของรุ่น เคยได้เหรียญทองการทดสอบยิงปืนของ สตช. ระหว่างศึกษาได้ทุนไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น

     อุปนิสัยเป็นคนเอาการเอางานและมีจิตใจโอบอ้อมอารี เป็นที่รักของผู้บังคับบัญชาและลูกน้อง ก่อนประสบเหตุเพิ่งครบรอบวันเกิดในวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวได้ขออาสามาทำงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้หลังสำเร็จการศึกษาทันที ซึ่งการจากไปครั้งนี้ สร้างความเศร้าโศก
ให้กับผู้ใกล้ชิดทุกคน ทั้งนี้ ได้มีการเคลื่อนศพไปประกอบพิธีที่วัดเมืองยะลาอย่างสมเกียรติ


     วันเดียวกัน เวลา 16.50 น. ที่ศาลาวัดเมืองยะลา สถานที่ตั้งศพ ร.ต.อ.ธรณิศ โดยมี พล.ต.ท.นิพนธ์ ศิริวงศ์ ผบช.ตชด. เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ โดยมีข้าราชการตำรวจ ทหารและประชาชน มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก โดยพิธีสวดพระอภิธรรมจะมีขึ้นที่วัด 1 คืน จากนั้นในวันที่ 30 ก.ย. จะมีการเคลื่อนศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.ขอนแก่น ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางจังหวัดยะลา
โดยนายธีระ     มินทราศักดิ์ ผู้ว่าฯ ได้ให้ตัวแทนนำเงินสด 5 แสนบาทมามอบให้กับผู้บังคับบัญชาของ เพื่อนำไปมอบต่อให้กับญาติ
สำหรับ ร.ต.อ.ธรณิศ เป็นบุตรชายของ รศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ศรีสุข คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ ม.ขอนแก่น.

                     

เอื้อเพื้อข้อมูลโดย www.thoranitsrisuk.org






ความคิดเห็นที่ 1


แด่...หมวดตี้ ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ ผู้เสียสละ



เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.

          ถ้าหากไม่มีเหตุการณ์ม็อบกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา เชื่อว่าจะมีอีกข่าวหนึ่งที่น่าสนใจ กินใจ และน่าคิด สำหรับใครต่อใครในบ้านเมือง

          นั่นคือ...ข่าวเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจตะเวนชายแดนชุดพลร่มพิเศษ 01 ของฐานปฏิบัติการตำรวจตะเวนชายแดน (ตชด.) มว.รพศ.1 บ้านสันติ 1 ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลอบซุ่มโจมตีบนถนนสายเขื่อนบาง-ลางสันติ 1 หมู่ที่ 2 ตำบลเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา ขณะออกลาดตระเวนพื้นที่และปะทะกันเป็นเวลากว่า 10 นาที เป็นเหตุให้ "หมวดตี้" หรือ "ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ" รองผู้บัญชาการร้อยตำรวจชายแดน หน่วยเฉพาะกิจ หน่วยรบพิเศษที่ 1 นายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลคนหนึ่ง วัย 24 ปี ซึ่งเป็น "หัวหน้าชุด" เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บอีก 4 นาย ซึ่งตั้งแต่ช่วงสายจรดค่ำคืน ศพของเขาก็ยังไม่สามารถนำออกมาจากบริเวณที่เกิดเหตุการปะทะกันได้  

          ที่ว่าน่าสนใจจนต้องมาเขียนถึง "หมวดตี้" ไม่ใช่แค่เขาเป็น "วีรชน-ผู้กล้า-เสียสละ" เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน แต่ก่อนเสียชีวิต "หมวดตี้" ได้เขียนบันทึกชุดสุดท้ายให้ผู้คนได้อ่าน ก่อนหน้าที่เขาจะออกไปลาดตะเวนจนเสียชีวิตไม่ถึงชั่วโมง ซึ่งทำให้หลายคนเกิดอาการน้ำตาซึมเมื่อได้อ่านมัน ทั้งในขณะที่ยังไม่ทราบและทราบภายหลังว่า เขาได้เสียชีวิตลงไปแล้ว



