หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เรือดำน้ำ KD Tun Razak เดินทางถึงมาเลเซียแล้ว

โดยคุณ : กัปตันนีโม เมื่อวันที่ : 22/07/2010 18:27:56

เรือดำน้ำ KD Tun Razak ซึ่งเป็นเรือดำน้ำชั้น Scorpene ลำที่สองของมาเลเซีย เดินทางถึงฐานทัพเรือ Sepanggar แล้ว

เรือดำน้ำลำดังกล่าวออกเดินทางจากเมือง Toulon ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 30 เม.ย. และเข้าจอดที่ฐานทัพเรือ Lumut เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งสิ้น 64 วัน เป็นระยะทาง 7,063 ไมล์ จากนั้นใช้เวลาเดินทางอีก 8 วันจากฐานทัพเรือ Lumut ไปยังฐานทัพเรือ Sepanggar ซึ่งเป็นฐานทัพเรือดำน้ำของมาเลเซีย

เรือดำน้ำชั้น Scorpene ลำแรกของมาเลเซีย คือเรือ KD Tunku Abdul Rahman เดินทางถึงฐานทัพเรือ Sepanggar เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ของปีที่แล้ว

ที่มา: http://thestar.com.my/metro/story.asp?file=/2010/7/19/southneast/6682628&sec=southneast




ความคิดเห็นที่ 1


ขอบคุณคุณโย่งครับที่ช่วยมาชี้แจงว่า ทร.ไม่ได้วางเฉยในเรื่องโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ผมแค่สงสัยว่าทำไมช่วง ๕ ปีที่ผ่านมาถึงไม่เคยได้ยินข่าวทำนองว่า "ประเทศ X กำลังเริ่มโครงการจัดหาเรือดำน้ำแล้ว เราจึงควรคิดจะเริ่มจัดหาอย่างจริงจังบ้าง" แต่กลับได้ยินข่าวหนาหูมากช่วงปีที่แล้วว่า "เรือดำน้ำกำลังจะส่งมอบมาถึงประเทศ X แล้ว เราจึงควรคิดจะเริ่มจัดหาเรือดำน้ำอย่างจริงจังบ้าง" จนทำให้อดรู้สึกไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เชิงตั้งรับหรือเปล่า?

ส่วนในเรื่องของการรอไปอีก อาจจะ 5-8 ปี ถึงตอนนั้นก็จะคิดเป็นเวลาเกือบ 70 ปี ที่ ทร.ไม่มีเรือดำน้ำประจำการ หรือถ้ารอนานไปกว่านั้นอีกก็อาจจะทำให้มีผู้สงสัยได้หรือเปล่าว่าเราอยู่มานานขนาดนั้น (70-80 ปี) ได้โดยไม่มีเรือดำน้ำ แล้วทำไมจึงจะต้องจัดหาอีก แล้วสิ่งที่ไม่เคยมีมา 70-80 ปีมันจะจำเป็นสำหรับกองทัพจริงหรือ?

แค่ลองคิดดูเล่นๆ น่ะครับ
โดยคุณ กัปตันนีโม เมื่อวันที่ 22/07/2010 07:28:01


ความคิดเห็นที่ 2


พอลองพิจารณาจาก งบประมาณ ถ้าใน 5 ปีนี้ ถ้า ทร. ยังไม่สามารถจัดหา เรือดำน้ำมาได้...ผมก็มองในมุมและความเห็นเดียวกับ คุณ PINJI และ คุณ RMUK และคุณ sam

งบประมาณความต้องการของ ทร. ที่นอกเหนือจาก เรือดำน้ำ แล้ว

ยังมีเรือ OPV เรือฟริเกต สมรรถนะสูง ในขณะนี้ ปัจจุบัน ทร. มี อากาศยาน ปราบเรือดำน้ำ เพียง  P-3T จำนวน 2 ลำ (อีก 1 ลำ ไม่ทราบว่าเปลี่ยนจาก บ.ลำเลียง เป็น บ.รบ หรือยัง ? )กับ ฮ.ปด.ที่ปรับปรุงใหม่ จำนวน 3 ลำ ที่ต้องใช้ครอบคลุมภาระกิจทั้ง 2 ฝั่งทะเล คือ อันดามัน กับ อ่าวไทย...รวมแล้ว ทร. มีอากาศยาน ที่จะสามารถตรวจจับ และต่อต้านเรือดำน้ำได้ ประมาณ 5 ลำ...

