ขออภัยครับ ลืมวิธีลงรูป

มันใหญ่เกินไปอะจ๊ะ

ถ้าจอดเฉยๆน่ะได้แต่คงไม่เกิน2ลำ

ร.ล.จักรีนฤเบศร เท่าที่ปรากฎข้อมูล สามารถรองรับ ฮ.ขนาดกลางแบบ CH-47 chinook ได้ครับ...ซึ่ง ในขณะนั้น ผมคิดว่า ทร. ก็มีความต้องการ ฮ.ขนาดกลาง สักฝูงหนึ่ง...และในขณะนั้น CH-47 น่าจะมีคุณสมบัติที่ดีในช่วงเวลานั้น...แต่คงไม่ได้เป็นฝูงบินประจำเรือครับ...เพียงแต่ ร.ล.จักรีนฤเบศร สามารถเป็นฐานรองรับการขึ้น-ลง...หรือ จอดรอปฏิบัติการบนลานบินเดินทางไปกับเรือ ได้เท่านั้นครับ...

และ CH-47 ก็มีประจำการอยู่ใน ฝูงบิน ทบ. ด้วย...จึงคิดว่า ทร. คงมีความต้องการ ฮ.ปฏิบัติการ ที่มีแบบเดียวกันกับ ทบ. เพื่อจะได้สนับสนุนภาระกิจ ซึ่งกันและกัน ได้อย่างรวดเร็ว และเทคนิคการขึ้น-ลง บนเรือบรรทุก ฮ. ก็สามารถจะถ่ายทอดกันได้ เพื่อเป็นปฏิบัติการร่วม...

เช่น ที่เคยมีการฝึกร่วมยกพลขึ้นบก ทั้ง 3 เหล่าทัพ...จำไม่ได้ว่าปีไหนครับ...ก็จะเห็น AH-1S ของ ทบ. บินสนับสนุนการโจมตีเปิดหาด แต่จำไม่ได้ว่า บินมาจากฐานปฏิบัติการใด จากเรือ หรือ จากฝั่ง...

กองทัพเรือเคยระบุความต้องการ ฮ.ลำเลียงขนาดใหญ่ จำนวน 4 ลำ ก่อนเกิดกันยายน 2549  ซึ่งไม่ทราบว่าปัจจุบัน ทร. ยังมีความต้องการอยู่หรือไม่ หรืออาจจะเลื่อนโครงการออกไปก่อน  ( เรื่องการจัดหาเรือ / ปรับปรุงเรือ หรือเรือดำน้ำน่าจะเร่งด่วนกว่า )

      ซึ่งหากทร. จะจัดหา ฮ.ลำเลียงขนาดใหญ่จริงๆ ตัวเลือกในภาวะงบประมาณจำกัด อาจจะเป็นฮ.ตระกูล Mi-17   ก็ได้  เพราะนอกจากทดทาน / ราคาสมตัวแล้วยังเข้าเงื่อนไขที่ว่าสามารถบรรทุกทหาร+อาวุธประจำกาย+สัมภาระได้อย่างต่ำ 25 คน โดยไม่รวมนักบินและเจ้าหน้าที่ประจำเครื่อง 

      แต่ คาดว่า ทร. อาจจะรอดูผลจากการใช้งานจริงของ  Mi-17V5 ของกองทัพบก และ S-92 ของกองทัพอากาศ เพื่อประเมินก็ได้  ซึ่งในรายของ S-92 แม้จะบรรทุกทหารได้ไม่เข้าเงื่อนไข แต่ เงื่อนไขเดิมๆก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ขึ้นอยู่กับผู้จะซื้อ  อีกทั้ง ทร. ก็มี ฮ. ของบริษัท Sikorsky ใช้อยู่หลายแบบด้วยกับ เช่น S-76, S-70 หรืออ ฮ. ที่จะได้รับมอบในอนาคตอันใกล้ อย่าง MH-60

mi26ดีกว่าใหญ่กว่าเยอะ