ยานใต้น้ำไร้คนขับ จากมหา"ลัยสู่กองทัพ
รายงานพิเศษ
แวดวงการศึกษาของไทยมีความพยายาม อย่างยิ่งในการสร้างนวัตกรรมใหม่ออก สู่สังคม
สำหรับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ก็เพิ่งประสบความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมยานใต้น้ำไร้คนขับสำหรับการฝึกปราบเรือดำน้ำที่เรียกว่า "เป้าฝึกปราบเรือดำน้ำ" เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยนวัตกรรมชิ้นนี้เป็นความร่วมมือกับสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ โดยมี พล.ร.อ.ศ.วีรวัฒน์ วงษ์ดนตรี เป็นหัวหน้าโครงการสร้างนวัตกรรมยานใต้น้ำไร้คนขับสำหรับการฝึกปราบเรือดำน้ำ
การสร้างนวัตกรรมยานใต้น้ำไร้คนขับสำหรับการฝึกปราบเรือดำน้ำที่เรียกว่า เป้าฝึกปราบเรือดำน้ำ เพื่อทดแทนการ นำเข้าจากต่าง ประเทศในการใช้ประโยชน์ฝึกนายทหารพนักงานโซนาร์ให้มีความชำนาญ และสามารถพิสูจน์ทราบถึงเรือดำน้ำของข้าศึกได้
รศ.ปองวิทย์ ศิริโพธิ์ อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มก. เผยว่า หลังจากที่ประเทศไทยปลดระวางประจำการเรือดำน้ำ ในวันที่ 30 พ.ย.2494 แล้ว และไม่มีนโยบายจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการอีกเลย ทำให้เทคโนโลยีในด้านการทหารเรือบางส่วนขาดหายไป
จนปัจจุบันกองทัพเรือได้มีนโยบายในการจัดสร้างเป้าฝึกปราบเรือดำน้ำขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ในการฝึกนายทหารพนักงานโซนาร์ ให้มีความชำนาญสามารถพิสูจน์ทราบถึงเรือดำน้ำของข้าศึกได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่การที่จะใช้เรือดำน้ำจริงในการให้เรือปราบเรือดำน้ำใช้ฝึก จะต้องเสียงบประมาณในการฝึกที่สูงมาก ประกอบกับกองทัพเรือไทยก็ไม่มีเรือดำน้ำจริงที่ประจำการอยู่เลย จึงทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา โดยมีงบประมาณในการวิจัยโครงการนี้ประมาณ 6 ล้านบาท
พล.ร.อ.ศ.วีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทัพเรือต้องการสร้างยานใต้น้ำแบบไม่มีคนขับที่มีขีดความสามารถเหมือนเรือดำน้ำที่ใช้ในการทหาร จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างยานใต้น้ำ "เป้าฝึกปราบเรือดำน้ำ" เพื่อใช้ทดแทน โดยกองทัพเรือเคยศึกษาวิจัยเพื่อสร้างยานใต้น้ำไร้คนขับมาแล้วในปี 2543 แต่ยังมีข้อบกพร่องหลายประการไม่สามารถนำไปใช้ฝึกทหารได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นมีโครงการพัฒนาต่อยอดให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่และใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานทั้งหมด โดยยานใต้น้ำที่สร้างขึ้นมี 3 ลำ ลำแรกชื่อไกรทอง ได้ผ่านการทดสอบในทะเลแล้ว ส่วนอีก 2 ลำชื่อว่าสุดสาคร และวิชุดา ขณะนี้ได้จัดสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เตรียมที่จะส่งมอบให้กองเรือยุทธการในเดือนก.ย.นี้
สำหรับวิธีการทำงานของยานใต้น้ำไร้คนขับนี้จะทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวแทนของเรือดำน้ำฝ่ายศัตรู ซึ่งมักจะซ่อนตัวอยู่ในทะเล ขณะที่เรือผิวน้ำต้องค้นหาเรือดำน้ำให้พบว่าอยู่ตำแหน่งใด ยานใต้น้ำไร้คนขับทั้ง 3 ลำนี้ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ภายใน สามารถอยู่ใต้น้ำได้นาน 4 ชั่วโมง แล่นด้วยความเร็ว 3 น็อต ดำน้ำลึกไม่เกิน 30 เมตร มีระบบเสียงใต้น้ำทำให้เกิดสัญญาณปรากฏบนหน้าจอโซนาร์ของเรือผิวน้ำเมื่อส่งคลื่นเสียงไปกระทบยานใต้น้ำ
เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในวงการศึกษาไทยที่มา :
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFpIVXdOREUzTURVMU13PT0=§ionid=TURNeE5RPT0=&day=TWpBeE1DMHdOUzB4Tnc9PQ==
ความคิดเห็นที่ 1
ขอขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาให้ทราบกัน
แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าจะใช้ภาษาให้ถูกต้องกว่านี้
ควรพิมพ์ว่า "ยานใต้น้ำไร้คนขับ จากมหาวิทยาลัยสู่กองทัพ"
คงไม่ยากเกินไปนะครับ
โดยคุณ MCS51 เมื่อวันที่
17/05/2010 22:50:57
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณเรื่องดีๆ ที่เฝ้ารอฟังมานาน
โดยคุณ
tik 
เมื่อวันที่
18/05/2010 00:40:26
ความคิดเห็นที่ 3
เรียนคุณ MCS51
ขอบคุณสำหรับคำเตือนครับข้อความที่เห็นเป็นการคัดมาจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดล้วนๆครับไม่มีการปรับแต่งแต่อย่างใด"เข้าใจว่าน่าจะเป็นภาษาข่าวครับที่ทำให้ดูกระชับน่าติดตาม" ผมว่าทาง บ.ก. หนังสือพิมพ์น่าจะมีการตรวจและอนุญาติให้ใช้คำได้นี้ครับ อย่าคิดมากเกินไปครับมันเป็นความสวยงามทางภาษา เพื่อให้น่าติดตามหรือเข้าใจง่าย
โดยคุณ leeming เมื่อวันที่
18/05/2010 02:59:33
ความคิดเห็นที่ 4
เรียนคุณ leeming
ผมต้องขออภัยด้วยเช่นกัน
แต่ก็จริงอย่างที่คุณว่านั่นแหละครับ ผมก็เห็นบ่อยๆข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ชอบลงแบบนี้ เช่น " ดาวมหาลัย " แบบนี้เป็นต้น
พอคนอ่านก็อ่านว่า มะ-หา-ลัย กันไปตามนั้น ช่ายๆกันรักษาภาษาของเรากันหน่อยนะครับ ว่าแต่เริ่มที่ใครดี ? ตัวเราก่อนดีไหมครับ
โดยคุณ MCS51 เมื่อวันที่
18/05/2010 10:08:12
ความคิดเห็นที่ 5
อ้าวผมเองก็ พิมพ์ผิด จาก ช่วย เป็น ช่าย ไปแล้ว
โดยคุณ MCS51 เมื่อวันที่
18/05/2010 10:10:29
ความคิดเห็นที่ 6
โดยคุณ tantawanlove เมื่อวันที่
24/05/2010 12:53:37