หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เรื่องของรถไฟความเร็วสูงและความน่าจะเป็นในเรื่องของการลงทุนร่วมกันในเรื่องอื่นของไทยกับจีน

โดยคุณ : janus เมื่อวันที่ : 14/09/2010 11:29:18

ตามที่มีข่าวเรื่องรถไฟความเร็วสูงที่กำลังจะเกิดขึ้นในเมืองไทย ซึ่งจะเป็นการร่วมลงทุนของรัฐบาลจีนกับรัฐบาลไทย ตามข่าวที่ออกมาคือจะเป็นการทำใหม่ทั้งระบบ เส้นทางคือสายหนองคาย-กรุงเทพฯและกรุงเทพฯ-สุไหงโกลก(ยังขาดสายเหนือ)  ผมว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจครับ เพราะมันอาจจะเป็นการพลิกโฉมการรถไฟแห่งประเทศไทย และที่สำคัญตอนนี้เส้นทางของธุรกิจทุกสายมุ่งสู่เมืองจีน ที่สำคัญข่าวล่าสุดที่ได้ยินมาคือ ผลการจัดอันดับประเทศที่น่าลงทุนที่สุดในโลก อันดับ 1 คือประเทศจีน (ไทยอยู่อันดับ 11 แซงหน้ามาเลเซีย) กลับมาต่อเรื่องรถไฟ ความเห็นส่วนตัวผมอยากให้เป็นรถไฟรางคู่มากกว่าครับ ทำความเร็วได้ 120-150 ก.ม./ช.ม.ก็พอแล้ว  แต่ก็ไม่ได้คัดค้านเรื่องรถไฟความเร็วสูง แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ ผมอยากฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจตัดสินใจกับเรื่องนี้ด้วยครับว่า ให้ดูถึงสิ่งที่ตามและเป็นผลประโยชน์กับประเทศไทยโดยตรง และถ้าเป็นการต่อยอดเรื่องเทคโนโลยีองค์ความรู้แล้วจะดีอย่างยิ่ง เช่นมีการร่วมลงทุนการสร้างโรงงานผลิตอะไหล่รถไฟฟ้าขึ้นในประเทศไทย ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้ไทย มีความรู้เรื่องนี้มากขึ้น นอกเหนือจากการสร้างงานในไทยแล้ว เอาแค่โรงงานผลิตอะไหล่หรือตัวถังก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้  แต่ถ้าศักยภาพของไทยเพียงพอ อาจจะสร้างเป็นโรงงานประกอบครบวงจรเลยก็ได้ (เหมือนโรงงานToyotaในไทย)  ถ้าทำได้แบบนี้ส่วนตัวผมมองว่าจะดีมาก เปรียบไปถึงโครงการจรวดเพื่อความมั่นคงที่ ทาง ทบ.กำลังวิจัยร่วมกับทางจีนอยู่ในขณะนี้ และมันน่าจะต่อยอดไปถึงเรื่องอื่นๆต่อไปอีกในอนาคต   เช่นถ้ามีการจัดซื้ออาวุธ ประเภทที่ใช้เทคโนโลยีไม่สูงมากนัก อาจจะมีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า ถ้าเราซื้อมาแล้วต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เราด้วย อาจจะออกมาในรูปการสร้างโรงงานผลิต/ประกอบในไทย และนำอาวุธเหล่านี้ออกไปขายในประเทศอื่นๆด้วย 

 

ผมมองว่าคนเอเชียกับเอเชียด้วยกัน น่าจะคุยกันรู้เรื่องมากกว่าคนตะวันตก อย่าลืมนะครับยิ่งตอนนี้ตลาดแรงงานในจีนเปิดกว้างมากขึ้น  เราจะเห็นฝรั่งตาน้ำข้าวหรือไม่ก็พวกผิวสีไปสมัครงานที่เมืองจีนมากขึ้นครับใครจะไปนึกว่า คนพวกนี้จะต้องมาเป็นลูกจ้างคนเอเชียผิวเหลือง ภาครัฐควรจะเริ่มทำในเรื่องการร่วมลงทุนกับทางจีนในภาคอุตสาหกรรม โดยใช้เมืองไทยเป็นฐานการผลิต จะได้เป็นการพัฒนาและต่อยอดความรู้ให้กับคนไทยด้วยครับ  ในอนาคตเราจะได้พึ่งพาตนเองมากขึ้น สามารถยืนบนขาของตัวโดยมั่นคง ดีกว่าจะต้องไปยืมจมูกคนต่างชาติมาช่วยหายใจเหมือนในหลายๆเรื่องที่ผ่านมาครับ





