อยากทราบว่ากองทัพไทบปัจจุบันมีกำลังทหารเท่าไหร่
สมัยที่ถูกเวียดนามรุกรานตอนนั้นมีเท่าไหร่
และคุณคิดว่าปัจจุบันน่าจะมีกี่แสน
อ่า............ท่าน ซุเปอร์ ทอมแคต ครับ อันนี้ไม่ทราบจริงๆครับ ต้องถามพี่ๆ หรือ น้องๆ นักบินท่าน.................
แต่ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยนำ วีดีโอ ของ ยูทู้ป มาลง (ตอนนั้นเชียร์ ซู อยู่แรงหนึ่ง) เป็นภาพการทดสอบการยิงปืนใหญ่อากาศ โดยเค้าจับ เธอมาขึงพืด แขวนปีกสองข้างไว้บนขื่อ แล้วกระชากหน้าออกเสื้อ............ว้อย......... ม่ายช้าย............ แล้วลั่นกระสุนของเธอออกชุดสั้นๆ (ราว 2-3 วินาที) ภาพทีปรากฏคือ เธอถอยไปราวสองเมตร จนสายสลิงที่ห้อยเริ่มไม่เป็นมุมฉากกับพื้น (ถ้าจะถอยมากกว่านี้ ต้องเอาชนะแรงดึงของลวดในแนวแกนราบด้วย) โดยหัวใหล่ขวาของเธอ ซึ่งมีปืนใหญ่อากาศอยู่ด้านนั้น หมุนไปตามแรงโมเมนต์ .......................... จะเห็นว่า มวลวัตถุร่วม สิบตัน สามารถถูกผลักได้ขนาดนี้ แรงถอยจากปืนใหญ่อากาศจึงไม่ใช่น้อยที่เดียว ................
การติดอาวุธให้อากาศยานเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ต้องได้รับการออกแบบคำนวนเป็นการเฉพาะ .............. และยังต้องได้หนังสือรับรองจากบริษัทผู้ผลิตด้วย......................... การดัดแปลงแบบลูกทุ่ง ผลงานออกมาก็อาจเป็นแนวลูกทุ่งได้ครับ
สมัยโซเวียตยังเรืองอำนาจ เวียตนามมีแผนผนวกดินแดนไทยในแผนที่ ................ ทัพไทย มีทหารประจำการราว 4 แสน กำลังสำรอง เค้าว่า ราว ล้าน (แต่ไม่รู้จะใช้หนังสติ๊กผสมปืนตาควาย แบบอัตราส่วน 2:1 เหมือนตะหานรัสเซียสมัยสงครามโลกหรือไม่) แบ่งเป็น 9 กองพลทหารราบ 2 กองพลยานเกราะ 2 กองพลรบพิเศษ และ 1 กองพลนาวิกโยธิน ยานเกราประกอบด้วย รถถังหลัก เอ็ม-48 เอ5 1 กองพัน รถถังเบา เจ้าคุณปู่รุ่นกู้ชาติ เอ็ม-41 ราว 150 คัน รถเกราะลาดเวณ สกอร์เปี้นอีก 150 รสพ เอ็ม-113 อีก สองร้อยกว่า ปืนใหญ่ ขนาด 155 แบบ เอ็ม-114 (อ้วนสั้น ตะบันดังครึกครื้น) เอ็ม-198 และ ล้ำสมัย แบบ ซอลแท่ม ร่วมๆ ร้อยกระบอก.....................
ทัพอากาศ มีเครื่องบินไอพ่นรบ อยู่ 4 ฝูง รวมๆประมาณ 60 ลำ ประกอบด้วย เจ็ทขับไล่/โจมตีกลางวัน เอฟ-5 เอ/บี ยี่สิบลำ เจ็ดขับไล่ทุกกาลอากาศ เอฟ-5 อี/เอฟ อีก สามสิบลำ เจ็ตโจมตีเบา เอ-37 อีก สิบกว่าลำ............... นอกจากนี้ยังมี เครื่องบินโจมตีปราบคอมมูนิต แบบ โอวี-10 และ ปิลาตู้...ซ เอยู-23 อีกอย่างละ กว่าสามสิบลำ ............. อาวุธรบหลักทางอากาศ คือจรวดตามความร้อน ไซด์ไวด์เดอร์ อาวุธอากาศสู่พื้น คือ ดั้มบอมบ์ (บายสะม้าร์ทไพหล่อท......อะนะ...) .............มีต่อ
^
^
นี่เป็นสไตล์ของเขา...ติดตามครับติดตาม..
