ถ้าทำได้จะใด้ไม่ต้องไปซื้อของนอกแพงๆ น่าจะประหยัดไปใด้มากนะครับ...ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ
รู้แล้ว มาบอกผมด้วยน่ะครับ ผมก็อยากรู้
ก็ผลิตใช้มาตั้งนานเเล้วนิ ดาป หอก เราก็ตีใช้เอง ธนูก็ทำเอง ปืนใหญ่เราก็ยังหล่อเอง ยังงี้ไม่เรียกว่าผลิตเองอีกรึ
ส่วนตัวคิดว่า รัฐไม่ค่อยสนับสนุนเท่าที่ควร เห็นมีออกมาทำเยอะนะครับ อย่างเช่น เสื้อเกราะ หุ่นยนต์กู้ระเบิด รถยนต์ทหาร ผมว่า คนไทยฝีมือไม่แพ้ชาติใดหลอกครับ แต่มันอยู่ที่การสนับสนุน
แต่ผมก็คิดอีกมุมนึงนะครับ ทำเองอาจจะไม่อร่อย แต่ไปสั่งเขามาอร่อยกว่า และ สั่งแบบพิเศษได้ด้วย อิ่มกันพุงกางเลยละมั้ง ^^
แต่ผมกลัวว่าพัฒนาเองมันจะแพงกว่านำเข้ามาอีกน่ะสิ
ถ้าต้องไปรบอยากนั่งรถหุ้มเกราะนำเข้ามากกว่ารถเกราะไทยทำน่ะ หุหุ
อ้างอิงตามที่คุณpiyapart กล่าวเลยนะครับ
ทั้ง3ข้อเข้าหมดเลย
มีนายทหารท่านนึงเคยพูดไปแบบนี้เลยครับ
โดยท่านอ้างถึงเรื่องรถถัง เรื่องปืนใหญ่รถถัง
ว่าต้องใช้เทคโนโลยีหลอมเหล็กขั้นสูง ด้านในต้องยืดหยุ่น ด้านนอกต้องแข็ง เพื่อทนต่อการรีดของกระสุน
โดยท่านว่าซื้อเขาใช้คุ้มกว่าเมื่อเทียบกับพัฒนาเอง
แต่ในใจท่านอยากใช้ของไทยเหมือนกันครับ
นั่นก็เป็นความคิดหัวโบราณ
การพัฒนาใช้งบสูงแต่การต่อยอดงบจะค่อยๆลดลง
ไม่เคยนึกกันเลยใช่ไหมครับว่าหากพัฒนาแล้วดีจริง
ราคาขายจะมาหักล้งงบในการพัฒนา
และก็อีกอย่าก็ติดการเมืองครับ
.....จริง ๆ แล้ว เราทำอาวุธเองได้ไม่ยากดอกคับทั่น ไม่ต้องห่วงเรื่องเทคโนโลยีด้วย....
.....ก้อแค่ว่า เวลาเราสั่งซื้ออาวุธนี่ ต้องวางเงื่อนไขให้จูงใจบริษัทผู้ผลิตอาวุธ ให้เข้ามาลงทุนผลิตอาวุธในไทย พร้อมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเราด้วย.....
.....ว่าไปก้อเหมือนกับเราลงทุนร่วมกับบริษัทผู้ผลิตอาวุธนั่นแหล่ะ ดีกว่าไปซื้อเศษเหล็กสงครามมือสองมาตุนเอาไว้ จนเป็นกองทัพรีไซเคิลอย่างทุกวันนี้.....
......และก้อยังมีโอกาสที่จะทำให้เราได้เงินจากอาวุธ โดยการจำหน่าย จะจำหน่ายตรง หรือผ่านตลาดสิงคโปร์ก้อได้.....
.....ไทยไม่ใช่ทำอาวุธใช้เองม่ายเป็นดอกคับ ในอดีต สมัยสงครามอินโดจีนฝรั่งเศส เราทำเครื่องบินขับไล่กะเครื่องบินทิ้งระเบิดใช้เองด้วยซ้ำ.....
.....ม่ายงั้นคงไม่สามารถไปท้าฝรั่งเศสรบได้ดอกคับ....
.....ปืนกลมืออูซี่ ปืนเล็กยาวเอช.เค.33 เราก้อทำเอง ทำมาแล้ว ปืนกลบราวนิ่งก์ เอ็ม.2 (ปก.93) เราก้อทำเองได้.....
