หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


แหม...ทหาร มาเลเซียนี่ แย่จริงๆ!(บทความจากท่าน รตอ.นิติภูมิ)

โดยคุณ : sam เมื่อวันที่ : 23/03/2010 17:59:00

เปิดเลนส์ส่องโลก ศุกร์คืนนี้ที่ช่อง ๓ เวลา ๒๔.๑๕-๒๔.๔๕ น. นิติภูมิรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพถึงสาธารณรัฐเกาหลี หรือเกาหลีใต้ครับ

 

ผู้อ่านท่านที่ เคารพ ทหารตัวใหญ่ในหลายประเทศรับประทานคอมมิชชั่นจากค่าซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ แม้ว่า ขีดความสามารถของทหารในประเทศของตัวเองจะผลิตเครื่องจักรและผลิตอาวุธยุ โธปกรณ์ได้ดีมีประสิทธิภาพสูงขนาดไหน ทหารผู้ใหญ่เหล่านั้นก็จะไม่เคยไปสั่งให้นำมาใช้ในกองทัพ เพราะไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น พวกโจรซื้ออาวุธจากโรงงงานที่แอบผลิตในประเทศในราคาเพียง ๓,๐๐๐ บาทต่อกระบอก แต่ถ้าเป็นกองทัพจัดซื้อจากต่างประเทศ คุณภาพเดียวกัน ใช้ได้ดีเหมือนกัน โน่น ราคากระบอกละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ผู้อ่านท่านไปสำรวจตรวจตราดูเถิด ทหารใหญ่หลายคนในหลายประเทศก็ถึงร่ำรวยกันนัก แต่ทหารชั้นกลางและระดับล่างยังจนมาก

 

ทหารระดับกลาง ระดับนายร้อย นายพัน ของบางประเทศจึงต้องหากินกับค่าเบี้ยเลี้ยงลูกน้อง มีทหารเกณฑ์อยู่ภายใต้บังคับบัญชา ๑๐๐ นาย ก็จะต้องปล่อยให้กลับไปอยู่บ้าน อย่าให้เข้ามาในกรมกองซะ ๘๐ นาย เหลือประจำการจริงแค่ ๒๐ นาย แต่ค่าอาหารการกินและค่าใช้จ่ายในด้านอื่น ก็เบิกในราคาเต็ม ๑๐๐ นาย

 

ทหารระดับล่างใน บางประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทหารชั้นประทวน พวกจ่า พวกนายสิบ ไม่รู้จะหาเงินจากไหน ทหารในหลายประเทศพวกนี้ จึงต้องโขมยอาวุธจากกรมกองของตนไปขาย ไปดูเถิด เกิดในหลายค่ายและกรมกองของทหาร อาวุธเหลือไม่ครบทั้งนั้น แต่ไม่ใคร่มีใครโวยวาย เพราะมักจะไม่มีใครรู้ สังคมของทหารส่วนใหญ่เป็นสังคมปิดซะด้วย แต่ถ้าประเทศไหนมีความแตกแยกกันในหมู่ทหาร เป็นทหารแตงโม คือข้างนอกสีเขียว แต่เนื้อในเป็นสีแดง หรือสีเหลือง ความลับเรื่องอาวุธหายในกรมกองก็อาจจะถูกกระจายขยายข่าวออกมา จากทหารสีตรงข้าม

 

เมื่อศึกสงคราม อุบัติ ทหารพวกนี้ไม่มีทางรบชนะดอกหรอกครับ เพราะอาวุธมีไม่ครบ ที่เหลืออยู่ก็มักจะเป็นอาวุธที่ใช้ไม่ได้ ยานพาหนะทหารในหลายประเทศ เป็นยานซ่อมกินตัว คือเอาอุปกรณ์จากเครื่องหนึ่ง ใช้เป็นอะไหล่ไปใส่ในอีกเครื่องหนึ่ง ไอ้เครื่องที่ถูกถอดอุปกรณ์ไปซ่อมเครื่องอื่น ก็กลายเป็นเศษเหล็กไปในทันที

 