ต่อครับต่อ ................ ขออภัยให้คอยนาน.................... ไอ้เรื่องย้องยอ นี่ ไม่รู้เป็นไร.....ถูกก๊านถูกกาน ยอขึ้นว่างั้นเหอะ ครับ ........แหะๆๆๆ................
มาเวียตนามกันบ้าง................ เวียตนามสมัยโซเวียตเรืองอำนาจนั้น ใช่ย่อยอยู่ เค้ามีกำลังรบและส่วนสำรองพร้อมรบร่วมๆ ล้าน แต่ส่วนกำลังรบจำเป็นต้องแบ่งออกเป็นทวิภค ส่วนหึ่งต้องเตรียมพร้อมรับมือกับจีนใหญ่ ซึ่งเคยประมือกันมาแล้วคั้งสงครามสั่งสอน..................ในส่วนกำลังรบตามแผนผนวก ทั้งหมดเข้าไปตีเขมรแตกแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงใช้กำลังในการสถาปณา ว่าไปแล้ว แผนตีไทย ยังไม่ได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย คือยังไม่สามารถโถมกำลังตีไทยได้เต็มที่นั้น ปัจจัยหลัก หรือเสี้ยนหนามอันใหญ่ก็คือ เขมรแดง ................... เขมรแดงได้น้ำเลี้ยงหลักจากจีนแดง โดยมีไทยเป็นหัวหอกในการประสานงานหลัก อันนี้ต้องไปถามอดีต ผบช.สอบสวนกลาง พล.ต.ท. ประทิน สันติประภพ ((ปัจจุบันเป็น พล.ต.อ. อดีตอธิบดีกรมตำหรวด(ผู้ไม่จบ รร.เตรียมทหารและ นายร้อยสามพราน)ขออภัย ถ้านปราทาน ที่ต้องเอ่ยนาม) ......................ในครั้งนำกำลังจับพ่อค้าอาวุธเถื่อนครั้งใหญ่ชายแดนเขมร สามารถยึดอาวุธได้มากมายหลายรายการ เป็นคลังแสงใหญ่ มี ปืนตระกูล เอเค และกระสุนเป็นแสนนัด ปรส.หลายขนาด ค.ต่างๆ แถมมีแซมด้วย .........................ก็ให้งง การประสานงานระหว่างตำรวจกะทหาร (หรือสมัยนั้นผู้ใหญ่ถือบังเหียนบางคนเป็นเวียตนาม หว่า ????)
กำลังทางบกที่อยู่ในเขมร มีหลายหมื่น ประกอบกำลังราว 20 กองพล(น้อย) ยานเกราะคือ ถ.หลัก ที-54/55 ถ.เบา พีที-76 และ รุ่นคุณทวด ที-34 รวมราว 2-300
เวียตนามมีกองทัพอากาศที่แข็งแกรางที่สุดในภูมิภาค เรือบินรบประกอบด้วย มิก-19 มิก-21 และขับไล่โจมตี ซู-22 จำนวนรวมราว 300 เครื่อง ในส่วนที่เป็นเรื่องราวถกเถียงกันในสมัยนั้นคือ การมีประจำการเครื่องบินรบล้ำสมัยแบบ มิก-23 จนทำให้ไทยต้องรีบจัดหา เอฟ-16 เข้าประจำการเพื่อดุลยอำนาจ.........................
ในจำนวนอากาศยานรบราวสามร้อย ส่วนที่แยกมารบกับไทยได้ มีอยู่ราว 180 ซึ่งว่ากันตามจำนวนตัวเลข เดวิด กุ่ย ปรมจารย์เซียนมวยหลายสนาม ให้ดีกรีความร้อนแรง ไทยเป็นรอง 3:1 ............มีต่อ
มาต่อที่ปัจจุบัน...............
