หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เส้นแบ่งระหว่างความรักชาติและความเป็นชาตินิยม

โดยคุณ : ZipDoZs เมื่อวันที่ : 26/06/2010 09:38:36

ผมสับสนจริงๆนะ เส้นแบ่งระหว่างความรักชาติกับความเป็นชาตินิยมมันอยู่ตรงไหนกันแน่?

ก่อนอื่นเลย ตอนนี้เราก็ถูกสอนเกี่ยวกับโลกยุคใหม่ว่าเป็นโลกเกี่ยวกับการทำประโยชน์เพื่อมนุษยชาติ

หากรักชาติมากเกินไปก็จะถูกว่าๆเป็นพวกชาตินิยม

แล้วพวกวีรบุรุษของไทยที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อประเทศของเราล่ะ ถ้ามองจากโลกยุคปัจจุบันพวกเขาเหล่านั้นก็เข้าข่าย

แล้วเราควรเลือกอะไรดี

เพราะอย่างแรกก็ต้องเลือกและอย่างหลังก็ทิ้งไปไม่ได้





ความคิดเห็นที่ 1


คำว่า nationalistic  คือ ชาตินิยมหรือว่ารักชาติก็ได้

อีกคำคือ nationalism คือ ความเป็นชาตินิยมถูกปลูกฝังไว้ในตัวของคนในชาติโดยไม่รู้ตัว หรือเรียกว่า ลัทธิชาติยม หรือ ลัทธิรักชาติ

ซึ่งทั้ง 2 คำนี้มาจากรากศัพท์ที่มาจากความหมายเดียวกัน
จนบางครั้งเราจะเคยได้ยินว่า ปลูกจิตสำนึกคนไทยให้เกิดชาตินิยม เพื่อให้คนไทยรักชาติมากยิ่งขึ้น

โดยคุณ pushbutton เมื่อวันที่ 24/06/2010 03:42:11


ความคิดเห็นที่ 2


ชาติ ก็...จาพูดไงดีหว่า

เราจาเดินไปข้างนอกโล่งๆ แล้วไม่มีเสื้อผ้า..มันหนาวนะ

ขอเปรียบเสื้อผ้าก็คือ...ความรักชาติอย่างนึง

เดินใส่กางเกงอย่างเดียวนานๆ แดดมันร้อน จะเป็นลมเอาได้..ขาดเสื้อไม่ได้  ต้องมีเสื้อด้วย

เดินไปใส่เสื้ออย่างเดียวไม่มีกางเกง  เวลานั่งกับพื้นบางทีมันก็เจอหญ้าแข็ง...ขาดกางเกงไม่ได้  ต้องมีกางเกง

ใส่กางเกงพอดี...ก็เดินเหินได้สะดวกสบาย

ใส่เสื้อพอดี....    ก็เดินเหินได้สะดวกสบาย

ถ้ากางเกงคับมากก็นั่งไม่ได้  ใส่เสื้อคับไปหายใจไม่ออก

เอาเป็นว่า มีเสื้อผ้าใส่พอดีพอดี....ชาติก็ไปได้สะดวก ขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมากไปน้อยไปไม่ดีครับ

งง.....ไหมเนี่ย

 

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 24/06/2010 04:38:54


ความคิดเห็นที่ 3


รักชาติ ชาตินิยมเป็นสิ่งดีครับ เพียงแต่ถ้าถูกนำไปใช้ในทางการเมืองก่อให้เกิดความเกลียดชังไม่ดีครับ ตอนนี้ที่อเมริกาก็เป็นอยู่ ประธานาธิบดี บารัค ก็โดนสื่อพวกชาตินิยมในสหรัฐโจมตีอย่างหนักเช่นกันในช่วงนี้
ps.ถ้าพวกเรารักชาติจริงๆก็แค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด(คิดดี ทำดี)เริ่มที่ตัวเรา ส่วนนักการเมืองหรือข้าราชการมาแล้วก็ไป แต่อย่าลืมว่าคดีความมีอายุถึง 20 ปี โปรดเพิ่งระวังไม่งั้นติดคุกตอนแก่
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 24/06/2010 05:44:26