          โดยไดอารี่ฉบับสุดท้ายที่หมวดตี้เขียนไว้คือวันที่ 20 มิถุนายน 2551 ซึ่งวันนั้นเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 24 ของเขา ใช้ชื่อเรื่องว่า "ครั้งแรก" ซึ่งขึ้นต้นว่า "ก็มันไม่เคยนิ" และ "วันนี้อยู่ดูโลกให้โสภิณ พรุ่งนี้ชีวินสิ้น ไม่รู้...วันตาย..." ราวกับจะเป็นลางบอกลากลายๆ ซึ่งในไดอารี่เขาได้มอบบทเพลง "อิ่มอุ่น" ของ "ศุ บุญเลี้ยง" ให้กับ "แม่" ของเขาที่อยู่จังหวัดลพบุรี พร้อมๆ กับคำขอบคุณแม่ (ซึ่งเกิดในวันเดียวกันกับเขา) ที่ทำให้เขาเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก ด้วยข้อความสื่อสารถึงแม่ที่ว่า…

          "แม่จ๋า... วันเกิดลูกไม่ได้ไปฉลองที่ไหนจริงๆ นะแม่ แถวนี้ไม่มีที่ให้ฉลองอะ แค่ลูกรอดกลับมาได้ก็พอใจแระ ...เดี๋ยวรอกลับไปฉลองกับเด็จแม่ที่บ้านเรา เนอะๆ...ไม่ได้กลับไปหาเด็จแม่นานแล้วด้วย คิดถึ้งงง คิดถึงว่าจะไปหาเด็จแม่.... ไปขอตังค์ 55+"  

          "วันเกิดเด็จแม่ เด็จลูกก็ขอให้เด็จแม่แข็งแรงเน้อ...อยู่กะลูกไปนานๆ ให้ถึงวันลูกติดนายพลเลยนะแม่นะ...และก็..ขอให้เด็จแม่มีลูกสะใภ้คนโตสวยๆน่ารักๆ นิสัยดีๆ...(อันนี้ออกแนวหวังผลกะตัวเอง 55+)"  

          พร้อมกันนั้น "หมวดตี้" ยังแจกเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ใครต่อใครส่งSMSไปอวยพรวันเกิด ซึ่งในขณะที่บันทึกเขาจะบอกว่า "งานเข้าแต่เช้า" เพราะมีเหตุต้องคุมชุดลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ และในขณะที่เพื่อนๆ ของเขาหลายคนส่ง SMS หรือโพสต์ข้อความลงในไดอารี่ของเขา เพื่ออวยพรวันเกิดให้เขาปลอดภัย มันจะเป็นเวลาเดียวกับที่เขากำลังยิงประทับกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างดุเดือด และเมื่อเวลา 11.23 น. เขาก็ถูกยิงจนเสียชีวิต  


          นี่เป็นเรื่องราวของผู้หมวดตะเวนชายแดนตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่มีความรักหวงแหนในผืนแผ่นดินชาติมาตุภูมิ รักประชาชน..รักแม่ เหมือนกับคนอื่นๆขอมอบดอกไม้คารวะต่อดวงวิญญานของ "หมวดตี้" ผู้มีความ "รักชาติ" อย่างแท้จริง..!!

          ทั้งนี้ ทีมงานกระปุกดอทคอมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และขอร่วมไว้อาลัยแด่การจากไปของ "หมวดตี้" หรือ "ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ" มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ…

โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 12/03/2010 22:59:58


ความคิดเห็นที่ 2


ตอนผู้กองแคน เสียชีวิต ผกก. สมเพียร ท่านก็เข้าไปเก็บศพ

พื้นที่นี้ อันตรายที่สุด มีภูมิประเทศ ทั้งป่า เขา เขื่อนบางลาง

ปีที่แล้วโครงการไทยช่วยสันติสุข ส่งมอเตอร์ไซต์ให้ตชด 4 คันจากความต้องการ 16 คัน (มีวัดที่หนึ่ง บริจาคอีก 30 คัน)

