A-2 Savage

เอ2 ซาเวจ แต่เดิมชื่อว่าเอเจครับ (ไม่ใช่ยี่ห้อทำวิทยุนะ) ออกแบบมาเพื่อทิ้งระเบิด แต่ไม่ใช่ระเบิดธรรมดานะครับ พวกให้บรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ เรียกว่าเป็นเครื่องทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ประจำเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ บินครั้งแรกในปี1948 ประจำการในปี1949 ผลิตออกมา 143ลำ มีสองรุ่นครับคือเอเจ-1 และ เอเจ-2

เนื่องจากไม่เคยออกรบ (ไม่เคยได้ทิ้งนิวเคลียร์) เอ2จึงไม่โด่งดังเหมือนเอ-1ครับ

A-3 Skywarrior

เอ3 สกายวอร์ริเออร์ เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน และแน่นอนว่าต้องบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ได้ เพราะเป็นเทรนที่กำลังฮิตในยุคสงครามเย็น แต่ก็มีการผลิตออกมาในหลายรุ่นและหลายหน้าที่ เช่นในสมรภูมิแรกคือสงครามเวียดนาม เอ3ทำหน้าที่เป็น เครื่องเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ เครื่องสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และลาดตะเวนแอบถ่าย เอ้ยถ่ายภาพทางอากาศ

เอ3 บินครั้งแรกในปี1952 ประจำการในปี1956 ผลิตออกมาได้ 282ลำ ก็ปลดประจำการในปี1991 (รุ่นอะไรก็ไม่รู้นะ)

อ๊ะ...ทันใจวันรุ่นจริงๆ

A-4 Skyhawk

คิดว่าหลายๆคนคงรู้จักเจ้าตัวนี้ดี เอ4 สกายฮอว์ค เครื่องบินโจมตีที่ดังระเบิดระเบ้อ ไม่แพ้เอ1รุ่นพ่อ บินครั้งแรกปี1954 ประจำการในปี1956 กว่าจะปลดก็นานโข คือนาวิกฯสหรัฐปลดในปี1998 ส่วนกองทัพเรือสหรัฐปลดในปี2003 เอ4เป็นเครื่องบินโจมตีประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่มีประสิทธิภาพดี แต่ก็มีข้อเสียคือเรื่องของความเร็วที่ค่อนข้างอืด ทำให้มักตกเป็นเหยื่อของปตอ.ง่ายๆ ยิ่งถ้าเจอจรวดแซมนี่ไม่ต้องพูดถึง

เอ4 ออกศึกแรกในสงครามเวียดนาม ในวิกฤตการณ์อ่าวตังเกี๋ยปี1964 โดยออกบินเพื่อโจมตีฐานทัพเรือเวียดนามเหนือ ที่มะกันทึกทักเอาเองว่าถูกโจมตี ผลก็คือเอ4ถูกปตอ.สอย และนักบินถูกจับ สรุปเอ4เป็นเครื่องบินลำแรกที่ถูกสอยโดยเวียดนามเหนือ และนักบินที่ถูกจับก็เป็นคนแรกด้วย แต่ถึงเปิดตัวมาจะดูไม่งามนัก แต่ตลอดสงครามผลงานของมันก็เป็นที่น่าพอใจ และยังสามารถสอยมิก17ได้ด้วย

ทางด้านตะวันออกกลาง อิสราเอลได้รับเอ4จากมะกันไปใช้รบรากับอาหรับ ทั้งสงครามในปี1967 และสงครามยมคิปปูร์ในปี1973 รวมทั้งเลบานอนในปี1982ด้วย เช่นเดียวกัน นักบินยิวสามารถสอยมิก-17 (อีกละ) ของอียิปต์ร่วงได้ และมีผลงานดีเยี่ยมในการทำลายฐานปล่อยจรวดแซมของข้าศึก

สงครามฟอล์กแลนด์ ปี1982 อาเจนติน่าใช้เอ4 จมและทำความเสียหายให้กับกองเรืออังกฤษไปหลายลำ

