หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


อนาคต ทอ.ไทย

โดยคุณ : hawkeye เมื่อวันที่ : 15/09/2010 18:45:54

คือว่าในอนาคต ฝูง F-5 E/F ที่เหลือ จะแทนด้วย บ. แบบไหนครับ ส่วนตัวคิดว่าเป็น F/A-50 ของเกาหลี หรือไม่ก็ JAS-39 NG

ส่วน ฮ. อยากได้ Blackhawk แทน Huey ครับ





ความคิดเห็นที่ 1


uh72 ติด hellfire และ hydra 2.75 inch หากติด hydra รุ่นใหม่ที่นำวิถีด้วยเลเซอร์ก็ใช้เป็นฮ.ต่อต้านรถถังได้เลย ปรับปรุงเป็นรุ่น gunship สัก 20 ลำก็พอครับ ในอดีต เยอรมันและฝรั่งเศสก็ใช้ฮ.กาเซล ซึ่งไม่ใช่ gunship แท้ๆเหมือนกันครับ


โดยคุณ nars เมื่อวันที่ 15/09/2010 07:45:57


ความคิดเห็นที่ 2


 
ฮ.ที่จะมาแทนที่ฮิวอี้ uh1และ bell 206  ทบ.120 เครื่องทอ กับทร. อีก ประมาณ 30 เครื่อง ถ้าเปลี่ยนเป็น black hawk ทั้งหมด ลำละประมาณ 15 mus$ ก็ร่วมๆ 2000 mus$ แล้วครับ ถ้ามองไปที่ uh72 (ขนาดกำลังใกล้เคียง uh1 uh1 มี 1 เครื่องยนต์ ประมาณ 1000 hp uh72 มี2เครื่องยนต์กำลังเครื่องละ 700 hp จุคนได้ประมาณ 8 คน 1 ชุดรบพอดีครับ) ราคาลำละ 4.5 mus$ ก็ประมาณ 700 mu$ ทำโครงการทดแทน 10 ปี ปีละ 10 เครื่องก็ไม่เป็นภาระทาง งป.เกินไปครับ
ส่วนเครื่อง f/a50 ราคาพอๆกับ jas39 แต่ประสิทธิภาพ ทั้งด้านความเร็ว ระบบอาวุธ หน้าตัดเรดาห์ rcs เป็นรอง jas39 อีกทั้งเป็นการเพิ่มแบบ บ. โดยไม่จำเป็น ทำให้ต้องรับภาระด้านศูนย์ซ่อมและการสำรองอะไหล่สิ้นเปลืองงป.โดยใช่เหตุครับ
โดยคุณ nars เมื่อวันที่ 15/09/2010 07:38:47


ความคิดเห็นที่ 3


ขอแค่มีเงินครับ  เงินซื้อได้ทุกสิ่งครับ

โดยคุณ RMUTK เมื่อวันที่ 11/09/2010 12:45:36


ความคิดเห็นที่ 4


ส่วนตัวผมว่า F/A-50 ของเกาหลี ไม่น่าจะมีโอกาศประจำการในบ้านเรา นะครับ

โอกาศที่ JAS จะเข้าประจำการ หรือ ตระกูล F-16 น่าจะมีโอกาศสูงกว่า

 

แต่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ

โดยคุณ noharajoker เมื่อวันที่ 11/09/2010 13:56:36


ความคิดเห็นที่ 5


น่้าจะเป็น JAS มากกว่า ลดแบบการประจำการ
โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 11/09/2010 20:56:45


ความคิดเห็นที่ 6


ความคิดตรงกันครับ ผมว่าโอกาศของ F/A-50 ของเกาหลี ไม่น่าจะมีในบ้านเรา ส่วน T-50 คิดว่ายังมีโอกาศอยู่นะครับแทนเครื่องบินฝึกขั้นสูง ในความคิดของผมในอนาคต เราคงมี JAS และ F-35 มาประจำการในเครื่องบินรบหลัก แม้โอกาศของ F-35 จะน้อยเนื่องจากค่าตัวของมัน แต่ผมว่าเราต้องมีมันแน่นอนอย่างน้อย 1ฝูง ไม่งั้นคงเกิดช่องว่างของอำนาจการรบกับเพื่อนบ้านมากเกินไป ซึ่งปัจจุบันผมว่าได้เกิดขึ้นแล้วกับทางใต้และตะวันออก ทางตะวันตกถ้าดูจากข้อมูลการซื้อของเขาแล้วผมว่าคงอีกไม่นาน