เพราะเวลาลาดตระเวน ต้องมีชุดคุ้มกัน เพราะ พื้นที่ง่ายต่อการซุ่มยิงมาก

ยิ่งตรงเขื่อนบางลาง กันดารและชันมาก ฮ. ตร. เคยตกเพราะอากาศปิด

(ผมเคยเห็นรูปพื้นที่ตอนทำโครงการ)


หลับให้สบายแถอะครับ ความดีของท่าน จะทำให้คนรุ่นใหม่ๆ ที่มีอุดมการณ์เหมือนท่าน อาสามาทำหน้าที่ตรงนี้อีกมาก จนกว่าจะสงบ

ตอนทำโครงการ มีครูคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า มีเด็กมาบอกว่า  "คุณครูครับ โตขึ้น ผมจะไปเป็นทหาร เพื่อที่จะปกป้องคุณครู"

ดูสิครับ เด็กประถม ยังรักแผ่นดิน รักคุณครู ผมเชื่อเราจะชนะสงครามนี้

เพราะเรายังมีคนที่รักชาติอีกมากที่พร้อมพลีชีพ เพื่อชาติ เพื่อประชาชน เพื่อความถูกต้อง

หลับให้สบายแถอะครับ

หมายเหตุ หมายเลขรถ ผกก เพียรอะไรครับ คราวที่แล้ว คนในโครงการ ถูกหวยกันมาก มีคนเห็นหมวดตี้มาเข้าฝัน แต่เงินที่ได้มาร่วมซื้อเสื้อเกราะน่ะครับ เหมือนหมวด อยากมาทำบุญด้วย ^^



โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 12/03/2010 23:22:41


ความคิดเห็นที่ 3


รู้สึกจะเจอ 2 เหตุการ์ณ เสียอีกหนึ่งเป็นระดับนายพัน

ทำงานในพื้นที่มา 40ปี หรือ 10ปี ผมจำไม่ได้นะฮะ

สลดมากเลย!~ เฮ้ออ

โดยคุณ TUP2913 เมื่อวันที่ 12/03/2010 23:26:56


ความคิดเห็นที่ 4


เห้อ ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง

 

ผมไม่อยากเห็นความแตกแยกของคนในชาติ

 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง เรื่องแบ่งแยกดืนแดน

 

ได้ดูข่าวมา ตอนแรกผมไม่คิดว่าเป็นจ่าเพียร

 

พอผมมาอ่านดูอีกทีน้ำตาร่วง เสียใจมาก

 

ขอให้ท่านไปสู่สุขคติ ยอดตำรวจผู้กล้า

โดยคุณ peet1412 เมื่อวันที่ 13/03/2010 00:09:48


ความคิดเห็นที่ 5


ผมรู้สึกว่าจะมีนายตำรวจอีกนายหนึ่งนะครับผมก็จำชื่อท่านไม่ได้ยศ ร.ต.อ ตอนนั้นท่านถูกผู้ก่อการร้ายจับไปเป็นตัวประกันแล้วก็ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งส่วนผู้ก่อการร้ายทั้งสองคนก็ถูกวิสามัญไปด้วยเท่าที่จำได้ตอนนั้นต้องใช้กำลังทหารและตำรวจปิดล้อมนานกว่า8ชั่วโมงมีการนำรถเกราะV-150มาเข้าร่วมและหน่วยทหารก็มีการใช้แวนมองกลางคืนในปฎิบัติการครั้งนั้นด้วย...ใช่ไม่ใช่ผมก็จำไม่ค่อยได้มันนานล่ะก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ...ผมจะลองหาดูอีกที