ต่อไปนี้คือรายชื่อประเทศที่มีเอ4ประจำการ จะเห็นว่ามีไม่ค่อยมากนัก

สหรัฐ,ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์,อาเจนติน่า,บราซิล,คูเวต,อิสราเอล ส่วนเพื่อนบ้านเราก็มี มาเลเซีย,สิงคโปร และอินโดนีเซียครับ

A-5 Vigilante

เอ5 เวอร์จิแล็นส์ เป็นเครื่องบินทิ้งนิวเคลียร์ และลาดตะเวนประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน มีใช้แต่ในสหรัฐเพราะหวง(ฮา) บินครั้งแรกในปี1958 และประจำการในปี1961 ผลิตออกมา158ลำ จึงปลดประจำการในปี1980

เอ5เคยออกสนามรบครั้งแรกในสงครามเวียดนาม เนื่องจากไม่ได้ทิ้งนิวเคลียร์ จึงมีหน้าที่ในการลาดตะเวน แต่ก็มีอันเป็นไปทั้งจากอุบัติเหตุ จรวดแซม และโดนมิก21สอย หลังจากนั้นก็ไม่ได้ออกรบอีกเลย

A-6 Intruder

และแล้วก็มาถึงเครื่องบินที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดี ผมเองก็ชอบและรู้จักจากสมรภูมิ เอ6 อินทรูเดอร์ เป็นเครื่องบินโจมตีที่ดังจนต้องเอาไปสร้างเป็นหนัง เรื่องไฟท์ออฟอินทรูเดอร์ ด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครคือลำตัวตุ้ยนุ้ย ออกจะน่ารักกว่าที่จะเป็นเครื่องบินรบ และบินได้ค่อนข้างช้า พอๆกับเอ4 เอ6บินครั้งแรกในปี 1960 ประจำการในปี1963 ผลิตออกมากเกือบจะ700ลำ จึงปลดประจำการในปี1997

ศึกแรกของเอ6คือ สงครามเวียดนาม ในหน้าที่ถล่มเป้าหมายต่างๆในเวียดนามเหนือ และในรุ่นเออี 6 ซึ่งเป็นรุ่นสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ก็มีบทบาทสำคัญในการป่วนระบบเรดาห์ของจรวดแซม หลังสงครามครั้งนี้ก็ยังไปป่วนแถวๆเลบานอน,ซีเรีย,ลิเบีย และครั้งหลังสุดในสงครามอ่าวด้วย

ไม่ทราบว่าเหตุผลใด สหรัฐจึงไม่มีนโยบายที่จะส่งออกเอ-6 ให้โกอินเตอร์สู่ตลาดโลกเลย (ฮา)

A-7 Corsair II

ตัวนี้น่าจะเป็นตระกูลเอลำแรกๆที่คนไทยรู้จัก เพราะเคยประจำการอยู่ในทร.ไทยเรานี่เอง เอ7 คอร์แซร์สอง (คอร์แซร์แรกน่าจะเป็น เอฟ4ยู คอร์แซร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง) ออกแบบมาเพื่อประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน แต่ก็บินจากพื้นดินได้แบบที่พี่ไทยทำ เพราะตอนนั้นเรือจักรียังไม่มา(ฮา) บินครั้งแรกในปี1965 และประจำการในปี1967 ผลิตออกมาเกือบ1600ลำ นับเป็นเครื่องบินโจมตีอีกลำที่ประสบความสำเร็จสูง โดยสหรัฐฯปลดประจำการในปี1991 ส่วนโปตุเกสทนใช้ไปจนถึงปี1999

เอ7 นับว่าเป็นของใหม่ ถูกส่งลงศึกแรกในสงครามเวียดนาม ด้วยเอกลักษณ์คือมีท่อรับลมอยู่ใต้จมูก และบรรทุกระเบิดพะรุงพะรัง แต่บินเร็วกว่าเอ4และ6 ไปร้อยกว่ากิโล แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโดนว่าช้าอยู่ดี เอ7ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายทั้งในเวียดนามเหนือและกัมพูชา ตลอดสงครามนับว่าผลงานเป็นที่น่าพอใจ หลังสงครามเวียดนาม มันยังมีบทบาทในการโจมตีเกาะตัง ซึ่งเขมรแดงจี้เรือมายาเกซไป ทำให้นาวิกฯสหรัฐต้องไปช่วยลูกเรือออกมา นอกจากนี้ยังมีบทในซีเรีย,เลบานอน,ลิเบีย,อิหร่าน,ปานามา และสงครามอ่าว

