เอ๋ แล้วท่าสมมุติน่ะครับ

 เจ้าคอมมานโดนี่ก็อายุอานามหลายปี ท่าเราชำแระ เพื่อศึกษา รวมถึงเอามาเป็นต้นแบบ เพื่อสร้างเองล่ะครับ เจ้ายานเกราะ ขับสี่เนี่ย โดยเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปใช้เจ้าคอมมอนเรล ของรถบรรทุกหกล้อ  เพราะคิดว่ารถระดับนี้ บริษัทประกอบรถในบ้านเราน่าจะทำได้ โดยเฉพาะ ชัยเสรี กับโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์

ปล.แล้วรถเกราะชัยเสรีไปถึงไหนแล้วครับใครรู้บอกนิดน่ะครับ

ดูรูปของป๋าวิงบอยแล้ว ก็เยินได้ใจจริงๆ ลองใช้โมเดวเดียวกับกรณี ยีเอ็มซี เอ็ม-35 ที่ให้ชัยเสรีชุบชีวิตได้...ก็น่าจะใช้แนวทางเดียวกันนี้กับ วี-150 ได้นะครับ

เข้าใจว่าสภาพของมือสองไม่ว่าจากประเทศไหนก็คงไม่ไหวแล้วล่ะครับ จากที่ได้ไปพบเห็นแล้วได้สอบถาม จนท. ปัจจุบันก็ใช้อะไหล่ของรถบรรทุกอยู่แล้วครับ แต่ที่สำคัญคือตัวโครงสร้างของรถน่าจะใกล้หมดสภาพเต็มที

ทุกวันนี้น่าจะเป็นการถอดกินตัวเพื่อนำอะไหล่ไปใช้กับคันที่ยังสภาพดีครับ

เอารูปภายในของคันที่กำลังรับการซ่อมบำรุงปกติอยู่ คันนี้ยังใช้ได้อยู่นะครับเห็นสภาพแบบนี้ก็ตาม

รถมันเยินได้ใจจริงๆด้วยนะครับ ดังรถขยะก็ไม่ปาน สภาพน่าจะเอาไปปลูกสะระเหน่ได้แล้วนะครับ

 ไม่ซื้อใหม่ก็ให้ไทยเสรีเขาปรับปรุงดีกว่า เห็นด้วยกับทั้งสองแนวทาง ให้ออกแนวพึ่งพาตัวเองมากๆหน่อย

ถ้าจะโอเวอร์ฮอลก็เอาให้ดีให้ชัวร์ ไม่ใช่วิ่งเข้าวิ่งออกอู่ตลอด ถ้าจะซื้อก็ซื้อให้ฉลาด ไม่ใช่ซื้อตะบันราดทุกชิ้นส่วนไม่ทำเองซักอย่าง 

ยังไงก็ขอให้เห็นโครงการยานเกราะสายพันธุ์ไทยแท้ก่อนตายเถอะเจ้าประคุณ

ปัจจุบันสภาพเก่าจริงๆครับ แต่กรุณาเปรียบเทียบให้เหมาะสมหน่อยนะครับ เพราะในปัจจุบันรถเกราะดังกล่าวยังใช้ปกป้องชีวิตของเจ้าหน้าที่อยู่ครับ

จากที่ดูในรูป สภาพภายในไม่สวยงาม จำพวกบ้านที่ไม่ได้ตกแต่งภายใน ควรดูที่ประสิทธิภาพจะดีกว่า

ตามความคิดของผมอยากให้มีรถเกราะเช่น V-150 อยู่ เพราะความอ่อนตัวในการปฏิบัติการน่าจะมีมากกว่า BTR-3E1 ครับ

ขออภัยที่เปรียบเทียบได้ไม่ตรงกับใจนะครับ แต่จริงๆแล้วอยากเปรียบเทียบแรงกว่านี้อีก ขอบคุณท่าน wingboy มากที่ให้ได้เห็นภาพนี้ครับ ขอยอมรับครับว่าโกรธจริงๆ

