โปแลนด์สูญเสียผู้นำอย่างกะทันหันจากเหตุเครื่องบินโดยสารประจำตำแหน่งประสบอุบัติเหตุตกระหว่างภารกิจเยือนรัสเซียเมื่อ 10 เม.ย. คร่าชีวิตรวมทั้งสตรีหมายเลข 1 และเจ้าหน้าที่ระดับสูง ของรัฐบาลอีกหลายคน วันเดียวกับเหตุนองเลือดทางการเมืองในประเทศไทยก่อนวันขึ้นปีใหม่มหาสงกรานต์ ตกเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลกไม่ด้อยกว่ากัน

แม้สาเหตุเครื่องบินตกถูกชี้ที่ความบกพร่องของนักบิน ผนวกสภาพอากาศเลวร้ายหมอกลงจัด ทำให้เครื่องบินเฉี่ยวชนต้นไม้ก่อนหายนะ แต่พาหนะ "ม้างาน" เครื่องบินลำเลียง "ตูโปเลฟ-154" ไม่พ้นต้องถูกวิเคราะห์ความปลอดภัยกันอีกครั้ง

"ตู-154"  อดีตเครื่องบินลำเลียงทันสมัยที่สุดรุ่นหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตในยุคต้นทศวรรษ 1970 พิสัยการบินระยะกลาง 2,850-4,000 กม. ความเร็วสูงสุดระหว่างบินราว 900 กม.ต่อชั่วโมง ขุมพลังเทอร์โบเจ็ต 3 เครื่องยนต์ คู่แข่งสูสีกับเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง รุ่น 727 ของสหรัฐฯ แต่เหนือกว่าโบอิ้งที่ระบบลงจอดรองรับความสมบุกสมบันได้ มากกว่า เพราะสนามบินหลายแห่งในสหภาพโซเวียตยุคนั้นไม่มีลาดยาง แถมสภาพอากาศหิมะตกหนักเกือบตลอดทั้งปี ส่วนข้อด้อยคือซดเชื้อเพลิงมากกว่าโบอิ้ง 727

ยุคเฟื่องฟูที่สุดของ "ตู-154" คือช่วงปี 1990 เฉลี่ยรองรับผู้โดยสารปีละมากกว่า 137.5 ล้านคน เดินทางรวมกว่า 243,000 ล้าน กม.

สหภาพโซเวียตสร้างพัฒนา "ตู-154" นำเข้าประจำการตั้งแต่ปี 1972 ใช้สำหรับสายการบินแห่งชาติ "แอโรฟรอต" แทนรุ่นตู-104 แทนเครื่องบินอันโตนอฟ เอเอ็น-10 ของยูเครน และแทนอิลยูชิน ไอแอล-18 บรรทุกผู้โดยสารได้ระหว่าง 128-180 คน แล้วแต่การออกแบบห้องโดยสารแต่ละลำ 

จำนวนการสร้างผลิต "ตู-154" มากราว 1,000 ลำ มีใช้ในสายการบินทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มชาติคอมมิวนิตส์หรืออดีตคอมมิวนิสต์ ราว 17 สายการบิน อายุการใช้งานอยู่ที่ 45,000 ชั่วโมงบิน แต่เพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 80,000 ชั่วโมงบิน เลิกผลิตมาตั้งแต่ปี 1994 ประสบอุบัติเหตุขั้นสูญเสียเครื่องบินรวม 28 ครั้ง เหตุร้ายหลายครั้งเพราะเครื่องบินถูกยิง

สายการบินจีนเลิกใช้เครื่องบินรุ่นนี้ตั้งแต่ปี 2001 สายการบินรัสเซียเพิ่งประกาศเลิกใช้เมื่อเดือน ม.ค.ปีนี้ ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจหยุดบินโดยสาร "ตู-154" เพราะหลายประเทศโดย เฉพาะยุโรป ไม่ให้บินเข้าน่านฟ้าด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของ "ม้างาน" อายุเกือบ 40 ปี...

อานุภาพ เงินกระแชง

http://www.thairath.co.th/column/oversea/worldwide/76390