หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


พรทิวาทวงหนี้รัสเซียสำเร็จ

โดยคุณ : nok เมื่อวันที่ : 14/09/2010 20:54:55

ค้างจ่ายค่าข้าวไทยนาน20ปี ชง2ทางเงินสด-แลกสินค้า

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอให้ ครม. พิจารณาเลือกแนวทางการชำระหนี้ค่าข้าวจากรัสเซีย ที่ค้างชำระไทยตั้งแต่ปี 33 มูลค่า 36-41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากขณะนี้คณะเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของไทย ซึ่งมีผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สามารถเจรจากับนายคอนสแตนติน วิชอฟสกี อธิบดีกรมความสัมพันธ์ทางการคลังระหว่างประเทศ กระทรวงการคลังรัสเซีย จนได้ข้อยุติแล้ว
     
ทั้งนี้แนวทางเสนอให้ครม.พิจารณามี 2 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกแรกให้ชดใช้เป็นสินค้าที่ต้องการแก่ไทย พร้อมขยายระยะเวลาชำระออกไป 5 ปี จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 22 ต.ค.51 เป็นวันที่ 21 ต.ค.56 โดยมีมูลหนี้ทั้งสิ้น 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แยกเป็นเงินต้น 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดอกเบี้ย 4.62 ล้านดอลลาร์ และหากถึงกำหนด    ยังมียอดหนี้เหลืออยู่รัสเซียจะชำระส่วนที่เหลือเป็นเงินสดให้ ส่วนทางเลือกสอง    รัสเซียชำระหนี้ค่าข้าวเป็นเงินสดทั้งหมด 36,441,731.98 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ไม่ใด้ดอกเบี้ย ภายใน 30 วันหลังจากมีการลงนามในข้อตกลงปรับเงื่อนไขการชำระหนี้แล้ว 
   
“ทั้ง 2 แนวทางเป็นการปรับเงื่อนไขจากสัญญาเดิมที่มีอยู่ก่อนตั้งแต่ปี 50 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เห็นว่าทางเลือกรับเงินสดทันทีจะให้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายไม่เคยสามารถตกลงเลือกสินค้า ราคา หรือบริษัทที่ยินยอมผลิตสินค้าเพื่อส่งมอบให้ไทยที่เหมาะสมได้เลย และไม่แน่ใจว่าหากรอเวลาไปอีก 3 ปี จนถึงปี 56 จะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ แต่การรับเงินสดในทันทีจึงมีความแน่นอน ชัดเจน และยังเป็นการแสดงความจริงใจของทุกฝ่ายที่จะยุติปัญหาให้ได้   โดยเร็ว”
     
นางพรทิวากล่าวว่า ขั้นตอนการดำเนินการ เมื่อครม. ให้ความเห็นชอบแล้วจะมอบหมายให้ รมว.พาณิชย์ลงนามในข้อตกลงปรับปรุงเงื่อนไขการชำระหนี้ หากเลือกให้ชำระเงินสด ประเทศไทยจะได้รับเงินภายใน 30 วันหลังจากลงนาม
   
สำหรับหนี้ข้าวครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่รัสเซียได้สั่งซื้อข้าวจากไทยตั้งแต่ปี 33 จำนวน 2 แสนตัน เป็นมูลค่ารวมดอกเบี้ยปีละ 4% ที่ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำหนดชำระภายใน 2 ปี หรือภายในเดือน มี.ค. 36 แต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นรัสเซียได้ผ่อนชำระเพียง 3.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สหภาพโซเวียตรัสเซียก็ล่มสลายจึงมีการเลื่อนการชำระออกมา
     
อย่างไรก็ตามได้มีการพยายามเจรจาชดใช้หนี้ให้ โดยทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ในปี 37 และผ่อนชำระให้จนถึงเดือนก.ค.41 รวมเป็นเงิน 39.53 ล้านดอลลาร์ แต่ต่อมารัสเซียประสบปัญหาทางการเงินจึงหยุดชำระหนี้ รัฐบาลไทยจึงไปเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ และทำเอ็มโอยูอีกครั้งในปี 46 ให้รัสเซียจ่ายเงินต้น 36.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี โดยมีเงื่อนไขว่ารัสเซียจะชำระเป็นสินค้า โดยให้ฝ่ายไทยเลือกและตกลงกับผู้ผลิตของรัสเซีย เพื่อนำค่าสินค้ามาหักชำระกับหนี้ข้าวของไทย
     
แต่ตั้งแต่ปี 46 เป็นต้นมา แม้ฝ่ายไทยพยายามเจรจาซื้อสินค้าหลายครั้ง แต่ไม่สามารถตกลงได้ เพราะติดข้อจำกัดของทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายไทยมีข้อจำกัดว่าหน่วยงานที่จะซื้อต้องตั้งงบประมาณไว้ก่อนจึงจะไปทำสัญญาซื้อได้ ซึ่งต้องตั้งงบประมาณล่วงหน้าจึงไม่สามารถดำเนินการได้ ส่วนฝ่ายรัสเซียเมื่อฝ่ายไทยแจ้งรายการสินค้าที่ต้องการไปก็ไม่สามารถตกลงกับบริษัทภายในได้ จึงทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไขได้       

นางพรทิวา กล่าวว่าคณะเครือข่ายเกษตรกรลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ร้องเรียนให้กระทรวงฯ เร่งระบายข้าวเปลือกจากยุ้งฉางของเกษตรกรโดยด่วน เนื่องจากใกล้เวลาจะเก็บเกี่ยวข้าวในฤดูกาลใหม่แล้ว อาจจะมีปัญหาในการใช้พื้นที่ยุ้งฉางในการเก็บข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ได้

 