โดยคุณ jjased เมื่อวันที่ 13/03/2010 03:27:31


ความคิดเห็นที่ 6


ผมว่าไม่มีแค่เพียง 3 ท่านหรอกครับ ยังมีท่านอื่นอีก 2 นาวิกโยธินที่ถูกจับทรมานอีกล่ะ ผมว่าคําว่าวีรบุรุษ ไม่ได้มีเพียงชั้นสัญญาบัตรเท่านั้นแล้วชั้นประทวนที่สละชีพล่ะ อส.อีก ผู้ใหญ่บ้าน กํานัน ที่เคยต่อสู้ ทั้งปะทะ และงานมวลชน แต่ไม่ได้รับการยกย่อง และไม่เป็นข่าว ยิ่งทหารหัวหน้าชุดส่วนมาก จ่าทั้งนั้น ที่ออกความเห็นไม่ได้ ไม่เห็นด้วยนะครับ ท่าน ผกก.สมเพียร ผมสงสารท่านมากที่ทนมาถึงวันนี้ แต่ท่านคงไม่ต้องหว่งหรอกครับหลับให้สบาย มีหลายนายจะตามรอยท่านอีก เยอะ มีความตายเท่านั้นที่จะพบกับเสรีภาพอย่างแท้จริง .......ประทวน 2 แง่ง   

                                          

โดยคุณ tuggy เมื่อวันที่ 13/03/2010 04:31:44


ความคิดเห็นที่ 7


มีคุณครูด้วย ถือว่าใช่ ผมว่าน่าสงสารที่สุด บางทีเคยสอนพวกมัน ยังมาแว้งกัดอีก และท่าน ผอ.อีกอาจเคยสอนรุ่นพ่อมันด้วย
โดยคุณ tuggy เมื่อวันที่ 13/03/2010 04:36:47


ความคิดเห็นที่ 8


"อย่าน้อยใจในโชคชะตา  อย่าเสียดายชีวาแม้นสิ้นไป"

 

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 13/03/2010 06:03:34


ความคิดเห็นที่ 9


ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เศร้าสถานการณ์การเมืองที่เป็นอยู่ตอนนี้กับพวกนายทหารบ้่างคนกับการจัดหายุทโธปกรณ์ด้อยประสิทธิภาพ ขวัญและกำลังใจพลทหารหายหมด ปัญหาภาคใต้ ปัญหาชายแดน ยาเสพติ ภัยแล้ง ไฟป่า ปัญหาพลังงาน(ท่านนายกสั่งยกเลิกโครงการศึกษาพลังงานนิวเคลียร์ซะงั้น) ปัญหาเศรษฐกิจ การศึกษา และอื่นๆอีกมากมายที่สำคัญกว่าปัญหาการเมืองที่ไร้สาระ
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 13/03/2010 06:46:10


ความคิดเห็นที่ 10


ผมว่าไม่ใช่วีรบุรุษแค่ สาม ท่านหรอก....

 

วีรบุรุษทั้งหมดก็คือเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่นั้นแหละ

 

ขอไว้อาลัยด้วยคนครับ......

โดยคุณ tao_kub เมื่อวันที่ 13/03/2010 08:44:04


ความคิดเห็นที่ 11


อย่างที่ผู้การ สมเพียร ท่านว่าไว้

วีรบุรุษ ควรยกย่องเขาเมื่อตอนมีชีวิตอยู่ไม่ใช่รอให้ตายก่อนถึงจะปูนบำเหน็จ

ผมว่าหากเกิดเหตุการณ์ในส่วนของความไม่ถูกต้องอย่างใน ทำนองนี้มากๆ ผมกลัวครับ ผมกลัว ผมกลัวใจตำรวจ-ทหาร หาญทั้งหลายจะสิ้นกำลังใจโดนมากเท่านี้ อาจจะไม่ทำอะไรจิตใจของพวกท่านเหล่านนั้นได้แต่หากเป็นต่อไปเลยๆ  หากทุกท่านพร้อมใจหมดสิ้นกำลังใจขึ้นมา... ก็ไม่อยากจะคิดนะครับว่าเหตุการจะเป็นอย่างไร  พูดกันตรงๆ ณ บอร์ดแห่งนี้เราทำเพียงแสดงความเสียใจและแสดงความเห็น เป็นตำรวจ-ทหารกระดาษซะส่วนใหญ่ (ผมขออภัยไม่ได้หมายถึงสมาชิกที่เป็นตำรวจ-ทหารนะครับ) จะให้ออกไปรับราชการตำรวจ-ทหาร หรือฝ่ายปกครองเพื่อดูแลความสงบข้างล่างคงไม่ไหว    ถึงอย่างนี้ผมจึงคิดเสมอว่าหากเราเป็นแนวหลังที่อยู่ในบ้านผมอยากให้เราๆท่านๆทั้งหลาย มาทำให้หลังบ้านเราหมดห่วงกันเถอะครับ มาสร้างกำลังใจเพิ่มให้กับพวกเขาเหล่านั้น มาทำอะไรๆที่มากกว่านี้ มีโครงการออกมาเหมือนดังโครงการชุดเกราะหรือโครงการต่างๆที่ทางเวปเคยทำ เรามาทำกันอีกดีไหมครับ เราเป็นภาคประชาสังคมหนึ่งนะครับที่มีศักยภาพทำอะไรได้มากกว่าเพียงแค่ลงความเห็นนะครับ

