หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ความเป็นมาของ AU-23

โดยคุณ : nok เมื่อวันที่ : 20/09/2010 13:22:12

 

เดือนพ.ค. 2514 แผนกระบบการบินที่ฐานทัพอากาศ ไรต์-แพ็ตเตอร์สัน โอไฮโอ ได้เริ่มต้นการปฎิบัติงานโครงการประเมินค่า การพัฒนาเครื่องบินขนาดเบาติดอาวุธ/อนเกประสงค์ ซึ่งใช้ระยะทางในการวิ่งขึ้นและลงสนามสั้น (Stol) เพื่อนำไปใช้ปฎิบัติภารกิจในเอชียตะวันออกเฉียงใต้ แผนงานนี้มีชื่อเรียกว่า" Credible Chase" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและอำนาจการยิงให้กับกองทัพเวียดนามใต้อย่างเร่งด่วน เครื่องบินพาณิชย์ 2แบบที่ถูกเลือกมาเพื่อทำการทดสอบในโครงการนี้คือ แฟร์ไชลด์ ปอร์ตเตอร์ และเฮลิโอ สทัลเลี่ยน โดยมีการเช่าเครื่องบินเพื่อนำมาทดสอบสมรรถนะเบื้องต้นที่ฐานทัพอากาศ เอกลิน ฟลอริดา และสามารถผ่านการทดสอบเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนประเมินค่าทาการรบในลำดับต่อมา เครื่องบินพาณิชย์แบบ ปอร์ตเตอร์ ถูกกำหนดชื่อให้เป็น AU-23A และได้รับการติดตั้งปืนใหญ่อากาศขนาด 20 มม.(M-197) ยิงออกจากด้านข้างของเครื่องบินและมีตำแหน่งติดตั้งอาวุธภายนอกลำตัวคือ ที่ไพลอนใต้ปีก 4 จุด และที่กึ่งกลางลำตัวอีก 1จุด ปืนใหญ่อากาศขนาด 20 มม. ที่เลือกมาติดตั้งนั้นก็คือปืนใหญ่อากาศแบบ M-61 วัลแคน รุ่นที่มีลำกล้องปืนเพียง 3 ลำกล้อง (จากเดิมที่มี 6ลำกล้อง) และยังสามารถบรรทุกอาวุธอีกหลายแบบอาทิเช่น กระเปาะปืน,ระเบิดขนาด 500และ250 ปอนด์,ระเบิดนาปาล์ม,ระเบิดโปรย,พลุส่องสว่าง,จรวด,ระเบิดควันและเครื่องโปรยใบปลิวเพื่อปฎิบัติการทางจิตวิทยา

การประเมินค่าทางการรบดำเนินการขึ้นในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2514 โดยที่เครื่อง AU-23Aนั้นถูกนำไปทดสอบใน 8ภารกิจ ที่สามารถจะปฎิบัติได้คือ การบินติดอาวุธคุ้มกันเฮลิคอปเตอร์,การบินสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด,การบินป้องกันหมู่บ้าน,การบินขนส่งทางอากาศและส่งกำลังเพิ่มเติมโดยใช้ระยะทางในการวิ่งขึ้น/ลงสนามสั้น,การบินลาดตระเวณติดอาวุธ,การบินเฝ้าตรวจแนวชายแดน,การบินควบคุมอากาศยานหน้าและการบินต่อต้านแทรกซึม โดยนักบินของกองทัพอากาศสหรัฐได้ทำการบินปฎิบัติภารกิจ 73 ครั้ง(รวม 94 เที่ยวบิน) และนักบินกองทัพอากาศเวียดนามใต้ได้ทำการบินปฎิบัติภารกิจ 68 ครั้ง(รวม 85 เที่ยวบิน) มีการทดสอบการปล่อยและยิงอาวุธหลากหลายประเภทรวมทั้งจรวดขนาด 2.75 นิ้ว(หัวระเบิดและหัวควัน)ระเบิดโปรย(CBU-14),พลส่องสว่าง MK6 MOD3,ระเบิดMK81,ระเบิดMK82,ระเบิดฝึก MK106 และใช้กระสุนปืน 20 มม.ในการยิงทดสอบมากกว่า8,000นัดทั้งหัวกระสุนระเบิดแรงสูง(HEI)และกระสุนส่องวิถีสำหรับฝึก(TPT)ด้วยผลจากการประเมินค่าทางการรบพบปัญหาหลายประการ ที่สำคัญก็คือ จุดล่อแหลมของเครื่องบินที่อาจจะถูกยิงจากระบบอาวุธต่อสู้อากาศยาน แต่อย่างไรก็ตามกองทัพอากาศสหรัฐก็เดินหน้าโครงการพัฒนาต่อไป และจัดหาเครื่องบิน AU-23A เพื่อทดสอบเพิ่มเติมอีก 15 เครื่อง

