นักบิน : 1คนสำหรับรุ่นC และ2คนสำหรับรุ่นD
น้ำหนักบรรทุกเต็มที่ : 19.2ตัน
เครื่องยนต์ : 1x Volvo Aero RM12(GE F404) Afterburning Turbofan
ความเร็วสูงสุด : 2มัค
พิสัยการบินไกลสุด : 800กิโลเมตร(500ไมล์)
เพดานบินสูงสุด : 50,000ฟุต
ปืนใหญ่อากาศ : 1x 27mm Mauser BK-27 canon
ระบบอาวุธ : ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ
ระเบิดเลเซอร์
กระเปาะจรวด
ขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ
ระเบิด
อายุเฉลี่ยนของ F-16 ที่ประจำการอยู่ทั่วโลกคือ 17.86 ปีครับ
http://www.f-16.net/fleet-reports_article10.html เพราะฉะนั้น F-16
กว่าครึ่งจากจำนวนทั้งหมดที่ผลิตจะปลดประจำการในอีก 12 ปีข้างหน้า(2021)
หมายความว่าอะไหล่ของ F-16 ต่อไปในอนาคตจะหายากมากขึ้นแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศใหญ่ ๆ ที่เคยใช้งานรวมไปถึงประเทศผู้ผลิต
เองปลดประจำการ
และปัจจุบันถ้าไม่มีประเทศใดสั่งซื้อเพิ่มเติมสายการผลิตของ F-16 จะปิดตัวลง
ในปี 2013 เพื่อหลีกทางให้ F-35 การผลิต spare part และ ware part ต่าง ๆ
ก็จะค่อย ๆ ลดลง ในขณะที่ราคาแต่ละชิ้นกลับถีบตัวเพิ่มสูงขึ้น
ถ้าหากเราซื้อ F-16 ในปี 2007 นั้นหมายความว่าเราต้องใช้งานเครื่องบินไปอีก
อย่างน้อย 30 ปี(ปลดประจำการ 2040) ถ้าโชคดีก็คงสามารถใช้งานไปได้ 20 ปีโดย
ไม่มีปัญหาเรื่องอะไหล่ แต่หลังจากนั้นแล้วคนส่วนใหญ่ในโลกก็จะใช้งานเครื่องบิน
รุ่นใหม่กันหมด โดยยังคงมี F-16 ประจำการอยู่ในโลกนี้เพียงไม่กี่ร้อยลำครับ
F-16 เป็นของบินที่ดี แต่ทุกวันนี้แผนแบบเครื่องรุ่นนี้ในเก่าเกินไปที่จะนำเครื่อง
ใหม่ ๆ มาประจำการแล้วครับ มันถึงคราวที่คลื่นลูกใหม่จะมาแทนแล้วครับ
ปล. ทอ. เราวางแผนปลด F-16 ฝูงสุดท้ายในอีก 20 ปีข้างหน้าเช่นกันครับ
ลงจอดถนนปรกติได้ก็เท่สุดๆแล้วไม่ต้องคิดอะไรมากเลย(ล้อเล่น)
พี่ข้างบนก็อธิบายData link จนเห็นภาพซะขนาดนี้
ผมจะไม่เชื่อใจJas-39 ได้ไง
ปกติไทยเราใช้อาวุธสหรัฐ ประมาณ ๘๐ เปอร์เซนต์ ครับ นอกนั้นก็เป็นจีน กับประเทศอื่นๆจำนวนเล็กน้อยครับ
ยิ่งการ ทำ เอ็มแอลยู เอฟ ๑๖ ทั้งสามฝูง ก็ยิ่งตอบย้ำว่าเราต้องพึ่งพาสหรัฐอยู่ดีครับ ดังนั้นถ้าเราจะไม่เลือก กริเป้น แต่เราไปเลือก เอฟ ๑๖ บล็อค ๕๐/๕๒ แทน เราก็จะมี เอฟ๑๖ ครบ สี่ฝูง ลองคิดถึงการฝึก อบรม และ การซ่อมบำรุง ซิครับว่าเราจะ ประหยัดได้แค่ไหน แม้ว่าอะไหล่ตัวถัง ของรุ่น เอ /บีกับ รุ่น ซี/ดี มันจะ ใช้ร่วมกันไม่ได้ก็ตาม แต่อย่าลืมว่า อะไหล่ ตัวอื่นๆ อย่าง เรด้าห์ เครื่องยนต์ หรือ ชิ้นส่วน อิเลคทรอนิตส์นี่ มันมีอายุการใช้งานของมันเอง และไม่ยากที่จะนำมาทดแทนกันนาครับ
