ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลถึงไม่ซื้อรถยนต์หุ้มเกราะกันระเบิด ให้มีใช้ก็อย่างเพียงพอ
โดยคุณ : lppj เมื่อวันที่ : 21/03/2010 13:16:09ทั้งตำรวจ และ ทหาร ซึ่งเท่าที่ทราบก็มีซื้อแค่ REVA 4X4 90 คัน
มันจะไปพออะไรกับขนาดพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างน้อยๆ
เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยงภัยทุกคน ควรจะได้โดยสารกับรถหุ้มเกราะ
ไม่ใช่ ให้นั่ง กระบะ อีซูซุ , วีโก้...กันไป หรือแม้แต่อัมวี่ ถ้าผมเป็นทหารที่ต้องนั่งรถกระบะ
ลาดตระเวน คงต้อง สวดมนต์ก่อนขึ้นรถและโทรสั่งเสียภรรยา และ ลูกๆให้เรียบร้อยเสียก่อน
ผมเศร้าและคิดว่าคนไทยทุกคนคงเศร้าทุกครั้งที่ได้ข่าวการเสียชีวิตของ เจ้าหน้าตำรวจ และ
ทหาร เพราะโดน ลอบวางระเบิด ใต้ท้องถนน ศพแล้ว ศพเล่า แล้วเมื่อไหร่จะจบ
ถ้ามีรถหุ้มเกราะกันระเบิดใช้กันอย่างเพียงพอ อัตราการเสียชีวิต ลดลง แน่นอน และ
ขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่จะดีขึ้นมาก รัฐบาลเอางบไปซื้อเครื่องบิน Gripen ฝูงใหม่
เป็นหมื่นล้านยังอนุมัติได้ ทำไมจะซื้อรถหุ้มเกราะกันระเบิด ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดกว่า
รัฐบาลหรือกองทัพทำไมไม่ พลักดันเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องเร่งด่วน
กองทัพควรจะศึกษาการผลิต รถหุ้มเกราะประเภทนี้ภายในประเทศ เพราะภูมิศาศาสตร์ ของภาคใต้
เป็นลักษณะป่าเขา ซึ่งเข้าใจว่ารถหุ้นเกราะประเภทนี้ จะใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างมาก
เป็นไปได้ไม๊ที่จะผลิตให้เบาลง เล็กลง กินน้ำมันน้อยลง บำรุงรักษาง่าน แต่ยังกันระเบิดได้
ไทยเราเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ระดับโลก ถ้าภาครัฐร่วมมือภาคเอกชน ทำได้แน่นอน หรือจะไปซื้อลิขสิทธิ์ จากต่างประเทศมาผลิตก็ได้
ให้พิจารณาดู ถ้ายังไม่มีรถหุ้มเกราะกันระเบิดใช้อย่างเพียงพอ ก็ให้รออ่านข่าวหน้าหนึ่ง เจ้าหน้าที่โดนลอบวางระเบิดเสียชีวิตกันต่อไป
ความเห็นผม น่าจะจัดหามอเตอร์ไซต์ให้มากกว่าเดิมมากกว่า
เพราะการที่ลาดตระเวณมีมอเตอร์ไซต์คุ้มกัน ทำให้โอกาสเราตอบโต้ได้บ้าง
ผมว่าอาวุธ อุปกรณ์ เป็นส่วนประกอบ สำคัญที่สุด คือใจ ครับ
ตอนนี้ขวัญกำลังใจเหล่าเจ้าหน้่าที่ ค่อนข้างเสียมาก พวกเราๆ ต้องช่วยกันเป็นกำลังใจให้เหล่าเจ้าหน้าที่
เราจะชนะต้องมีใจกับไว้ใจ
เมื่อวันที่
15/03/2010 05:56:37 เป็น กำ ลัง ใจ ให้ ครับ หมวด
 |
รถเกราะคอมมานโดสเก้าท์ |
 |
รถเกราะล้อยาง ขนาด ๗ ตัน |
ผม ว่า น่า จะ เอา มา ปรับ ปรุง แล้ว ผลิต ใหม่ นะครับ
เมื่อวันที่
15/03/2010 06:08:11 
เมื่อวันที่
15/03/2010 06:47:37 ยานพาหนะทุกแบบที่ใช้เข้าทำการรบ ล้วนมีข้อดี ข้อเสียของมันเอง อยู่ที่หลักการใช้ทางยุทธวิธี ตามรูปแบบสถานการณ์ปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่างๆที่ตนเองเผชิญอยู่ในแต่ละพื้นที่
และที่สำคัญที่สุด การฝึกสำหรับการยุทธ์ร่วมกับยานพาหนะ ซึ่งเกี่ยวข้องหลายหัวข้อ หลายปัจจัย
ความจำเป็นในการใช้งานยานพาหนะยังมีอยู่ แต่ถ้าหากคิดว่าจะใช้แต่ยานพาหนะอย่างเดียวละก็ เกณฑ์เสี่ยงสูง
คิดจะนั่งอย่างเดียว ขับตามกันไปวันๆ ไม่มีรูปขบวน รูปแบบทางยุทธวิธี เกณฑ์เสี่ยงก็สูง
รถ จยย. ที่ใครคิดว่าอันตราย แต่ส่วนตัวเชื่อว่า มีความอ่อนตัวสูง หากเลือกแบบของรถและใช้งานมันในทางยุทธวิธี ขึ้นรถ-ลงรถ ทำได้เร็ว ใช้งานร่วมผสมกับยานพาหนะแบบอื่นๆ ก็ยิ่งเพิ่มรูปแบบที่หลากหลาย ลองพิจารณาดูว่า ส่วนมากที่โดนๆกันนั้น เพราะอะไร ใช้งานจริงตามรูปขบวนหรือรูปแบบทางยุทธวิธีหรือไม่ หรือแค่ขี่ตามๆกันไป
ยานพาหนะทุกแบบที่มีเป็นเพียงยานโดยสารหรือยานรบเข้าทำการรบ มันอยู่ที่การใช้ครับ
เมื่อวันที่
15/03/2010 09:28:09 สำหรับประเทศที่ทำนา ขายข้าวได้แค่เกวียน ละไม่กี่ตัง การจะซื้อรถเกราะราคาแพงๆไห้พอเพียง จึงเป้นเรืองยากเย้น เราไม่ได้เป้นประเทศร่ำรวยอะไรนะครับ ผมว่าทางกองทัพคงอย่ากจะจัดไห้ครบๆจัยจะขาด