ฝูงบินปฎิบัติการพิเศษที่ 4400(เฉพาะกาล)ถูกมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการทดสอบการปฎิบัติการและประเมินค่าของเครื่องบินในแผนงาน Credible Chase จนกว่าจะเสร็จสิ้น AU-23A เครื่องแรก (หมายเลข 72-1306) จึงถูกส่งไปยังฝูงบินนี้ในวันที่ 2 มกราคม 2515 และอีก 2เครื่อง (หมายเลข 72-1304และ 72-1305)ก็ถูกส่งเข้ารับการทดสอบในปลายเดือนเดียวกัน โดยการทดสอบดำเนินไปจนถึงวันที่ 4 ก.พ. 2515 AU23-A ทั้ง 3เครื่องถูกงดบินเนื่องจากตรวจพบการร้าวที่ส่วนประกอบของ Rudder ทั้ง 3เครื่องจึงถูกส่งกลับไปยังบริษัทแฟร์ไลด์เพื่อซ่อมแซมและเครื่องบินใหม่ก็ถูกส่งมาทดสอบเพิ่มเติมในปลายเดือนเมษายน 2515 จนกระทั่ง AU-23A เครื่องสุดท้ายถูกส่งมาถึงในวันที่ 7 มิ.ย.และการทดสอบได้เสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 28 มิ.ย. 2515

กองทัพอากาศสหรัฐไม่ได้ส่ง AU-23A เข้าสู่การรบในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่อย่างใดเนื่องจากขณะนั้นระบบต่อสู้อากาศยานของฝ่ายข้าศึกมีอำนาจการยิงที่สูงมาก และได้ให้เหตุผลสำคัญที่ตัดสินใจเช่นนั้นคือ AU-23 A มีความเร็วในการเข้าทำการรบที่ช้า (135น็อต) ความสูงในการปฎิบัติการที่ต่ำ,ไม่มีขีดความสามารถในการไต่ขึ้นอย่างรวดเร็ว(ZOOM) หลังจากปล่อยอาวุธและไม่มีเกราะป้องกันลูกเรือและระบบสำคัญๆของเครื่องบินและสุดท้ายในวันที่ 30 มิ.ย. 2515 ฝูงบินปฎิบัติการพิเศษที่ 4400 จึงดำเนินการส่งเครื่องบิน Au-23 A ไปยังฐานทัพอากาศเดวิส-มอนธันเพื่อเก็บรักษาต่อไป

และนี่คือเหตุการณ์อันเป็นจุดเริ่มต้นก่อนการเข้าประจำการของอากาศยานที่ทรงคุณค่าและสามารถปฎิบัติภารกิจได้หลากหลายที่สุดเท่าที่กองทัพอากาศไทยเคยมีมา

ข้อมูลจากหนังสือสมรภูมิ ฉบับที่ 1037

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=worason&month=04-2010&date=25&group=1&gblog=53

 

เก็บของเก่ามาหากิน 55555





ความคิดเห็นที่ 1


^

^

^

เอาเรื่องเก่ามาเล่าให้หลานฟัง ตามประสาผู้เฒ่าคิดถึงความหลัง


โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 20/09/2010 02:22:13