การซื้อกริเป้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะลดการพิ่งพาจากสหรัฐหรอกนาครับ เพราะผมบอกแล้วว่า สวีเดนมันทำตัวถังเครื่องบินขายอย่างเดียวดังนั้น หากเราจะซื้อ เครื่องบินกริเป้น เพิ่ม ทางสวีเดนต้องทำเรื่องไปยังสหรัฐให้ ทางรัฐสภาสหรัฐอนุมัติ ขายเครื่องยนต์ และ อาวุธ ที่ทำในสหรัฐให้ไทยอยู่ดีครับ ส่วนระบบเรด้าห์ หรืออาวุธอื่นๆค่ายยุโรป นี่คงต้องขออนุญาติจาก ประเทศเจ้าของสิทธิบัตร อย่าง อังกฤษ หรือประเทศยุโรปอื่นๆก่อนครับ ดังนั้น แทนที่มันจะต้องขออนุญาติ สหรัฐโดยตรง ทำไมเราต้อง ทำผ่าน สวีเดนให้มันวุ่นวายไม่เข้าเรื่องด้วยละครับ ดูแล้วมัน ฉลาดตรงไหนไม่ทราบครับ
เรื่อง ระบบดาต้าลิ้ง หรือ เครื่องบิน อิริอายนี่ นี่มันอยู่ในโครงการจัดหาเครื่องบินเพื่อทดแทน เอฟ๕ อี/เอฟ ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ถ้าจะเอา อิริอาย จริงๆ ก็น่าจะตั้งเป็นโครงการใหม่อีกอันแยกต่างหากนาครับ เหมือน ประเทศอื่นๆ อย่าง กรีซ หรือ มาเลเซีย เขาครับ แพงหน่อย แต่ในระยะยาวผมว่าน่าจะคุ้มกว่า ซื้อ เป็น แพคเกจ นาครับ
เท่าที่ทราบนะครับ deal นี้
เราซื้อระบบมาครับ
Jas 39 C/D เป็นแค่ element
ของระบบทั้งหมด
เอางี้ดีกว่าครับ
ถ้าเรารับ JAS 39 ครบ 6 ลำแรกเมื่อไหร่ก็เชิญ พี่สิงห์ พี่มา น้องเหงียนกับพี่โด มาร่วมฝึกการใช้อาวุธด้วยกันเลยที่กองบิน 1 จะได้ล้วงลับตับแลบไปเลยใครเจ๋งไม่เจ๋ง ทำนองเดียวกับการฝึก RED Flag ของอเมริกา
Jas 39 C/D คุ้มค่ากับการมาประจำการกองทัพกาศไทยแน่นอนครับ อย่ามองแค่ประสิทธิภาพของเครื่องที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย เครื่องบินรบทุกรุ่นมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันตามภารกิจ แต่มองว่าเราได้อะไรบ้างกับการมาของเครื่องบินรบจากสวีเดน อนาคตเราต้องพึ่งพาตนเองในเรื่องเทคโนโลยี และสิ่งที่เราได้มาครั้งนี้ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี
ผมว่ามันวัดกันยากน่ะครับ
ที่จะบอกว่าอันไหนดีกว่ากัน
แต่ที่แน่ jas39 ทอ. ได้ความรู้ + เทคโนโลยีเพิ่มขึ้นแน่นอนครับ
มันคงจะดีกว่าถ้าเกิดสงครามแล้วนำ jas 39 ไปจอดไว้ในบ้านผม
เดียวเคลียทางขึ้นให้ เอาหน้าบ้านเลย 555+
ผมเห็นด้วยกับทุกความคิดเห็นยกเว้น ความคิดเห็นของคุณ data น่ะครับ
เพิ่มข้อมูลจาก FOI หรือ Swedish Defence Research Agency
ในเอกสารชุดนี้ระบุข้อมูลเรื่อง RCS ของ Gripen ว่าเท่ากับ 0.1 m^2 (ด้านหน้า) More Detail
