หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


อนิจจามาเลเซีย (รตอ.ดร.นิติภูมิ)

โดยคุณ : sam เมื่อวันที่ : 29/06/2010 09:56:56

คณะ รัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ชวนนิติภูมิพูด ‘ทิศทางและบทบาทของ emerging market ใน เวทีโลก : ท่าทีของไทย’ รับ ใช้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม ๖๐ คน ที่โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ (ปทุมวัน) ถนนพระราม ๖ ตัดใหม่ กทม.จันทร์วันนี้ เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น.

 

นิติ ภูมิเรียนรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพไปเมื่อวันศุกร์ ถึงกรณีที่ดาโต๊ะศรีอิดริส จาลา รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศว่า มาเลเซียอาจจะล้มละลายในอีก ๙ ปีข้างหน้า เหตุเพราะมีหนี้สินรุงรัง หนี้ที่ว่าจะเพิ่มมากขึ้นไปจนถึงร้อยละ ๑๐๐ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ใน พ.ศ. ๒๕๖๒

 

มี น้อยประเทศนะครับ ที่กล้าปล่อยมีหนี้สินบานเบอะเยอะแยะมากถึง ๑๐๐% ของจีดีพี และถ้าเวลานั้นมาถึงจริงๆ ประเทศก็ต้องล่มจมล้มแน่นอน

 

ผู้ อ่านท่านก็คงจะเคยทราบว่า ดร. มหฎิร มุฮำหมัด นายกรัฐมนตรีที่บริหารมาเลเซียระหว่าง ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๒๔ – ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๖ เป็นคนขยัน มีสติปัญญาดี หาเงินเก่ง บินไปเปิดตลาดค้าขายให้มาเลเซียทั่วโลก

 

๒๒ ปีที่ ดร.มหฎิรบริหาร มาเลเซียไม่ค่อยประสบพบปัญหา

 

อาการ เจ๊งของมาเลเซียก็เริ่มอึมครึมในยุคอับดุลลอฮ์ อะหมัด บาดาวี แต่มาออกฤทธิ์จริงๆ ก็ในยุคที่บัณฑิตอังกฤษคนนี้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีนี่แหละ

 

อาจ เป็นเพราะนายนาจิบ ตุน ราซัก นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของมาเลเซียเกิดในครอบครัวดี และได้รับการประคบประหงมมากจนเกินไป แกจึงขาดประสบการณ์ชีวิต ครั้นอายุ ๒๕ ปีก็ได้ดีเป็นรัฐมนตรีช่วย จากนั้นก็เป็นรัฐมนตรีว่าการมาตลอด ทั้งชีวิตไม่เคยทำมาหากินเลี้ยงปากท้องของตัวเองเลย เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีก็เลยมองไม่ออกว่า อ้า ทำยังไงถึงจะให้มาเลเซียมีสถานะทางเศรษฐกิจดีเหมือนเดิม

 

รม ต. ดาโต๊ะศรีอิดริสจึงออกมาแนะนำให้รัฐบาลยุคนี้ยกเลิกเงินอุดหนุนทั้งหลายที่ เคยให้มาในอดีต เพื่อประหยัดรายจ่าย และให้ผู้คนประชาชนรู้จักคุณค่าของเงินที่ต้องหามาด้วยตัวเอง ไม่ใช่เอาแต่แบขอจากรัฐบาล

 

ตอน นี้มาเลเซียหน้ามืดถึงขนาดเมื่อ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ รัฐบาลต้องทำพิธีเปิด Makmal Rasionalisasi Subsidi แปลจากภาษามาเลย์มาเป็นภาษาไทยก็น่า จะได้ว่า ‘ศูนย์ปฏิบัติปรับปรุงการให้เงินอุดหนุน’ หน้าที่ของศูนย์นี้ก็คือ ทำหน้าที่รับฟังข้อเสนอแนะ และติดตามกระแสจากประชาชน ว่าประชาชนจะด่าว่ายังไงบ้าง หลังจากที่รัฐบาล ‘เลิกให้เงินอุดหนุน’ และนำประเทศไปสู่การรัดเข็มขัด