.....จรวดหางเลื่อน ตระกูลเห่าฟ้า-เห่าไฟ เราทำมาแล้วทั้งนั้น.....
.....แต่ในยุคนี้ อะไรจะสร้างรายได้ที่ดีกว่าการซื้อล่ะคับ ของในค่ายรัสเซีย เค้าก้อรู้กันทั่วโลกว่าถูกกว่าของอเมริกันเกือบสามเท่า แต่พอเราซื้อ เผลอ ๆ จะแพงกว่าของอเมริกันซะอีก.....
.....นี่แหล่ะคับ สาเหตุใหญ่เลย ที่ทำให้เราทำอาวุธใช้ไม่เป็น ต้องซื้อเค้าลูกเดียว.....
งั้นขอถาม X-1 ต่อ นะครับ ในประเด็นเรื่อง JAS-39 ตกลง
แล้ว JAS-39 ของ กองทัพอากาศไทยนั้น ไม่ติด Data Link ,เป็นเครื่องฝึกหรือเป็นเครื่องมือ 2 ตามที่คุณ X-1 ได้เคยบอกไว้จริงหรือเปล่าครับ
ไทยเคยออกแบบเครื่องบินและผลิตเอง
ชื่อ บริพัตร ลองหาดูได้ครับ
บินโชว์ทั่วโลกอีกต่างหาก
แล้วมีเครื่องบินก่อนหน้าที่ซื้อลิขสิทธ์แล้วมาผลิตเองชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว
ลองหาดูนะครับ
....เรื่อง JAS นี่คงต้องรอท่านผู้รู้ชี้แจงอ่ะคับว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ผมเคยโพสไว้หรือไม่.....
.....มาพักหลังนี่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามข้อมูลเท่าไร แต่ก้ออยากให้เค้าเปลี่ยนแปลงความคิดกัน เพราะระบบ DATA LINK จริง ๆ แล้วมันก้อไม่น่าจะมีอะไรที่แพงมาก หรือยุ่งยากจนเราใช้ หรือบำรุงรักษาไม่ได้ และมันก้อเป็นระบบการรบที่ทันสมัยมาก มีผลต่อการดำเนินกลยุทธต่อสถานการณ์ตรงหน้าได้เป็นอย่างดี.....
.....ทหารบกของสหรัฐที่ไปรบในอิรัก เค้าก้อใช้ Data Link กัน คนที่บุกไปข้างหน้าจะส่งข้อมูลสถานที่ สถานการณ์ สภาพเป้าหมายและจำนวนของข้าศึก ผ่านกล้องวิดีโอหน้าหมวก ไปยังคนที่อยู่ข้างหลัง จนถึงกองบัญชาการ ทำให้สามารถวางแผนแก้เกมฝ่ายตรงข้ามได้ดี กำลังที่เข้าไปหนุนช่วย ก้อมีข้อมูลพอที่จะวางจุดเข้าตีโอบ เพื่อทำลายที่มั่นฝ่ายตรงข้ามได้อย่างรวดเร็ว.....
.....หากว่าถอดระบบ DATA LINK ออก JAS ก้อแค่เครื่องบินขับไล่ธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้มีพิษสงอะไรมากไปกว่าเอฟ.5 หรือเอฟ.16 แล้วจะซื้อมาทำไมให้เสียเงินล่ะคับ ซื้อมาแล้วไม่ได้พัฒนากว่าเดิม.....
.....ผมกลัวใจมาตั้งแต่เอฟ.16 ที่ยิงสแปโร่ว์ไม่ได้ ยิงได้แค่ไซไวน์เดอร์ จนต้องมาอัพเกรดกันกะโผลกกะเผลก เพื่อให้ยิงอัมราม ยิงไพธ่อน 5 ได้ ก้อม่ายรู้ว่าป่านนี้ได้ครบฝูงรึยัง....
....เพื่อนบ้านที่เราดูถูกเขาว่าใช้ของตกรุ่น อย่างมิก 21 มิก 23 เนี่ย ดูถูกเค้าไม่ได้อ่ะคับ ของเค้าถึงจะเก่า แต่มันเต็มกว่าเรา ของเราใหม่ แต่พร่อง แถมยังซื้อลูกเดียว ไม่มีกองหนุนคอยเสริม อย่างโรงงานผลิตอาวุธเราก้อไม่มี เครื่องบิน 1 ฝูงโดนยิงตกไปแค่สามลำ ก้อไม่สามารถดำเนินกลยุทธได้เต็มรูปแบบของฝูงแล้ว.....