สำหรับผม Gripen C/D เป็นระบบอาวุธที่สมบูรณ์แบบกว่าแบบอื่น ๆ ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ
ในปัจจุบัน ภายใต้ข้อจำกัดด้านงบของประเทศ และลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย
อีกทั้งมี Situation awareness ที่ดีกว่า มีความอ่อนตัวที่มากกว่าแบบอื่น ๆ ซึ่งถ้าตกอยู่
ในมือนักบินชั้นยอดของกองทัพอากาศไทย เชื่อว่าเป็นการยากที่เครื่องบินรุ่น ๆ อื่น
ในภูมิภาคจะต่อกรด้วยครับ
ปล. case นี้เชื่อใจ ทอ. ไทยเถอะครับ กรณีนี้คงไม่เหมือน GT-200 อย่างแน่นอนครับ ^^
ตามเรปบนครับไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร ถ้าพึ่งพาตระกูลFจากพี่มะกันมากๆระวังเอาไว้หน่อยก็ดี
ตัวอย่างมีให้เห็น F14 ของอิหร่าน จอดตายเป็นแถวเพราะพี่มะกันไม่ขายอะไหล่ให้
หรือดูเพื่อนบ้านอย่าง F16 อินโด ที่ผ่านมาก็แทบแย่เหมือนกัน
JAS-39 นั้นเด่นเรื่องระบบ ดาต้าลิงค์ ครับ ส่วนเรื่องสมรรถนะนั้น ค่อนข้างจะเป็นรองเครื่องบิน F-16C/D Block 50/52 อยู่ ที่กองทัพอากาศเลือก JAS-39C/D น่าจะมาจากข้อเสนอที่ดีและแพ็คเกตมากกว่าครับ และกองทัพอากาศก็มาระบุแล้วว่า จะจัดหา JAS-39 แค่ฝูงเดียว
ถ้าของเขาดีจริงเขาคงไม่ต้องมีของแถม รวมทั้งคงต้องมีคนซื้อต่อคิวยาวเป็นหางว่าว เหมือน เอฟ ๑๖ บล็อค ๕๐/๕๒ แล้วละครับท่าน เครื่องบินที่ขายได้น้อย เดาเอาว่าถ้า ไม่ใหม่เกินไปก็คงมีคุณภาพ ไม่เร้าใจเท่าที่ควรแหละครับ ทั้ง เจ ๑๐ และ กริเป้น นั้นแหละ
เครื่องบินใหม่แกะกล่องที่พัฒนากันอยู่ตอนนี้ คือ กริเป้น เอ็นจี เอฟ๑๖ บล็อค๖๐ กับ เจ๑๐ บี ครับ ทั้งสามตัวนี่ถ้าเงินถึงๆ ผู้ผลิต อาจอัดใส่เท็คโนโลยี่ล่าสุด ประเภทที่พึ่งดึงออกมาจากหิ้งได้ทันทีครับ ทั้ง มหาอำนาจ อย่างสหรัฐและจีน ซึ่งมีเงินถุงเงินถังด้วยกันทั้งคู่ จะน่าสงสารก็เจ้ากริเป้นน้อยนี่แหละครับ สวีเดนมันทำเป็นแค่ต่อตัวถังเรือบินขายเพียงอย่างเดียว ทั้งเครื่องยนต์ เรด้าห์ รวมทั้งระบบอาวุธนี่มันซื้อเขามาใช้ทั้งนั้น (ในรูปของการซื้อสิทธิ์ มาก็อปปี้ขายอีกต่อหนึ่ง) ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ถ้าใครคิดจะฝากผีฝากไข้ไว้กับเจ้า กริเป้น เอ็นจี ละก็ ให้คิดกันยาวๆนาครับ อย่าให้ใครเขาว่าได้ว่า โง่ซ้ำซากนาครับ
สงสัยอย่างเราๆคงต้องใช่วิธีหาทางรวยให้ได้เวอร์ๆแบบ เจ้าของ Google เพื่อหาเงินมาซื้อเครื่องบินไอพ่นมือสองปลดประจำการบินเองสักลำละมั้ง อยากได้ mig 25 จัง เท่ดี
(ข่าวเร็วๆนี้บอกว่าเจ้าของGoogle.com ซื้ออัลฟ่าเจ๊ต ปลดประจำการมาบินเล่นอะพี่น้อง..)