ความคิดเห็นที่ 1


           เห็นด้วย100%เลยครับโดยเฉพาะเรื่องรถไฟความเร็วสูงค่าโดยสารแพงเกือบเท่าเครื่องบินประชาชนตาดำฯคงไม่มีปัญญาได้ขึ้นแน่ฯ แต่ถ้าเป็นรถไฟรางคู่และขยายรางเป็น1.47เมตรแบบชาวบ้านเขาทำความเร็วได้สัก150-200 กม/ชม. ก็น่าจะพอแล้วสำหรับบ้านเรา ราคาค่าโดยสารประชาชนทั่วฯไปคงพอจะรับไหว
โดยคุณ OLDMAN เมื่อวันที่ 09/09/2010 02:02:46


ความคิดเห็นที่ 2


ทำไม่กลัว กลัวเรื่องนี้เป็นแค่ข่าว

สมัยรัฐบาลท่านสุรยุทธ์  มีกลุ่มทุนเยอรมนี เสนอวางแผนดำเนินการเรื่องรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ - เชียงใหม่ มาครั้งหนึ่งแล้ว

บ้านเราผู้รู้เค้าบอกว่า กฏหมายเรื่องรถไฟ ยังคงถือกฏหมายล้อเลื่อนและรถไฟดั่งเดิมอยู่ หมายถึงนอกจากรัฐแล้วไม่อนุญาตให้เอกชนคนทั่วไปมีรถไฟได้ แม้ที่ผ่านมาจะมีสัมปทาน แต่การสัมปทานรถไฟ ได้ยกเลิกไปหมดแล้ว  ทางการคงต้องไปแก้กฏหมายฉบับนั้นก่อน...แล้วจะแก้ได้หรือ...ถ้าสหภาพเค้าไม่ยอมแก้ไข เพราะอาจจะมีไปแก้ไขเรื่องอื่นๆ พ่วงด้วย.....มันคงเป็นแค่ฝันครับ...เสียดาย.....


:: พ.ร.บ. จัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ. 2464 มาตราที่ 140-145