ประเทศที่มีประจำการเอ7 นับว่ามีไม่กี่ราย ปัจจุบันที่ยังบินได้คือเอ7ของกรีซ ส่วนไทยเราบินไม่ได้หรือปลดไปแล้วในปี2007 ส่วนสหรัฐและโปตุเกสก็ปลดไปแล้วเรียบร้อยเช่นกัน

A8 ไม่มีการกำหนดออกมาครับ

YA-9

วายเอ9 ก็คือเครื่องบินโจมตีต้นแบบของเอ10ครับ บินครั้งแรกในปี1972 ผลิตออกมาแค่2ลำ ก็ยกเลิกโครงการซะงั้น ซึ่งดูๆไปก็เหมือนเอ10 แต่ไม่เหมือนตรงตำแหน่งของเครื่องยนต์ครับ ที่ตอนแรกอยู่ข้างลำตัวอยู่ดีๆ ไหงตอนมาไปอยู่ที่หางเสือได้ก็ไม่รู้ ส่วนปีกตรึงเหมือนกัน ส่วนหน้าที่แหลมๆพอเป็นเอ10 ทำไมหน้าถึงมู่ถู่ไปได้ 555

A-10 Thunderbolt II

ในที่สุดก็มาถึงเครื่องบินโจมตีขวัญใจมหาชน เอ10 ธันเดอร์โบลสอง (ธันเดอร์โบลหนึ่ง น่าจะเป็นพี47ในสงครามโลกครั้งที่สอง) เครื่องบินโจมตีที่อืดที่สุดในตระกูลแบบจงใจ ด้วยเอกลักษณ์คือเครื่องยนต์สองเครื่องที่หางเสือ ปีกตรึงราวกับกลับไปยุคWW2 และหัวเครื่องที่มน มีปืนวัลแคน30มม.อยู่ใต้หัวเครื่อง ราวกับคาบบุหรี่อยู่ยังไงอย่างงั้น พร้อมกับเสียงปืนมรณะดังแท่ดๆ แรงจนสามารถถล่มรถถังได้ นอกจากนี้ยังมีหมัดเหล็กอย่างจรวดมาเวอริค ทำให้เอ10ถูกขนานนามว่าเป็นเครื่องบินพิฆาตรถถัง

เอ10 บินครั้งแรกในปี1972 สืบทอดเจตนารมณ์ของวายเอ-9 ผู้ตกรอบเป็นเอ(เอฟ) ที่ไม่ได้ไปต่อ(ฮา) แต่กว่าจะได้ประจำการก็ปาเข้าไปปี1977 จนถึงปัจจุบันผลิตออกมาแล้ว700กว่าลำ แต่ก็ยังไม่มีการปลดประจำการ ซ้ำยังจะต่ออายุออกไปอีก ดีไม่ดีคิดดู(แถมไม่ขายให้ชาวบ้านอีกแน่ะ)

เนื่องจากประจำการช้ามันจึงไม่ได้ออกศึก จนถึงสงครามอิรักในปี1991 ซึ่งทั่วโลกแซ่ซ้องว่าเป็น ยุทธการยำรถถังที่ไม่มีทางสู้โดยแท้ แต่ก็มีชัยชนะทางอากาศเมื่อสอยฮ.อิรักร่วงกลางคูเวต โดยมีเอ10ตกไปแค่4ลำ แตกต่างจากผลงานที่ล้างผลาญอย่างสูง หลังจากนั้นก็ไปป่วนในบอสเนียปี1995 โคโซโวในปี1999 และสงครามล่าสุดในอัฟกานิสถาน(2001) และอิรัก(2003) จนถึงปัจจุบันนี้