แล้วถ้าเอามาเทียบกับ F-18 จะพอสู้ไหวไหมคับ
อะไร"คุ้มค่ากว่ากัน"?
รบกวนด้วยนะครับ
ขอบคุณคับ
หมายถึงF-16ทำMLU นะครับขอ ทอ.นะครับ มันก็เป็นทางเลือก
ดีที่สุดแล้วสำหรับเราตอนนี้
คุ้มค่าครับ f 16 Block 50/52 แต่..........
ไม่มีเงินจะซื้อไหวนี้สิครับ...ในโลกความจริง..งบน้อยอะเรา
บล็อก 50/52 ถูกส่งครั้งแรกในปลายปีพ.ศ. 2534 เครื่องบินได้การติดตั้งจีพีเอส/ไอเอ็นเอสและสามารถบรรทุกขีปนาวุธเพิ่มเติมอย่าง เอจีเอ็ม-88 ฮาร์ม เจแดม เจซอว์ และดับบลิวซีเอ็มดี บล็อก 50 ใช้เครื่องยนต์เอฟ110-จีอี-129 ในขณะที่บล็อก 52 ใช้เครื่องยนต์เอฟ100-พีดับบลิว-229 บล็อก 50/52+ ซึ่งหมายถึงแบบที่พัฒนาขึ้นไปอีกเมษายน พ.ศ. 2546 ความแตกต่างหลักคือถังเชื้อเพลิงพิเศษ เรดาร์เอเอ็น/เอพีจี-68(วี)9 ระบบออกซิเจน และหมวกเจเอชเอ็มซีเอส
th.wikipedia.org/wiki/เอฟ-16_ไฟทิงฟอลคอน
ดูๆๆแล้วผมก็ว่า F-16 ก็ยังคงคุ้มค่าอยู่สำหรับในสภาวะการณ์เช่นนี้นะครับ ตามความคิดอันน้อยนิดของข้านะขอรับ อยากได้ความเห็นจากผู้รู้
และเพื่อนๆๆทุกคนครับ
เฉิงตู เจ-10 (Chengdu J-10) เป็นเครื่องบินรบรุ่นที่ 4+ ที่ถูกออกแบบโดยอิสราเอล (IAI Lavi) พัฒนาโดยรัสเซีย (Sib NIA) และสร้างโดยประเทศจีน โดยโรงงานสร้างอากาศยานเฉิงตูแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เจ-10 เป็นเครื่องบินที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายทั้งด้านเครื่องบินขับไล่ และสามารถทำภารกิจทิ้งระเบิดขนาดเบาได้อีกด้วย
รุ่นแรกๆของ J-10 นั้น ใช้เครื่องยนต์ไอพ่นเทอร์โบแฟนของรัสเซีย Lyulka-Saturn AL-31FN ในอนาคตนั้น ทางประเทศจีนมีโครงการติดตั้งเครื่องยนต์ในประเทศ WS-10A (WoShan-10A) Taihang ซึ่งสร้างขึ้นโดยการลอกแบบและดัดแปลงเครื่องยนต์รุ่นเก่าของรัสเซีย แต่จนปัจจุบัน (พศ.2552) ก็ยังพัฒนาไม่สำเร็จ ทั้งๆที่ล่าช้ากว่าแผนงานมาหลายปีแล้ว ทำให้ยังต้องพึ่งพาเครื่องยนต์จากรัสเซียอยู่ต่อไป
สมรรถนะของเครื่องบินรบแบบ J-10 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์รัสเซียนั้น เทียบได้กับ Jas-39 ของสวีเดน แต่มีราคาถูกกว่า
ข้อมูลแบ็คอัพ ก่อนจะเถียงกันตาเหลือก ให้ดูก่อนว่า จะเอาเครื่องบินมาทำอะไร
การตอบโต้ทางอากาศ (COUNTER AIR)
เป็นการปฏิบัติที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการครองอากาศ โดยการทำลายระบบที่ประกอบกันเป็นกำลังทางอากาศของข้าศึก ทั้งในอากาศและบนพื้น การตอบโต้ทางอากาศ จะบังเกิดผลดีต่อทุกเหล่าทัพของฝ่ายเราในประการที่สำคัญ คือ ลดอันตรายจากกำลังทางอากาศของข้าศึก และเพิ่มเสรีในการปฏิบัติของฝ่ายเรา มีกิจเฉพาะดังนี้
การขัดขวางทางอากาศ (AIR INTERDICTION)
