แบบเครื่องบินขับไล่ ของทอ. ถ้าไม่เกิดเหตุการ์ต้มยำกุ้ง
โดยคุณ : nok
เมื่อวันที่ :
07/04/2010 21:31:58
ไทยเคยคิดจะซื้อ f/a 18 จริงหรอครับ |
F-16 A/B จะมีอยู่ 2ฝูง คือฝูงบิน211กับ403
F-18 C/D 1 ฝูง คือฝูงบิน 102
F-18 E/F 1 ฝูง คือฝูงบิน 701
F16 C/D( Block50/52) 1 ฝูง คือฝูงบิน211
เหตุผลที่ใช้ประกอบคววามคิดคือเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่อาจจะไม่ล้ม ไทยอาจจะมีความเจริญเติบโตที่สภาวะทางการคลังไม่ต้องรัดเข็ดขัด ดังนั้นF-18 ฝูงแรกที่สั่งซื้อคงไม่ยกเลิกดีลแรก 6 ลำ และสั่งมาให้ครบ 18 ลำ(ซึ่งคาดว่าจะเป็นF-18C/Dสายการผลิตสุดท้าย) และมาดูที่ฝูง 701ที่ใช้เครื่องF-5 คงไม่ต้องยืดอายุการใช้งาน สามารถสั่งซื้อF-18 E/F มาใช้ได้ต่อเนื่องทันที เพราะดุจากประสิทธิภาพของF-18E/Fแล้วน่าจะเหมาะกับภาระกิจดูแลทางทะเลได้เป็นอย่างดี ส่วนฝูง211นั้นผมมองว่าเครื่องF-5Tยังคงประจำการอยู่แต่อาจจะผสมกับรวมกับF-16A/Bที่โอนจากฝูง103ที่ทำทั้งFalcon UpและMLU เสร็จเรียบร้อย ส่วนฝูง 103 นั้น ทอ.อาจจะมองไปที่ภาระกิจที่ครองอากาศและโจมตีก็อาจจะทดแทนด้วยเครื่องF-16 C/Dรุ่นที่พร้อมสรรพทั้งเรดาร์และถังเชื้อเพลิง(มีดูมๆบนตัวเครื่อง 555) ส่วนฝูง403 ก็ยังคงรูปแบบเดิมไว้พร้อมกับทำFalcon Up กับ MLU เสร็จสรรพ ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมเครื่อง บจ.และเครื่องเอแว็คส์อีกครับ
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดส่วนตัว แต่ตั้งบนพื้นฐานของเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง เพราะลองคำนวนดูว่าถ้าไม่เกิดภาวะต้มยำกุ้งปี 40 ไทยจะก้าวไปไกลกว่านี้ครับ ท่านอื่นคิดอย่างไรครับ (แก้เครียดกับอากาศที่ร้อนค่อดๆ)
ถ้าไม่เกิดพิษต้มยำกุ้งตอนนั้น ตอนนี้คงไม่มี ตาแก่ คนหนึ่งที่เป็น แอดมิน มานั่งรำลึกความหลังไฝ่ฝันถึงอดีตที่ตัวเองตั้งความหวัง เคยชอบตอนสมัยหนุ่มๆเป็นแน่แท้
เมื่อวันที่
06/04/2010 01:21:01 ถ้าย้อนเวลาได้แบบหนังเกาหลี (แต่ผมยังไม่แก่นะ 5555)...หน้าตาของ
บ.ข.ของทอ.คงไม่ต่างจากนี้ ช่วงก่อน"ทอมยามคุงไครสิส" เศรษฐกิจดี
มาก เงินทองหาง่าย เงินเดือนปรับปีละสองหน.........ผมว่าเผลอๆ จะ
ได้ F-15T มาลง 103 แทน F-16C/D ของป๋า Nok ซะอีก
ป่านนี้เรือชุด รล.นเรศวร ติด VLS ไปแล้ว และกำลังมองหารุ่นที่ใหม่กว่า
มาทดแทน, ป้อมปืนมาตรฐานของบรรดาเรือต.กลายเป็น DS-30 พร้อม
คคย.มิราดอร์ เหมือนกันหมด, เรือดำน้ำจากค็อคคูมทำการซ่อมใหญ่ที่อู่
มหิดล โดยสุดยอดทีมช่างของทร.,
ทบ.ได้ยานเกราะ สไตรเกอร์ ครบตามต้องการคือ 288 คัน ถ.ใหม่ที่มา
แทน M-41 คือ เล็บเปิด2เอ4 300 คันรวด....