:: ส่วนที่ 7 ว่าด้วยรถไฟหัตถกรรม
มาตรา 140 รถไฟหัตถกรรมนั้นคือรถไฟที่ห้างหรือบริษัทซึ่งประกอบหัตถกรรม หรือพาณิชย์กรรมได้สร้างขึ้นไว้ใช้เฉพาะแต่รับส่งคนงานและบรรทุกสิ่งของที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หรือสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้น กับสิ่งอื่น ๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้สำหรับกิจการนั้นๆ
ห้ามมิให้เรียกหรือรับค่าโดยสารหรือค่าระวางบรรทุกสินค้าแต่อย่างหนึ่งอย่างใด เป็นอันขาด
มาตรา 141 รถไฟหัตถกรรมนั้นมี 2 อย่างคือ
(1) รถไฟหัตถกรรมที่เดินเฉพาะแต่ภายในบริเวณที่ดินอันเป็นที่ประกอบการของ ห้างหรือบริษัทเท่านั้นอย่างหนึ่ง และ
(2) รถไฟหัตถกรรมที่เดินอยู่ทั้งภายในและภายนอกบริเวณที่ดินอันเป็นที่ประกอบการ ของห้างหรือบริษัทนั้นอีกอย่างหนึ่ง
มาตรา 142 ห้ามมิให้เปลี่ยนประเภทรถไฟหัตถกรรมมาเป็นรถไฟผู้รับอนุญาต เว้นแต่จะได้ยื่นเรื่องราวขออนุญาตก่อนและทั้งได้รับอนุญาตตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 143 รถไฟหัตถกรรมที่เดินเฉพาะแต่ในบริเวณที่ดินอันเป็นที่ประกอบการ ของห้างหรือบริษัทนั้น จะสร้างขึ้นได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าพนักงาน ผู้ปกครองท้องที่ แต่ห้ามมิให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองนั้นออกใบอนุญาตให้ เว้นแต่จะได้รับอนุมัติ ของกรมรถไฟแผ่นดินก่อน
ในการนี้ ให้ห้างหรือบริษัทนั้นยื่นแผนที่แสดงเขตแผนผังและงบประมาณ สำหรับรถไฟที่คิดจะสร้างขึ้นนั้นไว้ ณ ที่ว่าการของเจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่พร้อมทั้งสำเนาอีกสำรับหนึ่ง เพื่อนำเสนอต่อสภากรรมการรถไฟด้วย
ถ้าในเวลาใดเวลาหนึ่ง ห้างหรือบริษัทนั้นมีความประสงค์จะเปลี่ยนแปลงทางให้ ผิดไปจากที่วางไว้เดิม ให้แจ้งความประสงค์ที่จะเปลี่ยนนี้แก่เจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่ให้ทราบก่อน ต่อเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงจะจัดทำการนั้นต่อไปได้
มาตรา 144 บทบัญญัติในกฎหมายนี้ที่ว่าด้วยรถไฟผู้รับอนุญาตให้พึงอนุโลม ใช้บังคับแก่รถไฟหัตถกรรมที่เดินทั้งภายในและภายนอกบริเวณที่ดินอันเป็นที่ประกอบการของห้าง หรือบริษัทนั้นได้ ตามสมควรแก่บทนั้น ๆ
แต่ว่ารถไฟหัตถกรรมที่เดินทั้งภายในและภายนอกบริเวณที่ดินอันเป็นที่ประกอบการ ของห้างหรือบริษัทนั้น ถ้าหากใช้ลากเข็นด้วยแรงคนหรือแรงสัตว์และเดินบนทางชั่วคราวเพื่อ กิจการชั่วคราวมีกำหนดไม่เกินสองปี และมิได้มีการบังคับซื้อที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น ไซร้ ท่านให้ใช้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้อันว่าด้วยรถไฟหัตถกรรมที่เดินเฉพาะภายใน บริเวณที่ดินอันเป็นที่ประกอบการของห้างหรือบริษัทนั้นเป็นบทบังคับ คำร้องขออนุญาตสร้างและ เดินรถไฟชนิดนี้ และคำร้องขออนุญาตใช้ที่หลวงชั่วคราวเพื่อประโยชน์แห่งการนั้น ท่านให้ยื่นต่อ สมุหเทศาภิบาลเพื่อให้แสดงความเห็นแล้วส่งต่อไปยังสภากรรมการรถไฟ สภากรรมการรถไฟมี อำนาจที่จะสั่งอนุญาตตามคำร้องโดยกำหนดให้เสียค่าเช่าในการใช้ที่หลวงชั่วคราว และกำหนด เงื่อนไขเพื่อรักษาประโยชน์ของบุคคลภายนอก และความปลอดภัยแห่งประชาชนตามแต่จะเห็นควร การให้อนุญาตนั้น ท่านว่าจะให้ได้ต่อเมื่อสมุหเทศาภิบาลได้แสดงความเห็นว่าควรให้อนุญาต เท่านั้น
ถ้าสภากรรมการรถไฟสั่งยกคำร้องเสีย เพราะเหตุรถไฟนั้นมิได้อยู่ในความหมาย ของวรรค 2 แห่งมาตรานี้ไซร้ ท่านว่าการที่สั่งยกคำร้องเสียนั้นไม่เป็นการตัดสิทธิของผู้ร้องในอันที่ จะดำเนินการตามความในวรรค 1
[
มาตรา 144 วรรค 2 และวรรค 3 เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟ และทางหลวงแก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2475 (ฉบับที่ 2)]
มาตรา 145 ถ้าห้างหรือบริษัทใดที่ได้รับอนุญาตให้สร้างและใช้รถไฟหัตถกรรม บังอาจรับส่งคนโดยสารหรือรับบรรทุกสินค้าของผู้อื่นโดยคิดเอาค่าโดยสาร และค่าระวางบรรทุก ก็ดี หรือไม่ปฏิบัติการตามความในหนังสืออนุญาตข้อใดข้อหนึ่งก็ดี ท่านว่าห้างหรือบริษัทนั้น มีความผิดต้องระวางโทษให้ปรับเป็นพินัยไม่เกินกว่า 1000 บาท ทุก ๆ คราวที่กระทำผิดนั้น

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 09/09/2010 03:20:31


ความคิดเห็นที่ 3


บ้านเรายังถือ  พ.ร.บ.วางรางรถไฟ พ.ศ. 2464 และพ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2494