ผมไม่ได้มีแรงมากมาย ไม่มีงบ รวยมหาศาร มีเพียงความตั้งใจครับ จึงอยากถามทางเวปมาสเตอร์ครบว่ามันจะเกิดขึ้นอีกไหมกับโครงการดีๆ นอกจากจะช่วยแนวหน้าได้แล้ว ผมว่า(ดั่งที่ท่านคิดกัน)มันเป็นกำลังใจให้พวกเขาเหล่านั้นด้วย ยังไงก็รองถามดูนะครับ อย่าคิดว่าผมติดกระแสหรืออารมณ์ร่วมรุนแรงอะไร ผมแค่อยากทำนะครับ คนละไม้คนละมือ

ปล. ยังไง เราจะไม่ลืมวีรบุรุษเหล่านี้กันใช่ไหมครับ

โดยคุณ PINJI เมื่อวันที่ 13/03/2010 09:21:33


ความคิดเห็นที่ 12


ที่ออก ข่าวเราๆๆท่านๆๆ รู้ ก็เยอะ ครับ แต่อยาก ให้ระลึกถึงสายข่าว ที่แฝงตัวเข้าไป ด้วยนะครับ ตายเยอะ มาก ครับ บ้างคนไม่ได้ธงชาติคลุงโลงด้วย ขอไว้ อาลัยด้วยคนนะครับ

โดยคุณ pat49res เมื่อวันที่ 13/03/2010 10:49:30


ความคิดเห็นที่ 13


คำพูดสุดท้ายของจ่าสมเพียร "ผมไม่อยากเป็นวีรบุรษ และไม่ขอตายในสนามรบ" 

                       
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 13/03/2010 20:32:23


ความคิดเห็นที่ 14


RIP แด่ท่านผู้จากไปทุกท่านครับ
โดยคุณ TigerOod เมื่อวันที่ 14/03/2010 03:37:00


ความคิดเห็นที่ 15


บทความของ ร.ต.อ นิติภูมิ นวรัตน์ ณ.วันจันทร์ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๓

ขอให้การเสีย ชีวิตของ พันตำรวจเอก สมเพียร เอกสมญา เป็นจุดปฏิวัติงานบริหารบุคคลของตำรวจไทย โดยเฉพาะการเลื่อนยศขั้นชั้นตำแหน่ง

 

ความที่เป็น ประธานคนแรกของนายร้อยตำรวจ น.บ.,ร.บ.รุ่น ๑๕ ผมจึงรู้ซึ้งถึงกึ๋นเป็นเวลานานกว่า ๒๕ ปี ว่าเพื่อนหลายคนที่ก้าวหน้า ได้มาเพราะใช้เงินและเส้น ตำรวจจึงต้องวิ่งเต้นหาเงินเพื่อเอาไปซื้อตำแหน่ง เช้าสายบ่ายเย็นดึกดื่นเที่ยงคืนยังไง ตำรวจก็ต้องไปรับใช้นาย ซึ่งเมื่อก่อนเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เดี๋ยวนี้กลายเป็นนักการเมือง และพวกนักธุรกิจที่เป็นนายทุนให้นักการเมือง

 