....นี่แหล่ะคับ ในเมื่อผมเป็นประชาชน ไม่ได้เป็นทหาร หรือตำรวจ ผมก้อย่อมที่จะเป็นห่วงคนที่ใช้อาวุธ ว่าได้ไปแล้วเค้าจะใช้ได้มั๊ย จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ร้ายแรงได้หรือเปล่า เวลาเครื่องถูกยิงตก ทหารอาจจะไม่เสียดายนักบิน นอกจากเสียดายเครื่องบิน แต่ผมเสียดายนักบินมากกว่าเครื่องบินครับ กว่าจะสร้างได้คนหนึ่งไม่รู้ว่าต้องใช้เวลา ใช้เงินเท่าไร ถึงจะขึ้นมาเก่งพอทดแทนนักบินที่เสียชีวิตเพราะเครื่องตกได้.....
.....และที่ยังแหยง ๆ JAS อีกเรื่องก้อคือ อะไหล่ที่จะสนับสนุนการซ่อม และบำรุงรักษาเป็นยังไง มีต่อเนื่องเหมือนของอเมริกาหรือเปล่า....
.....เพราะเห็นแค่รถยนต์อย่าง SAAB SCANIA หรือ VOLVO นี่ก้อซับพอร์ตอะไหล่กันอย่างเต็มกลืนแล้ว ขนาดว่าเป็นรถยนต์ที่คนทั่วไปก้อซื้อขับกันได้อ่ะ แล้วถ้าเป็นอาวุธสงครามที่มีใช้กันเฉพาะกลุ่มอย่างจำกัดอ่ะ ซับพอร์ตมันจะลื่นได้แค่ไหน อย่าลืมว่า อาวุธแม้แต่มีด หากไม่มีหินลับมีดให้ วันหนึ่งมันก้อทื่อเป็นสันขวานได้เหมือนกัน....
.....ผมเป็นคนที่ซื้อ และใช้ของตามความเหมาะสมและจำเป็น จึงไม่ได้สนใจเลยว่าของนั้นมันจะวิเศษไร้ผู้ต่อต้านขนาดไหน ผมจึงสนใจมากในเรื่องบริการหลังการขาย เพราะรู้ว่าของให้ดียังไงมันก้อต้องมีวันชำรุด ต้องซ่อม แล้วมีศูนย์บริการแค่ไหน อะไหล่มีขนาดไหน ตรงนั้นต่างหากที่ผมคิดก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ....
.....ถ้าจะซื้อเพียงเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับสวีเดน ไม่นาน JAS ก้อจะจบลงในหน้าเดียวกับ T.69-2 ที่ดำลงทะเลไป 25 คันนั่นอ่ะ.....
งั้นขอยกตัวอย่างBRT3ละกันครับ
ถ้าเราเอารถเกราะของเราพัฒนาต่อยอดล่ะครับ
เทคโนโลยีไม่ถึงค่อยซื้อ เช่น เครื่องยนต์(หรือจ้างบริษัทผลิตรถในไทยสร้างก็แล้วแต่)
แล้วเรายังต้องซื้อBRT3อยู่หรือไม่
แล้วถ้าต่างชาติสนใจจะเป็นประโยชน์หรือไม่
แล้วต้นกะเนิดBRT3ไม่ลองนึกหรอครับว่าก่อนที่จะเป็นBRT3
ยุเครนใช้งบงิจัยเท่าไรจนเป็นที่ยอมรับ
อย่าที่ท่าน tow บอกอยากกินปลากระป๋อง3กระป๋อง แต่เราผลิตได้100กระป๋อง อีก97กระป๋องก็ขางแถมอัพกำไรอีกนิดหน่อยจะเป็นไรครับ