ประเทศไทยไชโยของ เราก็มีข่าวอาวุธในกรมกองหายไปเหมือนกันครับ แฮ่ๆ มีบ่อยด้วย แต่ประเทศเรายังดีที่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่หายไป มักจะเป็นชิ้นเล็ก ไม่บ้าบอคอแตกเหมือนประเทศมาเลเซีย ที่เครื่องยนตร์ของเครื่องบินหาย

 

เมื่อมีข่าว เรื่องเครื่องยนต์ ๒ เครื่องของเครื่องบินของกองทัพอากาศมาเลเซียหาย ผู้คนที่ได้ยินข่าวก็ฟังกันขำขำ เพราะทุกวันนี้มีข่าวปล่อยทางอินเตอร์เน็ตมากซะจนไม่มีใครเชื่อใครกันแล้ว ครับ แต่สำนักข่าวเบอริต้าฮาเรียนไม่ขำกับข่าวนี้ บรรณาธิการสั่งสืบสวนหาข่าวจนได้ความจริงว่า เครื่องยนต์ของเครื่องบินขับไล่ F-5E ของกองทัพอากาศมาเลเซีย หายไปเมื่อวันอังคารที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๐ เครื่องหนึ่ง และพอถึงวันพฤหัสบดีที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ก็หายไปอีกเครื่องหนึ่ง

 

โถ พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง เครื่องยนต์หาย เครื่องบินก็ต้องจอดแหง็กอยู่ที่ฐานทัพอากาศกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ย่านสุไหงเบซี ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ และที่ฐานทัพอากาศที่เมืองบัตเตอร์เวิร์ธ รัฐปีนัง

 

ใครไปสำเร็จการ บัญชี การจัดเก็บพัสดุ และการจัดการทรัพย์สินมาจากมหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซียนี่ ไม่น่าไว้ไจ และไม่น่ารับเข้ามาทำงานในหน่วยงานของท่าน เพราะระบบพวกนี้ของมาเลเซียอ่อนมาก ขนาดเครื่องยนต์หายไปจากเครื่องบินราคาแสนแพง และเป็นสมบัติสำคัญของประเทศชาติ แต่ก็ยังไม่มีใครรู้

 

นักบินรู้ว่า เครื่องยนต์ของตนหาย ก็หลังจากที่พาเครื่องบินบินขึ้นไปวนไปวนมาบนฟ้าอยู่หลายวัน อ้าว ไอ้นิติภูมินี่ชักจะเขียนหนังสือใจลอย เครื่องยนต์ไม่มีแล้วเครื่องบินมันจะบินขึ้นไปได้ยังไงกัน แหม เอาใหม่ ขอเขียนใหม่ว่า กว่านักบินจะรู้ว่าเครื่องยนต์หายก็ใช้เวลาเป็นเดือน

 

ของหายนี่ก็แปลก ครับ ไม่รู้เป็นยังไง ต้องไปเจอเอาในสถานที่ที่ไปค้นหากันเป็นครั้งสุดท้ายทุกทีไป

 

การขโมยเครื่อง ยนต์ของเครื่องบินเป็นฝีมือของพวกทหารอากาศของมาเลเซีย เห็นพวกทหารชั้นผู้ใหญ่โกงได้ ทหารชั้นผู้น้อยอย่างพวกตูก็เอาบ้าง รัฐบาลมาเลเซียจ้างคนสืบสวนหาข่าว เฝ้าติดตามไปทั่วโลกก็จึงถึงรู้ว่า เครื่องยนตร์ของเครื่องบินขับไล่ F-5E ทั้งสองเครื่องถูกขายต่อไป ยังสาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัย บ้านเราเรียกกันง่ายๆ ว่าประเทศอุรุกวัย ซึ่งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้

 

ตอนนี้รัฐบาล มาเลเซียต้องใช้ พ.ร.บ.ความร่วมมือด้านอาชญากรรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ขอความช่วยเหลือไปยังสถานเอกอัครราชทูตอุรุกวัยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเรียกคืนเครื่องยนตร์อันเป็นทรัพย์สินของราชการทหารกลับประเทศ

 