ไม่ต้องมาดัดจริต ปฏิเสธกันดอกครับ ผู้บังคับบัญชาระดับบนทุกคนก็รู้ แต่ไม่เคยแก้ไข เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ค้ายาบ้า ถูกจับดอลล่าร์ปลอมถูกตำรวจชั้นผู้น้อยยิงจนรถพรุน ทว่าเมื่อนายตำรวจผู้ใหญ่ไปจัดการ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เงินทำได้ทุกอย่าง สืบประวัติย้อนไป อ้อ มีการดูแลกันเป็นรายเดือน ยศใหญ่ได้เดือนละแสน ไอ้ยศเล็กก็ได้เป็นรายหมื่น ตำรวจบางคนต้องทนรับสตางค์ เพราะต้องเอาไปใช้ซื้อตำแหน่ง ไม่มีเงิน ก็ไม่ได้ย้าย ไม่ได้เลื่อนขั้น

 

เดี๋ยวนี้ นักการเมืองไม่ว่าจะระดับไหนเดินทาง จะต้องมีนายตำรวจไปคอยอำนวยความสะดวก งานการไม่มีใครสนใจที่จะทำกันแล้ว รายงานเรื่องโจรผู้ร้ายไม่เคยอ่าน แต่ที่ต้องทราบก็คือ ว่าพรุ่งนี้ จะมีนักการเมืองคนไหนเดินทางต้องไปรอให้ท่านได้เห็นหน้า ต้องกุลีกุจอวิ่งเข้าไปถือกระเป๋าให้ ไม่เช่นนั้น เมื่อถึงวันเวลานาทีที่มีการแต่งตั้งโยกย้าย ท่านจะไม่แผ่บารมีให้ได้โยกย้าย

 

หากยังไม่สามารถ สร้างระบบแต่งตั้งโยกย้ายของตำรวจที่เป็นธรรมได้ ก็อย่าหวังว่า ประชาชนคนไทยจะได้รับความยุติธรรม ระบบทำให้ตำรวจต้องหาเงิน เงินบันดาลให้เฉพาะเศรษฐีมีสตางค์เท่านั้นได้รับความยุติธรรม มีเงินทำบุญ ก็ถ่ายรูปเอาไปใช้ในคดีความต่างๆ ได้  เดี๋ยวนี้มี พระบางรูปหากินด้วยการออกใบการันตีความใจบุญ โดยมีจดหมายประกาศว่า โยมคนนี้ สีกาคนนั้นใจบุญสุนทาน เคยทำบุญเป็นจำนวนเงินเท่านั้นเท่านี้ ให้ทนายเอาใช้ไปยื่น เพื่อให้ได้รับการรอลงอาญา  

 

ในหลายประเทศ การเลื่อนยศขั้นชั้นตำแหน่ง สำนักงานตำรวจจะใช้วิธีการสอบกันอย่างเดียว บางประเทศใช้วิธีสอบ + การประเมินของผู้บัญคับบัญชา  บาง ประเทศ ผลงานด้านต่างๆ ของตำรวจถูกตีค่าออกมาเป็นตัวเลข และใช้ตัวเลขบวกเข้าไปในคะแนนสอบ การสอบทำให้คนต้องขวนขวายอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือเป็นหนึ่งในหลายวิธีที่ช่วยให้ตำรวจได้เพิ่มพูนความรู้ การทำงานบนพื้นฐานความรู้ทำให้ระบบเส้นสายเข้าไปมีอิทธิพลได้น้อยลง

 

นิติภูมิเคยนอน ฝันว่า เพื่อนนายตำรวจร่วมรุ่นของผมบางคนจ่ายเงินไปแล้ว ๓ ล้าน ๕ ล้าน แต่ไม่ได้รับการเลื่อนขั้นชั้นตำแหน่ง จึงต้องการขอเงินคืน ในความฝันนะครับ บางคนขอคืนไม่ได้ ก็จะมาปรึกษานิติภูมิ ด้วยเห็นว่าไอ้นิติภูมิเพื่อนร่วมรุ่นเป็นสื่อมวลชน ผู้ใหญ่ที่รับสตางค์ไปคงไม่อยากมีเรื่องคาวฉาวโฉ่

 