อันนี้เป็นข่าวเก่าๆ เกี่ยวกับความพยายามยกเลิกกฏหมาย

แนะคมนาคมแก้ไขกฎหมายรถไฟเพื่อปฏิรูป Print
Thursday, 03 December 2009 05:53
คอลัมน์: เกาะติดสถานการณ์: แนะคมนาคมแก้ไขกฎหมายรถไฟเพื่อปฏิรูป
          นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 2 ธ.ค. คณะกรรมาธิการคมนาคม (กมธ.) ได้พบปะหารือกับนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมพร้อมเสนอแนะให้แก้ไขกฎหมายเพื่อปฏิรูปการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) โดยให้กระทรวงคมนาคมคำนึงถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิพ.ร.บ.วางรางรถไฟ พ.ศ. 2464 และพ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2494 รวมถึงแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับงบประมาณที่จะใช้ในการลงทุนและดำเนินการโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม--จบ--         ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 

แก้กฎหมายรถไฟสัมปทานเอกชน

โดย เดลินิวส์ วัน ศุกร์ ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 08:53 น.
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงฯเตรียมแก้ไขกฎหมายของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยให้ รฟท.ยกเลิกการผูกขาดการเดินรถและให้เอกชนมีสิทธิเข้ามาแข่งขันการเดินรถกับ รฟท. เพื่อให้ รฟท. มีรายได้มากขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ รฟท.จัด ตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารจัดการ นอกจากนี้จะแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติมด้วยว่ากรณีที่รัฐให้ รฟท. บริการเชิงสังคมรัฐต้องชดเชยผลขาดทุนให้กับ รฟท. เพราะปัจจุบันไม่มีการแยกการให้บริการเชิงพาณิชย์และเชิงสังคมทำให้รถไฟต้องประสบปัญหาการขาดทุนมาโดยตลอด คาดว่าการแก้ไขรายละเอียดกฎหมายจะเสนอ รมช.คมนาคมพิจารณาสัปดาห์หน้า

“ได้เร่งทำรายละเอียดร่างกฎหมายที่ต้องปรับปรุงแก้ไข โดยเฉพาะการยกเลิกการผูกขาดการเดินรถของ รฟท. เพื่อให้เอกชนเข้ามาแข่งขันการเดินรถ ซึ่ง รฟท.จะมีรายได้จากการจัดเก็บค่าสัมปทาน”.

 

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 09/09/2010 03:33:22


ความคิดเห็นที่ 4


ผมคิดว่าโครงการนี้จะล้ม

เพราะเดี๋ยวจะมีว่าที่นักการเมืองล้มโครงการ

ว่าที่นักการเมืองคนนี้เกลียดจีนครับ

 

ขำๆๆ

โดยคุณ piyabhut เมื่อวันที่ 09/09/2010 06:09:40


ความคิดเห็นที่ 5


เเล้วลงทุนกับจีนมันจะเข้าข่ายขายชาติใหม่ ?-_-"

โดยคุณ GTX เมื่อวันที่ 09/09/2010 06:52:39


ความคิดเห็นที่ 6


เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปขึ้นรถไฟความเร็วสูงของจีน (CRH) จากกวางโจวไปเมืองอู่ฮั่น หัวใจแทบวายเมื่อเห็นป้ายบอกความเร็วแตะ 350 Km/h นอกจากแอร์พอตลิงค์ที่เซี่ยงไฮ้แล้วยังไม่เคยได้ยินว่าประเทศใดวิ่งจริงเร็วขนาดนี้และยังนิ่มมากขนาดเอาขวดน้ำวางกลับหัวก็ไม่ล้มไม่แพ้เจ้าตำรับจากญี่ปุ่นเลย ถึงจะเป็นรถที่ใช้เทคโนโลยีของต่างประเทศ (เหมือน ICE3 ของเยอรมัน) แต่ทำในจีน ระบบรางช่างจีนก็ทำเอง เลยทำให้คิดไปถึงเครื่องบินว่า เจ-10 เนี่ย มันห่วยแบบที่กลัวๆกันจริงหรือ?