ปัจจุบันกองทัพไทยได้พัฒนาตาคอนเสปท์ที่ว่า จิ๋วแต่แจ๋ว กำลังทางบกปัจจุบันมีราว สองแสน ประกอบไปด้วย กำลังทหารราบ หกกองพล สามกองพลยานเกราะ(หนึ่งกองพล กำลังอยู่ในขั้นดำเนินการคือ กองพลทหารราบที่ สอง บูรพาพยัค ซึ่งตอนนี้ อารัยๆ ก็แร้งแรง......) หนึ่งกองพลรบพิเศษ และหนึ่งกองพลนาวิกโยธิน เรามีรถถังหลายร้อยคัน ที่เป็นกระบี่มือเอกตอนนี้คือ เอ็ม-60 เอ3 ทีๆเอส มีความสามารถรบกลางคืนได้อยู่ 3 กองพัน (สองกองพันๆละ 50 คัน อีกนึ่งกองพัน 20 คันไว้ฝึก) นอกจากนี้ มี เอ็ม-60 เอ1 และ เอ็ม-48 เอ5 อีกอย่างละ 1 กองพัน ............. ที-69-II 30 คัน ทิ้งทะเลไปซะแล้ว งุงิงุงิ @@##!!!!!?????@@####%%%%@........................ นอกจากนี้ยังมีม้างานหัวหอก ถ.เบาสตริงเรย์ กับเจ้าคุณปู่อีกอย่างละร้อย.....................................มีข่าวมาว่า ท่านผู้ใหญ่ปลื้มเทรนเกาหลี (ไม่ทราบว่า เกาหลีบน หรือ เกาหลีล่าง) ถ้าได้มาก็คงทันสมัยและปราดเปรียวแซงหน้า ทีๆเอสไปเลย..................................
ทัพอากาศ ในภูมิภาคเราเวลานี้ถือว่าสูสี .................... ถ้าว่าไปแล้วที่เป็นที่น่าจับตามอง และภัยคุกคามมากที่สุดคือ พม่า................ มีต่อ
กองทัพอากาศไทย กำลังจะเป็นไปตามคอนเสปท์จิ๋วแต่แจ๋ว ด้วยการพัฒนาด้านเทคโนโลยี่สารสนเทศน์ มากกว่าจำนวนอาวุธประจำการ...........................
เรามีเจ็ทขับไล่ทันสมัยราว 80 เครื่อง จำนวนนี้จะมีเครื่องบินที่เค้าว่าระบบสารสนเทศน์เจ๋งนักหนา อยู่ 12 ลำ เป็นแบบ น้ำหนักเบ๊าเบา ทำในสวีเดน รุ่น แจ้ซ-39 ซี/ดี กริเป้น เครื่องรุ่นนี้น่าจะได้รับมอบหมายภารกิจ ป้องกันภัยทางอากาศเช่นเดียวกับรุ่นพี่ แบบ เอฟ-5 อี ซึ่งหมดวาระไปตามอายุ แต่ก็สามารถทำภารกิจเพิ่มเติมได้อีกหนึ่งภารกิจ คือการโจมตีทางทะเล ด้วยอาวุธยิงนำวิถีต่อต้านเรือรบ.......................
เครื่องบินที่มีประจำการอยู่แล้ว อีก สี่ฝูง ประกอบไปด้วย เครื่องแบบ เอฟ-16 เอ/บี สามฝูง ฝูงแรกเป็นเครื่องมือสอง กับภารกิจป้องกันภัยทางอากาศ มีขีดความสามารถใช้อาวุธยิงอากาศสู่อากาศ ไกลเกินสายตามองเห็น (สำหรับคนตาถั่ว หนังสติ๊ก ก็เป็นอาวุธยิงไกลเกินสายตาได้)..................... อีกฝูงมีภารกิจโจมตีขัดขวาง สามารถใช้ระเบิดนำวิถีด้วยลำแสงเลเซอร์...............ฝูงสุดท้าย มีโครงการจะยกระดับทางเอวิโอนิคส์ คือจะเปลี่ยนเรดาร์ ลแระบบประมวลผล ทำให้ใช้เรดาร์ตรวจการณ์ไกลขึ้น ตรวจจับและติดตามได้หลายเป้าพร้อมกัน ถูกต้องรวดเร็วมากขึ้น ทีสำคัญคือ สามารถใช้อาวุธยิงไกลได้เหมือนฝูงแรก นอกจากนี้ยังอาจได้รับประจำการกระเปาะนำร่งใหม่ ซึ่งในบทบาทสไตร้ค์ไฟเตอร์ จะเหนือกว่า ซู-22 ของเวียตนาม แต่ไม่ค่อยอยากเปียบเทียบกับ ซู-30 แบบติดกระเปาะฟูลอ๊อปชั่น..............................
