เรื่องภาษีอ่าครับ ผมเคยจำตอนจะไปสอบตรง
ตอนนี้ที่ประเทศไทยเก็บที่เรียกว่า VAT 7 % นั้น
อัตราภาษีไม่ใช่ 7 อย่างที่เข้าใจกัน
ตามจริงเปงภาษี มูลค่าเพิ่ม 6.3% และอีก 0.7 % เป็นภาษีท้องถิ่น
ผมขอพูดบ้าง
จากคำตอบข้อที่ 1ทำไมคุณพูดว่าแต่อย่าคิดว่ามันจะดีเพราะทุจริตนี่แหละบั่นทอนประชาธิปไตย แล้วทำไมไม่คิดว่า แบบอื่นมันก็มีการทุจริตบ้างหล่ะครับ แค่เราไม่สามารถตรวจสอบได้
ทำไมคุณไม่คิดว่า ที่เราได้รู้ว่ามีการทุจริตเป็นเรื่องดี อย่างน้อยเราก็ได้เห็นการตรวจสอบในระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย
ถ้าเปงแบบอื่น คุณจะได้รู้ ได้พูดหรอ ว่ามีการทจริต
ดีมาก phat21....
การเรียนรู้เริ่มจากอย่างนี้แหละ....คือการรับฟัง การเสวนา ไม่ใช่เอาแต่ตั้งกระทู้เมามันส์ไปวันๆ แล้วก็หนีไปซะดื้อๆ
ฝึกอย่างนี้เข้าไว้ สักวันก็ปรับตัวได้อย่างที่หวัง
แก้ไขให้น้องครับ ข้อ 3
จริงๆแล้วน้องเสียภาษีอยู่นะ เป็นภาษีที่ผู้ประกอบการเขาผลักมาให้ผู้บริโภค โดยเขาคิดรวมไปกับค่าสินค้าแล้ว... เวลาน้องซื้อขนมตามร้านสะดวกซื้อต่างๆนั่นละเขาบวกไปแล้ว
ถ้าเอาเห็นชัดๆน้องไปกิน MK ใบเสร็จเขาจะเขียนว่า VAT 7% นั่นละ ตามปกติ เขาจะต้องเก็บ10% แต่รัฐบาลลดให้ เอาว่าน้องไปเรียนภาษีแล้วจะรู้(ไม่แน่ใจว่าภาษียังเป็นวิชาบังคับอยู่ป่าวเพราะรามเปลี่ยนหลักสูตร)
พอดีผมไปหาข้อมูลมาเพิ่มให้อ่าครับ พอดีตอนอ่านหนังสือสอบ มีปีหนึ่งข้อสอบตรงนิติ มธ เค้าแยกถาม ผมเลยจำเรื่องภาษีได้อ่ะครับ
นี่ครับข้อมูลอ้างอิง
ทำไมต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7.0 ในเมื่อพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 465) พ.ศ.2550 กำหนดให้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มและคงจัดเก็บในอัตราร้อยละ 6.3
เนื่องจากพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร จากอัตราร้อยละ 10.0 เป็นอัตราร้อยละ 6.3 ซึ่งตามพระราชบัญญัติจัดสรรรายได้ประเภทภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2534 ประกอบกับพระราชบัญญัติรายได้เทศบาล (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2534 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2535 เป็นต้นไป มอบให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มแทนราชการส่วนท้องถิ่น ในอัตรา 1 ใน 9 ของอัตราภาษีที่จัดเก็บ ดังนั้น กรมสรรพากรจึงจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ในอัตราร้อยละ 6.3 บวกกับภาษีที่ต้องจัดสรรให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่นอีกในอัตรา 1 ใน 9 ของอัตราภาษีที่จัดเก็บ รวมเป็นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งสิ้นร้อยละ 7.0
อันนี้เว็บอ้างอิงของกรมสรรพากรครับ http://www.rd.go.th/publish/35772.0.html
ผิดถูกยังไงก็ขออภัยด้วยน่ะครับ
^
^
ท่านลมฯ อย่าเพิ่งถอดใจสิครับ....น้องเค้ามาคราวนี้เตรียมตัวมาดีทีเดียว มีข้อมงข้อมูล แหล่งอ้างอิง มาพร้อมสรรพ ไม่มาให้ด่าเปล่าๆ เหมือนเคย ช่วงที่เค้าไม่อยู่บอรด์จะเงียบแบบผิดสังเกตเลยหล่ะ....สถานการณ์อย่างนี้จะเป็นวิน-วินครับ เปรียบเหมือนการแข่งขันอะครับจะเกิดการพัฒนาตามมาด้วย
^
^
^
ปวดหัวดีไหมครับป๋าเทิด ผมถึงได้บอก ว่าน้องเข้าใช้เพียงความคิด ส่วนตัวแต่ยังไม่มีเหตุผล แถมมือถือสากปากถือศีลส่ะด้วยสิ อิอิ
ผมว่าป๋าเทิด กับป๋าปืน หาอะไรหนุกๆทำ ไม่ก็จิ๊บวุ้นดีกว่าครับ น้องเค้าก็แค่เหล้าเก่าในขวดใหม่เท่านั้นเอง^^
ผมจะเป็นกำลังใจให้ครับ
นักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า
Knowledge is limited , imagination encircles the word :
