ปืนประจำเรือ
โดยคุณ : ttrc เมื่อวันที่ : 06/06/2010 12:10:28คือว่าผมสงสัยนานแล้วทำไมปืนประจำเรือสมัยนี้จึงมี
ขนาดเล็กใหญ่สุดก็แค่5นิ้วหรือ127มม.เท่านั้นและที่
สำคัญมีเพียงแค่กระบอกเดียวหรือ2กระบอกทั้งที่
สมัยสงครามโลกครั้งที่2ปืนเรือมีขนาดใหญ่มาก
ใหญ่สุดตั้ง18.1นิ้ว(ญี่ปุ่น)หรือ460มม.หรือ16นิ้ว
(อเมริกา)แถมมีตั้ง9กระบอกแต่พอมาสมัยปัจจุบัน
จาก9กระบอกหรือเพียงแค่กระบอกเดียวเท่านั้น
แถมมีขนาด57-76มม.หรือ100มม.อย่างดีก็5นิ้ว
ผมขอถามว่าขนาดและจำนวนพอแล้วหรือ
สำหรับปกป้องเรือรบขนาดสงครามฟอร์กแลนด์
เรือรบของอังกฤษซึ่งมีปืนเพียงแค่กระบอกเดียว(4.5นิ้ว)
ยังต้องถอนตัวออกจากการรบเพราะระบบปืนขัดข้อง
เมื่อวันที่
27/05/2010 04:28:03 ปืนใหญ่ประจำเรือในปัจจุบันมีขนาดเล็กกว่าปืนในสมัยก่อนก็จริง แต่ปืนสมัยนี้ก็ถูกทดแทนด้วย ความแม่นยำ ความเร็ว ของการยิง
จากเมื่อก่อน จะยิงเป้าเพียงเป้าเดียว ต้องเล็งปืนประจำเรือทั้งหมดเข้าหา เพราะว่าเรื่องของความแม่นยำของการยิงนั้นยังไม่พัฒนามากนัก แต่ถ้าเทียบกับปัจจุบัน ปืนประจำเรือขนาดซัก 127 mm. ก็ยิงได้ทั้งเป้าหมายบนผิวน้ำหรือกระทั้งบนอากาศ แถมด้วยความแม่นยำในการยิงราวจับวางบวกกับความเร็วในการยิง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
อีกอย่างสมัยนี้ เรือรบสู้กันด้วยเทคโนโลยี และก็จรวดนำวิถี ไม่นิยมซัดกันซึ่ง ๆ หน้าหรอกครับ เพราะถ้าเอาปืนใหญ่เรือมายิงกันล่ะก็ เจ็บหนักทั้งคู่
เมื่อวันที่
27/05/2010 05:59:21 วิธีการทำสงครามก็เปลี่ยน
ใครยังใช้อุปกรณ์และเทคนิคในการทำสงครามแบบเก่าก็แพ้เท่านั้นเอง
ดูอย่างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ฝรั่งเศสใช้ยานยนต์และรถถังที่ทันสมัยในยุคนั้นเข้าทำสงคราม
แต่พอเข้าสงครามโลกครั้งที่ 2 ยานยนต์ รถถังและระบบสื่อสารยังเป็น แบบที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่1 ในขณะที่เยอรมันมีการพัฒนาทั้งยานยนต์ รถถังระบบสื่อสาร ระบบสื่อสารมีใช้ทั้งวิทยุและโทรศัพท์สนาม
ในขณะที่ฝรั่งเศสยังใช้ระบบพลนำสาร แล้วผบ.ในสนามรบ กับผบ.ส่วนหลัง
กว่าจะสื่อสารกันรู้เรื่องแนวหน้าก็แตกซะแล้ว
ปืนใหญ่มันจำกัดที่อำนาจยิงและพิสัย ทำให้แนวคิดนี้หลายไปซึ่งทำให้เรือประจัญบานก็หายตาม จรวดปราบเรือรบพิสูจน์ให้เห็นในการรบระหว่าง อิสราเอลและซีเรีย ในช่วงสงคราม6วัน หลังจากนั้นก็แห่กันพัฒนาจรวดโจมตีเรือกันอย่างมาก
แต่ปืนเรือยังมีความสำคัญ แต่ไม่ได้อยู่ที่ใช้ทำลายเรือรบโดยตรงแต่ บทบาทมันกลับมากขึ้นกว่าสมัยก่อน เพราะถูกใช้ทำหน้าที่ยิงเป้าหมายทางราบและทางอากาศ เลยทำให้ขนาดลำกล้องเล็กลงเน้นความแม่นยำมากขึ้น อัตรายิงสูงมากขึ้น แม้แต่ปืนเรือหลักของรัสเซีย 130ม.ม.แฝด ที่ยิงได้ทั้งเป้าหมายภาคพื้นและในอากาศยังถูกเปลี่ยนเป็น 76-100ม.ม. เท่านั้น เพราะมันมีขนาดใหญ่นั้นเอง
เมื่อวันที่
27/05/2010 07:43:51 ความชอบส่วนตัวผมก็ชอบอะไรที่มันดูยิ่งใหญ่
ยอมรับเลยนะว่าผมชอบ ยามาโตะมาก
ทั้งปืน ขนาด และหัวใจของมันน่าจะใหญ่ที่สุดในโลก
แต่ถ้าตัดความชอบส่วนตัวออกไป
บอกได้คำเดียวว่าเหมือนเป้ายักษ์
ตั้งแต่เรือลาดตระเวนหนัก-เบา เพิ่มจำนวนปืนและเพิ่มความคล่องตัว
ก็ยังไม่เห็นมีประโยชน์มากนัก
ขนาดสมัยสงครามโลกครั้งที่2ก็เกือบจะล้าสมัยแล้ว
เพราะเริ่มเน้นเครื่องบินครับ