ขอแสดงความคิดเห็นสั้นๆครับ การสร้างอาวุธปกติน่าจะไม่ใช่เรื่องของกองทัพครับ น่าจะเป็นเรื่องของบริษัทเอกชนที่รัฐบาลอนุญาต และขึ้นอยู่กับระดับความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมในประเทศนั่นเอง อย่าเพิ่งคิดว่าเราเคยทำปืนเล็กใช้เองได้ ความจริงก็เอาเข้ามาประกอบหมือนรถยนต์ที่เราบอกว่าเป็นดีทรอยท์ของเอเซีย ที่บอกว่าทำเครื่องบินขับไล่เองก็สมัยใหนมาแล้ว เทคโนฯก้าวหน้าไปขนาดใหนแล้ว เอาแค่ บ.ฝึกก่อนก็แล้วกัน ถ้าทำเองและมีลูกค้าในประเทศอย่างเดียว รับรองว่าแพงกว่านำเข้าแน่นอน ถ้าจะให้ได้กำไรต้องส่งออกด้วยเท่านั้นครับ ลองไปตรวจสอบให้ดีก่อนครับตอนนี้กฎหมายไทยยังไม่อนุญาตให้ส่งออกอาวุธอยู่เลย
ถ้าไม่เริ่มแล้วจะมีการต่อยอดจนขายได้เปล่าล่ะครับ
พัฒนาต้องลงทุน
แต่ถ้าต่อยอดได้คุ้มเปล่าครับ
ถ้ามัวแต่ง่อยเปรี้ยเสียขางอมืองอเท้าวิ่งเต้นเร่าๆขอซื้ออาวุธ
ให้ต่างชาติเอาเปรียบก็เชิญ
บางครั้งเราจะทำอะไรต้องดูที่เงินที่เรามีและความคุ้มค่าที่จะทำครับว่าคุ้มรึเปล่า...อย่างผมเนี่ยเวลาอยากกินปลากระป๋องสัก 3-4 กระป๋องยังไม่เคยลงทุนสร้างโรงงานปลากระป่องเองเลยครับ.....
ปล.ความจริงเราก็ทำเองหลายอย่างนี่ครับ....ผลิตกระสุน ต่อเรือ รถยนต์ 4x4 เราก็ผลิตนี่ครับ????
ตกลงรถเกราะยูเครนนี่BTR-3 หรือBRT-3 กันแน่ครับ? เพราะเห็นหลายๆกระทู้แล้วที่มีคนเรียกสลับกันไปมา
ขอบคุณครับ
BTRครับจำสับสนไปนิดครับ
รถเกราะBTRครับ
ถ้ารถเมล์ก็BRT
ผมเองไม่ใช่จะคัดค้านเรื่องทำเองใช้เอง แต่สนับสนุนในบางเรื่อง อยากเสนอให้เห็นว่ามันไม่ง่ายอย่างที่หลายคนมอง ไม่งั้นเขาคงทำกันไปนานแล้ว เช่นบอกว่าต้องการของ 3 ชิ้น ทำได้ร้อยชิ้น ที่เหลือก็ขายเอากำไรนิดหน่อยก็พอ มันยากตรงขายนี่แหละครับ ใครจะซื้อ ขนาดกองทัพไทยยังไม่ค่อยกล้าซื้อเลย เพราะอาวุธเป็นเรื่องความเป็นความตายของผู้ใช้ด้วย คนซื้อต้องมั่นใจในตัวสินค้า และผู้ผลิตด้วย ไม่เช่นนั้นเราคงซื้อเครื่องบินจีนมาใช้แล้ว เพราะราคาถูก ของจีนเรายังกลัวเลย แม้ว่าเขาจะมีเทคโนโลยี่ขนาดไปอวกาศแล้ว
ถ้าเราทำเองคนใช้งานคงปอดกว่านี้อีก จึงต้องเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เอาเป็นว่าแค่ลูกปืนเล็กที่มีความต้องการใช้มากมายทุกปีทั้ง 3 เหล่าทัพทั้งฝึกยิง และใช้งานจริง ทำไมโรงงานภายในของเรายังผลิตไม่พอใช้ ต้องซื้อต่างประเทศเพิ่มอีกมหาศาล (ส่วนหนึ่งมีคนไม่ไว้ใจคุณภาพด้วย กำลังการผลิตนั้นเพิ่มได้ถ้าต้องการ )ตรงนี้แหละครับที่ควรทำก่อนเพื่อน ทำอะไรครับ ก็ต้องลงทุนเพิ่มด้านพัฒนาคุณภาพการผลิต และต้องมีนโยบายของรัฐจริงจัง สั่งให้ซื้อในประเทศเท่านั้นแม้จะแพงกว่าซื้อต่างประเทศไม่เกินกี่เปร์เซ็นต์ก็แล้วแต่