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=310&contentID=90228





ความคิดเห็นที่ 1


ถ้าไม่ได้เงินสด ขอเปลี่ยนเป็น MI-17แบบ Full Option เอามากระทรัพยากรหรือไม่ก็กระทรวงเกษตร ใช้ขนเจ้าหน้าที่หรือสำหรับดับไฟป่าครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 07/09/2010 02:04:22


ความคิดเห็นที่ 2


เงินไม่เอา ครับ

ขอเป็นตัวนี้แทนได้เปล่า

หรือว่าเอาแบบที่ คุณ nok ว่าก็ได้

หรือนี้ก็ดีครับ

ปีหน้าขายข้าวให้อีก 5555555555555555

ขอบคุณภาพสวยๆๆจาก

www.militaryphotos.net/forums/sh...d/page54

alsuffa.blogspot.com/2010_03_01_...ive.html

writer.dek-d.com/dek-d/story/vie...3D439394

โดยคุณ MARINE เมื่อวันที่ 07/09/2010 02:31:40


ความคิดเห็นที่ 3


ไม่ลองดูเป็น KA-50 ละ เอามาให้กองทัพบก ใช้งาน


โดยคุณ ecos เมื่อวันที่ 07/09/2010 04:04:12


ความคิดเห็นที่ 4


ขอเป็น Mil Mi -24 hind D ดีกว่า น่าเกรงขามสุดสุด ราคาไม่แพงสบาย

กระเป๋า ลองใช้แล้วรับรองติดใจแน่นอน

โดยคุณ paisarn.88 เมื่อวันที่ 07/09/2010 09:44:22


ความคิดเห็นที่ 5


S-400

File:S-400 Triumf SAM.png
โดยคุณ xxxd3v1llexxx เมื่อวันที่ 07/09/2010 23:39:20


ความคิดเห็นที่ 6


Yakovlev Yak-130

File:Yak130MAKS.jpg

โดยคุณ xxxd3v1llexxx เมื่อวันที่ 07/09/2010 23:41:59


ความคิดเห็นที่ 7


Kamov Ka-60

File:Kamov-Ka-60.jpg

โดยคุณ xxxd3v1llexxx เมื่อวันที่ 07/09/2010 23:43:28


ความคิดเห็นที่ 8


T-90

File:T-90 Bhisma cropped.jpg

โดยคุณ xxxd3v1llexxx เมื่อวันที่ 07/09/2010 23:51:17


ความคิดเห็นที่ 9


ตัวนี้แจ่มกว่านะครับ

โอกาสได้มีสูง

 


โดยคุณ aeeclub เมื่อวันที่ 08/09/2010 00:28:08


ความคิดเห็นที่ 10


Yakovlev Yak-130

เทียบ ได้นี่อยู่ใน CLASS  อัลฟ่า เจ็ต ของเรารึปล่าวครับ

ดูจากภาพ เครื่องเล็กๆเหมือนกันเลย

โดยคุณ noharajoker เมื่อวันที่ 09/09/2010 10:09:21


ความคิดเห็นที่ 11


ครม.รับชำระหนี้ข้าวรัสเซียค้างชำระ20ปี36ล้านดอลลาร์

พาณิชย์ โล่งอก ครม.รับแนวทางชำระหนี้ค่าข้าวรัสเซียหลังค้างชำระมาเกือบ 20 ปี เป็นเงินสด 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ “พรทิวา” เตรียมบินรัสเซียลงนามข้อตกลง และได้เงินคืนภายใน 30 วัน...

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาแนวทางการชำระหนี้ค่าข้าวที่รัฐบาลรัสเซียค้างชำระไทยมาตั้งแต่ปี 2533 ตามแนวทางที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยเลือกให้รัสเซียชำระหนี้เฉพาะส่วนเงินต้นทั้งหมดเป็นเงินสด 36.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 30 วัน หลังจากลงนามในข้อตกลงปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ จากนั้นกระทรวงพาณิชย์จะนำส่งเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป ซึ่งเร็วๆ นี้ ตนจะเดินทางไปรัสเซียเพื่อลงนามในข้อตกลงให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

“แนว ทางการรับชำระหนี้ค่าข้าวคืนเป็นเงินสด จะทำให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุด เพราะจะได้เงินทันทีภายใน 30 วัน หลังจากมีการลงนามในข้อตกลง 2 ฝ่าย และยังเป็นการแสดงความจริงใจของทุกฝ่าย ที่จะยุติปัญหาที่เรื้อรังมานานโดยเร็ว” นางพรทิวา กล่าว

สำหรับหนี้ ข้าวดังกล่าว รัฐบาลสหภาพโซเวียตรัสเซีย ซื้อจากไทยตั้งแต่ปี 2533 จำนวน 200,000 ตัน เป็นเงินเชื่อ ประมาณ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กำหนดชำระภายในเดือน มี.ค. 2536 แต่ผ่อนชำระได้เพียง 3.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากนั้นสหภาพโซเวียตรัสเซีย ก็ล่มสลาย แต่ได้พยายามชดใช้หนี้ให้ไทย และผ่อนชำระให้จนถึงเดือน ก.ค. 2541 รวม 39.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงนั้นรัสเซียประสบปัญหาทางการเงินจึงหยุดชำระหนี้ รัฐบาลไทยจึงได้เจรจาปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้งในปี 2546 ซึ่งรัสเซีย ตกลงจะจ่ายเงินต้น 36.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และดอกเบี้ย 2% ภายใต้เงื่อนไขที่รัสเซียจะชำระเป็นสินค้า แต่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะข้อจำกัดหลายอย่าง จึงยังไม่สามารถใช้หนี้ได้จนถึงปัจจุบัน.

http://www.thairath.co.th/content/eco/111170


บทสรุปมาแล้วครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 14/09/2010 09:54:56