อ่านเรื่องนี้ที่ นิติภูมินำมารับใช้ ท่านผู้เจริญที่เคารพก็คงจะเห็นฟ้องต้องกันกะผมนะครับ ว่าทหารไทยนั้น ไม่ระยำตำบอนเหมือนทหารของมาเลเซีย.

http://www.nitipoom.com/th/article1.asp?idOpenSky=3474&ipagenum=
ps.แล้วบ้านเราจะแก้ปญหานี้ยังละครับ หรือจะปล่อยไว้เฉยๆ น่าจะมีการนำเทคโนโลยี RFID มาช้ได้แล้วนะครับ นการจัดการคลังอาวุธ




ความคิดเห็นที่ 1


ทฤษฎีใหม่มีว่า  ถ้าซื้อของนอกกระบอกละแสน ค่าคอมมิชชั่นสามสิบเปอร์เซนต์ อย่างเก่งก็ได้แค่กระบอกละสามหมื่น   แต่ถ้าแจ้งออเดอร์ของนอกกระบอกละแสน ปลอมใบกำกับภาษี แล้วเอากระบอกละสามพันผลิตในประเทศ เงินเห็นๆ เก้าหมื่นกว่า   อย่างนี้แหล่มมั๊ยหล่ะคะ

โดยคุณ กบฏ เมื่อวันที่ 19/03/2010 02:13:14


ความคิดเห็นที่ 2


กรุณาอย่าเหมาหมดน่ะครับ ทุกสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี

ใครจะว่าตำรวจดีๆ ไม่มี ตอนนี้เราก็ได้เห็นๆ กัน

คนที่เข้่ามาเป็นราชการ ทหาร ตำรวจ ส่วนมากเป็นคนมีอุดมการณ์ครับ

เป็นอาชีพที่น่าเคารพ แต่การที่จะทำให้เครื่องแบบศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองครับ ว่าจะเลือกเงินตราหรือความดี


ต้องเลือกเอา ว่าอยากจะเป็นคนแบบ จ่าเพียร ผู้กองแคน หมวดตี้ คนเหล่านี้ไม่ได้รวยอะไรเลย แต่เรื่องราวของเขาจะคงไว้ตลอดกาล


กับ นายพล มีเงินมากมาย มีบ้านหรู มีบริวารเต็มบ้าน แต่เกิดมาไม่เคยทำอะไรเพื่อชาติเลย สักวันก็นอนตายบนเตียง

คนเราหนีจุดจบของชีวิตไม่ได้สักคน ขึ้นอยู่ว่าเราจะเลืือกเป็นครับ

ขอบคุณครับ




โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 19/03/2010 04:52:46


ความคิดเห็นที่ 3


ถึงจะเอาเทคโนโลยี RFID มาใช้แต่ถ้าคนมันจะเอามันก็เอาไปได้อยู่ดีนั่นแหล่ะครับ การทำลายมันง่ายกว่าการสร้างสรรค์ เป็นความจริงของมนุษย์ทุกชนชั้น สิ่งที่จะแก้ไขได้จริงๆมันอยู่ที่หนึ่งสมองสองมือและหนึ่งหัวใจของผู้ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่เคยมีประเทศใดทำได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะมันยาก ดังนั้นเพื่อไม่ให้ไกลตัวเกินไปเราก็แก้ที่ตัวเองก่อนจะไปแก้ที่คนอื่น แต่พูดไปพูดมาตัวผมเองก็ยังทำไม่ได้เหมือนกัน...เอวัง

โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 19/03/2010 05:40:09


ความคิดเห็นที่ 4


ยอมรับ ว่าคุณนิติภูมิเป้นคนเก่ง ครับ

 

แต่คุณนิติภูมิ เคยเป็นตำรวจ...น่าจะ......คิดต่อเอาเอง...555

โดยคุณ CAPT.TOM เมื่อวันที่ 19/03/2010 10:54:55


ความคิดเห็นที่ 5


.มีกันทุกชนชั้นล่ะครับไอ้เรื่องแบบนี้.....

เซงจิต

โดยคุณ korn เมื่อวันที่ 23/03/2010 06:58:58