นอกนั้น ทร. ต้องใช้ เรือผิวน้ำ ต่อต้านเรือดำน้ำ แบบประจัญหน้า ปัจจุบันก็มีประมาณ 9 ลำ ที่พอจะมีศักยภาพ คือ เรือชั้นพุทธฯ จำนวน 2 ลำ ชั้น รัตนโกสินทร์ จำนวน 2 ลำ และชั้น ตาปี จำนวน 2 ลำ กับชั้น คำรณสินธุ จำนวน 3 ลำ

ในขณะที่ มีเรือดำน้ำประจำการอยู่ในภูมิภาคนี้ คือ มาเลเซีย 2 ลำ สิงคโปร์ 4 ลำ อินโดฯ 2 ลำ รวม 8 ลำ

และในอนาคต มาเลเซียจะมี 4 ลำ  สิงคโปร์จะมี 2 ลำ อินโดฯ ไม่ต่ำกว่า 4 ลำ และเวียดนามประมาณ 4 ลำ รวม 14 ลำ

ทร. อาจจะต้องกลับข้าง งบประมาณ จาก จัดหางบประมาณ 40,000 ล้านบาท เพื่อเรือดำน้ำจำนวน 2 ลำ แล้วถึงจะจัดหางบประมาณอีกที่ผมคาดว่า ไม่น่าจะต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท อีกเช่นกัน สำหรับการจัดหา OPV ไม่ต่ำกว่า 3 ลำ และ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง อีก 2 ลำ...ในลำดับต่อมา...

การกลับข้าง คือ ทร. อาจจะต้องใช้งบประมาณที่อาจจะมากขึ้น อาจจะประมาณ 40,000 - 50,000 ล้านบาท โดยการจัดหา เรือ OPV หรือ เรือที่มีคุณสมบัติตรวจจับหรือต่อต้านเรือดำน้ำได้ และเรือฟริเกต แบบมัลติโรล คือ ต่อต้านอากาศยาน ผิวน้ำ และใต้น้ำ รวมถึง อากาศยาน ที่มีความสามารถต่อต้านเรือดำน้ำ ประมาณ 1-2 ฝูงบิน (ทั้งปีกแข็ง และปีกหมุน)...รวมถึงอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณใต้น้ำ...ก่อนการจัดหา เรือดำน้ำ...

จะทำให้ ทร. มีศักยภาพเรือผิวน้ำ และอากาศยาน ครบตามความต้องการก่อน แล้วจึงจัดหา เรือดำน้ำ มาในคราวหลัง...

เนื่องจาก มาเลเซีย ก็จะมีการจัดหา เรือฟริเกตใหม่อีก 2 ลำ และเรือ OPV ใหม่อีก 6 ลำ ที่มีความสามารถต่อต้านเรือดำน้ำ รวมถึงอากาศยานประจำเรือ...ในระยะอันใกล้นี้ อีกเช่นกัน...

ซึ่งถ้า ทร. จะรองบประมาณจัดหา เรือดำน้ำ ก่อน...ก็จะทำให้ ทร. ต้องตามหลังในเรื่อง เรือผิวน้ำ อีกตามมา...

 

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/07/2010 20:53:15


ความคิดเห็นที่ 3


ตามความเห็นส่วนตัว ผมมองว่าถ้า ทร.ยังไม่สามารถจัดหาเรือดำน้ำได้ในเวลาอันใกล้นี้ ก็ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไหร่ กลายเป็นกรณีรอไปเรื่อยๆ เหมือนอย่างที่ผ่านมา