 

มาเลเซีย อาจเจ๊ง เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาแจกเพลิน ผู้อ่านท่านเชื่อไหมครับ เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๒ ปีที่แล้วเพียงปีเดียว รัฐบาลมาเลเซียแจกเงินอุดหนุนให้ประชาชนคนมาเลเซียมากถึง ๗.๔ หมื่นล้านริงกิต เป็นเงินไทยก็ ๗.๔ แสนล้านบาท โดยแยกเป็นอุดหนุนด้านสังคม ๔.๒๘ หมื่นล้านริงกิต สินค้าเชื้อเพลิง ๒.๓๕ หมื่นล้านริงกิต สาธารณูปโภค ๔.๖ พันล้านริงกิต และสินค้าบริโภค ๓.๑ พันล้านริงกิต

 

ความ ที่รัฐบาลต้องการหาเสียงด้วยการแจกเงินอุดหนุน เงินไม่มีก็ไปกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาใช้จ่าย พอถึงเวลาทำงบประมาณ ก็ต้องทำงบประมาณขาดดุล เพื่อจะได้กู้มาแบ่งปันกันโกงเพิ่ม เอ๊ยไม่ใช่ เพื่อที่จะได้กู้มาแจกประชาชนคนทั่วไปเพิ่ม เมื่อคนจนได้เงิน คนรวยที่มีเส้นสายก็ใส่ชื่อลงไปเพื่อให้ได้รับการอุดหนุนบ้าง

 

ไม่ ว่าครอบครัว บริษัท หรือประเทศชาติบ้านเมืองก็เหมือนกันนะครับ ถ้าปัญหาเศรษฐกิจเข้ามาทางประตู ความรักสมัครสมานสามัคคีที่เคยมีก็จะออกไปทางหน้าต่าง ความรักกันในประเทศจะมีได้ยังไงครับ ถ้ารัฐมนตรีโคตรโกงยังอยู่ในสังคมได้อย่างเชิดหน้าชูตา และได้รับการยอมรับจากผู้คนชนทุกระดับชั้น ประชาชนคนในประเทศเห็นอย่างนี้ก็เสื่อมศรัทธา ไม่มีกะจิตกะใจทำงานหาเงินเพื่อเสียภาษีให้รัฐ ที่จริงเศรษฐกิจมาเลเซียจวนเจียนจะเจ๊งมาหลายครั้งแล้ว แต่กลุ่มคนมาเลเซียเชื้อสายจีนและอินเดียแก้ไขได้ทันท่วงทีทุกที ผู้อ่านท่านก็ทราบ ว่าจีนกะอินเดียนี่ค้าขายเก่ง

 

ปัจจุบัน ลูกหลายคนจีนกะอินเดียหนีออกไปลงหลักปักฐาน สร้างชีวิตใหม่ในประเทศที่มีธรรมาภิบาลสูงอย่าง แคนาดา สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฯลฯ ปล่อยให้คนเชื้อสายมาเลย์แท้ๆ ที่ทำมาหากินอะไรไม่ค่อยเป็น อยู่กันอย่างยากจนคาประเทศ ความสงบสุข ความจงรักภักดีที่เคยมีมาแต่ก่อน ตอนนี้ก็ลดหดหายไปเยอะ

 

แม้ แต่พระรานีแห่งรัฐกลันตัน เติงกูอานิส เติงกูอับดุลฮามิด ซึ่งแต่ก่อนง่อนชะไร พระสวามีและพระองค์ทรงมากด้วยบารมี ถึงวันนี้ใครฟังพระองค์ทรงรับสั่งแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ทรงรับสั่งว่า พระองต้องการเข้ารับการคุ้มกันในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่ง มาเลเซีย วิทยาเขตกูบังเกอเรียน เนื่องจากทรงเกรงว่าจะถูกตำรวจจับและต้องการประทับอยู่ใกล้พระสวามีผู้เป็น สุลต่านแห่งรัฐกลันตัน