ยานยนต์ที่เรามีอุตสาหกรรมด้านนี้รองรับอยู่มาก(แม้ว่าส่วนใหญ่รับจ้างเขาประกอบมากกว่าวิจัย และออกแบบเอง )น่าจะเริ่มทำยานรบใช้เองได้ บางบริษัทเขาก็ทำมาเสนอขายแล้ว แต่ผู้ใช้อีกนั่นแหละไม่ไว้ใจ และผลิตออกมารับรองว่าต้องแพงกว่าของนอกแน่นอนเพราะคนอื่นเขาผลิตจำนวนมาก ลองดูเครื่องบิน เอฟ -1 เอฟ- 2 ของญี่ปุ่น แพงกว่า เอฟ-16 กี่เท่า เพราะส่งออกไม่ได้ สวีเดนก็เช่นเดียวกันแต่ก่อนไม่ส่งออกยกเว้นเพื่อนสแกนดิเนเวียนด้วยกัน เดี๋ยวนี้ต้องส่งออกเหมือนกัน(แต่สองประเทศนี้ต้องระลึกว่าค่าแรงงานแพงด้วย
ค่าใช้จ่ายในการลงทุนวิจัยสร้างอาวุธเองในช่วงเริ่มแรกนี้จะแพงมากนะครับ ลองไปหาดูงป.(เป็นเรื่องที่เปิดเผยตามหน้า นสพ.)ของ สทป.(องค์กรมหาชนของ กห.) ที่เราจะใช้เป็นหัวหอกในการทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ ช่วง 2 -3 ปีที่เริ่มก่อตั้งมา ขณะนี้ผลผลิตยังไม่ออกเลยนะครับใช้ไปกี่ร้อยล้านแล้ว ถ้ารัฐบาลเกิดไปด่วนสรุปว่าไม่คุ้มค่าละก็ยุ่งเลย รัฐบาลต้องให้ความเข้าใจและต้องลงทุนต่อไปอีกหลายปี จึงจะมีผลผลิตในรูปอาวุธที่ไทยออกแบบ และสร้างเอง โดยอาศัยเทคโนโลยี่ที่ทั้งซื้อเขามา ก๊อบปี้มา และคิดเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังต้องผ่านอุปสรรค ปัญญาด้าน กฎหมาย ระเบียบวิธีการที่น่าเบื่อหน่าย แบบราชการไปให้ได้เสียก่อน อย่างไรก็ต้องเอาใจช่วยครับ
มันก็เหมือนกับการผลิตของชิ้นแรกแบรนใหม่ จะสู้แบรนเก่าได้ยังไง แบรนเก่ามันผ่านบทพิสูจน์มาแล้ว ก็เหลือแต่แบรนใหม่ถึงจะดีกว่าแต่ชื่อยังไม่ติดหูก็ยังไม่มีคนใช้ ถ้าให้ผมเลือกใช้ผมก็เลือกรถของไทย (แต่ต้องผ่านสนามทดสอบ)
สมัยก่อนการพิสูจน์ที่ได้ผลที่เห็นทดสอบเกราะกัน เขาให้คนออกแบบใส่เกราะแล้วยิงโดยมีสักขีพยาน
เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ให้เห็นกันในสนามการใช้จริง
ที่ติดไม่ใช่ระบบราชการแต่เป็นระบบทุจริตเพราะระบบราชการถึงจะช้าแต่ไม่มีการทุจริตก็เสร็จแน่นอน ก็ทุกวันนี้มีแต่คนจะหาค่านายหน้างานก็ไม่เดินสิครับ
เป็นสิครับ เพราะกว่าจะได้ปลากระป๋อง 100 กระป๋องเนี่ย ต้องทำอะไรบ้างครับ ตั้งโรงงาน หาซื้อวัตถุดิบ หาวิธีทำ....ใช้เงินเท่าไหร่ เป็นล้านๆแต่ได้ปลากระป๋อง 100 กระป๋อง เฉลี่ยกระป๋องล่ะ 1000 มันไม่ค่อยคุ้มครับ...........ทั้งๆที่มีเงินแค่เดือนๆหนึ่งไม่เท่าไหร่ เอาไปทำอะไรที่จำเป็นกว่าดีกว่าครับ....ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้ผลิตเองนะครับแต่ผมว่าประเทศเรายังมีสิ่งที่จำเป็นมากกว่าผลิตอาวุธใช้เองเยอะครับ
ก็อยู่ที่ว่าเเนวคิดก่อนว่าว่าท่านจะกินเเค่3ป๋องทั้งชีวิตหรือเปล่า
