หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ถ้าเราผลิต MANPAD ได้เองจะดีกับการป้องกันเกราะล้อยางไหม

โดยคุณ : tik เมื่อวันที่ : 07/06/2010 17:06:47

คือหมายถึง ว่าถ้าเราขอให้จีนถ่ายทอดให้ ซื้อเทคโนมาผลิต และเติมระบบนำวิถีเข้าไปทำให้ยิงได้ระยะไกลขึ้น (ระยะปลอดภัย) จะทำให้มีอำนาจต่อรองกับเกราะล้อยางของฆ่าศึก ได้ไหม เห็นแต่ละประเทศถอยเกราะล้อยางออกมากันเยอะไม่ใช่เล่น




ความคิดเห็นที่ 1


ถ้า MANPAD ที่เราพูดถึงคือจรวดต่อสูอากาศยานประทับบ่าจำพวก อิ๊กล่า สตริงเจอร์ แต่ถ้าจะเอามาจัดการยานเกราะเพื่อนบ้าน มีเพียบครับ อาร์พีจี-7วี ก็ได้ สรุปคือตัวเลือกให้เพียบ
โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 01/06/2010 09:14:31


ความคิดเห็นที่ 2


คือ RPG-7 นั้นใช้ในระยะใกล้ และยานเกราะล้อยางวิ่งด้วยความเร็ว เขาเอาป้อมปืนบนรถ ซัด RPG-7 ก็เละแล้วครับ(ถ้าเขาเห็นเราก่อน)

ที่ผมเรียก MANPAD เพราะเห็นว่า ทำงานได้ในระยะปลอดภัย อยู่ไกลๆ ซัดได้สบาย เคลื่อนที่ไปได้เรื่อยๆ แถมมีระบบนำวิถี ไม่ต้องเอาคนแบก RPG-7 เข้าไปซัดเขา ถ้าเอาไม่อยู่ เจอป้อมปืนบนรถเขาสวนมา มดก็ไม่เหลือ  เลยตั้งกระทู้ถามความเห็นครับ

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 01/06/2010 23:53:33


ความคิดเห็นที่ 3


MANPADS ย่อมาจาก Man-Portable Air Defense System หรือระบบอาวุูธต่อสู้อากาศยานประทับบ่ายิง แต่ปัจจุบันมีแบบที่ตั้งบนแท่นยิงด้วย หรือมักจะเรียกอีกอย่างว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยใกล้มาก (VSHORAD :Very Short Range Air Defense) ไม่ทราบว่า MANPAD ของเจ้าของกระทู้คืออะไร แต่ถ้าเป็นอาวุธนำวิธีต่อสู้ยานเกราะเราก็มีแล้วครับ โทว์ หรือ ดรากอนครับ หรือจะเอาพิสัยกลางก็ซื้อมิลานก็ได้
พวกนี้มีขายในตลาดโลกเพียบครับ สร้างเองก็ดี แต่ถ้าเป็นการซื้อลิขสิทธ์มาสร้างไม่คุ้มครับ ปริมาณซื้อน้อยเกิน ถ้าจะคุ้มต้องคิดที่จะส่งออกด้วยแล้วเจ้าของลิขสิทธ์จะยอมหรือครับ อาวุธที่น่าจะคุ้มค่าในการผลิตที่สุดคือปืนเล็กยาว ยังไม่ยอมที่จะผลิตกันเลย นับประสาอะไรกับอาวุธต่อสู้ยานเกราะ
โดยคุณ yoyo เมื่อวันที่ 02/06/2010 00:37:20


ความคิดเห็นที่ 4


ผมเข้าใจว่าท่านเจ้าของกระทู้กำลังสนใจที่จะนำเอาอาวุธต่อสู้อากาศยานนำวิถีด้วยความร้อนแบบที่นำพาโดยบุคคลได้ง่ายๆที่เรียกกันว่า แมนแพค มาใช้ในการต่อสุ้กับ ยานเกราะ ของผ่ายตรงข้ามใช่ใหม่ครับ

 

อาวุธนำวิถี ด้วยความร้อนนั้นทำงานโดยอาศัยความแตกต่างกันของอุณหภูมิ ระหว่างเป้าหมายกับ สิ่งแวดล้อมนาครับ ซึ่งมันต้องมีค่าความแตกต่างกันพอสมควร หรือที่เรียกกันว่าความไวของหัวรับเซ็นเซอร์ครับ ปกติในห้วง อากาศมันจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า ท่อท้าย ไอพ่นเครื่องบิน อยู่ มากครับ ดังนั้นเซ็นเซอร์ที่หัวอ่านมันจะสามารถแยกแยะได้ครับว่าเป้าอยู่ที่ไหน ยิ่ง หัวอ่านรุ่นใหม่ๆมีความไวสูงขนาดมองเห็นความแตกต่างระหว่าง ห้วงอากาศกับ ลำตัวเครื่องบินที่กำลังเสียดสีกับอากาศด้วย ทำให้ ระบบจรวดสมัยใหม่สามารถ ยิงเป้าหมายได้หลายทิศทางไม่เจะจงที่ต้องเล็งยิงตรงท่อท้ายไอพ่น แต่เพียงอย่างเดียวครับ