ความคิดเห็นที่ 4


คือผมพิมพ์ชื่อกระทู้ผิดน่ะครับ

ต้องเป็น เส่นแบ่งระหว่างความเป็นชาตินิยมกับการกระทำเพื่อมนุษยชาติ

 

ขอบคุณครับ

 

แต่...สรุปคือ ทำให้สองอย่างนี้สมดุลกันใช่ไหมครับ

โดยคุณ ZipDoZs เมื่อวันที่ 24/06/2010 06:58:39


ความคิดเห็นที่ 5


ผมไม่เถียงหรอกว่าคนไทยทุกคนรักชาติกันมากขนาดไหน แต่ชาตินิยมนี่สินานๆจะเจอสักคน ขนาดคนในกระจกที่บ้านผมมันยังยอมรับเลยว่ามันขาดความเป็นชาตินิยม
โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 24/06/2010 09:10:25


ความคิดเห็นที่ 6


ล้ำลึกมากครับคุณ tic ผมเข้าใจมากขึ้น เหมือนเปิดของคว่ำให้หงาย เหมือนไต้เทียนไขในที่มืด  

ประเด็นรักชาติ กับ ชาตินิยม น่าจะใช้ในความหมายต่างบริบทกัน โดยคำว่าคลั่งชาติน่าจะใช้ในบริทบเดียวกันกับคำว่ารักชาติเมื่อเราพิจารณาในเชิงระดับ(Degree) คือ ถ้าความรักชาติมีมาก หลงใหล คลั่งไคล้ ยึดเป็นสรณะเหนือปัจจัยอื่นๆ ก็จะกลายเป็นความคลั่งชาติไป

เห็นด้วยกับคุณ sam ครับ กระผมชูสองมือสนับสนุนเต็มที่

ความ รักชาติ กับ ชาตินิยม ไม่ใช่ความชั่ว แต่เป็นแนวคิดขององค์บุคคลในเรื่องทัศนคติที่มีต่อรัฐที่ตนอาศัยพักพิง ถ้าถูกแสดงออกในทางบวกจะเป็นพลังผลักดันอย่างมหาศาลให้ชาติเราเจริญก้าวหน้า ถ้าถูกนำมาใช้ผลักดันในทางลบมันก็จะถดถอยเป็นเท่าทวีเช่นเดียวกัน ทุกชาติที่เป็นชาติที่พัฒนาก้าวหน้า มีเกียรติ ได้รับการยอมรับนับถือจากนาชาติในปัจจุบัน ชาติเหล่านั้นล้วนแต่มีกลไกที่ส่งเสริมให้พลเมืองของชาติมีความเป็นชาตินิยมทั้งสิ้น

ประเด็นตรงนี้จะไปสอดคล้องกับ ชาตินิยม และ มนุษยชาตินิยม(คิดศัพท์เอง) ที่กระผมไม่ขอใช้คำว่าสมดุลย์ในการอธิบาย แต่ต้องการใช้คำว่าการมีปฏิสัมพันธ์อย่างเข้าใจ บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง(Fact) ซึ่งข้อเท็จจริงของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไปอีก บ้างก็ว่าคนทุกคนล้วนมีกำเนิดเดียวกัน บ้างก็ว่าเผ่าเราสืบสายมาจากพระเจ้า บ้างก็ว่าเชื้อสายเราเป็นอารยันเป็นมนุษย์ชั้นสูง บ้างก็ว่าประเทศเราต้องก้าวหน้ากว่าชาติที่เคยมาปกครองให้ได้ บ้างก็นับถือแต่เผ่าพงษ์พันธุ์ของตน ในกรอบความคิดตรงนี้ ถ้าประเทศชาติใด จัดระเบียบและกรอบการแสดงออก นำมาใช้ประโยชน์ได้ ย่อมเป็นเครื่องมือที่จะนำพาชาติไปสู่ความรุ่งเรือง

โดยคุณ Ifeelsogood เมื่อวันที่ 25/06/2010 22:38:39