A11 ไม่มีการกำหนดออกมาครับ

A-12 Avenger II

มาถึงเครื่องตระกูลเอลำหลังสุด ที่สร้างความประหลาดและอะเมซซิ่งอเมริกาอย่างมาก ด้วยรูปร่างที่ใครเห็นก็ต้องบอกว่า สามเหลี่ยมบินได้ชัดๆ โดยตั้งใจจะออกแบบมาเพื่อแทนเอ6 อินทรูเดอร์ที่ปลดประจำการในปี1991 เพื่อประจำกองทัพเรือ โดยมีคุณสมบัติล่องหนด้วยนะเออ

เอ12 อะเวนเยอร์สอง (อะเวนเยอร์หนึ่งคือ ทีบีเอฟยุคสงครามโลกครั้งที่สอง) ออกแบบโดยแม็กโดนัล ดักลาส แต่ไม่ทราบว่าเนื่องจากประหลาดเกินไปหรือไม่ ยังไม่ทันจะสร้างออกมาซักลำ ก็ถูกแบนยกเลิกโครงการไป ลำจริงๆที่จอดแสดงโชว์ในสหรัฐนั้นเป็นเป็นแค่แบบจำลองเท่าของจริง

ได้มีการประมาณว่าหากสร้างมาจริงจะมีค่าตัวลำละกว่า165ล้านดอลลาร์ และบินช้ากว่าที่คิดคือแค่500กว่ากิโลฯ และยังสามารถพับเก็บปีก เพื่อจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบินได้ด้วยนะเออ

ก็หมดไปแล้วนะครับสำหรับเครื่องบินตระกูลเอ เครื่องบินโจมตีของสหรัฐฯตั้งแต่ยุคแรกๆจนปัจจุบัน (ทำมาจนจะเที่ยงคืน55) ก็จะเห็นการพัฒนา จนไม่แน่ในอนาคตอาจจะมีเครื่องตระกูลเอแบบ เอ12 โผล่มาก็ได้ใครจะไปรู้ 55

ขอบคุณที่ติดตามชมครับ^_^

A-8 คือ Harrier ครับ แต่ต้องเติม V เพิ่มขึ้นมาเพราะ สามารถขึ้นลงทางดิ่งได้ครับ เลยเป็น AV-8

A-11 ( หรือ A-12 เดิม ) คือ YF-12 Blackbird โดยแต่เดิมมีการแผนแบบบ.โจมตี ความเร็วสูงในช่วงสงครามเย็นขึ้นมา คือ A-11 แต่สุดท้าย ก็ตกลงคัดเลือกแบบ YF-12 ที่มีประจำการอยู่แล้ว มาพัฒนาแทน จึงได้รหัส A-12 และถูกใช้งานในส่วนของงาน CIA

แต่เนื่องจาก A-11 เป็นแค่รูปวาดทางเทคนิค คาดว่า ต่อมาจึงปรับให้ A-12 เดิม มาเป็น A-11 แทน เพราะมีการใช้งานจริง เดี๋ยวผมของค้นรูปหน้ากล่องโมเดล ของยี่ห้อ Revell มาให้ครับ

ภาพหน้ากล่องครับ

และชุดแต่งของ Kiwi Resin ใช้กับโมเดล อิตาเลรี่ เพื่อทำเป็น A-12 ในนามเรียกของหน่วย CIA

ยังมีอีกหลายตัวครับคุณ Tan 02

F/A-18

A-16 (F-16)