 

ส่วน เป้าหมายถ้าอยู่ บนพื้นดิน เช่น ยานเกราะ หรือ รถถัง เป็นต้น จริงอยู่ครับที่มันจะมีอุณหภูมิสูงกว่าสิ่งแวดล้อมบ้าง จนเราสามารถ มองเห็นได้ด้วยกล้องอินฟาเรด แต่อย่าลืมว่า พื้นดิน ปกติมันก็มีอุณหภูมิ สูง อยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลากลางวันครับ ดังนั้น เมื่อเรายิง แมนแพค ลงไป แทนที่มันจะวิ่งเข้าหา รถถัง เป้าหมาย มัน อาจจะ วิ่งลง ดิน แทน ครับ เพราะ หัว อ่าน เซ็นเซอร์  มันมีความไวไม่พอไงครับ

 

สรุปแล้วถ้าจะปราบรถถังจริงๆ ก็คงต้องใช้วิธีเดีมๆอย่างที่ข้างบนว่าไว้แหละครับ

 

โดยคุณ data เมื่อวันที่ 02/06/2010 02:32:49


ความคิดเห็นที่ 5


คุณ DATA เข้าใจถูกแล้วครับ คือผมอธิบายไม่ชัดเจนเองครับ ส่วนคุณyoyo ก็พูดเรื่องความคุ้มทุนในการผลิตแล้ว ก็ถูกครับ แล้วก็มีโดนใจผมอย่างมากเรื่อง ปลย.ผลิตได้ ดันไม่ผลิต(ไม่เจาะจงว่าใครนะครับ กลางๆ)

คุณ DATA ครับผมขอถามความไวของเซ็นเซอร์หัวรบ ถ้ามีการปรับหัวรบให้เหมาะ พวกMANPAD ที่ว่า ก็คงใช้ยิงรถถังได้

 

แต่กรณีรถเกราะนี่ผมนึกถึง ความเร็วสูงสุดแบบทางเรียบไม่ลาดชันนี่ RPG-7 ต้องหาจังหวะมากๆ

ผมยังไม่นึกถึง โทว์ และดราก้อน ผมขอจินตนาการ การยิงรถเกราะที่ความเร็วทางเรียบครับ อย่าง โทว์หรือดราก้อนถึงจะนำวิถีแต่ ไม่ทราบว่า เมื่อรถเกราะมีความเร็วมากๆ การล๊อกเป้าของมันจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน เลยนึกถึง MANPAD ประทับบ่ายิงเครื่องบิน ดัดแปลงนำมาใช้กับรถเกราะที่ความเร็วสูงสุดของยานเกราะจะได้ไหม  งงไหมเนี่ยเขียนเองยังงงเลย .............

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 02/06/2010 02:55:21


ความคิดเห็นที่ 6


ถ้าจะว่าไม่เข้าท่าสียทีเดียวก็คงจะไม่ใช่ เพียงแต่ว่าต้องหาเซ็นเซอร์ที่แยกแยะความแตกต่างของอุณหภูมิหรือรังสีที่แผ่ออกมาจากยานเกราะกับภูมิประเทศให้ออกก็พอใช้ได้แล้ว แต่ความอ่อนตัว+ความแน่นอน ยังไงก็ไม่เท่าระบบที่ใช้ในปัจจุบัน

โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 02/06/2010 15:28:54


ความคิดเห็นที่ 7


ในส่วนตัวมองว่าการใช้อาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยานแบบ MANPAD มาใช้กับรถหุ้มเกราะไท่น่าจะได้ผลครับ เพราะ ลักษณะการทำงานของจรวดแบบนี้จะเป็นแบบ ชนวนเฉียดระเบิด หรือ กระทบแตก ไม่น่าจะมีอานาจในการทำลายหรือเจาะเกราะของรถหุ้มเกราะได้ หรือถึงมีก็อาจจะไม่มากมายจนสร้างความสูญเสียได้ครับ
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 02/06/2010 10:36:07


ความคิดเห็นที่ 8


ในกรณี อาร์พีจี-7 นั้นคือยกตัวอย่างให้เห็นถึงความรุนแรงในการเข้าปะทะเป้าหมายน่ะครับ อาวุธส่วนใหญ่จะเอาให้อยู่เกินระยะยิงจากฝ่ายตรงข้ามแน่นอนว่า  ยิงระยะยิงไกลเท่าไร รอดจากการยิงตอบโต้จากข้าศึก แน่นอนว่า ขนาดใหญ่ตามจนไม่สามารถนำพาไปได้ด้วยทหารต้องใช้ยานรบช่วย ที่ว่ารอดพ้นจากการโต้กลับคงมีแต่ ติดตั้งบนอากาศยานเท่านั้น เพราะเป้าหมายทางราบย่อมเจอสิ่งกีดขวางทำให้ระยะยิงใกล้เข้ามา