ในส่วนของการปรับปรุงขีดความสามารถเรือผิวน้ำ ทร.น่าจะมีการดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่นโครงการปรับปรุงเรือคอร์เวต โครงการปรับปรุงเรือฟริเกต และโครงการจัดหาเรือใหม่ อย่างไรก็ดีระหว่างความจำเป็นเร่งด่วนของการจัดหาสิ่งที่ยังไม่มี กับการปรับปรุงหรือจัดหาสิ่งที่พอมีอยู่บ้างแล้ว อย่างแรกน่าจะมีลำดับความสำคัญมากกว่า ในมุมมองของผู้ปฏิบัติที่ต้องใช้เวลาฝึกฝน สะสมองค์ความรู้ สร้างความคุ้นเคย และสร้างประสบการณ์กับยุทโธปกรณ์นั้นๆ

ตัวอย่างเช่นยุทธวิธีปราบเรือดำน้ำด้วยเรือผิวน้ำและอากาศยาน ทร.ได้ดำเนินการฝึกมาเป็นเวลานานด้วยยานที่มีอยู่ ผู้ปฏิบัติมีความคุ้นเคย ถึงแม้อุปกรณ์จะเก่า(บ้าง) แต่ในกรณีการปรับปรุงหรือจัดหาใหม่ก็ไม่ต้องเริ่มกระบวนการเรียนรู้ใหม่ตั้งแต่ต้น

น่าเสียดายที่ยานปราบเรือดำน้ำเหล่านั้นแทบไม่เคยได้มีโอกาสสัมผัสเรือดำน้ำจริง จะได้ฝึกกับชาติพันธมิตรก็นานๆ มาที ฝึกได้วัน-สองวันก็ไป เก็บข้อมูลเรือเราไปได้เพียบ แต่เราหาเขาแทบไม่เจอ

อีกอย่างในกรณีของยุทธวิธีเรือดำน้ำ ถึง ทร.จะเคยมีเรือประเภทนี้ประจำการ แต่ก็เว้นว่างไปจะ 60 ปีแล้ว การเริ่มเรียนรู้และสะสมประสบการณ์จึงควรเริ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเพื่อนบ้านจากที่ไม่เคยมีก็เริ่มมีมากขึ้น ถึงแม้เราจะเริ่มโครงการตอนนี้คนอื่นก็มีเวลาศึกษาเรียนรู้หาประสบการณ์ไปก่อนเราแล้ว และถ้าเรายังไม่เริ่มองค์ความรู้ของเราในตอนนี้ก็มีได้แค่เพียงในกระดาษเอกสารตำราเท่านั้น

ที่ผมมองว่าน่าเสียดายคือประเทศเพื่อนบ้านมีโครงการจัดหาเรือดำน้ำใหม่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ได้เริ่มทำการฝึกกำลังพล ต่อเรือใหม่จนเสร็จ จนเรือเดินทางมาส่งมอบถึงฐานทัพเป็นลำที่ 2 แล้ว แต่เรากลับเพิ่งเริ่มปลุกโครงการเรือดำน้ำใหม่มาได้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ช่วงเวลา 5 ปีที่ใช้สำหรับโครงการจัดหานี้ยังไม่นับรวมช่วงเวลาในการเตรียมโครงการอีกหลายปี ตลอดระยะเวลานั้นเรามัวทำอะไรกันอยู่?
โดยคุณ กัปตันนีโม เมื่อวันที่ 21/07/2010 02:43:57


ความคิดเห็นที่ 4


ทร.เสนอความต้องการเรือดำน้าไว้ในแผนยุทธศาสตร์ และแผนจัดหาระยะยาว มาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วครับ ไม่ใช่เริ่มมาปลุกอะไรขึ้นมาตอนนี้ ไม่ใช่มัวแต่ทำอะไรกันอยู่อย่างที่คุณกับตันนีโมบอก แต่ลองนึกภาพเวลาเสนอโครงการที่มีมูลค่ารวมมากกว่างบประมาณประจำปีโดยรวมของหน่วยงานดูซิครับว่ารัฐบาลจะให้ง่ายๆใหม ทร.ได้รับ งป.ประมาณ ๓๐,๐๐๐ล้าน+ต่อปี  แต่โครงการจัดหา ด. ๒ลำมูลค่าประมาณ ๕๐,๐๐๐ล้านบาท(ของมาเลย์ที่ซื้อไปแล้วแพงกว่านี้อีก -ราคาตอนนี้นะครับ)ให้ผ่อน ๑๐ ปีก็ยังปีละ๕,๐๐๐ ล้าน ปกติสำนักงป.ไม่ให้ก่อหนี้ระยะยาวขนาดนั้น ทอ.ยังพอทำได้โดยแบ่งเป็น ๒ ระยะ ซื้อกริปเปน ระยะละ ๖ ลำ ระยะละ ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท ทร.ก็พอจะแบ่งเป็นระยะๆละลำได้  แต่ก็คงจะแพงขึ้นอีกเพราะบริษัทต่อเรือไม่ต้องการทำที่ละลำ ส่วนใหญ่ เขาจะสร้างพร้อมกันโดยสร้างเหลื่อมกันเล็กน้อย ค่าใช้จ่ายจะลดลงมาก