โดยคุณ SPECI เมื่อวันที่ 11/09/2010 21:59:36


ความคิดเห็นที่ 7


จากการให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทอ.เมื่อคราวพาสื่อไปเยี่ยมชม บน.๗ เมื่อเดือนที่ผ่านมา  ท่านพูดประมาณว่า มีความต้องการหาอากาศยานทดแทน F-5E/F 211 และ F-16ADF 102  หากให้มีอากาศยานน้อยแบบ คงจะมี Gripen 39 และ F-16 MLU ประจำการเท่านั้น  แต่อย่างว่าหละครับ เราติดตรงไม่มีเงิน และกลายเป็นแพะการเมือง ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า ทอ.เพื่อนบ้านทางใต้ เพิ่งรับมอบ Su-30 และกำลังจะซื้อ Gripen 39 NG แถมข้างบ้านก็เพิ่งจัดหา MiG-29 SMT หลังโหนกไป...ส่วนเรา แค่เพิ่มกิปเปนอีก ๖ ตัวยังอัดกันซะเหนื่อยเลยครับ
โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 12/09/2010 03:53:28


ความคิดเห็นที่ 8


นักการเมืองมาเลย์เคยให้สัมภาษณ์ไว้ค่อนข้างนานมากแล้ว

เค้าบอกไว้ว่าแค่เอาความคิดของไทยมาพัฒนาปรับปรุงมาเลย์ก็ไปไกลแล้ว

สรุปง่ายๆคือเมื่อสมัยคุณทักษิณเราเคยมีโครงการจัดหาเครื่องบินที่จะมาประจำการที่สุราษฏ์โดยเล็งไปที่ SU 30 MKT กับเจ้า JAS 39 CD กรณีการจัดซื้อ SU 30 MKT โดยการจัดซื้อแบบการแลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตรของไทยพร้อมกับการชำระหนี้ค่าข้าวเดิมที่ติดค้างกันอยู่ ผลปรากฏว่าทางด้านใต้ของเราแอบซุ่มซื้อเจ้า SU 30 MKM มาจนได้แล้วมีออฟชั่นเหมือนกันด้วยคือการแลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตรยางพารารวมทั้งการส่งนักบินอวกาศคนแรกของเค้าขึ้นไปด้วย แล้วตอนนี้ข่าวที่กำลังมาแรงแซงสะแหกโค้งเลยก็คือมาเลย์เค้าเชิญชวนให้ SAAB ส่ง JAS 39 NG เข้าประกวดราคาจัดหาเครื่องบินมาทดแทน MIG 29 N ที่ทยอยปลดประจำการ อยากบอกตรงๆการเมืองเราไม่นิ่งพอก็เลยทำให้การจัดซื้อไม่นิ่งด้วย กองทัพอากาศต้องชี้แจงเหมือนกรณี JAS 39 นี้แหละเป็นการดีอย่างมากเลย สู้กะโจรใส่สูทในสภาต้องใช้สื่อมวลชนเค้าช่วยด้วย เมื่อก่อนเราเคยซื้อ F/A 18 เค้าก็ซื้อตามเป็นต้น

โดยคุณ ddd2521 เมื่อวันที่ 12/09/2010 04:33:25


ความคิดเห็นที่ 9


ถ้าตามข่าวของ ท่านท้าวฯ นั่นย่อมแสดงว่า โอกาสที่ Gripen NG นั้นอนาคตน่าจะมากกว่า F-35A ที่เกิดความล่าช้าและค่าตัวที่สูงขึ้นเท่าตัวได้ใช่ไหมครับ
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 12/09/2010 04:44:09