.
.
เมื่อวันที่
06/04/2010 02:09:24 (ต่อครับ กำลังมันส์)
.
.
แบล็คฮอวค์ มาครบ 33 ลำ........ฝูงฮ.โจมตี(ลาดตระเวณ)คอบร้า 16 ลำพร้อมสนับสนุนทหารราบ. อุปกรณ์ของทหารราบครบครัน เสื้อเกราะผลิตในประเทศ สนับศอก สนับเข่า โรลเลอร์เบลด และตับปิ้ง เอ๊ย กระจับ.....
เมื่อวันที่
06/04/2010 02:17:35 จริงๆทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
น่าจะจัดซื้อให้กับ สภ.ในพื้นที่สามจังหวัด
สภ. ละ 1 - 2 คันนะครับ
น่าจะสร้างขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เวลาออกปฏิบัติหน้าที่มากขึ้น
เมื่อวันที่
06/04/2010 07:27:49
ถ้าไม่มีต้มยำกุ้งในตอนนั้ล่ะก็ เอาเท่าที่จำได้นะครับ
1. ได้ A-17 หรือ A-19 จากสวีเดนมามูดน้ำดำโผล่ใช้แล้ว 4-6 ลำ
2. ได้ดาวเทียมสปายที่จัดหาจากอังกฤษดวงล่ะ 26,000 ล้านบาท สมัยค่าเงิน 25 บ./ดอลล์ แบบว่าถ่ายภาพแก้วน้ำได้ที่ระยะวงโคจรค้างฟ้า แถมยังสื่อสารกับกองเรือดำน้ำได้ด้วย
3. ได้เรือบรรทุกบ.ขนาด 30,000 ตัน SAC-220 มาแล่นเล่น และมีที่ให้ A-7E ที่เพิ่งถอยออกมาลองวิ่งขึ้นลงไปเรียบร้อนแล้ว
4. กบร. คงได้ F-18 C/D และ E-2C มาฝึกขึ้นๆลงๆบน SAC-220
5. ทบ.อาจได้สตริงเรย์มากกว่านี้อีกสัก 2 กองพัน แถม M-60 อีกเป็นกรมๆ
6. ระบบต่อสู้อากาศยานของทั้ง ทอ. ทบ. คงจะหรูและครบตามแผนไปแล้ว ไม่ใช้ได้แค่สปาด้ามาไม่กี่ชุดแล้วแช่ทิ้งไว้จนหมดอายุไม่มีเงินเปลี่ยนใหม่
7. กองเรือฟรีเกตที่1และ2 คงมีเรือรบกองละ 10 ลำ ตามแผน......เผลอๆอาจได้เพอรี่ย์คลาสมาใช้แล้ว 3-4 ลำ
8. อาจจะมีศูนย์ส่งดาวเทียมที่ประจวบซึ่งพร้อมที่ส่งดาวเทียมขนาด 50-150 กิโลกรัมขึ้นสู่วงโคจรได้แล้ว.....แถมเพื่อนบ้านขนลุกซู่เพราะว่ามันอาจจะถูกใช้ในฐานะขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางก็ได้
แหมก็แผนการตอนนั้น......ขนาดผบ.สูงสุดยุคนั้นยังบอกผ่านสื่อว่าเว่อร์ไปหรือเปล่า เพราะกองทัพขนาดนั้นก็จัดชั้นเป็นมหาอำนาจขนาดย่อมๆได้เลย.....แบบว่าผมไม่เห็นด้วยอะไรเทือกนั้น.....โหรัฐบาลอุตสาหะจัดงบให้มโหฬารชนิดเรียกว่ากองทัพถึงกับไม่กล้ารับเลย...เฮ่อะๆๆๆๆๆๆ ไม่ขี้ตืดแบบยุคหลังๆ
ยุคนั้นได้ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะล้อสายพาน Type-85 มาจำนวนมากเลยล่ะครับ มากกว่าสไตเออร์ที่คิดจะซื้อในยุคนี้เยอะเลย
9. ทอ. คงได้ E-2C มาใช้งาน 4 เครื่องด้วยและอาจพ่วงด้วยเครื่องเติมเชื้อเพลิงทางอากาศมาให้พร้อม........แถมฝูงอัลฟาเจ๊ต 50 ลำเน๊อะ.....
เรือหลวงจักรีตอนนั้นได้ครบแล้วครับ ทั้งฮ.ทั้งแฮริเออร์ หุหุหุหุ