A-37

AC-47

ฯลฯ

ภาพดีไซด์ ของ Lockheed A-11 ที่นำเอา YF-12 มาดีไซน์ใหม่

ผมว่านะที่เอ-12มันไม่ได้เข้าประจำการเพราะใช้งบประมาณมากแถมยัง

ใช้เทคโนโลยีสูงและตอนนั้นเมกันน่าจะถูกตัดงบประมาณทำให้ต้อง

ยกเลิกเจ้าเอ-12ไปพี่กันจึงหันไปพัฒนาเอฟ-18อี/เอฟขึ้นมาทดแทน

เจ้าซุปเปอร์ฮอรเน็ทจึงเกิดมาด้วยเหตุนี้ส่วนเจ้าA-10แรกๆๆๆ

พวกผู้ใหญ่ในกองทัพพี่กันไม่ปลื้มสักเท่าไหร่ออกจะเป็นลูกเมียน้อย

สักด้วยซ้ำเลยจะคิดนำเอาเอฟ-16มาดัดแปลงเป็นเอ-16แต่พอทำ

ไปแล้วมันไม่ดีเพราะเอฟ16นั้นเครื่องยนต์เดียวแถมติดอาวุธได้น้อยกว่า

เอ-10มากจึงล้มเลิกเจ้าเอ-16ไปเลยหันมามองเอ-10สงครามที่สร้างชื่อ

ให้เอ-10น่าจะเป็นสงครามอ่าวเปอร์เซียรอบแรกที่ปราบรถถังได้นับพัน

คันแถมสอยเอาฮ.ไปสองลำกลางคูเวตความทนทานใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่

ติดเกราะรอบตัวปืนขนาดเล็กไม่สามารถระคายผิวมันได้เลยเจ้าเอ-10

จึงได้ฉายาวอร์ฮอก(สะกดผิดขออภัยด้วย)หรือหมูป่าเขี้ยวตัน

ขอบคุณสำหรับเสียงตอบรับของเพื่อนๆสมาชิกครับ

และก็ว่าแล้วว่าต้องมีคนทักว่ายังไม่ครบ 555 แต่ผมดูแล้วพวกนี้วิกิบอกเป็นตระกูลเอแต่แยกออกมาครับ (Non-sequential designations)

F/A-18 / F/A-18E/F • A-26 • A-29 • A-37

(เอ29 ก็คือซูเปอร์ทูคาโนที่มะกันใช้ในอิรักตอนนี้ครับ) และ

ท่านjuldas  ครับทีแรกผมก็งง นึกว่าเป็นเอ12ของซีไอเอเหมือนกันแหละครับ แต่พอคลิกดู อ้าวไหงออกมาเป็นสามเหลี่ยมเมอร์บิวด้าไปได้ 555 เพราะเอ12ที่เคยรู้จักจะเป็นญาติแบล็กเบิร์ดมากกว่า

ส่วนท่านท้าวครับผมขอรวมเฉพาะตระกูลเอเฉยๆนะครับ เพราะพวกเอที่พ่วงตัวอื่นมาด้วยเช่น AC47ซึ่งจริงๆมาจากC47 แต่ดัดแปลงเป็นกันชิฟโจมตีจึงเติมเอข้างหน้า ไม่น่าจะจัดว่าเป็นตระกูลเอครับ น่าจะตระกูลซีมากกว่า หรืออย่างเอ5 รุ่นลาดตะเวนก็มีการเติมอาร์เข้าไปเป็น อาร์เอ5 ก็ไม่จัดเป็นเครื่องบินตระกูลอาร์เช่นกันครับ^_^

เพราะผมกำหนดตามUnited States tri-service attack aircraft designations post-1962 ครับ ทำให้เครื่องรุ่นสงครามโลกครั้งที่สองหลายๆตัวไม่ได้นับด้วย

ในเรื่อง A-8 กับ A-11 แม้แต่ชาวสหรัฐเอง ก็ยัง งง และ ยังไม่ทราบเหตุผลเหมือนกัน เช่น ถ้า AV-8 ใช้ในดีไซน์รหัส V ก็ควรจะใช้ AV-6B

2. The DoD designation system dictates that the AV-8 should have a designation in the "V"-series, with "A" as a modified mission symbol. However, it is incorrectly placed in the "A"-series as A-8 with "V" as the aircraft type symbol. Recent research by Andreas Parsch indicates that the DoD assigned the designation AV-6B to the aircraft in 1970. Judging from the fact that the same description for the aircraft was seen for the AV-8A designation in 1974, it seems that initially at least the correct designation (AV-6B) was assigned.