แต่ที่กล่าวมานี้ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้เลยในเรื่องการจัดการด้าน งป. ที่สำคัญกว่าคือรัฐบาลมีความเข้าใจถึงความสำคัญของโครงการ และจะให้การสนับสนุนหรือไม่ ที่ผ่านมาไม่เคยให้ความสำคัญ และไม่ส่งเสริมเพราะเห็นว่ามันแพง ไม่ก่อให้เกิดผลผลิตที่เป็นรูปธรรม จึงขอให้ชะลอไว่จนถึงบัดนี้  จนกระทั่งเห็นว่าในอาเซียนเหลืออีกไม่กี่ประเทศแล้วที่ยังไม่มี ด.หรือมีแนวโน้มที่จะจักหาในระยะเวลาอันใกล้นี้( ที่มีแล้วคือ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย กำลังสั่งซื้อคือ เวียดนาม และพม่าส่งคนไปเรียนแล้ว )ดังนั้นจึงเหลือไทย กับกัมพูชา บรูไนและ ฟิลิปปินส์ ที่ยังไม่มี) ตอนนี้จึงเริ่มจะมีคนนอก ทร.เห็นว่าประเทศชั้นนำในอาเซียนเขาทิ้งเราไปไกลแล้วจึงพอมีเสียงสนับสนุนมากขึ้น แต่ก็ยังคงไม่ง่ายหรอกครับ ปี งป. ๕๔ ก็เสนอขึ้นไปอีก แต่ก็ยังไม่ได้ มาเลเซียเขาทุ่มให้เหล่าทัพใดเหล่าทัพหนึ่งเป็นช่วงๆ โครงการ ด.เขาถึงเกิดขึ้นได้ เช่น ๕ ปีนี้เทเงินให้ ทร.เพื่อให้จัดหาเรือดำน้ำ ทร.ได้มากกว่า ทบ.  ๕ ปีต่อจากนี้ ทุ่มให้ ทอ. แต่ของเราไม่ครับได้เท่าไรก็เป็นสัดส่วนเท่าๆกันทุกปี ไม่มีทางที่ ทร. หรือ ทอ.จะได้งป.มากกว่า ทบ.

คงต้องรออีกระยะหนึ่ง  อาจต้องรอให้พม่า หรือ กัมพูชา สั่งซื้อเสียก่อน รัฐบาลอาจจะยอมเสียเงินก็ได้ครับ

โดยคุณ โย่ง เมื่อวันที่ 21/07/2010 12:20:22


ความคิดเห็นที่ 5


ลำดับเหตุการณ์ การเสียโอกาสของ ทร. กับ เรือดำน้ำ ครับ

ปี 2534 เกิด รปห. นายกฯชาติชาย เกิดสูญญากาศทางการเมือง ( เป็นนายกฯ สมัยที่ ทร. ได้รับการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ จนถึงมีแนวโน้มจะมีการพิจารณา เรือดำน้ำ)

ปี 2535 เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง พ.ค.ทมิฬ

ปี 2536 – 2537 เกิดสูญญากาศทางการเมืองอีกครั้ง

ปี 2538 สมัย นายกฯ บรรหาร ทร. ได้รับการอนุมัติจัดหาเรือดำน้ำจาก สวีเดน จำนวน 2 ลำ แต่ถูกทำแท้งซะก่อน (เป็นโอกาสเดียว และโอกาสสุดท้ายของ ทร. ในห้วงระยะตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน ที่จะมีเรือดำน้ำมากที่สุด)