เป็นการทำลาย ตัดรอน หรือหน่วงเหนี่ยวระบบการส่งกำลังบำรุงทั้งมวลของข้าศึก เพื่อกดดันให้เกิดความขาดแคลนในการปฏิบัติการต่อฝ่ายเรา ปกติจะปฏิบัติการลึกเข้าไปในดินแดนของข้าศึก และผลการปฏิบัติจะเป็นผลดีต่อทุกเหล่าทัพของฝ่ายเรา มีกิจเฉพาะดังนี้
การปฏิบัติการร่วมกับเหล่าทัพอื่น (JOINT OPERATIONS)
ได้แก่ การปฏิบัติการร่วมกับกำลังทางบกและ/หรือกำลังทางเรือ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน โดยใช้คุณลักษณะและขีดความสามารถของกำลังทางอากาศ เพิ่มอำนาจการยิง เพิ่มระยะและพื้นที่ตรวจการณ์ ตลอดจนเพิ่มความปลอดภัยและคลายความกดดันที่ข้าศึกมีต่อกำลังเหล่านั้น มีกิจเฉพาะดังนี้
การลาดตระเวนทางอากาศ (AIR RECONNAISSANCE)
คือ การใช้อากาศยานพร้อมอุปกรณ์และเครื่องตรวจจับ (SENSOR) ในการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร และติดตามความเคลื่อนไหวของข้าศึก เพื่อประโยชน์กับทุกเหล่าทัพของฝ่ายเรา มีกิจเฉพาะดังนี้
การลำเลียงทางอากาศ (AIR LIFT)
เป็นการใช้คุณลักษณะด้านความเร็วและพิสัยบินของกำลังทางอากาศ โดยการนำอากาศยานมาใช้เป็นพาหนะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของภารกิจด้านยุทธการ ยุทธบริการ และภารกิจพิเศษ มีกิจเฉพาะดังนี้
การปฏิบัติกิจเฉพาะพิเศษ (SPECIALIZED TASKS)
ได้แก่ การใช้อากาศยานในการปฏิบัติภารกิจที่มีลักษณะเฉพาะ เพื่อสนับสนุนการใช้กำลังทางอากาศ หรือภารกิจของหน่วยนอกกองทัพอากาศ ซึ่งสมควรที่กองทัพอากาศจะต้องร่วมปฏิบัติ มีกิจเฉพาะดังนี้
การป้องกันภัยทางอากาศ (AIR DEFENCE)
หมายถึง การปฏิบัติการเชิงรับเพื่อเพิ่มความปลอดภัยจากกำลังทางอากาศของฝ่ายตรงข้าม ให้กับกำลังทางอากาศของฝ่ายเรา และเหล่าทัพอื่น ตลอดจนประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ในชาติเป็นส่วนรวม เพราะเป้าหมายสำคัญต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นศักยภาพของชาติ มิใช่มีแต่เฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น หากพิจารณาเฉพาะลักษณะของภารกิจการบิน การป้องกันภัยทางอากาศด้วยการบินสกัดกั้น เป็นประเภทหนึ่งของการตอบโต้ทางอากาศเชิงรับ (DCA) แต่เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญและขั้นตอน ตลอดจนยุทโธปกรณ์ที่ประกอบกันขึ้นเป็นระบบแล้ว การป้องกันภัยทางอากาศมีความสำคัญกว้างขวาง และสลับซับซ้อน ประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้
การปฏิบัติการทางทหารที่มิใช่สงคราม (MOOTWAR)
ได้แก่ การปฏิบัติกิจเฉพาะพิเศษต่างๆ เช่นการปฏิบัติเพื่อสนองโครงการตามพระราชดำริเพื่อพัฒนาประเทศ การบรรเทาสาธารณภัย การสนับสนุน การแก้ไขปัญหาสังคม การลำเลียง และการสนับสนุนประชาคมโลกตามนโยบายรัฐบาล
งั้นฟันธงไปเลย...................