ผู้อ่านท่านครับ มีตำรวจจำนวนไม่น้อยที่เสียชีวิตและพิการ แต่ไม่เป็นข่าว หรือเป็นข่าวแต่เพียงวันสองวัน แล้วก็จางหายไปในกระแสสื่อ แม้แต่เพื่อนๆ ในรุ่นของนิติภูมิเอง ก็มีหลายคนที่พิการจากการทำงานใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล ยศก็ไม่ขึ้น ไม่มีการปูนบำเหน็จ วันเวลาผ่านไปหลายปีดีดัก เพื่อนยังนอนพะงาบๆ ให้ลูกเมียป้อนข้าวป้อนน้ำอยู่ก็มี

 

๒๒ พฤษภาคม ๒๕๓๑ ร.ต.ต.วิชัย พรมมา เพื่อนร่วมรุ่นของผมตามผู้ร้ายที่เข้าไปปล้นตลาด และหนีขึ้นไปบนภูเขาในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนโดนยิงตายคาที่พร้อมกับสุนัขดมกลิ่น ทิ้งบุตรสาวคนเดียวอายุ ๗ เดือนไว้เบื้องหลัง โชคดีที่เพื่อนๆ ร่วมรุ่นของผมคอยให้กำลังใจภรรยาของเพื่อนและหลาน

 

ขณะเขียนหนังสือ วันนี้ นางสาวชมพูนุท พรมมา บุตรสาวคนเดียวของวิชัยโทรมาหาลุงนิติภูมิ แจ้งว่า หนูเพิ่งได้รับการรับรองวันนี้ ว่าสำเร็จปริญญาตรีนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยคะแนนเกียรตินิยม คือ ๘๒.๙%

 

จะมีตำรวจผู้โชค ดีสักกี่คน ที่แม้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ครอบครับและเพื่อนๆ ยังช่วยกันให้กำลังใจลูกเมียลูกหลานที่อยู่ข้างหลังอย่าง ร.ต.ต.วิชัย พรมมา

 

ผู้อ่านท่านครับ ยังมีตำรวจอีกเป็นแสนคนที่ทุกข์ทรมานจากการต้องวิ่งเต้นโยกย้ายเกือบทุกปี มีลูกหลานตำรวจจำนวนไม่น้อย ที่สูญเสียพ่อแม่ไปในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่ได้รับเหลียวแลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

ขอให้การเสีย ชีวิตของท่านวีระบุรุษของจริงของกรมตำรวจ/ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และของประชาชนคนไทย ซึ่งก็คือ ท่านผู้กำกับการ สมเพียร เอกสมญา ได้เป็นจุดเปลี่ยนเพื่อให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจไม่ต้องใช้เงินและเส้น และขอให้เป็นจุดเริ่มต้นให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยดูแลครอบครัวของตำรวจ ผู้สละชีวิตและตำรวจผู้พิการจากการทำงานอย่างจริงจังด้วยเถิด
ที่มา http://www.nitipoom.com/th/article1.asp?idOpenSky=3470&ipagenum
ps.แค่เอามาให้อ่านเฉยๆครับอย่าวิจารณ์มาก แค่อยากจะบอกว่าวงการตำรวจบ้านเราเป็นเช่นนั้นแล
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 14/03/2010 10:35:42


ความคิดเห็นที่ 16


เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณ sam ครับ

ไม่ใช่แค่ ฝ่ายรัฐสูญเสีย และฝ่าย พี่น้อง บันนังสตา ก็สูญเสีย ครับ

การเจ็บแค้น และสะสมมาเป็นเวลานาน เมื่อมานระเบิดออกมา ก็ควบคุมไว้ไม่อยู่ กลายเป็นความสูญเสีย ที่ใหญ่หลวง ทั้งสองฝ่าย และก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรให้ดีขึ้นมาได้เลย

น่าเสียดาย หากทั้งสองฝ่าย มีโอกาส พูดคุยและแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่ ๆ แค่ ให้ ประชาชนในพื้นที่ และข้าราชการชั้นผู้น้อย มารับเคราะห์ อย่างนี้

ขอแสดงความเสียใจ กับการสูญเสียของทุกฝ่าย และอยากให้แก้ปัญหากันโดยสันติวิธี ครับ
โดยคุณ tantongs เมื่อวันที่ 15/03/2010 01:18:08