เรายังมี เอฟ-5 อี อีก หนึ่งฝูง ได้รับการปรับปรุงทางเทคนิคส์มาแล้ว ................... โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่า ถ้าหากเศรษฐกิจและการเมืองยังอึมครึมอย่างนี้หลายๆปี เจ็ทฝูงใหม่ที่จะเข้าแทน น่าจะเป็น เครื่อง เอฟ-16 ซีดี แบบเซกเกิ้ลแฮนด์ ไม่จากพี่ใหญ่ไอ้กัน ก็ของเพื่อนตี๋ สิงขโปร์.......................... จะมีต่ออีกมั๊ย ขอคืดดูก่อน
ขอบพระคุณครับที่ติดตามชม ..............
ขอได้รับความขอบคุณจากทีมงาน ตู้ด ซ่งขาด มา ณ. โอกาสนี้ โปรดรอติดตามชมผลงานในลำดับต่อไป.............
พี่กบครับ รบกวนช่วยเล่าเหตุการณ์ที่รถถังไทยได้ปะมือกับรถถังเวียดนามหน่อยครับ เห็นเค้าบอกว่าได้ซัดกันแถวชายแดนเขมรรถถังเวียดนามรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยเลยได้ปะมือกัน ไม่ทราบว่าเหตุการณ์เป็นยังไงครับ รออยู่นะครับ แล้วเรียกว่าศึกอะไรครับ รถถังเป็นรุ่นอะไรครับที่ได้ปะมือกันครับ รบกวนด้วยครับ อยากทราบมากๆ
น้องแชมป์ครับ .................... ตามที่เล่าๆกัน ทหารเวียตนามแบ่งกำลังเข้าตีเป็น 3 สาย สายที่หนักที่สุด คือแถวอำเภอตาพระยา ซึ่งก็คือสมรภูมิช่องบกนี่แหล่ะ................................
ตามภูมิประเทศเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้กำลังยานเกราะเข้าตีเจาะ เพราะเป็นที่ราบ ส่วนอีกสองทัพด้านข้างเป็นกองขนาบ ซึ่งถ้าเจาะถั่วแดงเข้ามาได้ อีกแค่ร้อยกว่าโลก็เข้าฮอร์ส ทัพรถถังวิ่งปุเลงๆมาแวะเติมน้ำมันตราสามทหาร แถวบางนาตราด กินอาหารเย็น หูฉลามเยาวราชได้เลย..................................
เค้าว่า ไทยเราขุดคูกว้างลึกหลายวา ยาวหลายกิโลเมตร เป็นแนวดักรถถัง..........................
ซึ่งโดยความคิดเห็นส่วนตัว กำลังยานเกราะเราเป็นรองเค้าหลายขุม ....................... เห็นว่าคงเป็นเรื่องไม่ฉลาด ถ้าเราจะเปิดแลกโดยเอารถถังวิ่งชนกัน.......................
สิ่งที่จะหยุดกำลังยานเกราะได้ เต็งหนึ่ง คือ กำลังทางอากาศ ................... ส่วนต่อๆมาคือพวกหน่วยปราบรถถัง เท่าที่เคยเห็นภาพลงหนังสือพิมพ์สมัยก่อน ภาพข่าวรถถังเวียตนามป้อมปืนหลุดเหลือแต่ตัว ลักษณะเช่นนี้คือโดน ปรส. เด็ดขาด อาจเป็น 106 บนรถจิ๊บ หรืออาจเป็นโทว์ ประเภท ไฟร์แอนด์เกียร์ด็อก ประมาณนั้น..................
แปดแคปซูลนี้ น่าจะเพียงพอสำหรับ หนึ่งร้อยยานเกราะ หรือสัก หนึ่งพันราบ.........................