3. There is some confusion regarding the designations of A-11 and A-12 as they relate to the Blackbird. The popular explanation is that Lockheed assigned the designation A-1 to the first preliminary design of the Blackbird, and continued in sequence with new designs until the final prototype, the A-12. However, in some documents the aircraft is referred to as the A-11, and Kelly Johnson himself is said to have referred to the aircraft as the A-11. In addition, when President Johnson publicly revealed the existence of the Blackbird, he referred to it as the A-11. Some sources suggest that this was a slip of the tongue, but in any case, both designations are non-standard. The Blackbird was not even considered as an attack aircraft until much later (in the form of the B-71), and both A-11 and A-12 are not in keeping with the chronological assignment of other numbers of that era in the "A" series. Finally, the A-12 was subsequently assigned to the A-12 ATA, precluding the possibility that the A-12 was a standard designation.

4. The Blackbirds original designations (A-11 or A-12 or both - see note 3) are both non-standard. This leaves the A-11 designation unassigned in the the Joint DoD designation system of 1962.

 ผมเลยคิดว่า Code A-Fighter ของแบบ บ. ร่วม 3 เหล่า น่าจะเป็น

A-1 Skyraider

A-2 Savage

A-3 Skywarrior

A-4 Skyhawk

A-5 Vigilance

A-6 Intruder

A-7 Corsair

A(v)-8 Harrier

YA-9 

A-10 Thunderbolt

A-11 Tagboard

A-12 Avenger II 

เอออ.. อยากจะเสริมนิดนึงอะครับ คือแบว่าผมเคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง เรื่องการกำหนดชื่อให้กับอากาศของกองทัพอเมริกา ผมจึงขอสรุปดังนี้ครับ ว่าเครื่อง AV-8 นั่น เป็นเครื่องบินที่ทุกจัดอยู่ในหมวดV แต่กำหนดภาระกิจ ให้ใช้ในการโจมตี จึงเพิ่มA นำหน้าเข้าไป จึงกลายเป็น AV-8 หลักการเดียวกับ เครื่อง (O)V-10  และ V-22 (มีรุ่นเฉพาะทางอย่าง MV-22 เป็นต้น) ซึ่งเครื่องในหมวดVนี้ หมายถึงอากาศยานที่สามารถขึ้นลงในแนวดิ่ง หรือใช้ระยะทางขึ้นลงสั้นมากๆได้  ส่วนการเต็มภาระกิจเพิ่มเติมไว้ด้านหน้ารหัสเดิมนั่น เป็นการระบุเจาจงลงไปว่า เครื่องบินลำนั่นมีภาระกิจพิเศษคืออะไร เช่น AC-130  KC-135 RF-5 TA-7 AU-23 SH-60 UH-60 AH-1 เป็นต้น ดังนั่นจึงขอยืนยันว่า AV-8 นั่น  ไม่สามารถถูกจัดให้เป็น A-8ได้ เพราะถ้าเป็นไปได้เช่นนั่น OV-10 ก็ต้องหมายถึง O-10 และMV-22 ก็ต้องหมายถึง M-22 ซึ่งไม่ถูกต้องครับ ดังนั่นการแบ่งประเภทอากาศยานหลักที่มีในปัจจุบันคือ(เท่าที่จำได้นะครับ)

A โจมตี

B ทิ้งระเบิด

C ลำเลียง

E เครื่องบินเรดาร์แจ้งเตือน

F ขับไล่

G เครื่องร่อน

H เฮลิคอปเตอร์

O ตรวจการ

P ลาดตระเวน

S ปราบเรือดำน้า

T เครื่องฝึก

U ทั่วๆไป ธุรการ

V ขึ้นลงระยะสั้น ชึ้นลงทางดิ่ง

X เครื่องบินวิจัย

เพิ่มเติมครับ

ในความเห็นข้างต้น น่ะครับว่า ในส่วนของ AV-8 ค่อนข้างมีความสับสน

ในตัวต้นแบบ จะเป็น V-6 และในขณะเดียวกัน V-8 กลับมีซ้ำ 2 หมายเลข ซึ่งเป็นเครื่องคนละแบบ ครับ

ในความเห็นก่อนหน้า เขาจึงให้ความเห็นว่า ถ้าจัดอยู่ในรหัส V บ.AV-8 ปัจจุบัน ควรจะใช้ รหัส AV-6B