ว่าถึงราคาตั๋วที่ผมนั่งเป็นชั้น VIP ราคาเป็นเงินไทยตกประมาณ 4,000 บาทแลกกับ การเดินทาง 1,100 กิโลเมตร โดยใช้เวลาไป สามชั่วโมงห้าสิบ แต่ถ้าเป็นชั้นธรรมดา ราคาแค่ 2,000 บาท ตกโลละสองบาทเอง เห็นราคาแล้วเครื่องบินก็มีหนาวเหมือนกันนะครับเนี่ย ต่อให้บ้านเราไม่ต้องตีนผีบ้าเลือดขนาดของจีนผมว่าก็มีคนขึ้นแน่นอนไม่ต้องสืบ โดยเฉพาะสายใต้เนี่ยนักท่องเทียวบานเบอะ
โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 09/09/2010 07:05:05


ความคิดเห็นที่ 7


ผมก็อยากให้เป็นไปได้ครับ เคยไปเมืองจีนแล้วนั่งรถไฟความเร็วสูงของจีน ทันสมัยมากๆครับ กว้างกว่าบ้านเรา ซึ่งทำความเร็วได้ถึง 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในตู้โบกี้รถไฟทุกตู้เป็นระบบปรับอากาศ มีจอภาพมอนิเตอร์แสดงข้อมูลความเร็วรถสลับกับอุณหภูมิภายในและภายนอกตัวรถ ที่นั่งนั้นตอนนั้นจะเป็นแบบหันหน้าชนกันเหมือนรถไฟบ้านเราแต่เป็นเบาะอย่างดี นุ่มนวน แต่กว้างและนั่งสะดวกกว่า มีโต๊ะอยู่ระหว่างที่นั่ง ที่ตั๋วมีหมายเลขชั้น คันและเลขที่นั่งระบุเหมือนรถเร็ว รถด่วน บ้านเรา ด้านข้างที่นั่งจะมีถุงใสอาเจียรเสียบไว้กรณีเมารถ ส่วนทางรถไฟจะมีรั้วกั้นไว้กันคนและสัตว์เข้ามาเดินบนทางรถไฟ สถานีรถไฟมีความทันสมัยมาก จัดแยกผู้โดยสารว่าผู้ที่ไปที่ไหนจะต้องไปนั่นรอตรงส่วนไหน(ตรงนี้คนที่ไม่รู้ภาษาจีนหรือไม่มีไกด์นำทางมีโอกาสมึนได้ อย่าหวังพึ่งภาษาอังกฤษ เพราะคนจีนส่วนใหญ่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ แม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐ ) บนรถจะมีพนักงานสาวสวย(จริงๆ)เข็นรถแบบที่ แอร์สายการบินเข็นกัน เข็นไปตามทางพร้อมกับกล่าวเชิญชวนให้รับของไปรับประทาน(ภาษาจีนเช่นเคย) แต่ขายนะครับ ไม่ได้แจกฟรี เหมือนคนเดินขายก๋วยเตี๋ยวรถไฟที่บ้านเรา แต่ของเขาเป็นรถเข็นเพราะทางเดินกว้างมาก แต่ที่นิยมซื้อมารับประทานกันของผู้โดยสารชาวจีนส่วนใหญ่ นิยม เน้นครับ นิยมแกะ(หรือแทะดี)เมล็ดฟักทอง ดังลั่นทั้งคันตั้งแต่หัวโบกี้ยันท้ายโบกี้ เล่นเอาเรานั่งแบบเซ็งๆกด้วยความรำคาญแต่ช่วยไม่ได้ฟ่ะ ที่แปลกใจที่สุดคือ คนที่นั่งโดยสารคนหนึ่ง อ่านหนังสือแล้ววางไว้บนโต๊ะ มีผู้โดยสารขึ้นใหม่มานั่งตรงข้ามก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเสียเฉยๆ เจ้าของหนังสือก็ไม่สนใจใยดี นั่งแกะเมล็ดฟังทองรับประทานเฉย จนเขาอ่านจบแล้ววางไว้บนโต๊ะ พอเจ้าของหนังสือถึงสถานี่ที่จะต้องลงก็เก็บหนังสือใสกระเป๋าลงไป เลยมองกับเพื่อนงงๆ ว่าถ้าเป็นบ้านเราคงมีโวยกันมั่งล่ะฟะ
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 09/09/2010 10:08:09