ถ้ากินเเค่3ประป๋องทั้งชีวิตก็ซื้อเค้าดีกว่า เเต่คนเราทั้งชีวิตคงไม่กินเเต่3กระป๋องหรอกมั่งครับ
นั้นก็คงต้องถามท่าน GTX แล้วเหมือนกันครับว่าทั้งชีวิตท่านกินปลากระป๋องมากี่กระป๋องแล้ว....แล้วท่านตั้งโรงงานผลิตปลากระป๋องแล้วรึยัง...แล้วท่านมีเหตุผลอะไรที่ท่านก็กินตั้งหลายกระป๋องแล้วไม่ผลิตกินเองซักที....??? ^_^
ท่าน tow 555+
ถ้าผมมีทรัพย์กร ผมก็จะทำ มันได้มากไว้กินเองขายเป็นรายได้เเต่ไม่ใช้ปัญหาสำหรับเพราะผมมีเงินซื้อต้องไปเดือดร้อนใคร เเละไม่มีใครค้านหรือไม่ขายให้ ผมก็ไม่ง้อไปกินอย่างอื่นเเทนหรือซื้อที่อื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีตรา Natoข้างป๋อง5555+
ซึ่งมันต่างจากประเทศ ที่มีทรัพย์มาก เเต่ไม่ใช้ทรัพย์นั้นให้เป้นประโยชน์ ถึงปีก็ต้องมานั้งเถียงกัน ว่าปีนี้ขอตังซื้อปลากระป๋องซัก2กระป๋องถึงจะหายยาก เเต่เมียให้เงินมาซื้อ1กระป๋อง เเถมโดนสอบเเล้วสอบอีกว่าจะเอาเงินไปซื้ออะไรเเถมปลากระป๋องเเม่ค้าขายเกินราคาอีกเเถมเเม่ค้าไม่พอใจไม่ขายให้อีก : )
เเต่ที่บอกให้ผลิตเองนี้ไม่ใช้ทุกอย่างนะครับ เช่นรถเกาะ หรือปืนยาวอยากได้เเต่เค้าไม่ขายให้ก็ต้องไปง้อเค้า
"ถ้าผมมีทรัพย์กร ผมก็จะทำ"
น้านแหละครับท่าน GTX ประเด็นใหญ่ๆมันอยู่ตรงนี้
ทรัพย์กร ประเทศเรามีอยู่มาก เเต่ท่านผู้นำมองเห็นหรือเปล่านี้ละปัญหาใหญ่ไม่ใช้ทรัพย์กร เก่าจะไป ใหม่จะมาเเต่ไม่รู้ยังเหมือนเดิมหรือเปล่า
ต้องเเก้ที่คนก่อนครับท่าน tow : )
สรุปแบบ คนทำนาอย่างผมนะครับ....
ประเทศไทยไม่สนับสนุนงานวิจัย(งบวิจัยพัฒนาประจำปีงบประมาณ ไม่อยู่ในหัว.....)ประเทศจึงไม่มีเทคโนโลยี เป็นของตัวเอง
และสุดท้าย กินอาหารให้อร่อยแบบไทยๆ ต้องกินนอกบ้านครับ
โดนแน่ๆ ชาวนาอย่างผม โดนแน่ๆ....อิอิ
เมื่อไม่คิดจะเริ่ม ก็อย่าหวังจะพัฒนา
เเม้ล้าหลัง ก็เพราะพึ่งเริ่มหนิ เเต่ ของเก่าเข้า เริ่มมาเป็นร้อยปีเเล้ว
อยากพัฒนาต้องเริ่มทำ ของเเบบนี้ต้องใช้ เวลาเเละ ความต่อเนื่อง ผิด
ถูกเป็นเรื่องของการทดลอง ที่เกิดขึ้นได้เสมอ
** เหมือนอยากจะทำกับข้าวเป็น ไม่รู้จักเริ่มทำ เเล้วมะไหร่จะทำเป็น ทำกับข้าว ก็ต้องใช้เวลา กว่าจะเส็ด เเล้วมันก็ต้องมีรสชาติที่ไม่ลงตัวบ้าง ก็พึ่งเริ่มงะ อยากทำให้อร่อย ต้องใช้ความพยาเเละ ความอดทนซิ ขาดไม่ได้ คือ เงินทุนค่าวัตถุ ดิบ ไม่มีเงิน ก็คงจะได้กินอยู่หรอกนะ
*เเล้ว วันนึงจะรู้ ว่าอาหาร ที่ทำเอง มันอร่อย มันถูก เเละ น่าภูมิใจขนาดไหน ว่าเเล้วก็กระเพราสักจานไป