ปืนเล็กเป็นอาวุธหลักของทหารราบ ยานเกราะเป็นอาวุธหลักของทหารม้า ดูจากสภาพรถแม้ว่าจะเข้ามาซ่อมบำรุงแล้วมันสิ้นดีจริงๆครับ แสดงถึงสภาพการใช้งานและการปรนนิบัติบำรุงที่ไม่ได้รับการดูแลให้ดีเท่าที่ควรจะเป็นเลย

ถ้าไม่นับรอยขีดข่วนทั่วไปตามพื้นและผนังรถที่พออนุโลมให้นะครับตามที่ท่าน nok กล่าวไว้ แต่ดูจากสภาพเบาะ กับเข็มขัดนิรภัยที่อยู่ในสภาพที่เยินและขาดการทำความสะอาด ทั้งที่ชุดซ่อมของพลาธิการจะเดินสายซ่อมให้อยู่ตลอด, รอยต่อ รอยเชื่อม ช่องประกบของชิ้นส่วนโลหะ อยู่ในสภาพที่ถูกกัดกร่อนจากสนิม น่าจะกินเข้าไปถึงน๊อตที่ขันยึดโครงรถด้วย, ขอบยางกันรั่วซึมแหว่งหายไปซึ่งน่าจะเป็นผลให้มีการรั่วซึม โดยจะส่งผลต่อการเป็นสนิมภายในตัวรถและสภาพการใช้งานชุดวิทยุ, เชือกไนล่อนที่ถูกผูกห้อยลงมาอย่างไม่มีระเบียบและน่าจะไม่ใช้วัสดุรัดตรึงที่เหมาะสม, ชุดแผงควบคุมรถด้านหน้าสภาพขาดการบำรุงรักษาและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ, สายวิทยุหรือสายโทรศัพท์ติดต่อภายในตัวรถห้อยระเกะระกะ ไม่ได้ถูกม้วนเก็บในสภาพที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเสียหาย หรือถ้าจะจอดเพื่อซ่อมบำรุงต้องถอดแยกไปเพื่อทำความสะอาดในส่วนของเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ(พวกสื่อสาร), สภาพของพื้นช่วงล่างมีการกัดกร่อนของสนิมอย่างมาก จน จนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วครับ

ถ้า ผบ.พัน., ฝอ.4, ผบ.ร้อย, ส.ส่งกำลัง, ผบ.มว. และ  ผบ.รถ นั่งกันไปรบเองห้าหกคนในคันนี้ไม่เป็นไร แต่ถ้าเอาลูกเอาผัวคนอื่นมานั่งรถออกไปรบด้วย ถือว่าละเลยต่อชีวิตและสวัสดิภาพของคนอื่นมากๆครับ

ซ่อมใหญ่...ปรับปรุงเองยังใช้ได้อีกนานครับ�

ผมว่าเจ้า V-150 ภารกิจน่าจะต่างจาก BTR-3E1

V-150 น่าจะคล่องตัวกว่า

ปัจจุบัน ไม่นิยมแบบ ๔ ล้อแล้วครับ  อย่างต่ำเดี่ยวนี้ต้อง ๖ ล้อ หรือไม่ก็ ๘ ล้อไปเลยครับ  ในยุโรป หลายๆประเทศนี่ใช้ รถเกราะ ๘ ล้อ เอามาแทน รถถัง เลฟเพิดธ์ ๑ กัน หลายประเทศครับ อิตาลี่ แคนาดา สเปน หรือ แม้แต่ ออสเตรเลีย ครับ ไทย เรา ถ้าจะทำไว้ใช้เอง ต้องดุแบบ พม่าครับ ที่ ซื้อ โรงงาน บิทีอาร์ ๓ ยู จาก ยูเครน มาทั้งโรงงานเลย ไม่ต้องเสียเวลา มาลองผิดลองถูกเองครับ   ส่วน รถเกราะ ๔ ล้อ ของช้ยเสรีนั่น เขาน่าจะเจาะไปทาง ตลาดการต่อต้านการก่อการร้ายนาครับ ไม่ใช่ไว้ใช้รบ โดยตรงครับ