 

ใครอ่าน นสพ. The Malay Mail ก็คงเคยได้อ่านพระดำรัสตัดพ้อของเติงกูอานิสตอนที่ถูกเชิญให้ไป สถานีตำรวจว่า......ตำรวจลากกระองค์เหมือนวัว
ps.แค่หาอะไรมาให้อ่านสนุกๆนะครับ นโยบายลดแลกแจกแถมหรือเงินอุดหนุนที่ไม่จำเป็นจะทำให้หนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มขึ้น 
http://www.nitipoom.com/th/article1.asp?idOpenSky=3546&ipagenum=




ความคิดเห็นที่ 1


พยายามจะเปรียบเทียบเหมือน ประเทศ  สารขันธ์  ป่าว....

 

หุหุ....บ่อยครั้ง..พักหลังๆ..อ่าน  ดร.ท่านนี้  ต้องวิเคราะห์ ตาม ด้วยนะครับ.....

 

คนไทยเรามักเชื่อ  ในสิ่งที่ คนมี  คำว่า  ดร. นำหน้า..พูด หรือเขียน  โดยไม่พิจารณา....

 

 

 

โดยคุณ CAPT.TOM เมื่อวันที่ 27/06/2010 20:52:30


ความคิดเห็นที่ 2


เรื่องนี้เฉียดการเมืองอย่างมาก แต่ก็เป็นความจริงในเรื่องนโยบายรัฐสวัสดิการที่มาเลฯ และสารขัณธ์กำลังทำอยู่

โดยคุณ yoyo เมื่อวันที่ 28/06/2010 01:37:40


ความคิดเห็นที่ 3


อ่านแล้วนำไปคิดวิเคราะห์แล้วเป็นประโยชน์แน่นอนครับ

โดยคุณ plalimp เมื่อวันที่ 28/06/2010 02:27:32


ความคิดเห็นที่ 4


อาการ เจ๊งของมาเลเซียก็เริ่มอึมครึมในยุคอับดุลลอฮ์ อะหมัด บาดาวี แต่มาออกฤทธิ์จริงๆ ก็ในยุคที่บัณฑิตอังกฤษคนนี้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีนี่แหละ

 

อาจ เป็นเพราะนายนาจิบ ตุน ราซัก นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของมาเลเซียเกิดในครอบครัวดี และได้รับการประคบประหงมมากจนเกินไป แกจึงขาดประสบการณ์ชีวิต ครั้นอายุ ๒๕ ปีก็ได้ดีเป็นรัฐมนตรีช่วย จากนั้นก็เป็นรัฐมนตรีว่าการมาตลอด ทั้งชีวิตไม่เคยทำมาหากินเลี้ยงปากท้องของตัวเองเลย เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีก็เลยมองไม่ออกว่า อ้า ทำยังไงถึงจะให้มาเลเซียมีสถานะทางเศรษฐกิจดีเหมือนเดิม

 

 

ฮืม วิเคราะห์ได้ ตรงใจ ผม และ หลาย ๆคน ในบอร์ด จริง ๆ

 

อ่าน เถอะครับ จะได้รับความฉลาด เพิ่มขึ้น

 

" ดูซิจะโดน ลบ หรือ เปล่านะ "

โดยคุณ wanwa เมื่อวันที่ 28/06/2010 11:02:51


ความคิดเห็นที่ 5


เหอะๆๆ ประเทศสารขัณธ์

โดยคุณ kit_thaifighterclub เมื่อวันที่ 28/06/2010 13:29:46


ความคิดเห็นที่ 6


ขออนุญาติปิดกระทู้ครับ

โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 28/06/2010 22:56:56