ความคิดเห็นที่ 8


ผมกลัวอยู่อย่างเดียวคือเป็นได้แค่ข่าวแล้วก็หายไปตามสายลม

เพราะอะไรนะเหรอขนาดรถไฟรางคู่ว่าจะทำมาหลายรัฐบาล

แล้วแต่ก็ไม่เห็นทำสักทีส่วนรถไฟความเร็วสูงลืมไปได้เลยว่าจะมี

เอาแค่รถไฟรางคู่ให้ได้เกิดก่อนเถอะทุกวันนี้เวลาเดินทางโดยรถไฟ

เสียอารมณ์ทุกทีถ้าขึ้นจากอยุธยามาเด่นชัยรถไฟจะเสียเวลาทุกรอบ

หน้าตั่วบอกว่ารถไฟมาเวลา21.45แต่ขึ้นจริง22.45หรือช้าสุดกู๋23.15

ส่วนเวลาถึง6.00-7.00น.ไปถึงบ้านก็เคราพธงชาติตอน8โมงทุกรอบ

ทั้งๆๆทีหน้าตั๋วบอกเวลาถึงตี5กว่าๆๆๆบอกได้คำเดียวว่าเซ็งขึ้นรถเร็ว

กับรถธรรมดาพอกันยิ่งรถธรรมดายิ่งแล้วใหญ่หวานเย็นเชียวยิ่งหน้า

เทศกาลยิ่งไม่อยากขึ้นคนแน่นยังกับปลากระป๋องเคยรถไฟสายอีสานปะ

แทบจะไม่มีแม้แต่ที่จะยืนด้วยซ้ำรถไฟบ้านเราน่าจะมีก่อนชาติอื่น

ด้วยซ้ำแต่งัยกลับล้าหลังกว่าชาวบ้านก็ไม่รู้แหะ

 

โดยคุณ ttrc เมื่อวันที่ 10/09/2010 02:05:32


ความคิดเห็นที่ 9


ทุกอย่าที่ดีๆแล้วถูกล้ม

ดูที่ไหนไม่ได้ต้องดูที่การเมืองและนักการเมือง

โดยคุณ bird เมื่อวันที่ 10/09/2010 11:18:35


ความคิดเห็นที่ 10


ของจีนมีหลายราคาครับอย่างดีมาตราฐานเยอรมัน ราคาโหด มาตราฐานญี่ปุ่นราคาอย่างกลาง มาตราฐานห่วยแบบชุ่ยๆ ราคาถูกไปจนถึงให้ฟรี อยู่ที่คุณจะเลือกเอา
โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 10/09/2010 12:09:49


ความคิดเห็นที่ 11


เห็นว่าล่าสุดนี่จะร่วมทุนกับจีนสร้างรถไฟความเร็วสูงสองสาย คราวนี้อาจจะเห็นฝันเป็นจริงก็ได้ ถ้าไม่โดนเจ๊เกียวขวางซะก่อนนะ ฮึๆๆ

ปล.ตอนนี้การรถไฟกำลังทำทางคู่อยู่เหมือนกันครับ ทำไปเรื่อยๆทีละนิดละหน่อยเลยยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมนัก
โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 10/09/2010 21:40:20


ความคิดเห็นที่ 12


โดยรวมเห็นด้วยครับ

ลองดูระบบขนส่งมวลชนในยุโรปสิครับ

ถ้าเป็นในประเทศไทยผมคิดว่าในเมืองใหญ่อำเภอละ1สถานี(ที่1สถานีเพราะถ้าหลายสถานีจะทำให้วิถีรถเมล์หรือ2แถวเปลี่ยนเล็กน้อย)

เชื่อมต่อสถานีระดับจังหวัด

เชื่อมสถานีระหว่าภูมิภาคนี่หละครับรถความเร็วสูง

ส่วนสถานีขนสินค้าให้แยกกัน

สำหรับรถไฟโดยสารให้ใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ถ้ากลัวไฟฟ้าไม่พอ

ที่ดินการรถไฟมีเยอะมากก็ลองทำเป็นฟาร์มโซลาเซลหรือกังหันลมดูสิครับ

โดยคุณ bird เมื่อวันที่ 10/09/2010 12:48:03


ความคิดเห็นที่ 13


ท่านท้าว บอกว่า ต้องแก้กฎหมาย ก็แก้เลยครับ

ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ในภูมิภาคเอเชีย ที่มีรถไฟใช้

เป็นระบบโลจิสติก ที่มีคุณประโยชน์มหาศาลกับประชาชนที่ยากจนมาก

แต่พัฒนาการของรถไฟไทยช้าเป็นอันดับท้ายๆของเอเชีย....

กับจีนหรือกับใคร ก็แล้วแต่....

ถ้าอยากให้เกิดขึ้นจริง....เอาไอ้คนขวางโลกออกไป  รถไฟไทยก็เจริญนานแล้วครับ

(ความคิดเห็นส่วนตัวเด้อ)ซิบอกไห่......

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 14/09/2010 00:29:19