ความคิดเห็นที่ 10


ขอบคุณและถูกใจความคิดเห็นท่าน ddd2521 มากๆๆ เลย ประมาณนั้นหละ
โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 12/09/2010 08:59:58


ความคิดเห็นที่ 11


ลองไปหา TANGO เล่มล่าสุด หน้าปกเรือบรรทุกเครื่องบินนิมิต์ มาอ่านนะครับ ในเรื่อง F-5 ฝูงสุดท้าย  เกี่ยวกับ F-5 สามแบบที่ได้รับการปรับปรุงและถือว่าดีที่สุดในโลก  ที่ให้ไปอ่านเพราะ หน่วยงานของ ทอ.บางหน่วยให้ความสนใจเรื่องนี้มาก...และอาจจะมีแนวโน้มปรับปรุงยกระดับรอบที่ ๓ อีกครั้งเพื่อต่ออายุการใช้งานจนกว่า F-35 จะเปิดสายการผลิตเพื่อบรรจุเข้าประจำการจริงๆ


โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 12/09/2010 20:40:59


ความคิดเห็นที่ 12


ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า ความต้องการเครื่องบิน F-35A ของกองทัพอากาศยังมีอยู่ แต่ทีนี้สงสัยครับว่า ถ้าหากว่าดำเนินการปรับปรุง F-16A/B ที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อยืดอายุออกไปกับการอัพเกรด F-5E/F รอบที่สามเพื่อรอ F-35A อันไหนน่าจะคุ้มค่ากว่ากันครับ และสมมุติว่า อัพเกรด F-5E/F ต่อไปนั้นก็แสดงว่า โอกาสของ JAS-39 ฝูงต่อไปคงมีโอกาสน้อยเต็มที

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 13/09/2010 04:12:08


ความคิดเห็นที่ 13


ผมว่าเหตุผลอีกอย่างคงไม่ใช่แค่การเมืองหรอกครับ ผมว่าการจัดซื้อเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่พัฒนาขึ้นจากเดิมเลย ลองคิดดูนะครับเราทั้ง3เหล่ามักจะจัดซื้ออาวุธพร้อมๆกันยังงัยไม่รู้ ทั้งๆที่งบเรามีจำกัดแต่ต้องแบ่งออกเป็น3ส่วนอีก ยิ่งน้อยลงไปอีก พอซื้อก็ซื้อได้ทีละน้อยๆ พอซื้อน้อยดีลก็ได้น้อย ผลตอบแทนทางการค้าก็น้อยตามไปด้วย ผมมีแนวทางจะเสนอครับ(ที่จริงเคยpost ลงweb เราแล้วแต่โดนเกรียนตบซะมึนเลย นานมากกว่าจะกลับมาpostใหม่) แนวทางการจัดซื้อที่ละอย่าง หรือทีละเหล่า ลองคิดดูนะครับถ้าปีที่ ท.อ.ซื้อเครื่องบินรบก็จัดงบให้ท.อ.ไปเลย เหล่าอื่นรอปีถัดไปหรืองบถัดไป ถ้าซื้ออาวุธที่ใช้ร่วมกัน เช่น ฮ.ก็ซื้อพร้อมกันทั้ง3เหล่าไปเลยได้แล้วแบ่งกันไปเลยว่าเหล่าใดได้กี่ลำเหมือนที่บราซิลทำลดแบบลดการซ่อมบำรุงลดฯ..ถ้าทำอย่างนี้เรามีพร้อมทุกอย่างแน่
โดยคุณ SPECI เมื่อวันที่ 13/09/2010 11:19:03