บข.21 เพื่อทดแทน เอฟ-5 ที 211 ................. เป็น ซุเปอร์ ต่อ....................
ปัจจุบัน
เอดีเอฟ 102 ภารกิจ สกัดกั้น / ครองอากาศ (อิเตอร์เสปท / แอร์ สุพีเหรี่ยริตี้) อาวุธ แอมแรม
โอซียู 103 ทิ้งระเบิด (แอร์ สไตร้ค์ ภาค ครองอากาศเชิงรุก/ขัดขวางพื้นที่การรบ) อาวุธ เลเซอร์ไกดิ้ง บอม
โอซียู 403 สไตร้ค์ไฟ้เตอร์ ( แอร์ สไตร้ค์ ภาค ขัดขวางทางลึก (เจาะเข้าไปเสียว)) อาวุธ เลเซอร์ไกดิ้งบอม กระเปาะนำร่องบินต่ำ รูบิส
แจ้ส 39 ซี/ดี สกัดกั้น/โจมตีร่วม(อินเตอร์เสปท / รบร่วม(โจมตีทางทะเล)) อาวุธ แอมแรม จรวดนำวิถีปราบเรือ
เอฟ-5ที สกัดกั้น/โจมตีร่วม(อินเตอร์เสปท / รบร่วม(ขัดขวางพื้นที่การรบ)) ไพธ่อน4 ระเบิดเอนกประสงค์
เมื่อปลด เอฟ-5 ที ใช้สูตรเดิมคือ ย้าย โอซียู 403 ไปที่ 211 แต่ตัวใหม่ให้เป็น เอ็มแอลยู เป็นฝูง สกัดกั้น / ขัดขวาง อาวุธ แอมแรม ไกดิ้งบอม แถมกระเปาะนำร่องบินต่ำใหม่ ทำให้สามารถทำ สไตร้ค์ไฟเตอร์ได้ด้วย ....... ขณะที่ 403 รับ ซุปเปอร์ ต่อ รุ่น 2 ที่นั่ง จัดตั้งฝูง สไตร้ค์ ไฟเตอร์ เต็มรูปแบบ อาวุธหลักคือ เจแดม และกระเปาะนำร่องบินต่ำกลางคืน อาวุป้องกันตัวคือ แอมแรม..............
ตรงตามคอนเสปท ไทยนี้รักสงบ ไม่มีเครื่องบินใหญ่ไปครองอากาศเหนือดินแดนใคร แต่ใครอ้อแอ้ ตูส่งหมัดยาวไปล้วงตับ...............
จบ..................
ผมว่าที่ผมเขียนตอบกระทู้ไปสองรอบนี่พวกๆคุณข้างบนก็ไม่เข้าใจอีกนั่นแหละว่าผมกำลังจะสื่ออะไร
ผมไม่เคยพูดว่า กริเป้น เป็นเครื่องบิน ไม่ดีนาครับ ระบบ ดาต้าลิงค์ กับ เครื่องบิน อิริอาย ผมก็ไม่เคยพูดว่ามันไม่ดี ความจริงเครื่องบิน ทุกแบบ ทุกยี่ห้อนี่ ถ้ามันไม่ดีจริงคงไม่สามารถนำมาเสนอขายแข่งกันในตลาดโลกได้หรอกครับ เครื่องบินแต่ละแบบมันมีข้อ ดี ข้อ เสีย ของมัน เอง เครื่องบินตัวเล็กกว่า ขนอาวุธได้น้อยกว่าเครื่องบินตัวโต มันก็ต้อง จ่ายค่าน้ำมัน และค่า ซ่อมบำรุงน้อยกว่า มันเป็น ของตายอยู่แล้วครับ แต่เครื่องบินสามแบบที่คุณตั้งกระทู้มานี่ ถ้าไม่มีตัวช่วยอื่นๆ (อย่างอิริอาย) แล้ว เอามาดวลกันเดี่ยวๆ ไม่ว่า ภารกิจ อากาศสู่อากาศ หรือ อากาศสู่พื้น คุณว่า กองทัพทั่วโลกเขาทราบไหมว่าตัวไหนดีกว่าตัวไหน แล้วทำไมจึงมี เฉพาะ ไทย กับ อาฟริกาใต้ เท่านั้นที่ซื้อมาใช้งาน ( เช็ค กับ ฮังการี่ เขาแค่เช่า นาครับ จะซื้อหรือเช่าต่อ หรือจะเลิกใช้นี่ยังไม่แน่)
