โหล ๆ ทดสอบ ทดสอบ

โจรก็การร้ายภาคใต้นั้นเค้ามากันเป็นกลุ่มเล็กๆเเฝงตัวกับชาวบ้านไม่ต้องใช้กำลังทางอากาศเเบบผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสหรอกครับ มีเเค่ใช้ฮ.หรือ บ.ตรวจกาลหรือกดดันหรือยิงนิดหน่อยไม่ต้องใช้เเบบผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิส เเต่อนาคตเห็นว่าจะใช้เจ้านี้

แนวรบไม่สามารถแบ่งได้ชัดเจน ไม่รู้ใครชาวบ้าน ใครผู้ไม่ประสงค์ดี...ท.อ. คงส่งได้แค่ อย.เข้าร่วมปฏิบัติงาน 

นี่เค้าเรียกว่า"สงครามที่ไม่มีแนวรบครับ" เหมือนกับที่สหรัฐเจอในเวียดนาม อิรัก อัฟกานิสถานครับ ทุกที่อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ อยู่ดีๆก็โดนซุ่มโจมตี เสร็จแล้วพวกนี้ก็หายตัวไป จริงๆไม่น่าจะเรียกว่าหายตัวหรอกครับ พวกนี้ก็คือชาวบ้านในเวลากลางวัน นักรบในเวลากลางคืนนั้นแหละ การปราบปรามจึงยากมาก

หากหลายๆท่านคิดว่าทำไมเราไม่ปราบปรามด้วยอาวุธ ให้ดูสงครามเวียดนามเป็นตัวอย่าง ว่าสุดท้ายแล้วยิ่งเราปราบหนัก แนวร่วมของเขาก็ยิ่งมากขึ้น และแล้วก็จะปราบไม่หมดสักที เราจึงต้องใช้วิธีการดึงมวลชนเข้ามาร่วมมือ ซึ่งดูแล้วนานแต่มั่นคงกว่าครับ

ส่วนที่ว่าปราบผกค.ยังใช้เครื่องบินไปโจมตี น้้นก็เพราะว่าเค้าประกาศตัวเลยครับว่า พื้นที่นึ้คือพื้นที่ปลดปล่อยจากอำนาจรัฐแล้ว รัฐบาลจึงเข้าไปปราบได้เต็มที่ครับ ส่วนที่ใต้นี้เราไม่รู้ว่าฐานเค้าอยู่ไหน และส่วนใหญ่เค้าไม่สร้างฐานหรอกครับ ปะปนอยู่ในหมู่บ้านนี่ละดีที่สุดแล้ว

ขอร่วมเรียนแบ่งปันประสบการณ์ครับ

ในสงครามแบ่งแยกดินแดนนั้นมีการใช้รูปแบบของกองกำลังหลายระบบซึ่งมีหลายขั้นตอน หรือที่ใช้คำในภาษาอังกฤษว่า State (คล้ายมะเร็งเลยครับ) เช่น ขั้นของการใช้สงครามกองโจรก็เป็นขั้นหนึ่งในการสงครามแบ่งแยกดินแดน

โดยแต่ละขั้นของสงครามแบ่งแยกดินแดนจะมีพัฒนาการของการใช้กำลังคู่กันไป แบบที่ท่านเสธแดง กล่าวถึงแก้วสามประการของสงครามแบ่งแยกดินแดนหรือสงครามปฏิวัติที่ประกอบด้วย พรรค แนวร่วม และกองกำลัง ทั้งนี้บทบาทของพรรคจะต้องโดดเด่นและมีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา เช่น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หรือ สภาอูลาหม่าในพื้นที่สามปัญหาจังหวัดของเรา

ส่วนกองกำลังนั้นจะค่อยๆมีบทบาทมากขึ้นเพื่อการใช้งานในช่วงที่ต้องการใช้กำลังปฏิวัติหรือแบ่งแยกดินแดน และจะค่อยๆลดบทบาทลงจนอาจยกเลิกไปเมื่อสามารถจัดตั้งรัฐใหม่ได้แล้ว ขั้นต่างๆของสงครามที่มีการใช้กองกำลังนี่หละครับ เป็นขั้นตอนของวิทยาการทางทหารของชาติต่างๆที่จะต้องคิดค้นยุทธวิธีและเครื่องมือต่างๆขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยในการปราบปราม

ลักษณะอันพิเศษประการหนึ่งของสงครามแบ่งแยกดินแดน คือ เป็นสงครามอสมมาตร จากการที่กองกำลังของฝ่ายแบ่งแยกดินแดนในขั้นต้นนั้นจะไม่สามารถต่อสู้กับกำลังฝ่ายรัฐได้อย่างเท่าเทียมเลย แต่จะมีความได้เปรียบด้านการข่าวอย่างมหาศาล และกองกำลังก็จะมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องในขั้นต่างๆโดยในขั้นต้นจะเป็นกองโจรในพื้นที่นั้นๆรบกวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และจะพัฒนาการเป็นกองกำลังเคลื่อนที่(สงครามจรยุทธ์)สามารถเข้าโจมตีกำลังฝ่ายรัฐบาลที่อ่อนแอกว่าในบางจุดได้ ต่อมาจะพัฒนาเป็นกองกำลังติดอาวุธขนาดใหญ่ หรืออาจจะได้รับการเสริมกำลังจากประเทศใกล้เคียง(ส่วนมากก็ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน) เข้าทำการรบกับกำลังฝ่ายรัฐจนสามารถปลดปล่อย(ตั้งรัฐใหม่)ได้

การใช้บอลลูนหรือยานตรวจการณ์ลอยฟ้า เป็นการชดเชยระบบการข่าวของฝ่ายรัฐที่ด้อยกว่าฝ่ายกองกำลังแบ่งแยกดินแดน ในกรณีที่ใช้ตรวจการณ์ติดตามกำลังแบ่งแยกดินแดนเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่ครับ และการใช้งานจะต้องใช้ผสมผสานกับมาตรการอีกหลายๆอย่างเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

กระผมไม่ได้เชียร์ใคร และไม่ได้แช่งใคร แต่ใครทำกรรมอันใดไว้ ย่อมเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นั้นถือเป็นที่สุด เป็นสิ่งที่เราต้องเชิดชูไว้เหนือชีวิตครับ

ทอ.จัด กำลังพลพร้อมยานเกราะไปสนับสนุน มีการตั้งกำลัง ทอ.ฉก.๙ ขึ้นที่สนามบินนราธิวาส  นอกจัด ฮ.ฮิวอี้ และ บ. AU-23A ติดกล้องเฟอร์  และอุปกรณ์ค้นหาด้วยความร้อน นอกจากปืนใหญ่อากาศ และระบบกระจายเสียง ไปตั้งฐานปฏิบัติการที่หาดใหญ่ครับ

การปฏิบัติการ ทอ.อาจจะน้อยมากๆๆๆๆ เมื่อเทียบกับ ตร. ทบ.และ นย. ที่มีกำลังพลภาคพื้นมากกว่า