ในขณะเดียว รหัสของหมวด A คือ A-8 กลับหายไปครับ

คุณ tan02 ครับ

ถ้าอยากให้รวบรวมรถถังตระกูลต่างๆ จะได้มั้ยน้า

555+ เรื่องรวบรวมรถถังผมเองก็คิดไว้เหมือนกันครับ แต่รถถังส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเรียงกันแบบต่อเนื่อง ตอนนี้ก็เลยยังคิดไม่ออกครับว่าจะนำเสนอรุ่นไหนดี^_^

เมื่อคืน ผมลองมาวิเคราะห์อีกที

ว่า A-12 เป็นรหัสนี้ น่ามาจาก การพัฒนาจาก YF-12 จึงเปลี่ยน Code จาก YF เป็น A  เช่นเดียวกับ F-16 ที่แผนแบบเป็น บ.โจมตี จึงใช้ รหัส A-16 แต่ในรหัสของ Code A จะเป็นแบบที่ 11 คือ A-11

และตามความเห็นของท่าน RMUTK  ผมก็มาวิเคราะห์ว่า ทำไม F-18 ถึงไม่ใช้ AF-18 แบบพวก RF หรือ TF ทำไมจึงใช้ F/A แทน

ผมเลยตีความหมายของ AV-8 อาจจะให้ความหมายว่า เป็น Code A แบบที่ 8 คือ สถานะหลัก เป็น บ.โจมตี แต่ระบบพื้นฐาน ที่ไม่ต้องดัดแปลง มีสถานะเป็น บ. ขึ้นลงทางดิ่ง ด้วย โดยใช้ในเงื่อนไขเดียวกับ รหัส F/A-18 คือ โดยสถานะหลัก คือ Code F แต่คุณสมบัติพื้นฐาน ที่ไม่ต้องดัดแปลง ก็เป็น บ.โจมตี คือ Code A ด้วย

แต่ถ้า บ. Code อื่น ที่รหัสนำหน้าของ Code หลัก เช่น A, R, T จะหมายถึงว่า บ.หลักนั้น ต้องมีการดัดแปลงเพื่อให้เป็น บ.ลักษณะเฉพาะ ไม่ใช่คุณลักษณะพื้นฐานของ บ. เช่น AC-47, EC-47, RF-5, EA-3

ซึ่งบางที AV-8 ควรจะเขียนเป็น A/V-8 ก็ได้ครับ ในข้อสมมติที่ว่า ถ้าจะจัดอยู่ในหมวด A