ความรู้มีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการไร้ขีดจำกัด
Imagination is more important than knowledge :
จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Curiousity has its own reason for existing :
ความอยากรู้อยากเห็นไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล
Anyone who has never made a mistake has never tried anything new :
ผู้ที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลย คือผู้ที่ไม่เคยพยายามทำอะไรใหม่เลย
ผมเห็นด้วยกับคุณ joe_LFC คือถ้าคนเราไม่ผิดก็แสดงว่าไม่เคยทำสิ่งใดเลย และอีกอย่างการเป็นผู้ใหญ่ที่คือการให้โอกาสครับ
เพราะผมเห็นคำถามด้านบนแล้วก็อยากถามกลับ เจ้าของกระทู้ว่าได้อะไรจากการถามครับ หรือความสะใจหรือโชว์พาวให้สมาชิกเห็น
ผมมักให้โอกาสลูกน้องของผมในการแก้ตัวเสมอเพราะทุกอย่างก็ย่อมผิดพลาดกันได้แต่ว่าต้องอยู่บนพื้นฐานของกติกาที่วางไว้
อยากเห็นอะไรที่สร้างสรรค์กว่านี้และก็ไม่ได้เข้าข้างใคร อยากดูรูปเครื่องบินมากกว่าและก็แลกเปลี่ยนความรู้กันเพราะเว็ปบอร์ดก็เหมือนห้องสมุดบางคนรู้บางคนไม่รู้ก็คุยกันได้นี่ครับ
^
^
^
ตอบท่าน ddd 2521
ผมต้องการว่าน้องเค้าจะตอบว่าไง เพราะมันเป็นสิ่งที่น้องเค้าอ้างอิง เสมอมา บังเอิญ ว่าผมมัน "คนโง่"
ถามน้องเค้าหลายครั้งแล้ว ก็ไม่เคยตอบคำถามให้ตรงคำถามเลยสักครั้ง
ท่าคิดว่าผมจะสะใจก็ขออภัยท่าน ครับคุณให้โอกาสลูกน้องคุณก็เรื่องของคุณครับ แต่ด้วยความเคารพท่านน่ะครับคุณไม่ใช่เจ้านายผมน่ะ
ทุกอย่างก็ย่อมผิดพลาดกันได้แต่ว่าต้องอยู่บนพื้นฐานของกติกาที่วางไว้<<<<<< ครับผิดพลาดกันได้ตามกติกาที่วางไว้
ท่านพูดเองน่ะครับ
ใจเย็นๆ ครับ...ท่านทั้งหลายก็ล้วนเป็นขาเก่าเล่ายี่ห้อด้วยกันทั้งนั้น ปกติ
ผมก็ให้โอกาสลูกน้องผิดได้เหมือนกัน แต่ ให้สูงสุดคือครั้งที่ 3 ผิดบ่อยๆ
แสดงว่าไม่เรียนรู้จากความผิดพลาด ที่บอกว่าผิดเป็นครู หากผิดซ้ำซาก
แสดงว่าไม่สนใจอะไรกระทั่งครูและจงใจทำให้เสียหาย ซึ่งใจตรงกันกับ
คำพูดของของดร.กิลเบิรต์ กริสซั่ม ในซีรี่ส์ ซีเอสไอ: เวกัส ปีไหนจำไม่
ได้ ท่านว่า
.
.
ครั้งที่หนึ่งคืออุบัติเหตุ
ครั้งที่สองคือความบังเอิญ
ครั้งที่สามคือฆาตกรรม
.
.
โห..คมซะไม่มี
โหคมกริบป๋าเทิด
เห็นเช่นเดียวกับท่านนิก จะว่าจิกก็ได้น่ะ แต่ผมชอบเบรกแรงๆมากกว่า เพราะพูดเบาก็เท่านั้นล่ะ
พูด(เขียนหรือพิมพ์) ให้ฟังกันตรงๆ แฟร๊งค์ๆ เลยนะครับ จริงๆ เค้าก็พีเอ็มหาผมบ่อยๆ ซึ่งดูเหมือนจะทำกับหลายๆ คนด้วย แม้กระทั่งคนที่ดูจะไม่มีปัญหากับใครเลยอย่างคุณ AAG_th1 (ขออภัยที่พาดพิง) ทราบจากความในใจของเค้าผ่านทางบล็อก....วิธีการใช้พีเอ็มดูเหมือนจะเป็นการให้เกียรตินะครับ ที่คุยกันเป็นการส่วนตัว แต่มันฉวัดเฉวียนไปมาจนใกล้กับคำว่ารุกล้ำความเป็นส่วนตัว....เราจะไปเสี่ยงทำไมให้เจ็บตัวซะเปล่าๆ ทั้งๆ ที่มีเครื่องมือสื่อสารชั้นเยี่ยมนั่นก็คือบอรด์ของพวกเราในการแลกเปลี่ยนความเห็นกันอยู่แล้ว....ดังนั้นหาก phat21 จะต่อว่าหรือจะชมผมในที่นี้ผมก็ยินดีมาก และพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความเห็นกันในที่แจ้ง กระทู้ใดที่พอตอบได้ผมก็จะตอบ...แต่ถ้าต้องการค้นหาแค่คำตอบเดียวที่ตรงใจคุณจากหนึ่งร้อยหรือพันคำตอบ ผมคงไม่ใช่คนๆ นั้น เว้นเสียแต่ว่าความเห็นเราจะบังเอิญตรงกัน และผมจะตอบตามข้อเท็จจริงบนพื้นฐานของความเห็นส่วนตัวของผมเอง...โปรดเข้าใจตามนี้นะครับ
ในที่สุดก็เข้าอีหรอบเดิม �คือ �ทิ้งกระทู้เดิมที่เริ่มโดนถามหนักๆและหาคำตอบไม่ได้ และหันไปตั้งกระทู้ใหม่ เฮ้อ
ป.ล.กระทู้ที่พันทิปโดนลบไปเจ้าตัวจะรู้ตัวหรือเปล่านี่