คุณข้างบนบอกว่าเราซื้อเป็นแพ็คเกจ ได้เครื่องบิน กริเป้น มา หนึ่งฝูง พร้อม อิริอาย สองลำ กับ จรวด ใช้งานทางทะเล ครึ่งโหล บวก ทุน การศึกษา หลายสิบทุน นับว่าคุ้มมากๆ ถ้า เรา จะเอาเอฟ๑๖ บล็อก๕๒ เรา อาจ ได้แค่ตัวเครื่องบินเปล่าๆ เท่านั้นเอง
ที่ข้างบนบอกว่าใช้เครื่องบินจากสวีเดน แล้วจะไม่เป็นทาส อาวุธจากสหรัฐนั้น ผมว่าไม่จริงครับ ผมอธิบายไปแล้วในคำตอบข้างบน แต่ผมขอแถมหน่อยนึง คือ ผมว่า การเหลุดจากเป็นทาส สหรัฐ เพื่อเป็นทาส สวีเดนนี่มันก็ไม่ต่างกันหรอกครับ การเป็นอิสระในเรื่องการวางแผนในการผลิตอาวุธใช้เองในประเทศเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวางแผนระยะยาวครับ แล้วก็ไม่ควรจะนำมาใช้เป็นข้อต่อรองในการซื้อขายอาวุธด้วยครับ การเปิดเผยซอสโค้ต ของระบบคอมพิวเตอร์ในการใช้อาวุธของเครื่องบินกริเป้น เป็นเรื่องที่ดีครับ ผมไม่เถืยง แต่มันก็ไม่ควรจะเป็นข้อต่อรองในการซื้อขายนาครับ
สรุปแล้วผมไม่เคยแสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับการซื้อ เครื่องบิน กริเป้น บวก แพคเกจ ในราคาที่ ทอ. จ่ายไปนาครับ แต่ผม แค่ แสดงความคิดเห็น ว่า ทางเลือก มันมีอยู่หลายทางเลือกครับ ซึ่งในอนาคตเท่านั้นถึงจะบอกให้รู้ว่าทางไหน จะเป็นอย่างไร ดี หรือ ไม่ ใครเสียรู้ใคร เท่านั้นแหละครับ ไม่แน่ผมอาจผิดก็ได้ครับ
ผมว่ามันแปลกๆอยู่นาครับ ดีล ที่เขาให้กับเรา นี่เขาไม่เคยเสนอให้ ประเทศไหนเลยหรือครับ ทำไมในโลกนี่มีแค่ สอง ประเทศเท่านั้น ที่ รับ ดีล นี่ ทำไมประเทศอื่นๆเขากลับเข้าคิวต่อแถวกันซื้อ เอฟ ๑๖ กันเป็นหางว่าว ล่ะครับ มันแปลกไหมครับ
เดนมารค์ กับ นอร์เวย์เคย เป็นลูกค้า อย่างเหนี่ยวแน่น ของ ซ็าบ แห่งสวีเดนมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองเลิกใหม่ๆ ใช้มาตั้ง แต่ ซ้าบ ๒๙ /ซ้าบ๓๒ จนถึง ซ้าบ ๓๕ แล้วต่อมาทั้ง สองประเทศ หันไปหา เอฟ ๑๖ เอ/บี แทนที่จะเลือก ซ้าบ ๓๗ เหตุผลที่ทราบกันโดยทั่วไปคือ ซ้าบ ขายอะไหล่เครื่องบินแพงมากครับ เมื่อเทียบกับเครื่องบินค่ายสหรัฐ เครื่องบินที่ขายได้น้อย ย่อมหาอะไหล่ได้ยากและแพงครับ อันนี้เป็นเรื่องปกติครับ ซ้าบ เองก็ทราบ เช่นนั้น จึงได้มีการ ออกตัว ซ้าบ ๓๙ กริเป้น มาแทนที่ ซ้าบ ๓๗ ครับ โดยลดชิ้นส่วน ในการซ่อมบำรุงลงให้ซ่อมได้ง่ายขึ้น และลด ขนาด เครื่องบินลง เพื่อที่จะได้ใช้เคริองยนต์ขนาดเล็กๆได้เพืยงเครื่องเดียว ดังนั้น คอนเซ็ป ของเครื่อง กริเป้น จึง ไม่ต่างกับ เอฟ๕ อี เท่าไหร่นักครับ
สวีเดนนั้นเมื่อสงครามเย็นยุติก็เลยต้องลดกำลังรบลงครับ เครื่องบินขนาดใหญ่ที่เสียค่าใช้จ่ายสูงอย่าง ซ้าบ๓๗ ก็ต้องปลดประจำการก่อนหมดอายุการใช้งานด้วยซ้ำ คงเหลือ แต่ ซ้าบ ๓๙ กริเป้น เพียงแบบเดียวครับ (แถมยัง ประจำการ แค่ครึ่งเดียวที่ผลิตได้ครับ อีกครึ่ง เก็บไว้เฉยๆ) ดังนั้นก็แน่ใจได้ว่า สวีเดนจะใช้งานเครื่องบินแบบนี้เพียงแบบเดียวไปอีกนานครับ ผมว่าสามสิบปีเป็นอย่างน้อย ดังนั้น ที่คุณๆข้างบนบอกว่า เอฟ ๑๖ บล็อก ๕๒ ใน ทอ.สหรัฐ อาจ ปลดประจำการก่อน กริเป้น ใน ทอ.สวีเดน ผมว่าเป็นไปได้แน่นอนครับ แต่อย่าลืมว่า เอฟ ๑๖ มันมีคนใช้ทั่วโลกนาครับ (เฉพาะซี/ดี ก็น่าจะมากกว่า พันเครื่องครับ) ไต้หวัน เกาหลีใต้ และประเทศอื่นๆนอกสหรัฐ เขาก็ยังน่าจะผลิตอะไหล่อยู่เพื่อป้อนกองทัพตัวเองและตลาดโลกครับ ดังนั้นเรื่องอะไหล่หมดห่วงได้ ยกตัวอย่างเครื่อง แฟนท่อม เอฟ ๔ ครับ ยังคงใช้งานใน ทอ.เยอรมันนับ สิบๆปีหลังจาก ทอ.สหรัฐปลดประจำการ
ในสมัยนี้การจัดหาเครื่องบินรบ....หลายๆครั้งมีการเมืองมาเกี่ยวข้องครับ ในหลายๆประเทศยอมซื้อเครื่องบินของมหาอำนาจ...เพราะแรงกดดันทางการเมือง....หรือต้องการที่จะผูกมิตรครับกับมหาอำนาจครับ...
ส่วรเองการเป็นทาศอาวุธนั้น ต้องยอมรับว่าแทบทุกประเทศในโลก แม่แต่มหาอำนาจหลายประเทศ ก็จังต้องอาศัยประเทศอื่นในการจัดหาอาวุธอยู่ครับ
สุดท้าย...การเปิดให้กริฟเฟนสามารถใช้อาวุธได้อย่างอิสระนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ สำหรับผมนะ....เพราะการจัดหาอาวุธหลายๆครั้ง เราไม่สามารถซื้อได้อย่างอิสระ หรือปรับปรุงได้อย่างอิสระนั้น เพราะว่าประเทศเจ้าของ ไม่อนุญาต ให้เราจัดหา หรือไม่ก็ ไม่ให้โค้ตแก่เราในการเชื่อมต่อกับอากาศยานครับ เช่น เรื่อง popeye เป็นต้น
มาแชร์ความคิดเห็นครับ
ความจริงแล้วเรื่องนี้ ไม่มีใครถูกใครผิดครับ เพราะทุกคนก็มีเหตุผลของตนเองครับ ^_^