นี่ก็ตระกูล A ครับ

A-RAVA นะครับ

ขอตอบคุณ juldas   ครับ เรื่องกระทู้ของผมที่เกี่ยวกับรหัสกำหนดภาระกิจและคุณลักษณะหลักของอากาศยานกองทัพอเมริกาว่า ผมอ้างอิงจากนิตยสารTOP GUN มาครับ ที่ตีพิมพ์เกี่ยวกับวิธิการกำหนดรหัสอากาศยาน ซึ่งจะผิดถูกอย่างไรนั่น ผมเองก็ขอรับฟังไว้เป็นความรู้ใหม่ครับ แต่วิธีการกำหนดรหัสอากาศยานของอเมริกา จะมีรูปแบบดังนี้ครับ คือ (ภาระกิจพิเศษ+คุณลักษณะพื้นฐาน-ลำดับที่+รุ่นปลีกย่อย) เช่น RF-5A  UP-3T AC-47 OV-10C TA-7E AV-8S ส่วนที่ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไม F-18 ต้องเขียนเต็มยศว่า F/A-18 นั่น สามารถอธิบายได้ว่า ครั้งเมื่อ ทร.อเมริกา ต้องการจัดหา บ.ขับไล่ ขนาดเบา และ บ.โจมตี ขนาดเบา ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั่น ปรากฏว่า รูปแบบ บ.ขับไล่ที่พิจารณา ณ ตอนนั่น คือ YF-17 ซึ่งบังเอิญหรือไม่ ไม่ทราบแต่ประการใด ที่รูปแบบโครงสร้างนั่น กลับไปคล้ายคลึงกับรูปแบบ บ.โจมตี ขนาดเบา ที่ต้องการจัดหาเช่นเดียวกัน จึงได้มีการสรุปว่า ให้ยุบรวม2รูปแบบโครงสร้างอากาศยานดังกล่าว เหลือเพียงโครงสร้างเดียว เพราะมีความคล้ายคลึงกันมาก จึงเป็นที่มาว่า ทำไม ทร.อเมริกา จึงยุบรวม F-18 และ A-18 ไว้ในโครงสร้างอากาศยานเดียวกัน และเรียกใหม่ว่า F/A-18 ซึ่งเป็นการรวมสองโครงการ ไว้ในโครงการเดียว ต่อมานั่นในทางปฏิบัติแล้ว สงครามทางอากาศสมัยใหม่ เครื่องบินขับไล่ (F) นั่น มีความสามารถในการโจมตีด้วย เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องระบุอักษร A ลงไปให้ซ้ำซ้อนอีก นานวันเข้า F/A-18 จึงเรียกเพียง F-18 ทั้งยังรวมไปถึงมีคนเคยเสนอให้เรียก F-16 ในรุ่นที่มีความสามารถในการโจมตีเป็นพิเศษว่า A-16 แต่ก็ด้วยเหตุผลเดียวกันกลับที่กล่าวมา มีผู้คัดค้านว่า อาจทำให้เกิดความสับสน เพราะ F-16 โดยธรรมชาติ ก็สามารถทำภาระกิจโจมตีได้อยู่แล้ว เหตุใดจึงต้องเปลี่ยนรหัสให้วุ่นวาย และด้วยเหตุผลนี้ จึงเป็นที่มาว่า ทำไมเครื่องบินรบ ที่มีอักษรAนำหน้า กำลังจะสูญพันธุ์ เพราะความสามารถในการโจมตีแบบAนั่น ถูกผนวกเข้ากับความสามารถของF ไปแล้วโดยปริยาย

ทั้งหมดที่พิมพ์ไปนี้ คือเคยอ่านเจอมาครับ ผิดพลาดอย่างไร ขอรับไว้ครับ และขอยืนยันอีกครั้งว่า AV-8 นั่น ถูกจัดให้อยู่ในคุณลักษณะอากาศแบบVแบบไม่ต้องลุ้นครับ และเพิ่มภาระกิจโจมตีเข้าไป จึงต้องใส่A นำหน้า เช่นเดียวกับ MV-22 ครับ เพราะตอนมีโครงการใหม่ ก็เรียกเพียงว่า V-22 ส่วนA-8 หายไปไหนนั่น อันนี้ไม่ทราบครับ ขอบคุณครับ

ข้อมูลที่ผมพิมพ์ไปนั่น เคยได้อ่านมาจากนิตยสาร สมรภูมิ และ TOP GUN ครับ (ยังเก็บไว้อยู่เลย) หากผิดพลาดประการใด คงต้องแย้งไปที่นิตยสารดังกล่าวครับ เพราะผมไม่ได้คิด หรือมั่วขึ้นมาเอง แค่อ่านมาตอบเฉยๆ อิอิ

ขอบคุณทุกท่านๆที่มาช่วยเพิ่มเติมข้อมูลครับ^_^

ปล.เรื่องรุ่นนี่ผมได้ชี้แจงไปแล้วนะครับ ว่ารุ่นเอที่กำหนดตามรหัสของสหรัฐตั้งแต่ปี1962 มี12รุ่นเท่านี้ละคร้าบ ส่วนนอกนั้นเป็นคนละชนิดหรือของเก๋ครับ(ฮา) ก็คือพวกตระกูลอื่นแต่มีหน้าที่โจมตีเข้ามาด้วย จึงมีการเติมตัวเอเข้ามา เช่น

F/A18 จริงๆคือตระกูลเอฟ (ไฟเตอร์=ขับไล่)
AC-47 จริงๆคือตระกูลซี (คาร์โก้=ลำเลียง)
AU-23 จริงๆคือตระกูลยู (ยูทิลิตี้=ธุรการ)
AV-8 จริงๆคือตระกูลวี (เวอติคอล=ขึ้นลงแนวดิ่งได้)

ทำให้พวกเรางงกันเล่นๆ 555