ความคิดเห็นที่ 14


พูดถึงอนาคตของ ท.อ. ทำให้นึกถึงอนาคตของทั้ง3เหล่าครับเท่าที่ได้ข้อมูลจากเพื่อนๆทั้งหาเอง ผมว่าน่าเป็นห่วงมากไม่รู้ว่าเพื่อนๆคิดเหมือนผมหรือเปล่า งงใช่มั้ยครับเรื่องอะไร เรื่องนี้ครับเพื่อนๆหลายคนคงรู้นะครับว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้ง3เหล่าต้องปลดประจำการอาวุธหลายอย่างแทบจะพร้อมๆกันเสียด้วยสิครับ แต่ละเหล่าทัพต้องใช้งบประมาณมหาศาลเสียด้วยในจัดหามาทดแทนเสียด้วย แค่ ท.อ. ก็มึนครับ ภายใน10-20ปีนี้เราต้องปลดประจำการและจัดหาทดแทน 60-90ลำ แค่ 6ลำน้ำลายเต็มสภา ไหนจะ ทบ. ทร.เรือดำน้ำ รถถัง ฮ. ปืน รถเกราะ ปืนใหญ่ ฮ่าๆตาลาย.(สงสัยต้องใช้ของเก่าต่อไป)

ป.ล.จะช่วยจ่ายภาษีทุกปีแล้วกันครับ จะไม่เบี้ยวเลย ถึงเบี้ยน้อย..ไม่น้อยก็เถอะ แต่อย่างฝันว่าผมจะบริจาคให้พรรคการเมืองนะครับ

โดยคุณ SPECI เมื่อวันที่ 13/09/2010 11:48:03


ความคิดเห็นที่ 15


ผมว่าแนวทางของเราในอนาคตสำหรับไทยเราสามเหล่า

คือ

1.กองทัพบก ควรจะเสนอโครงการตั้งโรงงานผลิตรถถัง รถหุ้มเกราะ

การผลิตนั้นเป็นการซื้อสิทธิบัตรมาผลิตตัวรถระบบอาวุธต่างๆเเละเครื่องยนต์ผมว่า เราลองซื้อเขามาใช้ก่อนดีไหม เพราะเราต้องพัฒนาการสร้าง

ตัวรถให้เก่งๆ ก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่ อาวุธประจำกายทหารปลุกผีโครงการ เอชเค33มาอีกครั้งแต่ไม่ได้ผลิตเอชเค33นะครับ เพียงแต่

เราเรามาทบทวนการผลิตอาวุประจำกายใหม่อีกครั้งและทำออกมาให้ดี

เป็นการเริ่มต้นการพึ่งพาตนเองในทางที่ถูกต้อง

2.กองทัพเรือจากกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ในเมื่อครั้งพระองค์เสด็จไปทำพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ลงน้ำ

กองทัพเรือไทยสามารถผลิตเรือขนาดเล้กใช้งานเองไว้ได้แล้ว ค่อย

ต่อยอดไปผลิตเรือขั้นสูง ต่อไป ผมคิดว่า ทฤษฏีการพึ่งพาตนเอง

เป็นทฤษฎีที่ดีมาก  หากเราผลิตเรือรบ ขนาดเล้กเช่นเรือตรวจการณ์

ติดอาวุธนำวิถี มีขีดความสามารถในการลาดตระเวนรักษาเขตน่านน้ำของไทย จำนวนมาก ผมว่าจะช่วยขจัดปัญหา เรือโจรสลัด ได้เยอะเลยครับ

3. กองทัพอากาศ จากที่เราได้สั่งซื้อ กริพเพน 39 ซี/ดี ไปแล้ว

หาก12เครื่องที่สั่งไปมันแพง หลังจากรับเครื่องที่12แล้ว ลองมองดู

กริพเพน เอ/บี มาอัพเป็น ซี/ดีจะดีไหม??? เอามาลงแทน เอฟ-5เอส/ที

ที่อุบล ซัก16-24เครื่อง  โครงการเอ็มแอลยู  และ เหล่ตาไปมองเอฟ-16ซีดี บลอค40 /42มั้ย ????

โดยคุณ TemplaKnight เมื่อวันที่ 14/09/2010 00:03:37


ความคิดเห็นที่ 16


เรื่องอัพ F5 ไม่ค่อยอยาก เชียร์ เลย เพราะ เก่ามากแล้ว กลัวอัพแล้วไม่้คุ้ม เพราะ F35 ไม่รู้จะได้เมื่อไหร่
โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 14/09/2010 20:58:29