ปี 2539 เริ่มเกิดปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ

ปี 2540 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง  (ทร.สิงคโปร์ เริ่มประจำการ เรือดำน้ำ)

ปี 2541 – 2543 ประเทศไทย ประคับประคอง ให้พ้นจากการล้มละลาย

ปี 2544 เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

ปี 2545 – 2547  เศรษฐกิจมีการเติบโต และมีความมั่งคง

ปี 2548 เริ่มมีการวางแผนพัฒนากองทัพจัดเป็นแผนระยะยาว ควบคู่กับแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ เริ่มมีการพูดถึง โครงการเรือดำน้ำ อีกครั้งหนึ่ง และมีแนวโน้มจะได้รับการอนุมัติ

ปี 2549 มีการ รปห. อีกครั้ง เกิดสูญญากาศทางการเมือง

ปี 2550 – 2553 เกิดความวุ่นวายทางการเมือง และการแก่งแย่งอำนาจทางการเมือง (ทร.มาเลเซีย เริ่มประจำการ เรือดำน้ำ)

 

และถ้าในอีกระยะ 5 ปี ข้างหน้า ทร. ยังไม่สามารถจัดหา เรือดำน้ำ เข้าประจำการได้

ปี 2558 ทร.อินโดนีเซีย มีประสบการณ์ เรือดำน้ำ ในภูมิภาคนี้ เป็นระยะเวลากว่า 34 ปี

ปี 2558  ทร.สิงคโปร์ มีประสบการณ์ เรือดำน้ำ ในภูมิภาคนี้ เป็นระยะเวลากว่า 18 ปี

ปี 2558 ทร.มาเลเซีย มีประสบการณ์ เรือดำน้ำ ในภูมิภาคนี้ เป็นระยะเวลากว่า 6 ปี

ปี 2558 ทร.เวียดนาม  กำลังจะเริ่มหรือเตรียมการเข้าประจำการเรือดำน้ำ

 

และถ้า ทร.จัดหาเรือดำน้ำ หลังปี 2558  ทร.จะมีระยะห่างประสบการณ์ เรือดำน้ำ ในภูมิภาคนี้ กับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นระยะเวลากว่า 1 – 3 ทศวรรษ

 

ผมจึงมองว่า ถ้าในระยะ 3 – 5 ปีนี้ ทร. ยังไม่มีแนวโน้มของเรือดำน้ำ  ผมว่า ทร. คงต้องเปลี่ยนแนวการต่อต้านเรือดำน้ำใหม่ โดยพัฒนากองเรือผิวน้ำ (จัดหาเรือผิวน้ำเพิ่มเติมให้ครบจำนวนตามความต้องการ และเพิ่มเติมภาระกิจสงครามใต้น้ำด้วย (ทั้งสงครามทุ่นระเบิดและเรือดำน้ำ)) และ อากาศยาน (จัดเป็นฝูงบินตรวจจับและต่อต้านเรือดำน้ำ) รวมถึงอุปกรณ์ตรวจจับแนวใต้น้ำ  ซึ่งในแง่งบประมาณน่าจะสามารถทะยอย เป็นโครงการงบประมาณต่อเนื่องในระยะ 5 – 8 ปี ได้  และหลังจากมีเรือผิวน้ำครบ และอากาศยาน เพียงพอต่อภาระกิจ  ก็จะเหลือเพียงงบประมาณจัดหาเรือดำน้ำ อย่างเดียว โดย ทร. อาจจะมีระยะเวลากว่า 15 – 20 ปี ที่ว่างเว้นไม่ต้องจัดหางบประมาณสำหรับเรือผิวน้ำใหม่อีก

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 21/07/2010 21:05:29


ความคิดเห็นที่ 6


แล้วเมื่อไหร่จะมีมาไทยมั้งจังครับอยากเห็นกองทัพเรือไทยมีอย่างต่ำๆก็

A 19 T แล้วร่วมพัฒนา A26 ไปกับสวิเดน รวมไปถึงอาวุธอื่นๆ เพราะเราชื้ออาวุธจากเขา เขาก็ท่ายทอดเทคโนโลยีและอื่นๆอีกเป็นการลงทุนที่คุ้ม เห็นแล้วหน้าเป็นห่วง กองทัพเรือขาดแคนสุดๆ

โดยคุณ npru494233440 เมื่อวันที่ 19/07/2010 01:45:01


ความคิดเห็นที่ 7


Malaysia reveals value of Scorpene deal
The Malaysian Defence Ministry has confirmed that the procurement of its two new Scorpene submarines has cost MYR6.7 billion (USD2.1 billion). The deal includes MYR4.3 billion for the submarines, MYR148 million for support and test equipment and MYR869 million for 40 SM-39 Block II Exocet anti-ship missiles and 30 BlackShark torpedoes, according to a statement to MP Chua Tian Chang reported by Malysian media on 22 June
first posted to http://jni.janes.com - 23 June 2010]

ข่าวจาก Janes  มาเลเซียเตรียมจะจัดหาล็อต 2 อีก 2 ลำ

ของ ทร.ไทย  ขนาดมือ 2 ยังไม่มีแวว ในระยะอันใกล้...

นับวัน เรือดำน้ำ ในภูมิภาคนี้ จะมีเพิ่มมากขึ้น ตามลำดับ  ทั้ง เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่กำลังจะจัดหาเพิ่มเติม

ถ้าในระยะอีก 5 ปีนี้ ทร. ยังไม่สามารถจัดหาเรือดำน้ำมาได้...ความห่างของประสบการณ์สงครามใต้น้ำของ ทร. กับประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับการปฏิบัติการในน่านน้ำของภูมิภาคนี้ ก็จะห่างขึ้นไปเรื่อย ๆ ทุกที...

ผมว่า ดีไม่ดี  ทร. อาจจะต้องเปลี่ยนแนวสำหรับสงครามใต้น้ำ จาก เรือดำน้ำ กับ เรือดำน้ำ มาเป็นระบบ เรือผิวน้ำ และ อากาศยาน ต่อต้านเรือดำน้ำ และระบบตรวจจับแนวใต้น้ำ แทน เรือดำน้ำ...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/07/2010 02:01:39


ความคิดเห็นที่ 8


ตามความเห็นของคุณ juldas 

ผมเห็นด้วยครับ    ตัดข้อเสียเปรียบออก

แล้วหาจุดแข็ง เพื่อพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ

เพราะผมมองว่า   การป้องกัน หรือการรุก ไม่จำเป็น

ต้องมีแบบแผนเดียวครับ

ผมชอบนะ กองทัพเรือไทย งบน้อย แต่ ต่อยหนัก ครับ
โดยคุณ PINJI เมื่อวันที่ 19/07/2010 02:36:14


ความคิดเห็นที่ 9


ผมว่า ภายใน 10ปีนี้ ด.ของ ทร. มาแน่ครับ จะหนึ่ง หรือสอง เท่านั่นเอง ตอนนี้เอา งป.ไปเสริมสร้างด้านอื่นๆก่อนครับ พอเสริมสร้างอาวุธด้านอื่นๆ จนได้ที่แล้ว คงไม่พ้น ด. แน่นอน เพราะว่ากันตามจริง ประเทศเราก็ไม่ได้จนถึงขนาดซื้อ ด.ไม่ได้หรอกครับ เพียงแต่ต้องค่อยๆบริหาร งป.ที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ ให้รัดกุมที่สุด และเอาไปพัฒนาชาติด้านอื่นๆก่อน แต่ ด.เนี่ย ช้าเร็วยังไงก็มาแน่นอน ฟันธง!!!! ผมว่า ทร. จะได้ ด.ก่อนที่บอลไทยจะไปบอลโลกแน่นอนครับ อิอิ นั่นช้ากว่าเยอะ ^ ^

โดยคุณ RMUTK เมื่อวันที่ 19/07/2010 03:58:07


ความคิดเห็นที่ 10


ใช่แล้วครับพัฒนาบุคลากรในการฝึกปราบเรือดำน้ำและยุทธโทปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพ อ่าวไทยอยู่ในเขตน้ำตื้นการตรวจหาจะง่ายกว่าในเขตน้ำลึก
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 19/07/2010 05:54:33