หากเป้าหมายเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว หากเป็นจำพวก นำวิถี ส่วนใหญ่จะมีความเร็วเข้าปะทะที่ค่อนข้างเร็วอีกทั้งระบบนำวิถียังวิ่งตามเป้าหมายได้ อย่างน้อยก็เร็วกว่าเป้าหมายจะหันมายิงได้ทัน เอาแค่800เมตร แต่หัวรบยิงด้วยความเร็วเกิน400เมตร/วินาที ก็แค่แป้ปเดียวล่ะครับ เป้าหมายจะตอบโต้ได้ก็ต่อเมื่อนัดแรกพลาดนั้นเอง  ในทางกลับกัน อาร์พีจี-7 มาตราฐานต้องอาศัยความแม่นยำจริงๆในการยิง เป้าหมายเคลื่อนที่เพราะหลังจากยิงออกไปแล้ว ลูกจรวดไม่มีการนำวิถีให้

ถ้าถามว่า ระบบอินฟาเรดเหมาะแค่ไหนนำมาใช้งานกับจรวดต่อต้านยานเกราะ ส่วนตัวคิดว่าราคาพัฒนาคงจะสูงมากเพราะส่วนใหญ่ยังใช้ นำวิถีด้วยเส้นลวดหรือเลเซอร์กันซะมาก  เนื่องจากประสิทธิภาพในการนำทางชนเป้าหมายยังใช้ได้ดีนั้นเอง

 

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 02/06/2010 08:30:36


ความคิดเห็นที่ 9


ตรวจการ พบ รถเกราะล้อยางข้าศึก วิ่งทางเรียบที่ 90 กิโลเมตร ระยะห่างจากจุดตรวจพบ 1000  เมตร ต้องตัดสินใจยังไงบ้าง (เกิดจากจินตนาการครับ)

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 03/06/2010 03:59:49


ความคิดเห็นที่ 10


รถหุ้มเกราะล้อยางนั้นจะมีเกราะที่บาง ซึ่งจรวด RPG7 น่าจะเอาอยู่ ทีนี้ตามที่สมมุติมานั้น ถ้ามีรถมาคันเดียว(มันจะเป็นแบบนั้นจริงยากมั้ง) ซุ่มจัดการสอยเลยครับ พอรถโดนเข้าไปแล้ว กำลังพลในรถก็ต้องออกมาเพื่อสละรถ ทีนี้กำลังพลที่ซุ่มอยู่ก็จัดการกับกองกำลังเหล่านั้น แต่ถ้ามาหลายคัน คงต้องติดต่อขอกำลังสนับสนุน จากนั้นปล่อยให้ขบวนรถนั้นเลยไปซักระยะแล้วจัดการกับรถคันแรกและคันสุดท้ายเพื่อให้รถที่เหลือหมดทางหนี จากนั้นก้บรรเลงเพลงถล่มข้าศึกที่เหลือโอ้ ! พระเจ้าจ๊อด..เราช่างเลือดเย็นอะไรปานนี้)
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 03/06/2010 12:34:12


ความคิดเห็นที่ 11


เป้าหมายเร็วหรือประเภทไหนไม่สำคัญครับ เรื่องของเรื่องคือต้องเข้าใจว่าตัวอาวุธมีประสิทธิภาพเพียงใด ต้องรู้ขีดความสามารถที่ชัดเจน ว่ายิงไกลเท่าไร หัวรบรุนแรงเพียงใด

จากนั้นเมื่อพบเป้าถ้าอยู่ในระยะยิงก็เพียงแต่ล็อคเป้าให่ได้(ในระบบนำวิถี)แล้วนำทางให้ชนเป้าหมาย หากเป็นพวกไม่นำวิถีก็ต้องฝึกมาดี ยิงระยะแค่ไหน มุมแค่ไหน ถล่มจุดใดเป็นต้นอ่ะครับ

สรุปคือขึ้นอยู่กับการฝึกน่ะครับ ถ้าฝึกมาพร้อมจริง แม้แต่อาร์พีจี-7 ดวลกับรถถัง พวกก็สอยท้ายรถห้องเครื่องกับสายพาน เป็นอันดับแรกที่ได้ลุ้นมากสุดล่ะครับ

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 04/06/2010 11:02:11


ความคิดเห็นที่ 12


อยากเห็นคนฝึก RPG7 เข้าไปอัดตูดรถเกราะจัง ดูดิตูดมันหอมไหม

ตอนนี้มีมือแม่น  RPG7 เหมือนสไนเปอร์กี่คนกันหนอ(หรือว่าเวลาเอาจริงต้องอิมพอต ฮา ฮาแล้วฮาได้อีก) เอาแบบใจใจ นะตอนนี้มีกี่คนน้อ

แบบปอดโมเดิร์นด๊อก ไม่ต้องเดินเข้าไปให้เขาเสียบปิ้งเสียบปิ้ง..อิๆ

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 07/06/2010 06:06:45