ข้อดีของการใช้ระเบิดนาปาล์มคือ เครื่องบินสามารถบินเข้าหาเป้าหมายในระดับต่ำ (ย่องเข้าหา) ทอยระเบิดแนวระดับที่ความสูงต่ำมาก แล้วดึงตัวเองออกไป........................ต่างจากการใช้ระเบิดเอนกประสงค์ ซึ่งต้องทอยในระยะสูง มิเช่นนั้นก็ต้องจิกลงมาแล้วดึงออก ซึ่งในการสนับสนุนการรบโดยใกล้ชิดมีโกสถูกส่องตกได้ตั้งแต่บินสูงเข้าหา....................
สมรภูมิช่องบก เราเสียน้องปุ้มปุ๊ ไปสอง กับนักบินผู้กล้าอีกจำนวนหนึ่ง ..........................ซึ่งเป็นตัวเลขที่เปิดเผยได้ ................................เป็นความจริงที่ว่า ในสงครามข่าวสาร ตัวเลขบางตัวมีผลต่อขวัญกำลังใจของทหาร ซึ่งยอดสูญเสียจริงในการรบที่หนักหน่วง อาจถูกปิดบังเป็นความลับ.....................
อ๋อตกลงที่เค้าเล่ามาว่า รถถังเราเคยปะมือกับรถถังเวียดนามนั้น จริงๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจริงใช่มั๊ยครับ เห็นเค้าเล่ามาว่า รถถังเวียดนามมันบุกเข้ามาไทยเราเลยเอารถถังไปไล่ยิงขับไล่รถถังเวียดนามออกไปได้ เหอะๆๆ ขอบคุณครับสำหรับความรู้ พี่กบ
เป็นที่น่าเสียดาบยว่า เครื่องบินที่มีประสิทธิภาพมากกว่าของในเวลานั้น คือเครื่อง เอฟ-5 หิ้วระเบิดนาปาล์มได้เพียงครั้งละ 1 ลูก.................... แม้จะมีศักยภาพในการเอาตัวรอดสูง (สังเกต งานวันเด็ก ขณะแม่เสือสอง สาธิตการโจมตี เรายืนอยู่จะไม่ได้ยินเสียงท่อท้ายที่ดังสนั่นของเธอตอนบินต่ำเข้าหาเลย จนระยะราวร้อยสองร้อยเมตร จึงได้ยินเสียงหัวแหลมแหวกอากาศ ต่อเมื่อบินผ่านไปหลายร้อยเมตรแล้ว กัมปนาทจากท่อท้ายจึงระเบิดขึ้นคล้ายคลื่นกระแทก.................. ถ้าเราเป็นทหารภาคพื้นดิน คงมีเวลาและโอกาสน้อยนิดที่จะตั้งรับได้ทัน สำหรับอากาศยานความเร็วสูงที่บินเข้าหาระดับต่ำนี้..................
ผมมี วีดีโอ ภาพการทอย นาปาล์ จาก เอ-7 ซึ่งซาวด์ประกอบเสียงดนตรีที่ได้ยินบ่อยๆในหนังสงครามเวลาพระเอกเตรียมออกรบ ยิ่งสร้างความน่าสพรึงกลัวยิ่งนัก...............
ในวีดีโอ ยังมีภาพเจ้าปัญหา ตรงที่ว่า ดวงไฟสว่างวาบ หลังจากเจ้าคอร์แซร์ ปลดระเบิดนั้นคืออะไร................... จรวดขับ ????? ระเบิดกระทบกันเองกลางอากาศ ??????? ที่สำคัญคือเป็นหลายครั้ง ถ้าเป็นกรณีที่สอง โอ่ พระแม่เจ้า.....................
เห็นด้วยเรื่องA-37 อีกคนนึง เนื่องจากมีญาติเป็นนบ.A-37
รู้สึกว่าเครื่องยนตร์A-37 จะให้กำลังขับมากกว่าของL-39
ขอถามท่านกบอย่างนึงครับ ที่นบ.เค้าว่าL-39 บินระดับ(ขนานกับพื้น)แล้วยิงปืนค้างนานๆ เครื่องมันจะStallนี่จริงรึเปล่าครับ